WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BAY Bankกรุงศรี รายงานผลกำไรสุทธิ 4.4 พันล้านบาท ในไตรมาส 1/2558 เป็นผลจากความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มขึ้นและสัดส่วนสินเชื่อที่สมดุล

      ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ในไตรมาสแรกของปีนี้ กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ในเครือมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) วันนี้ได้รายงานผลกำไรสุทธิของไตรมาส 1/2558 จำนวน 4.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2557 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อันเป็นผลมาจากการเติบโตของเงินให้สินเชื่อในธุรกิจขนาดใหญ่และการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ เป็นผลมาจากการรับโอนธุรกิจจากธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด (BTMU) สาขากรุงเทพฯ  

      สรุปผลประกอบการ (ตามงบการเงินรวม) และฐานะการเงินที่สำคัญ สำหรับไตรมาส 1/2558

·        การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ: เพิ่มขึ้น 21.9% คิดเป็นสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นจำนวน 222 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557

·        การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 20.6% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 173 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557

·        กำไรสุทธิ: อยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.4% จากไตรมาส 4/2557 หรือเพิ่มขึ้น 32.6% จากไตรมาส 1/2557

·     ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): ปรับตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ 4.21% ยังเป็นส่วนต่างที่น่าพอใจ และเป็นไปตามคาดหมาย เป็นผลมาจากสัดส่วนเงินให้สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้น

·     รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ: เพิ่มขึ้น 8.2% จากไตรมาส 4/2557 และ 24.5% จากไตรมาส 1/2557 ปัจจัยหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการให้กู้ยืม รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกรรมบริหารความมั่งคั่ง กองทุน และธุรกิจหลักทรัพย์

·        อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: ปรับตัวดีขึ้นมากอยู่ที่ 46.3% เมื่อเทียบกับ 47.4% ในไตรมาส 4/2557

·        อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs): อยู่ที่ 2.36% ต่อเงินให้สินเชื่อรวม เมื่อเทียบกับ 2.79% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557

·        อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 139.2%

·        อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 15.1% เมื่อเทียบกับ 14.7% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2557

     สำหรับไตรมาสแรกของปี 2558 เงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 21.9% จากสิ้นเดือนธันวาคม 2557 ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของเงินให้สินเชื่อ เป็นผลมาจากการรับโอนสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่จากธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด (BTMU) สาขากรุงเทพฯ มายังธนาคาร ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีสัดส่วนอยู่ที่ 60% ขณะที่สินเชื่อเพื่อรายย่อยมีสัดส่วนอยู่ที่ 40% ของสินเชื่อทั้งหมด

     เงินรับฝากเพิ่มขึ้น 20.6% จากสิ้นเดือนธันวาคม 2557 การเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากส่วนใหญ่เป็นผลจากการรับโอนเงินรับฝากจาก BTMU สาขากรุงเทพฯ ขณะที่สัดส่วนของเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์และจ่ายคืนเมื่อ  ทวงถาม (CASA) ต่อสัดส่วนเงินรับฝากทั้งหมดอยู่ที่ระดับ 52.5% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558

   ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ ปรับตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ 4.21% ยังเป็นส่วนต่างที่น่าพอใจ และเป็นไปตามคาดหมาย เป็นผลมาจากสัดส่วนเงินให้สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้น

    นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า “กรุงศรีมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจในไตรมาสแรกของปีนี้ในภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศยังฟื้นตัวช้า ทั้งนี้ ความสำเร็จในการรับโอนกิจการทั้งหมดของ BTMU สาขากรุงเทพฯ มายังธนาคารได้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของกรุงศรี อีกทั้งยังมีสัดส่วนสินเชื่อที่สมดุลมากขึ้น นับได้ว่ากรุงศรีมีรากฐานที่แข็งแกร่งซึ่งจะเอื้อให้สามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว”

     นายโกโตะ ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจโดยรวมของธนาคารว่า “แม้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้จะช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ อันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์ในประเทศ เราคาดว่าเศรษฐกิจจะปรับฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี โดยคาดว่าเศรษฐกิจทั้งปีจะขยายตัว 3.8% โดยได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคที่ได้รับอานิสงค์จากราคาพลังงานที่ปรับลดลง การเร่ง การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล และโครงการลงทุนของภาคเอกชนที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่เริ่มเดินหน้า ภายใต้สมมติฐานการเติบโตของเศรษฐกิจดังกล่าว ธนาคารได้ตั้งเป้า การเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 7-9% สำหรับปี 2558”

    ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับห้าในไทยมีสินเชื่อรวม 1.2 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.0 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.6 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ 175.6 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 15.1% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 คิดเป็น 12.5%

เกี่ยวกับกรุงศรี

        กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และดำเนินธุรกิจมานานกว่า 70 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 655 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 618 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 37 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 23,000 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อ ส่วนบุคคลมากกว่า 6.3 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจ สินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด ภายใต้แบรนด์ “เงินติดล้อ”) อีกด้วย  

     กรุงศรี มีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

เกี่ยวกับ MUFG (มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป)

      มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 350 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงาน 1,100 แห่งในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 140,000 คน ซึ่งนำเสนอบริการที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์ แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งรวมทั้งธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ, มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ทรัสต์ แอนด์ แบงก์กิ้ง คอร์เปอเรชั่น (ทรัสต์แบงก์ชั้นนำของญี่ปุ่น) และมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซิเคียวริตี้ โฮลดิ้ง หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น  “กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดของโลก” ตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน  MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ  ฝ่ายประชาสัมพันธ์  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  โทรศัพท์: 02 296 2443-4

อีเมล์: [email protected]        

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!