กสิกรไทยมุ่งดูแลพอร์ตลูกค้าสินทรัพย์สูง จัดโครงสร้างแบบใหม่ เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นหลัก

      กสิกรไทยแจงกลยุทธ์ดูแลกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง ด้วยการให้บริการตามโครงสร้างการขายแบบเปิด (Open Architecture) จัดหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด โดยยึดความต้องการและผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นหลัก พร้อมคัดสอง บลจ.อเบอร์ดีน และ แมนูไลฟ์ เป็นพันธมิตรเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เสนอลูกค้าให้ครบวงจรมากขึ้น พร้อมแผนสร้างพันธมิตรกับผู้นำในตลาดอีกหลายรายในอนาคตอันใกล้ คาดปีนี้จะสามารถเพิ่มลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูงอีก 8% คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์ประมาณ 50,000 ล้านบาท

     นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจบริการไพรเวทแบงค์ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าปัจจุบันกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง (High Net Worth Segment) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีสินทรัพย์กับธนาคารกสิกรไทย และบริษัทของธนาคารกสิกรไทยมากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป ให้ความสนใจในออมและลงทุนที่หลากหลายและเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินไทยอยู่ในระดับที่ต่ำมาก และสภาพเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะไม่เติบโตมากนัก

     ดังนั้น บริการไพรเวทแบงค์  ธนาคารกสิกรไทย จึงได้นำโครงสร้างการขายแบบเปิด (Open Architecture) มาให้บริการกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง เพื่อให้คำแนะนำและนำเสนอผลิตภัณฑ์ในการลงทุนที่ดีที่สุดในตลาด มีความหลากหลาย สอดคล้องกับความต้องการ และให้ผลประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเลือกลงทุนในกองทุนที่น่าสนใจของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ชั้นนำแห่งอื่น นอกเหนือจากการเลือกลงทุนกับ บลจ.ในเครือของธนาคารกสิกรไทยได้

    ในช่วงเริ่มต้น ธนาคารได้เลือกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 2 แห่งที่มีผลประกอบการอันดับต้น ๆ ของไทยมาร่วมให้บริการแก่ลูกค้าสินทรัพย์สูง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) โดยทั้ง 2 บลจ. เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการกองทุนที่ลงทุนในตลาดทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นตลาดเอเชียหรือยุโรป ซึ่งทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการลงทุนกับกองทุนต่าง ๆ ได้มากถึง 90 กองทุน และในเร็ว ๆ นี้ จะเพิ่มความร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอีก 3 แห่ง เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายและดีที่สุดในตลาด ให้กับลูกค้าไพรเวทแบงค์ของธนาคาร

      นายจิรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมที่ KBank Private Banking จะจัดให้กับลูกค้าในปี 2557 นี้เพิ่มเติม คือ การจัดกิจกรรมเสริมสร้างองค์ความรู้ให้กับลูกค้าอย่างเข้มข้นในทุกไตรมาส ทั้งด้านการเงินและการลงทุน รวมถึงการวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจและคำแนะนำการลงทุนในช่วงเวลาต่างๆ ผ่านความร่วมมือของพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันไป นอกเหนือจากงานสัมมนาเชิงวิชาการเรื่องการลงทุนแล้ว กิจกรรมที่ตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ของลูกค้าก็ยังคงมีจัดอย่างเข้มข้นเน้นออกแบบกิจกรรมให้ตรงความต้องการและตรงกับความสนใจของลูกค้ามากขึ้น

     ปัจจุบัน ธนาคารกสิกรไทยมีลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูง ประมาณ 7,600 ราย คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 35% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมดในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 21,400 ราย และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) รวมประมาณ 5.7 แสนล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่องตามการเติบโตของภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดที่เศรษฐกิจมีการเติบโตสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของประเทศ คาดปีนี้จะสามารถเพิ่มลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูงอีก 8% คิดเป็น AUM เพิ่มประมาณ 50,000 ล้านบาท

KBank restructures investment portfolios to maximize interests for High Net Worth Individual Segment

    KASIKORNBANK has introduced a new asset management strategy with its “Open Architechture” sales structure, offering the best products in accordance with customer demand and maximum benefits. Two asset management allies, Aberdeen Asset Management and Manulife Asset Management (Thailand), have been added to diversify product types for complete service. The Bank will soon partner with several additional leading businesses, and is expected to increase its customer base in this segment by 8 percent, with approximately 50 billion Baht of assets.

     According to Mr. Jirawat Supornpaibul, KASIKORNBANK Private Banking Business Head, customers of the High Net Worth Individual Segment (HNWI) are those who have individual wealth with KBank and subsidiaries of more than 50 million Baht each. They demand a variety of savings and investment products along with foreign investments in order to increase total returns, as average returns from interest rates of local financial institutions remain very low. Also, Thailand’s economic conditions are expected to remain sluggish this year.

      Therefore, KBank’s private banking business is introducing an “Open Architecture” sales structure to this customer segment, offering the best investment products available in the market, with diversity and maximum benefits meeting customer demand. Under this new strategy, customers can choose to invest in any non-KAsset funds which match their interests.

      At this initial stage, the Bank has selected two asset management firms with top performance in the asset management industry to provide their products to KBank customers. They are Aberdeen Asset Management and Manulife Asset Management (Thailand), which have asset management expertise for investment at home and abroad, including Asia and Europe. As a result, customers will have as many as 90 funds to choose from. The Bank will soon make similar collaborative agreements with three additional asset management companies for Private Banking customers seeking the best and most-diversified investment products.

    Mr.Jirawat added that KBank Private Banking will organize special activities for customers through the rest of 2014, including quarterly activities to provide intensive knowledge in money and investment as well as economic situation analyses. Customers will also be offered relevant advisory service from the Bank’s allies, which have diverse investment expertise. Apart from investment seminars which will be held from an academic perspective, other lifestyle activities to satisfy customers’ needs will also be available.

     KBank currently has approximately 7,600 customers in the HNWI segment – representing 35 percent of the total of 21,400 HNWI clients in Thailand – who have a combined asset value of 570 billion Baht. Their assets are increasing in accordance with the growing economy, particularly among customers in large provincial cities, where the economic growth rate is higher than the national average. KBank expects an 8-percent increase in HNWI customers this year, representing around 50 billion Baht of assets under management (AUM).