- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Sunday, 30 November 2014 21:50
- Hits: 3210
ออมสิน เผยผลการดำเนินงาน 10 เดือน ปี 2557 มีกำไรสุทธิ 16,863 ล้านบาท มุ่งภารกิจขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก แก้ไขหนี้นอกระบบ
ธนาคารออมสิน เผยผลประกอบการ 10 เดือนปี 2557 มีกำไรสุทธิ 16,863 ล้านบาท โดยมาจากการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อ การติดตามและปรับปรุงคุณภาพหนี้ ทำให้มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 988 ล้านบาท ส่งผลให้สินเชื่อรวมมีปริมาณกว่า 1.81 ล้านล้านบาท ด้านภารกิจ การออม มุ่งกระตุ้นการออมต่อเนื่อง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย จนเงินฝากใกล้แตะ 2 ล้านล้านบาท ย้ำภารกิจขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล และแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ
ดร.ธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโสรักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยผลประกอบการธนาคารออมสินในช่วง 10 เดือน ปี 2557 (1 มกราคม – 31 ตุลาคม 2557) ว่า มีกำไรสุทธิหลังหักโบนัสจำนวน 16,863 ล้านบาท ส่วนสำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ยจากการขยายตัวของสินเชื่อ รวมทั้งความสำเร็จในการบริหารสินทรัพย์และหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการติดตามและปรับปรุงคุณภาพหนี้ ให้ดีขึ้น ส่งผลให้ 10 เดือนแรกของปี 2557 มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 46,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 988 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2557 มีเงินให้สินเชื่อ 1,807,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 145,880 ล้านบาท
สำหรับ การขยายตัวของสินเชื่อในปีนี้เพิ่มขึ้น 129,581 ล้านบาท สูงกว่าแผนงานของธนาคาร ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 75,000 ล้านบาท หรือสูงกว่าแผน 171.63% โดยมาจากการปล่อยสินเชื่อที่เป็นไปตามนโยบายเพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะสินเชื่อแก่กลุ่มเศรษฐกิจฐานราก สินเชื่อกลุ่มลูกค้ารายย่อย สินเชื่อเพื่อธุรกิจSMEs ตลอดจนสินเชื่อแก่หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ สินเชื่อ บุคคลรายย่อย สินเชื่อเคหะ โดยที่ธนาคารฯ ยังดำรงสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยต่อสินเชื่อรายใหญ่อยู่ที่ร้อยละ 93: 7 ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2557 ธนาคารฯ มีสินทรัพย์รวม 2,232,336 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2556 จำนวน 55,435 ล้านบาท
ขณะที่การรับฝากเงิน ภายใต้ภารกิจความเป็นสถาบันเพื่อการออมของธนาคารออมสิน ปรากฏว่า มียอดเงินฝากรวม 1,919,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 168,311 ล้านบาท ส่วนมากเป็นเงินฝากประจำ 3 เดือน เงินฝากประจำ 12 เดือน เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 11 เดือน และสลากออมสินพิเศษ โดยปริมาณเงินฝากยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจนถึงช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งธนาคารยังคงออกผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่เพื่อส่งเสริมการออมต่อเนื่อง ได้แก่ “เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษเพิ่มสุข” อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 5.5% ต่อปี “เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 5 เดือน” อัตราดอกเบี้ยจาก 2.20% ต่อปี “เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 11 เดือน” อัตราดอกเบี้ย 2.65% ต่อปี ซึ่งทั้ง 3 ประเภทนี้เป็นเงินฝากยกเว้นภาษีและเปิดรับฝากจนถึงสิ้นปี 2557
นอกจากนี้ยังมี “เงินฝากสงเคราะห์ชีวิตและครอบครัว 85/55 และ 85/1” เพื่อกระตุ้นการออมควบคู่กับความคุ้มครองชีวิตและใช้สิทธิ์นำไปหักลดหย่อนภาษีในช่วงเทศกาลลดหย่อนภาษีในช่วงปลายปี รวมถึงเงินฝากที่ผู้ฝากให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง คือ “สลากออมสินพิเศษ 3 ปี” ที่กำลังจะเปิดรับฝากงวดใหม่พร้อมแคมเปญแจกทองคำในเดือนธันวาคมนี้
“ในช่วงไตรมาส 3 จนถึงไตรมาส 4 มีปริมาณความต้องการสินเชื่อของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง รวมถึงสินเชื่อตามนโยบายของรัฐบาล เช่น โครงการรับจำนำข้าว โครงการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน โครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ สินเชื่อ SMEs สุขใจ เพื่อส่งเสริมธุรกิจSMEs โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยาง ขณะที่สินเชื่อปกติในธุรกิจของธนาคารออมสิน ยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์ เงื่อนไข ที่น่าสนใจและตรงกับความต้องการของลูกค้า”ดร.ธัชพล กล่าว
สำหรับ เหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง รวมถึงเหตุพิบัติภัยในพื้นที่ต่างๆ ส่งผลให้ลูกค้าบางส่วนขาดความสามารถในการชำระหนี้ ธนาคารฯ จึงได้ผ่อนปรนด้วยมาตรการต่างๆ ได้แก่ มาตรการช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อรายย่อยจนถึงระดับ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ด้วยการลดเงินงวดผ่อนชำระเป็นเวลา 6 เดือน มาตรการบรรเทาเหตุแผ่นดินไหว พักชำระหนี้ลูกค้าเดิมไม่เกิน 6 เดือน ลดเงินงวด/ขยายเวลาผ่อนชำระ และให้กู้เพิ่มเติม มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการกว่า 90,000 ราย เป็นผลให้การรับรู้รายได้ของธนาคารฯ ขยายตัวลดลงบ้าง และต้องบันทึกยอดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ตามเกณฑ์ แต่ช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความคล่องตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากมาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการมาประกอบกับการทำงานอย่างหนักของผู้บริหารและพนักงานที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้อัตราส่วน NPLs ลดลงอย่างต่อเนื่องจนล่าสุด ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2557 อยู่ที่ 1.61% ของสินเชื่อรวม โดยคาดว่า ณ สิ้นปี 2557 จะลดลงเหลือเพียงร้อยละ 1.5% ของสินเชื่อรวม ทั้งนี้ ธนาคารออมสิน ยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างรัดกุมและผ่อนปรนตามความเหมาะสม พร้อมกับเน้นประสิทธิภาพในทุกกระบวนการตามมาตรการแก้ไขหนี้ ซึ่งการแก้ไขหนี้อย่างมีประสิทธิภาพดังกล่าว ธนาคารฯ ได้ดำเนินการควบคู่กับการปล่อยสินเชื่ออย่างเหมาะสมและรัดกุม ปริมาณหนี้ด้อยคุณภาพจึงทยอยปรับลดลง NPLs ลดลง สอดคล้องกับปริมาณสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นอย่างสมดุล
ดร.ธัชพล กล่าวต่อไปว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2557 ธนาคารฯ มุ่งให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาหนี้ครัวเรือน ผ่านสินเชื่อที่ให้วงเงินกู้และเงื่อนที่ผ่อนคลายภายใต้เงื่อนไขที่รัดกุมเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน สินเชื่อเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งจะเริ่มให้บริการในเดือนธันวาคม 2557 เป็นต้นไป รวมถึงสนับสนุนธุรกิจรายย่อย ด้วยสินเชื่อ SMEs สุขใจ เพื่อพัฒนาให้เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ รวมถึงในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายรัฐบาล
“เพื่อให้การดำเนินงานผ่านช่องทางทั้งหมดดังกล่าวมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคม อีกทั้งภายใต้ภารกิจของธนาคารออมสินในการมุ่งส่งเสริมการออม และสร้างวินัยทางการเงินในภาคประชาชน ตลอดจนการขยายธุรกรรมทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมกับการทำหน้าที่เป็นแหล่งทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในระดับฐานราก รวมถึงรองรับความต้องการเข้าถึงแหล่งทุนตามนโยบายรัฐบาล ธนาคารออมสินจะมุ่งสู่วิสัยทัศน์ “เป็นผู้นำในการส่งเสริมการออม เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และเสริมสร้างความสุขของประชาชน”ดร.ธัชพล กล่าวในที่สุด.