- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Tuesday, 16 December 2014 11:08
- Hits: 4440
หนี้เน่าไอแบงก์ ท่วม 4.8 หมื่นล. 10 เดือนแรกขาดทุนสะสมกระฉูด
ไทยโพสต์ *ไอแบงก์อ่วม! ดิวดิลิเจนต์ทำเจอหนี้เน่าเพิ่ม 6 พันล้าน ดันยอดสูงแตะ 4.8 หมื่นล้านบาท แถม 10 เดือนแรกปี 57 ผงะพบขาดทุนสะสมกว่า 5.6 พันล้านบาท
แหล่งข่าวจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบฐานะทางการเงิน (ดิวดิลิเจนต์) ที่ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โทมัทสุ ไชยยศ จำกัด เบื้องต้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบ เมื่อดูจากศักยภาพของลูกหนี้จริง พบลูกหนี้ไร้ศักยภาพอยู่บางส่วน ทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของไอแบงก์ ควรเพิ่มขึ้น 6 พันล้านบาท จากหนี้เอ็นพีแอลล่าสุดอยู่ที่ 4.2 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 38% ซึ่งจะส่งผลให้หนี้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นเป็น 4.8 หมื่นล้านบาท หรือเท่ากับ 44% จากสินเชื่อรวม 1.1 แสนล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานธุรกิจของไอแบงก์ต้องมีการเพิ่มค่าใช้จ่ายในส่วนของด้านเงินฝากมากขึ้น เนื่องจากต้องการรักษาฐานลูกค้า ป้องกันไม่ให้ลูกค้าแห่ถอนเงินออก หลังจากมีกระแสข่าวในแง่ลบต่างๆ ทำให้ธนาคารต้องให้ผลตอบแทนสูงในส่วนของผลิตภัณฑ์เงินฝาก โดยล่าสุดธนาคารมีเงินฝากรวม 1.11 แสน ล้านบาท ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายของ ธนาคารเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผลประกอบการ 10 เดือนแรกของปี 2557 (ม.ค.-ต.ค.) หลังหักสำรองมีผลขาด ทุนสะสมกว่า 5.6 พันล้านบาท
โดยเฉพาะเดือน ต.ค.2557 มีผลขาดทุนก่อนหักสำรอง 150 ล้านบาท เป็นรายได้ 300 ล้านบาท หักต้นทุนเงินฝาก 250 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเงินเดือนพนักงาน ค่าเช่า อีก 200 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ผลประกอบการ ณ สิ้นปี 2556 ธนาคารมีกำไรบางเดือน ก่อนหักสำรองเดือนละ 20-50 ล้านบาท
"ตอนนี้เงินฝากธนาคารอิสลามค่อนข้างเยอะ เพราะต้อง การเงินฝากมาเผื่อลูกค้าแห่ถอน หลังเป็นกังวลเกี่ยวกับข่าวแง่ลบ และหนี้เสียเยอะ ถ้าตกใจกันวิ่งหายกันหมดแน่ เลยให้อัตราผลตอบแทนค่อนข้างสูง ทำให้ผลประ กอบการรายเดือนติดลบ แต่ก็ดีกว่าขาดสภาพคล่อง" แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ขณะ นี้ธนาคารอยู่ระหว่างจัดทำแผนฟื้นฟูฉบับสมบูรณ์ เพื่อส่งให้สำ นักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาส่งให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซูเปอร์บอร์ด เห็นชอบแผนฟื้นฟู เพื่อให้กระทรวงการคลังพิจารณาเบิกจ่ายเงินเพิ่มทุนมาดำเนินธุรกิจของไอแบงก์ต่อไป
อย่างไรก็ดี เบื้องต้นแผน ฟื้นฟูกิจการหลัง คนร.เข้าตรวจ สอบความคืบหน้า และได้ให้แนว ทางไว้ 4 ข้อ คือ 1.ลดค่าใช้จ่าย ให้ได้ปีละ 15-20% 2.เพิ่มพอร์ตลูกค้ามุสลิมให้โตปีละ 10-20% 3.ให้ย้ายสาขาของธนาคารที่อยู่ ในห้างสรรพสินค้ามาตั้งภายนอก และ 4.ปรับสัดส่วนพนักงานขายต่อพนักงานสนับสนุนให้เป็นสัด ส่วน 2:1 โดยขณะนี้ธนาคารได้เร่งดำเนินการจัดทำแผนดังกล่าว ซึ่งภายใน 2 ปีนี้ต้องปิดสาขาในห้างแน่นอนกว่า 30 สาขา เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป
ก่อนหน้านี้ นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานคณะกรรม การ ธอท. กล่าวว่า แนวทางการ ดำเนินงานของธนาคาร 6 ด้าน อาทิ สินเชื่อ ทั้งควบคุมสินเชื่อให้มีคุณภาพ การบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพ การเพิ่มสินเชื่อใหม่ โครงสร้างสินเชื่อ และกระ บวนการพิจารณาสินเชื่อ, ด้านเงินฝาก จะดูโครงสร้างเงินฝาก ต้นทุนทางการเงิน, การบริหารงานสาขา ด้านผลดำเนินงานแต่ละสาขา ทั้งสินเชื่อ เงินฝาก การเพิ่มรายได้ รวมถึงการบริการ.