- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Monday, 10 May 2021 09:23
- Hits: 892
ฟิทช์ คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารยูโอบี (ไทย)ที่ ‘A-’ และอันดับเครดิตภายในประเทศที่ ‘AAA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ฟิทช์ เรทติ้งส์ – กรุงเทพ – 7 พฤษภาคม 2564: ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ของ ธนาคารยูโอบี (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBT ที่ ‘A-’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ได้รับการคงอันดับเครดิตที่ ‘AAA(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ UOBT ที่ ‘F1’ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน ที่ ‘bbb-’ และอันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘1’
สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตภายในประเทศ
อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตภายในประเทศของ UOBT พิจารณาจากการคาดการณ์ของฟิทช์ว่า United Overseas Bank Limited ("UOB"; อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ AA-/อันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ซึ่งเป็น บริษัท แม่ในสิงคโปร์ จะให้การสนับสนุนเป็นพิเศษ (extraordinary support) แก่บริษัทลูกในไทยในกรณีที่จำเป็น UOBT ถือหุ้นโดย UOB ในสัดส่วน 99.7%
และมีการควบคุมการดำเนินงานและความเชื่อมโยงในการดำเนินงานระหว่างสองธนาคารอย่างใกล้ชิด UOBT มีบทบาทสำคัญในเชิงกลยุทธ์ในด้านการสนับสนุนการขยายธุรกิจในต่างประเทศของกลุ่มทำให้กลุ่มมีฐานธุรกิจในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การใช้สัญลักษณ์ทางการค้าที่มีความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจนและความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานกับธนาคารแม่อาจส่งผลให้มีผลกระทบด้านชื่อเสียงต่อ UOB อย่างมากหากธนาคารลูกมีการผิดนัดชำระหนี้
ความสามารถของ UOB ในการสนับสนุน UOBT นั้นถูกจำกัดโดยเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย (country ceiling) ที่ 'A-' ซึ่งเป็นปัจจัยที่จำกัดอันดับเครดิตสากลสกุลระยะยาวของ UOBT
อันดับเครดิตภายในประเทศของ UOBT สะท้อนถึงความเสี่ยงในเชิงเปรียบเทียบกับธนาคารอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตเครดิตภายในประเทศจากฟิทช์ ฟิทช์เชื่อว่าโครงสร้างอันดับเครดิตของ UOBT ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยสนับสนุนมีความสอดคล้องกับอันดับเครดิตที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ โดยอันดับเครดิตของ UOBT ได้รับการสนับสนุนจาก UOB ซึ่งมีอันดับเครดิตสูงกว่าอันดับเครดิตของประเทศไทยที่ 'BBB+ อยู่หลายอันดับ
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ UOBT สะท้อนถึงเครือข่ายทางธุรกิจในประเทศไทยของธนาคารที่อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีส่วนแบ่งตลาดสำหรับเงินฝากที่ 3% อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงโอกาสในการใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์อันดีที่มีกับUOB เช่นในด้านการตลาดและความร่วมมือทางธุรกิจ รวมถึงการได้รับการสนับสนุนตามปกติในด้านเงินทุนและสภาพคล่อง ผลการดำเนินงานของธนาคารตลอดวัฏจักรทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับที่ยอมรับได้เนื่องจาก UOBT สามารถขยายธุรกิจได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป และมีการปรับตัวดีขึ้นของความสามารถในการทำกำไรและความสามารถในการรับความเสี่ยง เช่น อัตราส่วนเงินกองทุนสภาพแวดล้อมการดำเนินงานในประเทศไทยยังคงมีความท้าทายโดยเศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตในระดับต่ำต่อเนื่องในปี 2564-2565
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมทางธุรกิจมีแนวโน้มดีขึ้นบ้างเมื่อเทียบกับการหดตัวของ GDP ที่ 6.1% ในปี 2020 และความเสี่ยงของการปรับตัวลงทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงดูเหมือนจะผ่อนคลายลง ฟิทช์คาดว่าการด้อยค่าของสินเชื่อมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับ UOBT และภาคการธนาคารโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาตรการผ่อนปรนด้านกฎระเบียบเริ่มหมดอายุ ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองของ UOBT ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2564 เป็น 75% ของกำไรจากการดำเนินงานก่อนการตั้งสำรองเป็นผลมาจากการตั้งสำรองในส่วนของการบริหารจัดการเชิงรุกของธนาคาร (management overlay)
ในขณะที่การตั้งสำรองอาจถึงจุดสูงสุดแล้ว ฟิทช์คาดว่าค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองจะยังคงอยู่ในระดับสูงและส่งผลกดดันกำไร ความสามารถในการทำกำไรของธนาคารจึงยังมีแนวโน้มที่จะยังคงซบเซา โดยอัตราส่วนกำไรต่อสินทรัพย์เสี่ยงเฉลี่ย 4 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 1.4% ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับธนาคารในไทยและเกณฑ์มาตรฐานทางการเงินของฟิทช์
อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ ของ UOBT ที่ 18% ณ สิ้นปี 2563 เป็นหนึ่งในระดับที่สูงที่สุดในภาคธนาคารและยังเป็นกันชนที่แข็งแรงเมื่อต้องเผชิญกับความเสี่ยง ฟิทช์เชื่อว่าโครงสร้างการระดมเงินที่ของธนาคารได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนจากความสัมพันธ์กับกลุ่มธนาคารแม่ แม้ว่าธนาคารมีเครือข่ายทางธุรกิจที่เล็กกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆในประเทศ
หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตของตราสารหนี้ด้อยสิทธิ (ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2) ของ UOBT ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารอยู่ 2 อันดับ ซึ่งสอดคล้องวิธีการปรับลดอันดับเครดิตสำหรับตราสารหนี้ด้อยสิทธิจากอันดับเครดิตอ้างอิงตามหลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสำหรับธนาคารที่ปรับปรุงล่าสุดของฟิทช์และสะท้อนถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ ทั้งนี้ไม่ได้มีการปรับลดอันดับเพิ่มเติมสาหรับความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นกู้จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ดาดการณ์ (non-performance risk) เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) เช่นการยกเลิกหรือการเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ย
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตภายในประเทศ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้กิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวไม่สามารถปรับเพิ่มอันดับได้ หากเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทยไม่ได้รับการปรับเพิ่มอันดับ
อันดับเครดิตภายในประเทศ หรืออันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ เป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด จึงไม่สามารถปรับเพิ่มอันดับเครดิตได้
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้กิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
หากความสามารถที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนแก่ UOBT มีการปรับตัวลดลง อาจส่งผลให้อันดับเครดิตของ UOBT ถูกปรับลดอันดับเช่นกัน แต่ทั้งนี้ธนาคารแม่ต้องถูกปรับลดอันดับเครดิตลงหลายอันดับมาเท่ากับหรือต่ำกว่าเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย ซึ่งเรามองว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น
การปรับตัวลงลงอย่างมากของโอกาสที่ UOBT จะได้รับการสนับสนุนจาก UOB อาจส่งผลให้มีการปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว อันดับเครดิตสนับสนุน อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว และอันดับเครดิตตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ ของธนาคารลูก ตัวอย่างเช่น การลดลงของสัดส่วนการถือหุ้นของธนาคารแม่ลงต่ำกว่า 75% รวมถึงการลดการควบคุมการบริหารงานและการผสานการดำเนินงานที่ลดลง อย่างไรก็ตามฟิทช์ไม่คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในระยะกลาง
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้กิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหาก UOBT แสดงให้เห็นว่าสามารถสร้างประวัติของธนาคาร(company profile) เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และ/หรือแสดงให้เห็นว่าตำแหน่งทางการตลาดของธนาคารไม่ได้เป็นปัจจัยที่จำกัดในการที่จะรักษาคุณภาพสินทรัพย์ให้สอดคล้องกับธนาคารอื่นที่ได้รับการจัดอันดับในระดับสูงกว่าตามเกณฑ์มาตรฐานของฟิทช์
ในขณะที่ยังคงรักษาระดับการยอมรับความเสี่ยงที่สม่ำเสมอและผลประกอบการที่ดีซึ่งช่วยรองรับการตั้งสำรอง ตัวอย่างเช่นอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่ทรงตัวต่ำกว่า 2.7% (ล่าสุด 3.5%) โดยอัตรากำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่สูงกว่า 1.5% อย่างต่อเนื่อง (ล่าสุด 0.6%) อาจส่งผลเชิงบวกต่ออันดับเครดิต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้กิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินอาจถูกปรับลดอันดับลงหากอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญของ UOBT ลดลงอย่างมากเกินความคาดหมายของฟิทช์ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการยอมรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นหรือมีความสามารถในการแข่งขันที่ลดลงท่ามกลางสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ยากลำบาก ซึ่งอาจบ่งชี้ได้จากอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่สูงกว่า 6% รวมถึงการไม่สามารถการรักษาระดับกำไรให้ทรงตัวและระดับเงินกองทุนให้เพียงพอกับความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ต่ำกว่า 13% (ล่าสุด18%)
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต –อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ UOBT ไม่มีโอกาสได้รับการปรับเพิ่มอันดับ เนื่องจากอันดับเครดิตอ้างอิงซึ่งคืออันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวอยู่ในอันดับที่สูงที่สุดแล้ว
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารจะทำให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิถูกปรับลดอันดับ
อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตสนับสนุน และอันดับเครดิตภายในประเทศของ UBOT มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตของ ธนาคารแม่ซึ่งคือ United Overseas Bank Limited ประเทศสิงคโปร์
การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตามสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com/esg
ติดต่อ
Primary Analysts
Tania Gold
Senior Director
+65 6796 7224
Fitch Ratings Singapore Pte Ltd
One Raffles Quay, South Tower #22-11
Singapore 048583
พาสันติ์ สิงหะ
Senior Director
+662 108 0151
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ชั้น 17 อาคารปาร์คเวนเชอร์ 57 ถนน วิทยุ
ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
Secondary Analysts
อาลฎา สุขะการผดุง
Associate Director
+662 108 0163
Committee Chairperson
Jonathan Cornish
Managing Director
+852 2263 9901
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ