- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Monday, 08 December 2014 18:03
- Hits: 2647
เอสเอ็มอีแบงก์ ส่งแผนฟื้นฟู สคร. แล้ว เตรียมความพร้อมก้าวต่อไปในอนาคต เน้นบทบาทช่วย SMEs รายย่อย
เอสเอ็มอีแบงก์ ส่งแผนฟื้นฟูให้ สคร. เรียบร้อยแล้ว เร่งแก้ไขปัญหา NPLs เบ็ดเสร็จทั้งตัดขายและจ้างเอกชนบริหาร รวมทั้งพยุงลูกค้าที่ยังดำเนินกิจการอยู่ปรับโครงสร้างหนี้ให้โอกาสฟื้นตัวต่อไปได้ ตั้งเป้าขยายสินเชื่อใหม่ปีหน้า 40,000 ล้านบาท เน้นช่วยผู้ประกอบการรายย่อยตามพันธกิจวงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาท ตั้งเป้าบทบาทมีส่วนร่วมในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
นางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์) แถลงข่าวว่า ธนาคารได้นำส่งแผนฟื้นฟูให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 28 พย. 2557 ที่ผ่านมา โดยสาระสำคัญของแผนฟื้นฟูดังกล่าวคือ การแก้ไข NPLs และการขยายสินเชื่อ Good Loan โดยมีการสรุปปัญหาขององค์กร แนวทางการแก้ไขปัญหา และทิศทางการดำเนินกิจการต่อไปใน 1 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ ในส่วนของการแก้ไข NPLs ขณะนี้มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คือ
1. ลูกหนี้ NPLs ที่มีหลักประกัน ซึ่งมียอดคงค้าง 11,000 ล้านบาท ธนาคารได้ประกาศเปิดประมูลขายลูกหนี้ที่มีหลักประกันตั้งอยู่ในเขตภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 21 พย. 2557 ซึ่งลูกหนี้กลุ่มนี้มียอดคงค้างประมาณ 500 ล้านบาท และขณะนี้มีบริษัทบริหารสินทรัพย์ให้ความสนใจเข้ามาดูข้อมูลหลายราย และจะให้ยื่นราคาซื้อในวันที่ 15 มค. 2558
2. ลูกหนี้ NPLs ที่หยุดกิจการและไม่มีหลักประกัน มียอดหนี้คงค้างประมาณ 5,000 ล้านบาท จำนวนประมาณ 10,000 ราย ธนาคารได้ออกประกาศว่าจ้างเอกชนเข้ามาบริหาร มีผู้สมัคร 25 ราย ซึ่งขณะนี้คัดเลือกได้แล้วบ้าง เพื่อให้เข้ามาทำหน้าที่เจรจากับลูกหนี้แล้วเรียกเก็บหนี้ต่อไป
นอกจากนั้น ธนาคารได้เซ็นเอ็มโอยู กับกรมบังคับคดี เพื่อให้ทางกรมบังคับคดี ทำหน้าที่เป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างธนาคารกับลูกหนี้ไม่มีหลักประกันที่เป็นรายย่อยซึ่งศาลมีคำพิพากษาแล้ว โดยจะเริ่มการเจรจาไกล่เกลี่ยในวันที่ 9 ธค.2557 นี้ สำหรับลูกหนี้ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ส่วนลูกหนี้ตามเขตภูมิภาค จะเจรจาในลำดับต่อไป
3. ในส่วนของลูกหนี้ NPLs ที่ยังดำเนินกิจการ ธนาคารเร่งทำการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งมีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ เพราะขณะนี้ NPLs ลดลง โดย ณ มิย. อยู่ที่ 35,167 ล้านบาท (39.92%ของสินเชื่อรวม) ขณะที่เดือน ตค. อยู่ที่ 33,053 ล้านบาท (38.89 %ของสินเชื่อรวม)
ประธานกรรมการเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวอีกว่า ในส่วนการดำเนินการตามพันธกิจในปี 2558 นั้น ธนาคารมุ่ง
ขยายสินเชื่อให้ SMEs รายย่อย โดยตั้งเป้าจะขยายสินเชื่อประมาณ 40,000 ล้านบาท ประกอบด้วย สินเชื่อ 9 เมนูคืนความสุข SMEs ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 9 กย.2557 วงเงิน 20,000 ล้านบาท และได้ตั้งวงเงินสินเชื่อเพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท เป็นโครงการพิเศษ 'สินเชื่อ SMEs คนดี'เป็นการให้สินเชื่อแก่ลูกค้าเดิมที่มีคุณภาพดีของธนาคาร และลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ ดังนั้น ธนาคารคาดว่ายอดสินเชื่อคงค้างสุทธิ ณ สิ้นปี 2558 น่าจะอยู่ในระดับ 120,000 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารตั้งเป้าจะปล่อยสินเชื่อใหม่ 40,000 ล้านบาทดังกล่าว และจะขาย NPLs ออกไปประมาณ 11,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกันก็อาจมีลูกหนี้มาชำระคืนหรือ Refinance ไปอยู่กับธนาคารอื่น เป็นผลให้ยอดสินเชื่อสุทธิน่าจะเพิ่มขึ้น 30,000 ล้านบาท คือจาก 90,000 ล้านบาทในสิ้นปี 2557 ปรับขึ้นมาอยู่ในระดับประมาณ 120,000 ล้านบาทในสิ้นปี 2558 หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มประมาณ 33% ทั้งนี้แม้ว่าจะเป็นอัตราเพิ่มที่มากอยู่บ้าง แต่เกิดขึ้นเนื่องจากธนาคารมีขนาดเล็ก ฐานสินเชื่อเดิมมีจำนวนไม่มากนัก ประการสำคัญที่สุด ธนาคารตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาคุณภาพสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นใหม่ จึงได้มีการจัดตั้งฝ่ายงาน Loan Monitoring เพื่อติดตามดูแลคุณภาพสินเชื่อ และกระจายพนักงานที่ทำงาน Loan Monitoring ไปอยู่สำนักงานเขตทั่วประเทศ
สำหรับ ผลการดำเนินงานในช่วง 10 เดือนแรก (มค. - ตค ) ปี 2557 ของธนาคาร ค่อยๆปรับตัวไปในทิศทางดีขึ้น โดยธนาคารมีกำไรสุทธิ 216 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากที่มีกำไรสุทธิ 116 ล้านบาท เพียงเดือน กย. 2557 และจากที่ขาดทุนครึ่งปีแรก 41 ล้านบาท สาเหตุสำคัญเนื่องจากธนาคารสามารถขยายสินเชื่อรายย่อยได้ตามพันธกิจ ทำให้ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ธนาคารสามารถป้องกันลูกหนี้เดิมไม่ให้ตกชั้นเป็น NPLs และปรับโครงสร้างลูกหนี้ NPLs เดิมให้กลับมาเป็นลูกหนี้ปกติได้ จึงไม่มีภาระตั้งสำรองเพิ่ม
ในส่วนของการเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปในระยะยาว ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่คณะกรรมการซุปเปอร์บอร์ดให้ความสนใจด้วยนั้น ธนาคารอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างองค์กร ทำให้สัดส่วนของพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการหารายได้ (Front) ต่อพนักงานทั้งสิ้น ขยับเพิ่มขึ้นจาก 44% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2557 เป็น 60% ณ สิ้นเดือน ต.ค.2557 และประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งที่ซุปเปอร์บอร์ดให้ธนาคารปฏิบัติคือ การดูแลปลูกฝังเรื่องธรรมาภิบาล ความโปร่งใสในการดำเนินงาน รวมถึงการลงโทษผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง ซึ่งธนาคารได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการให้สินเชื่อและการลงทุนในอดีตของธนาคารแล้ว พบว่า มีอยู่หลายกรณีที่ธนาคารเป็นฝ่ายเสียเปรียบโดยไม่สมควร ซึ่งธนาคารได้จัดให้มีคณะทำงานเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงและจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลภายนอกหรือพนักงานที่เป็นสาเหตุให้ธนาคารเกิดความเสียหาย หรือเสียเปรียบโดยไม่สมควรต่อไป คณะกรรมการธนาคารได้ให้ความเห็นชอบที่จะจ้างบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส ผู้สอบบัญชีระดับโลก ให้เข้าสำรวจระบบการควบคุมภายในเพื่อทำการปรับปรุงในส่วนที่บกพร่องอยู่ รวมทั้งทำหน้าที่ตรวจสอบภายในหน่วยงานต่างๆในสำนักงานใหญ่ ทั้งด้านการเงิน การปฏิบัติงาน และระบบงานคอมพิวเตอร์ รวมถึงการปฏิบัติงานของสาขาทั่วประเทศอีกด้วย เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และพนักงานของธนาคารจะมีโอกาสการเรียนรู้วิธีการตรวจสอบที่ถูกต้องจากบริษัทอีวายฯต่อไป
ตัวเลขสำคัญทางการเงิน
หน่วย : ล้านบาท
30 มิถุนายน 2557 30 กันยายน 2557 31 ตุลาคม 2557
(งวด 6 เดือน) (งวด 9 เดือน) (งวด 10 เดือน)
หลังปรับปรุง Due Diligence หลังปรับปรุง Due Diligence หลังปรับปรุง Due Diligence
1 กำไรจากการดำเนินงาน ก่อนหัก เงินสำรอง 775 1,099 1,203
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (41) 116 216
2 เงินให้สินเชื่อรวม 88,095 86,099 84,995
2.1 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 35,167 33,850 33,053
2.2 อัตราส่วน NPL : เงินให้สินเชื่อรวม 39.92% 39.32% 38.89%
3 เงินให้สินเชื่ออนุมัติใหม่ (ราย) 2,556 3,639 4,676
3.1 ลูกหนี้สินเชื่อไม่เกิน 15 ล้านบาท (ราย) 2,522 3,573 4,598
3.2 ลูกหนี้สินเชื่อเกินกว่า 15 ล้านบาท (ราย) 34 66 78
4 ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 14,937 15,092 15,092
4.1 สำรองพึงกันตามเกณฑ์ ธปท. 14,556 14,697 14,694
4.2 สำรองส่วนเกิน 381 395 398
5 จำนวนพนักงาน (ณ 31 ธค.2556 = 1,662 คน) 1,637 1,634 1,616
อัตราส่วน Front Office : Back Office 44 : 56 60:40 60:40
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ สำนักงานสื่อสารองค์กร โทร.02-265-4564-5