WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

เคทีซี พลิกสถิติใหม่ กำไรพุ่ง 1,755 ล้านบาท มอบอั่งเปาปันผลผู้ถือหุ้น 2.75 บาท ภูมิใจพอร์ตลูกหนี้คุณภาพเยี่ยมต่อเนื่อง ชูธงพัฒนาองค์กรแกร่งสู่ความพอใจสมาชิกอย่างยั่งยืน

   เคทีซีรายงานผลประกอบการประจำปี 2557 รายได้รวม 14,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 1,755 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 69 จากปี 2556 ที่มีมูลค่าเท่ากับ 1,037 ล้านบาท (ไม่รวมรายการพิเศษ) ผลจากการบริหารควบคุมต้นทุนและคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และกลยุทธ์ปรับโครงสร้างองค์กรเชิงรุกให้เกิดการทำงานร่วม เพื่อมุ่งสู่พันธกิจและคุณค่าองค์กร (Core Value) เดียวกัน รวมถึงการทำวิจัยและพัฒนา ( Research & Development) และวิเคราะห์พฤติกรรมสมาชิก เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการสมาชิกที่แท้จริง สำหรับทิศทางการทำธุรกิจในปี 2558 จะมุ่งพัฒนาประสิทธิภาพระบบไอที สร้างเครือข่ายธุรกรรมการเงินบนโมบายแอพพลิเคชั่น และการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงมุ่งเน้นให้สมาชิกผูกพันลึกซึ้งกับแบรนด์ (Customer Engagement)

   นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 'เคทีซี'หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ในปี 2557 เคทีซีสามารถทำกำไรสุทธิได้สูงสุดตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมา 18 ปี ด้วยมูลค่า 1,755 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่ 1,037 ล้านบาท (ไม่รวมรายการพิเศษ) คิดเป็นกำไร ต่อหุ้นเท่ากับ 6.81 บาท และได้เสนอจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นจำนวน 2.75 บาท ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา เคทีซีมีความก้าวหน้าต่อเนื่องตามแผนทั้งธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นและสามารถรักษาระดับสัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้สุทธิได้ดี สวนกระแสกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลง”

   “ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 54,495 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 51,905 ล้านบาท โดยพอร์ตลูกหนี้การค้ารวมสุทธิเท่ากับ 50,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ฐานสมาชิกรวม 2.5 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นพอร์ตบัตรเครดิต 69% ของลูกหนี้รวมสุทธิ จำนวนบัตรกว่า 1.81 ล้านบัตร ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิ 34,715 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% พอร์ตสินเชื่อบุคคล 30% ของลูกหนี้รวมสุทธิ จำนวนสมาชิก 693,273 บัญชี ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลสุทธิ 15,201 ล้านบาท ขยายตัวที่ 12% ลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) บัตรเครดิตลดเหลือ 1.7% และ NPL สินเชื่อบุคคลเท่ากับ 1.2% ในขณะที่หนี้สูญได้รับคืนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือเท่ากับ 1,766 ล้านบาท โดยมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตรวมทั้งปีเติบโตที่ 7.4%”

   “บริษัทฯ มีรายได้รวมปี 2557 เท่ากับ 14,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมภาษีเงินได้) 12,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% โดยเป็นค่าใช้จ่ายการบริหารงาน 5,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่มีการรุกตลาดเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายจากการเพิ่มจำนวนบุคลากรในสายงานการติดตามหนี้ แต่บริษัทฯ ยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายทางการเงินให้ลดลง 5% รวมถึงหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลง 2% อย่างไรก็ตาม ด้วยสัดส่วนของรายได้ที่เติบโตสูงกว่า ทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิขยายตัวขึ้น”

   “บริษัทฯ มีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ (Available Credit Line) 23,120 ล้านบาท เป็นวงเงินของธนาคารกรุงไทย 18,030 ล้านบาท และจากธนาคารพาณิชย์อื่นๆ 5,090 ล้านบาท อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 6.40 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ที่ 10 เท่า”

    “ทิศทางการดำเนินธุรกิจของเคทีซีในปี 2558 เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบมากที่สุดในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล (The Most Preferred Brand in Card Business and Non-Collateral Personal Loans) ในปี 2561 บริษัทฯ จะมุ่งเน้นให้สมาชิกผูกพันลึกซึ้งกับแบรนด์ (Customer Engagement) ด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพของระบบไอที และสร้างเครือข่ายธุรกรรมการเงินบนโมบายแอพพลิเคชั่น การทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงขยายธุรกิจไปต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเป็นตลาดที่มีการขยายตัวสูง ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนฐานสมาชิกเคทีซีในต่างจังหวัดทยอยปรับเพิ่มขึ้น และมุ่งพัฒนาบุคลากรในองค์กรทุกมิติเพื่อรองรับกับธุรกิจที่จะขยายตัว”

   “แผนการตลาดของเคทีซีในปี 2558 ธุรกิจบัตรเครดิต เคทีซีตั้งเป้าเป็นบัตรหลักในการใช้จ่ายของผู้บริโภค ด้วยการร่วมกับพันธมิตรที่หลากหลาย รุกกิจกรรมการตลาดในทุกหมวดใช้จ่ายและกลุ่มร้านค้าที่ตรงใจสมาชิก ทั้งประเภทที่เป็นการใช้จ่ายทุกวัน (Everyday Usage) และการใช้จ่ายตามโอกาส (Occasional Usage) ทุกกลุ่มสมาชิกโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายระดับบน รวมถึงสร้างรายได้เพิ่มผ่านผลิตภัณฑ์และบริการเสริมอื่นๆ เช่น การนำเสนอแผนประกันรูปแบบต่างๆ บริการสั่งซื้อสินค้าทางไปรษณีย์ 'U Shop V Deliver' และบริการท่องเที่ยวที่ครบวงจร 'KTC World Travel Service' ตลอดจนการแบ่งเบาภาระสมาชิกด้วยบริการผ่อนชำระ 0% นานสุด 10 เดือน โดยตั้งเป้ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโตที่ 15%”

  “สำหรับ ธุรกิจสินเชื่อบุคคล เคทีซีปักธงเป็นแหล่งสินเชื่อที่เข้าถึงง่าย และส่งเสริมวินัยในการใช้จ่ายของสมาชิกอย่างมีความรับผิดชอบ มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เป็นคนในพื้นที่ต่างจังหวัดและกลุ่มคนเริ่มทำงาน (First Jobber) โดยจะเน้นขยายฐานสมาชิกผ่านช่องทางสมัครใหม่ๆ และสร้างเสริมกิจกรรมการตลาดทั้งแบบวงกว้าง (Mass) และแบบเฉพาะเจาะจง (Segmentation) โดยมุ่งตอบแทนสมาชิกด้วยการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย การจัดกิจกรรมที่อยู่ในกระแสความต้องการของสมาชิก และกิจกรรมที่สร้างเสริมวิชาชีพและรายได้ให้กับสมาชิก เพื่อสร้างความพึงพอใจสมาชิกในระยะยาว โดยตั้งเป้าการเติบโตที่ 15%”

KTC achieves record high profit of 1,755 Million Baht and pays 2.75 Baht dividends to the shareholders to coincide with the Chinese New Year.

      The firm takes pride in consistent quality of receivables portfolio and aims to further improve the organization for sustainable member satisfaction.

   KTC reports net income of 14,337 Million Baht for 2014 or a rise of 10% from the same period of the prior year. Net profit is 1,755 Million Baht or a growth of 69% from 1,037 Million Baht, exclusive of special transactions, of 2013. This is a result of high efficiency management of costs and debtors portfolio quality, combined with the use of proactive organizational restructuring strategies where all departments are encouraged to collaborate towards the same mission and core values. Research and development, as well as members’ behavior analyses, contributed as well through the creation of products and services that best serve the members. For the year 2015, KTC will have more efficient IT system, new mobile applications for transactions, and, more focused online marketing activities for improved customer engagement.

   Mr.Rathian Srimongkol, President & Chief Executive Officer, “KTC” or Krungthai Card Public Company Limited, reveals, “It is with great pleasure for me to share that our company has achieved record net profit last year –the highest since the beginning of our operation 18 years ago. The net profit in 2014 is 1,755 Million Baht which is a rise from 1,037 Million Baht in 2013, exclusive of special transactions. This translates to earnings per share of 6.81 Baht and we have consequently proposed the payment of 2.75 Baht dividends to the shareholders. We have made good progresses last year in accordance with our credit card and personal loan business plans. Our total income has risen and the ratio of operational expense to net profit is maintained in positive range, despite the slowdown of the overall Thai economy.”

   “As of December 31st, 2014, we have net assets of 54,495 Million Baht or a rise of 5% from the 51,905 Million Baht of the same period of the prior year. Net accounts receivable is at 50,123 Million Baht or a 7% rise from the same period of the prior year. Total members stand at 2.5 million accounts or a 13% rise from the same period of the prior year. The 1.81 million credit cards constitute 69% of the net accounts receivable with net credit card debt amount of 34,715 Million Baht or a 6% rise. Personal loans portfolio is 30% of net accounts receivable. The 693,273 member accounts make up for net personal loan debt of 15,201 Million Baht or a rise of 12%. Credit card NPL is reduced to 1.7% while the number is 1.2% for personal loan. Meanwhile, recovered lost debt increases by 22% over the same period of the prior year or 1,766 Million Baht. The year’s credit card spending growth is 7.4%.”

   “Our total income in 2014 is 14,337 Million Baht or a 10% rise over the same period of the prior year. Total expense, exclusive of income tax, is 12,130 Million Baht or a rise of 4%. Of this amount, 5,377 Million Baht is administrative expenses or a rise of 13% from the more proactive marketing activities and from the increase of debt collection personnel members. Nevertheless, we are able to bring financial expenses down by 5% and bad debt and presumably bad debt down by 2%. And with the greater increase in income, our net profit has seen a growth as mentioned.”

    “We now have an available credit line of 23,120 Million Baht, being 18,030 Million Baht from Krungthai Bank and 5,090 Million Baht from other commercial banks. The ratio of debt to shareholders’ equity is 6.40 which is lower than our obligation of 10.”

   “For the year 2015, we will strive to become the most preferred brand in card business and non-collateral personal loans by 2018. We are improving customer engagement with more efficient IT system, new mobile applications for transactions, more focused online marketing activities, and, expansion of business to the larger provinces in the regions with economic ties to the neighboring countries as those are high-growth markets. These efforts will combine to increase the number of members in the provinces. And we will continue to develop our people in all aspects to prepare for the expansion of our business as well.”

   “According to our marketing plan for 2015, for the credit card business, our main focus is on the spending of the primary card. We are working with a diverse range of partners to create marketing activities in all spending categories and at establishments that correspond with the preference of our members. This covers both everyday usage and occasional usage for all member groups, particularly the high-end group. Extra income will be gained through supplementary services such as U Shop V Deliver online shopping, KTC World Travel Services, insurance plans and interest-free installment payment plan over a period of up to 10 months. Expected growth total credit card spending 15%.”

     “For personal loans business, we will be the accessible source of loans and an encouragement for responsible spending discipline. Our new target group is people in the provinces and first jobbers. We will try to attract members through new channels and engage in both mass and segmented marketing activities. And as a gesture of gratitude for the trust they have in us, we will help our members with their expenses by creating activities which match with their interests and those which contribute to their career and income for long-term member satisfaction.” Expected growth in personal loans 15%.”

KTC ตั้งเป้ารายได้ - กำไรสุทธิปีนี้โต 10-15% - ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 15% - สินเชื่อบุคคลโต 15%

     KTC ตั้งเป้ารายได้ กำไรสุทธิปีนี้โต 10-15% ตามยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่คาดโต 15% และสินเชื่อบุคคลโต 15% ส่วนยอดบัตรใหม่ปีนี้วางเป้าเพิ่มอีก 4 แสนใบ จาก 1.8 ล้านใบ ณ สิ้นปี 57 ขณะที่จะคุม NPL ปีนี้ไม่เกิน 2.4% เผยจะทยอยออกหุ้นกู้วงเงิน 1.2 หมื่นลบ. ตั้งแต่ปลาย Q2/58 จนถึงปลายปี เพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ที่ครบกำหนด

  นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KTC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้และกำไรสุทธิปีนี้เติบโต 10-15% ตามยอดใช้จ่ายผ่านบัตร และการขยายตัวของสินเชื่อส่วนบุคคล โดยได้ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรปีนี้เติบโต 15% ซึ่งจะรุกเข้าไปสู่กิจกรรมทางการตลาดในทุกหมวดการใช้จ่าย และกลุ่มร้านค้าที่ตรงใจกับสมาชิกบัตร ทั้งประเภทที่เป็นการใช้จ่ายทุกวัน และการใช้จ่ายตามโอกาสและทุกกลุ่มสมาชิก โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายระดับบน รวมถึงสร้างรายได้เพิ่มผ่านผลิตภัณฑ์และบริการเสริมอื่นๆ อีกด้วย  

 นอกจากนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าสินเชื่อส่วนบุคคลปีนี้เติบโต 15% ซึ่งยังคงมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เป็นคนในพื้นที่ต่างจังหวัดและกลุ่มคนเริ่มทำงาน (First Jobber) โดยจะเน้นการขยายฐานสมาชิกผ่านช่องทางใหม่ ๆเพื่อสร้างเสริมกิจกรรมการตลาดแบบวงกว้างและแบบเฉพาะเจาะจง และยังส่งเสริมวินัยในการใช้จ่ายบัตรให้มีความรับผิดชอบอีกด้วย

 นายระเฑียร กล่าวด้วยว่า บริษัทฯตั้งเป้ายอดบัตรใหม่ปีนี้เพิ่มขึ้น 4 แสนใบ จากสิ้นปี 2557 ที่มีจำนวนบัตรอยู่ที่ 1.8 ล้านใบ ทำให้สิ้นปีจะมียอดบัตรเครดิตรวมอยู่ที่ 2.2 ล้านใบ   

 ขณะที่ ตั้งเป้าหมายควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ปีนี้ไม่เกิน 2.4% โดยได้มีการระบบการเฝ้าติดตามการชำระหนี้ของลูกค้า และทาง KTC เองก็มีการคัดเลือกลูกค้าที่มีคุณภาพ จึงทำให้เกณฑ์ NPL อยู่ในระดับที่ไม่สูง   

 "ลูกค้าส่วนใหญ่ของ KTC จะเป็นลูกค้าที่มีฐานเงินเดือนต่ำกว่า 40,000 บาท โดยบริษัทฯ เองได้มีการระมัดระวังชำระหนี้ของลูกค้า โดยได้มีระบบเฝ้าติดตามการชำระหนี้ ซึ่งมองว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทฯ จะเป็นลูกค้าที่มีคุณภาพทำให้ NPL อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูง สำหรับเกณฑ์ในการประเมินลูกค้ายังคงใช้เกณฑ์เดิม แต่อาจจะมีการเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น"นายระเฑียร กล่าว

 ด้านนายชุติเดช ชยุติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายงานคอร์ปอเรทไฟแนนซ์ KTC เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมทยอยออกหุ้นกู้ วงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท ในช่วงปลายไตรมาส 2 ต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี เพื่อเป็นการรีไฟแนนซ์หุ้นกุ้ชุดเดิมที่ครบกำหนด โดยอายุหุ้นกู้จะเฉลี่ยอยู่ที่ 2-4 ปี

 "เร็วๆ นี้จะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอายุ 1.2 หมื่นล้านบาท จึงคาดว่าจะมีการทยอยออกหุ้นกู้เพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ชุดเดิม โดยจะออกตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 ทยอยไปจนถึงปลายปี ซึ่งพอร์ตหุ้นกู้อาจจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาวโดยต้องรอดูอัตราดอกเบี้ยหากยังอยู่ในเกณฑ์นี้ ก็มีแนวโน้มที่จะออกมาเป็นระยะสั้นมากกว่า "นายชุติเดช กล่าว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!