- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Wednesday, 18 May 2022 22:25
- Hits: 5024
UOB ประกาศผลกำไรสุทธิไตรมาสแรกที่ 9.06 ร้อยล้านเหรียญสิงคโปร์ดอลลาร์ แฟรนไชส์ลูกค้าและคุณภาพของสินทรัพย์ยังคงมีความแข็งแกร่ง
กลุ่มธนาคารยูโอบี ประกาศผลกำไรสุทธิไตรมาสแรกปี 2565 ที่ 9.06 ร้อยล้านเหรียญสิงคโปร์ดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ท่ามกลางภาวะตลาดที่ผันผวน
แฟรนไชส์ลูกค้าของกลุ่มธนาคารยังคงแข็งแกร่ง โดยมีรายได้จากดอกเบี้ยรับสุทธิเพิ่มสูงขึ้นจากการเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพและวินัยในการกำหนดราคา
รายได้ค่าธรรมเนียมรวมไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แม้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อจะพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยมีอัตราเติบโตที่ร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ค่าธรรมเนียมจากบัตรเครดิต การบริหารจัดการความมั่งคั่ง และการบริหารจัดการกองทุนกลับลดลง เนื่องจากความอ่อนไหวของตลาด รายได้จากการค้าและการลงทุนลดลงเกินร้อยละ 10 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการป้องกันความเสี่ยงจากการที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้รายได้รวมลดลงเล็กน้อยร้อยละ 3 อยู่ที่ 2.4 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ดอลลาร์
ต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2565 กลับสู่ภาวะปกติที่ 19 จุด จากการเพิ่มขึ้นของการโอนกลับสำรองทั่วไป (general allowance write-back) ในไตรมาสก่อน คุณภาพของสินทรัพย์ของกลุ่มธนาคารและงบดุลยังคงมีความยืดหยุ่น สภาพคล่องอยู่ในระดับที่เหมาะสม และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่หนึ่งที่เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1) อยู่ที่ร้อยละ 13.1
ดัชนี ข้อมูลทางการเงินที่สำคัญของไตรมาสแรก ปี 2565
กำไรจากการดำเนินงาน
1.30 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ดอลลาร์
-3% จากไตรมาสก่อน
-7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิหลังหักภาษี
9.06 ร้อยล้านเหรียญสิงคโปร์ดอลลาร์
-11% จากไตรมาสก่อน
-10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
อัตราค่าใช้จ่ายต่อรายได้
44.8%
-0.2 จุดจากไตรมาสก่อน
+1.0 จุดจากงวดเดียวกันของปีก่อน ต้นทุนความเสี่ยงในการให้สินเชื่อ19 จุด
+7 จุดจากไตรมาสก่อน
-10 จุดจากงวดเดียวกันของปีก่อน
อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL)
1.6%
ไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสก่อน
+0.1 จุดจากงวดเดียวกันของปีก่อน สินเชื่อลูกค้า
3.20 แสนล้านเหรียญสิงคโปร์ดอลลาร์
+3% จากไตรมาสก่อน
+9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
อัตราส่วนการดำรงแหล่งที่มาของเงินให้สอดคล้องกับการใช้ไปของเงิน (NSFR)
113%
-3 จุดจากไตรมาสก่อน
-8 จุดจากงวดเดียวกันของปีก่อน อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่หนึ่งที่เป็นส่วนของเจ้าของ
13.1%
-0.4 จุดจากไตรมาสก่อน
-1.2 จุดจากงวดเดียวกันของปีก่อน
มุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนของแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ตลาดเกิดความผันผวน แต่ถึงกระนั้น ธุรกิจหลักต่างๆ ของธนาคารยังคงยืนหยัดได้ดี พร้อมการเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพ ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อที่สูงเป็นประวัติการณ์ และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวดีขึ้น
เรายังคงมุ่งสนับสนุนให้ภาคธุรกิจคว้าโอกาสหลังเปิดประเทศ ระเบียงการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียนและจีนเอื้อให้ธนาคารอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการให้บริการลูกค้า การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานโลกในปัจจุบันจะยิ่งเน้นให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของเราในภูมิภาคนี้
เราเสริมความแกร่งให้ธุรกิจด้วยการเข้าซื้อธุรกิจรายย่อยของซิตี้กรุ๊ปและริเริ่มแผนงานด้านดิจิทัล รวมทั้งผลจากความพยายามของเราด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการให้การสนับสนุนลูกค้าเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก โดยตั้งเป้าประกาศแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในสิ้นปีนี้
เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวและศักยภาพในระยะยาวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ งบดุลที่แข็งแกร่ง ตลอดจนสถานะเงินทุนและสภาพคล่องที่ดีทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในก้าวผ่านช่วงเวลาอันไม่แน่นอนนี้ไปพร้อมๆ กับลูกค้าและชุมชนของเรา”
ผลการดำเนินงานทางการเงิน
1Q22
S$m 4Q21
S$m QoQ
+/(-)% 1Q21
S$m YoY
+/(-)%
รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ 1,686 1,677 1 1,529 10
รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ 572 580 (1) 619 (8)
รายได้อื่นๆ 101 177 (43) 338 (70)
รวมรายได้ 2,359 2,434 (3) 2,486 (5)
หัก: รวมค่าใช้จ่าย 1,058 1,095 (3) 1,089 (3)
กำไรจากการดำเนินงาน 1,301 1,339 (3) 1,397 (7)
หัก: ค่าใช้จ่ายจากการด้อยค่า 178 112 59 201 (11)
บวก: บริษัทร่วมและกิจการร่วมค้า 29 19 55 32 (8)
กำไรสุทธิ 906 1,017 (11) 1,008 (10)
ไตรมาส 1 ปี 2565 เปรียบเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2564
กลุ่มธนาคารประกาศผลกำไรสุทธิ 9.06 ร้อยล้านเหรียญสิงคโปร์ดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 11 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลให้รายได้จากการค้าและการลงทุนที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับลูกค้าปรับตัวลดลง ประกอบกับการลดลงของการโอนกลับเงินสำรองทั่วไป
รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 1 ซึ่งเป็นผลการจากเติบโตของสินเชื่อร้อยละ 3 และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 10 อยู่ที่ร้อยละ 1.58 รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการส่วนใหญ่คงที่ อยู่ที่ 5.72 ร้อยล้านเหรียญสิงคโปร์ดอลลาร์ จากความต้องการสินเชื่อและธุรกิจการให้คำปรึกษา ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อดีดตัวขึ้นร้อยละ 14 ทำสถิติแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 1.94 ร้อยล้านเหรียญสิงคโปร์ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายบัตรเครดิตที่ลดลงตามฤดูกาลและค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการความมั่งคั่งและกองทุนที่ลดลงตามสภาวะความอ่อนไหวของตลาดที่ซบเซาลงส่งผลให้รายได้รวมลดลง
แม้รายได้จากการบริหารตลาดเงินที่เกี่ยวเนื่องกับลูกค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เนื่องจากลูกค้าสนใจป้องกันความเสี่ยง แต่ผลกระทบจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยจากการป้องกันความเสี่ยงและการปรับมูลค่าของเงินลงทุนตามราคาตลาดล่าสุดที่ยังไม่ได้รับรู้ (unrealised mark-to-market) ยังคงสูงกว่ารายได้ส่วนนี้ ดังนั้นรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจึงปรับตัวลดลงร้อยละ 43 อยู่ที่ 1.01 ร้อยล้านเหรียญสิงคโปร์ดอลลาร์
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวมลดลงร้อยละ 3 ในทิศทางเดียวกันกับรายได้ที่ลดลง ทำให้อัตราค่าใช้จ่ายต่อรายได้คงที่ที่ร้อยละ 44.8 เงินกันสำรองรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 59 ส่วนใหญ่เนื่องจากการเพิ่มสูงขึ้นของการโอนกลับเงินสำรองทั่วไปในไตรมาสก่อน ส่งผลให้ต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อกลับสู่ภาวะปกติที่ 19 จุดในไตรมาสแรกปี 2565
ไตรมาส 1 ปี 2565 เปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2564
รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อร้อยละ 9 รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการปรับตัวลดลงร้อยละ 8 ส่วนใหญ่มาจากค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการความมั่งคั่งและการบริหารจัดการกองทุนที่ลดลงเนื่องจากแนวโน้มของตลาดในปีนี้ค่อนข้างเงียบ เช่นเดียวกับรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงเนื่องจากผลกระทบของการป้องกันความเสี่ยง อันส่งผลให้รายได้จากการค้าและการลงทุนที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับลูกค้าลดลง แม้ว่ารายได้จากการบริหารตลาดเงินที่เกี่ยวเนื่องกับลูกค้าจะคงที่ก็ตาม
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวมลดลงร้อยละ 3 ในทิศทางเดียวกันกับรายได้ที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองปรับตัวลดลงร้อยละ 11 จากเงินกันสำรองทั่วไปที่ลดลง โดยที่ต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อรวมลดลง 10 จุด
คุณภาพของสินทรัพย์
อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกันสำรอง
คุณภาพของสินทรัพย์ยังคงมีความยืดหยุ่น โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) คงที่ที่ร้อยละ 1.6 ในขณะที่ต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อรวมเป็นไปตามการคาดการณ์ที่ 19 จุด
อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกันสำรองยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม อัตราส่วนการตั้งสำรองสำหรับสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPA) อยู่ที่ร้อยละ 94 หรือร้อยละ 216 หากนับรวมหลักประกัน เงินสำรองส่วนเกินสำหรับสินเชื่อที่ยังไม่ด้อยคุณภาพยังคงอยู่ที่ร้อยละ 0.9
เงินทุน ฐานะเงินทุน และสภาพคล่อง
อัตราส่วนสภาพคล่องและเงินทุน
สภาพคล่องและฐานะเงินทุนของกลุ่มธนาคารยูโอบียังมั่นคง โดยมีอัตราส่วนการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง (LCR) ในทุกสกุลเงินเฉลี่ยที่ร้อยละ 129 ในขณะที่อัตราส่วนการดำรงแหล่งที่มาของเงินให้สอดคล้องกับการใช้ไปของเงิน (NSFR) อยู่ที่ร้อยละ 113 ซึ่งยังคงสูงกว่าเกณฑ์กำหนดขั้นต่ำ อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝาก (LDR) ยังคงที่อยู่ที่ร้อยละ 87.3
อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่หนึ่งที่เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1) ปรับลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 13.1 ส่วนใหญ่จากการเติบโตของสินทรัพย์ กลุ่มธนาคารยูโอบียังคงมุ่งมั่นสนับสนุนให้ลูกค้าบรรลุความต้องการทางการเงินของตน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มธนาคารยูโอบีได้ที่ www.UOBGroup.com
ข้อมูลทางการเงินที่สำคัญ
1Q22 4Q21 +/(-)% 1Q21 +/(-)%
รายการงบกำไรขาดทุนอย่างย่อ (ล้านเหรียญสิงคโปร์ดอลลาร์)
รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ 1,686 1,677 1 1,529 10
รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 572 580 (1) 619 (8)
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย 101 177 (43) 338 (70)
รายได้รวม 2,359 2,434 (3) 2,486 (5)
หัก: ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 1,058 1,095 (3) 1,089 (3)
กำไรจากการดำเนินงาน 1,301 1,339 (3) 1,397 (7)
หัก: เงินกันสำรองสำหรับผลขาดทุนด้านเครดิตและอื่นๆ 178 112 59 201 (11)
บวก: ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้า 29 19 55 32 (8)
กำไรสุทธิก่อนหักภาษี 1,152 1,246 (8) 1,227 (6)
หัก: ภาษีและส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม 246 229 8 219 12
กำไรสุทธิหลังหักภาษี1 906 1,017 (11) 1,008 (10)
รายการงบดุลอย่างย่อ (ล้านเหรียญสิงคโปร์ดอลลาร์)
เงินให้สินเชื่อลูกค้า 319,999 310,800 3 293,267 9
เงินรับฝากลูกค้า 361,747 352,633 3 331,979 9
รวมสินทรัพย์ 475,847 459,323 4 440,749 8
ส่วนของเจ้าของ1 42,892 42,633 1 41,700 3
สินทรัพย์เสี่ยง 267,550 259,067 3 236,008 13
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ (%)
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ2 1.58 1.56 1.57
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ 44.8 45.0 43.8
ต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (จุด)2
ที่ยังไม่ด้อยคุณภาพ - (10) 19
ด้อยคุณภาพ 19 22 10
รวม 19 12 29
อัตราส่วน NPA 94 96 112
อัตราส่วน NPL3 1.6 1.6 1.5
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น2,4 8.8 10.0 10.2
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม2 0.77 0.89 0.93
อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝาก5 87.3 87.0 87.0
การดำรงสินทรัยพ์เพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (Liquidity Coverage Ratio: LCR)6,10
ทุกสกุลเงิน 129 133 139
สิงคโปร์ดอลลาร์ 343 321 274
อัตราส่วนการดำรงแหล่งที่มาของเงินให้สอดคล้องกับการใช้ไปของเงิน (NSFR)7,10 113 116 121
อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR)
เงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ 13.1 13.5 14.3
เงินกองทุนชั้นที่ 1 14.0 14.4 15.4
รวม 15.8 16.6 17.9
อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้8 6.9 7.2 7.5
กำไรต่อหุ้นสามัญ (สิงคโปร์ดอลลาร์)2,4
หุ้นขั้นพื้นฐาน 2.13 2.39 2.36
หุ้นปรับลด 2.11 2.38 2.35
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ต่อหุ้นสามัญ (สิงคโปร์ดอลลาร์)9 24.23 24.08 23.42
หมายเหตุ:
- หมายถึงจำนวนผู้ถือหุ้นของของธนาคาร
- คำนวณเป็นรายปี
- หมายถึงสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ คิดเป็นร้อยละของยอดรวมเงินให้สินเชื่อลูกค้า
- คำนวณจากกำไรต่อผู้ถือหุ้นสุทธิของของธนาคารของการกระจายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน
- หมายถึงเงินให้สินเชื่อลูกค้าและเงินรับฝากลูกค้าสุทธิ
- ตัวเลขที่รายงานคือค่า LCR เฉลี่ยสำหรับงวดที่เกี่ยวข้อง คำนวณตามประกาศ MAS 651อัตราส่วนการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องในสกุลเงินสิงคโปร์ดอลลาร์ร้อยละ 100 และสกุลเงินอื่นร้อยละ 100 เฉลี่ยขั้นต่ำที่ต้องคงดำรงอยู่ตลอดเวลา
- NSFR คำนวณตามประกาศ MAS 652 ซึ่งกำหนดให้ดำรงอัตราขั้นต่ำที่ร้อยละ 100
- อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้คำนวณตามประกาศ MAS 637 ซึ่งกำหนดให้ดำรงอัตราขั้นต่ำที่ร้อยละ 3
- ไม่รวมหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนในการคำนวณ
- ดูข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะตามที่ประกาศ MAS 651 และ 653 กำหนดได้บนหน้าเว็บไซต์ www.UOBgroup.com/investor-relations/financial/index.html