WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SCBอาทิตย์3ไทยพาณิชย์ประกาศผลกำไรสุทธิประจำไตรมาส 1 ปี 2564 จำนวน 10,088 ล้านบาท

          ธนาคารไทยพาณิชย์และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ (งบการเงินรวมก่อนสอบทาน) ในไตรมาส 1 ของปี 2564 จำนวน 10,088 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 103.2% จากไตรมาสก่อน ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองมีจำนวน 22,652 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากความแข็งแกร่งของธุรกิจในการขยายฐานรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย และความมุ่งมั่นในการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

          ในไตรมาส 1 ของปี 2564 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 23,376 ล้านบาท ลดลง 9.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ที่ลดลงในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ แม้ว่าสินเชื่อโดยรวมขยายตัว 8.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และต้นทุนทางการเงินปรับตัวลดลง

          รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 14,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% จากปีก่อน การเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเป็นผลของการขยายฐานรายได้ของธุรกิจการขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่านธนาคารและธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง และการรับรู้กำไรตามราคาตลาดในปัจจุบันของพอร์ตการลงทุนของธนาคารและบริษัทในเครือ

          ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 15,101 ล้านบาท ลดลง 7.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดลงของต้นทุนในการให้บริการจากการใช้ช่องทางดิจิทัลที่มากขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ของธนาคารในไตรมาส 1 ของปี 2564 ปรับตัวดีขึ้นอย่างเด่นชัดเป็น 40% เมื่อเปรียบเทียบกับ 44% ในปีก่อน

          ในไตรมาส 1 ของปี 2564 ธนาคารได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 10,008 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในปีก่อน อย่างไรก็ตามการตั้งเงินสำรองยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าสภาวะปกติ ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปัจจุบัน

          อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ สิ้นเดือนมีนาคม 2564 อยู่ที่ 3.79% เพิ่มขึ้นจาก 3.68% สิ้นเดือนธันวาคม 2563 การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลของการบริหารจัดการสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างรอบคอบของธนาคารด้วยการการจัดชั้นลูกหนี้เชิงคุณภาพและแนวทางการแก้ไขสินเชื่อด้อยคุณภาพโดยคำนึงถึงมูลค่าสินทรัพย์ในระยะยาว ทั้งนี้ อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารยังอยู่ในระดับสูงที่ 139.6% ในขณะที่เงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคารยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.2%

          นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่าผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรกแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวของธุรกิจหลักของธนาคารและความได้เปรียบทางการแข่งขันจากการพัฒนาขีดความสามารถในด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี นอกจากนี้การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพและการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบยังมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ธนาคารสามารถรับมือกับช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้ พร้อมกับการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ถึงแม้มีการระบาดระลอกใหม่ ธนาคารยังคงดำรงความแข็งแกร่งทางด้านการเงินเพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าและรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อาจล่าช้าออกไป ทั้งนี้ ธนาคารยังคงมุ่งเน้นในการเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีใหม่ และขยายขีดความสามารถด้านดิจิทัลและระบบนิเวศทางธุรกิจโดยอาศัยความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ

 

A4624

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!