- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Sunday, 28 March 2021 23:17
- Hits: 12571
ฟิทช์ คงอันดับเครดิตของธนาคารกสิกรไทย ที่ ‘BBB’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ; ปรับอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำเป็น 'BBB'
ฟิทช์ เรทติ้งส์- กรุงเทพฯ - 26 มีนาคม 2564: ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBank ที่ ‘BBB’ และปรับอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำเป็น 'BBB' จาก 'BBB-' นอกจากนี้ฟิทช์ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารที่ 'bbb' อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ที่ ‘BBB’ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ ‘F3’ อันดับเครดิตภายภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA+(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
การปรับอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ เป็นผลมาจากที่ฟิทช์ได้ทบทวนโอกาสที่ทางการไทยจะให้การช่วยเหลือสนับสนุนต่อธนาคารที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินในประเทศ โดยความผันผวนของตลาดการเงินในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาส่งผลให้เงินฝากไหลเข้าไปยังธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งซึ่งสนับสนุนมุมมองของฟิทช์ต่อระดับความสำคัญของธนาคารเหล่านี้ที่มีต่อระบบ การปรับอันดับเครดิตในครั้งนี้สอดคล้องกับวิธีที่ฟิทช์ใช้กับธนาคารอื่นๆที่มีขนาดใกล้เคียงกันในกลุ่มประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ ทั้งนี้ KBank เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเงินฝากที่ 15% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2563
นอกจากนี้ ฟิทช์ยังคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทลูกของ KBank ซึ่งคือบริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS ที่ 'AA (tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
รายละเอียดอันดับเครดิตทั้งหมดได้แสดงไว้ในส่วนท้าย
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต-อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ และอันดับเครดิตภายในประเทศ ของ KBank พิจารณาจากความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวธนาคารเอง (ซึ่งสะท้อนโดยอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน) ในขณะเดียวกันอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำช่วยจำกัดความเสี่ยงจากการถูกปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของธนาคารในกรณีที่ความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารปรับตัวต่ำลง โดยที่ปัจจัยที่สนับสนุนอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำไม่ได้มีการปรับตัวลดลง นอกจากนี้อันดับเครดิตภายในประเทศของ KBank ยังรวมการพิจารณาถึงโครงสร้างเครดิตของธนาคารในเชิงเปรียบเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับในประเทศ
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ KBank ได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวนับเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิของธนาคาร
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นสะท้อนถึงการประเมินของฟิทช์ด้านโครงสร้างการระดมทุนและสภาพคล่องของธนาคารที่ระดับ ‘bbb’
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KBank ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายทางธุรกิจในประเทศของธนาคารที่แข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งในด้านธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลและโครงสร้างการระดมทุนโดยรวมที่มั่นคง อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังสะท้อนถึงแรงกดดันต่อโครงสร้างทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านคุณภาพของสินทรัพย์และกำไร เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในปี 2563 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เราคาดว่าจะค่อนข้างช้าในช่วงปี 2564-2565
จากสมมติฐานในกรณีพื้นฐาน ฟิทช์เชื่อว่าอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมของภาคธนาคารจะปรับเพิ่มขึ้นอีกจาก สิ้นปี 2563 (KBank 4.6%) และจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงในช่วงปี 2564-2565 โดย KBank มีสัดส่วนสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมากกว่าธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ โดยอยู่ที่ประมาณ 33% ของสินเชื่อรวมและฟิทช์มองว่ายังมีความเสี่ยงจากหนี้เสียสำหรับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวนี้หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจนั้นช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ฟิทช์ ยังคาดว่าค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญของ KBank จะยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับแนวโน้มในอดีต สำหรับในช่วง 2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ความสามารถในการทำกำไรจะได้รับผลกระทบจากแรงกดดันต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องจากสภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำและการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมที่ต่ำจากกิจกรรมทางธุรกิจที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของ KBank น่าจะยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจ (3.4% ณ สิ้นปี 2563 เทียบกับค่าเฉลี่ยของภาคธนาคารที่ 2.8%) ซึ่งจะช่วยรองรับค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญได้ในระดับหนึ่ง
ฐานะเงินกองทุนที่ยังคงอยู่ในระดับสมเหตุสมผลของธนาคาร (อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของที่ 15.5%) และระดับสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่เพียงพอ (ซึ่งรวมส่วนของค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติมตามดุลยพินิจของธนาคารในปี 2563) น่าจะช่วยรองรับความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ยังคงมีความท้าทายได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้การระดมเงินทุนและสภาพคล่องของธนาคารที่ยังคงแข็งแกร่ง จากฐานลูกค้าที่ขนาดใหญ่และสัดส่วนเงินฝากบัญชีเงินฝากกระแสรายวันและบัญชีออมทรัพย์ที่สูง (ซึ่งคิดเป็น 80% ของเงินฝากรวม)
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) และ อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ
ฟิทช์ พิจารณาอันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ KBank จากการที่ธนาคารมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้มีโอกาสสูงขึ้นที่รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือสนับสนุนแก่ธนาคาร KBank มีประวัติยาวนานในฐานะหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและได้รับการกำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทยให้เป็น 1 ใน 5 ธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบภายในประเทศ (D-SIB) ธนาคารมีการเพิ่มขึ้นอย่างมากของเงินฝากถึง 13% ในปี 2020
ซึ่งสะท้อนถึงฐานะการเป็นสถาบันการเงินที่มีความปลอดภัยรายหนึ่งในประเทศไทยและเป็นข้อบ่งชี้ถึงความสำคัญของธนาคารต่อระบบ การพิจารณาอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของฟิทช์รวมถึงมุมมองว่าทางการไม่น่าจะมีการออกกฎหมายเพิ่มเติมที่สนับสนุนให้มีการบังคับตัดหนี้สูญสำหรับเจ้าหนี้หรือผู้ถือตราสารไม่ด้อยสิทธิ (resolution framework)ในอนาคตอันใกล้นี้ อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำยังสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของรัฐบาลไทยในการให้การสนับสนุนแก่ธนาคารซึ่งสะท้อนโดยอันดับเครดิตของประเทศที่ BBB + / แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต-หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
ฟิทช์ จัดอันดับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของ KBank (ซึ่งออกขายทั้งในและต่างประเทศ) ที่ระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตอ้างอิงสำหรับอันดับเครดิตสากลและอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารอยู่ 2 อันดับ เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risk) ที่มีสูงกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ ทั้งนี้ไม่ได้มีการลดทอนอันดับเครดิตเพิ่มเติมเนื่องจากข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่ได้มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนในระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิและจำนวนอันดับเครดิตที่ลดทอนจากอันดับเครดิตอ้างอิงสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของฟิทช์ในการจัดอันดับเครดิตตราสารประเภทดังกล่าว
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต– บริษัทร่วมและบริษัทย่อย
การประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของ KS พิจารณาจากมุมมองของฟิทช์ว่าโอกาสที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนกับ KS ยังไม่เปลี่ยนแปลง KS ยังคงเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อ KBank เนื่องจากการถือหุ้นเกือบทั้งหมดโดย KBank การใช้เครื่องหมายทางการค้าที่มีความเชื่อมโยงกัน การควมคุมการดำเนินงาน และการมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจการเงินครบวงจรของธนาคารแม่ ทั้งนี้การจัดอันดับเครดิตในระดับที่ต่ำกว่าอันดับเครดิตของ KBank อยู่ 1 อันดับ สะท้อนถึงขนาดของธุรกิจที่เล็กของ KS ในฐานะที่เป็นสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารและมีส่วนช่วยในการสร้างกำไรให้แก่กลุ่มที่ค่อนข้างจำกัด
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ KBank อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ หรือ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินได้รับการเปรับเพิ่มอันดับ ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศของ KBank ยังได้รวมถึงการพิจารณาโครงสร้างอันดับเครดิตของธนาคารเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำพร้อมกันจะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิปรับตัวไปในทิศทางเดียวกัน อันดับเครดิตภายในประเทศอาจได้รับการปรับลดอันดับเป็น 'AA(tha)' หากฟิทช์มองว่าโครงสร้างเครดิตของธนาคารอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นในประเทศ
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต –อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KBank อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับเป็น 'bbb+' หากอัตราส่วนที่สำคัญทางการเงินปรับตัวสอดคล้องกับธนาคารอื่นที่มีอันดับเครดิตสูงกว่าและอยู่ในสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่คล้ายกัน ฟิทช์มองว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ KBank อยู่ในระดับที่ค่อนข้างอ่อนแอสำหรับอันดับเครดิต ณ ปัจจุบันและเทียบกับระดับการยอมรับความเสี่ยงของธนาคาร ในกรณีที่จะมีการปรับอันดับเครดิตเพิ่มขึ้นสูงขึ้น
ฟิทช์ มองว่า เครือข่ายทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของธนาคารและความสม่ำเสมอของระดับการยอมรับความเสี่ยงน่าจะต้องช่วยส่งเสริมให้ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าภาคการธนาคารโดยรวมอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งมีอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่ต่ำกว่า 3% และมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวสูงกว่า 2.5% โดยที่ยังคงความสามารถในการรองรับความเสี่ยง เช่น การมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของที่สูงกว่า 16%
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับความแข็งแกร่งของธนาคารอาจได้รับการปรับลดอันดับเป็น ‘bbb-‘ หากฐานะเงินกองทุนของธนาคารปรับตัวด้อยลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าคาดการณ์ของฟิทช์ ซึ่งสะท้อนได้โดยการปรับลดคะแนนอย่างมีนัยสำคัญสำหรับปัจจัยในการพิจารณาอันดับเครดิตหลายๆปัจจัย ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ปรับตัวแย่ลงอย่างมาก เช่น การเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมสูงกว่า 6% และมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่ด้อยลง เช่น มีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของที่ต่ำกว่า 13 % รวมทั้งอัตราส่วนสำรองหนี้เสียต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพต่ำกว่า 120%
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต –อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยที่ ‘BBB+’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อาจบ่งชี้ได้ว่ารัฐบาลมีความสามารถเพิ่มขึ้นในการสนับสนุนธนาคารในประเทศ (รวมถึง KBank) แต่การพิจารณาอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำต้องคำนึงถึงการที่โอกาสในการให้การสนับสนุนธนาคารไม่มีการปรับตัวลดลง หากอันดับเครดิตของประเทศไทยไม่มีการเปลี่ยนแปลง การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ KBank ก็ไม่น่าที่จะเกิดขึ้น
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำอาจถูกปรับลดอันดับหากฟิทช์เชื่อว่าความสามารถที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารนั้นลดลง เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยถูกปรับลดอันดับ นอกจากนี้การปรับลดอันดับเครดิตยังอาจเกิดขึ้นได้หากฟิทช์เชื่อว่าโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ KBank ลดลง เช่น จากการลดลงของระดับความสำคัญของธนาคารที่มีต่อระบบอย่างมีนัยสำคัญ หรือการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตามเนื่องจากการปรับอันดับเครดิตในครั้งนี้ ฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยที่ทางการจะลดโอกาสการให้ความช่วยเหลือแก่ธนาคารที่มีความสำคัญต่อระบบเช่น KBank ในระยะปานกลาง
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ KBank จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตอ้างอิงได้รับการปรับเพิ่มอันดับ โดยอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินใช้เป็นอันดับเครดิตอ้างอิงสำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินดอลลาร์ และอันดับเครดิตภายในประเทศเทียบเคียงจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินใช้เป็นอันดับเครดิตอ้างอิงสำหรับอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินบาท
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารจะส่งผลให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ KBank ได้รับการปรับลดอันดับ
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตบริษัทร่วมและบริษัทย่อย
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KBank จะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศของ KS นอกจากนี้ฟิทช์อาจปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศของ KS หาก KBank แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูกที่เพิ่มขึ้น เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหาก KS มีนัยสำคัญมากขึ้นต่อธุรกิจของ KBank
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของ KBank น่าจะส่งผลในทิศทางเดียวกันกับอันดับอันดับเครดิตของ KS นอกจากนี้โอกาสที่ KBank จะให้การสนับสนุนที่ลดลงก็อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ KS เช่น การลดสัดส่วนการถือหุ้นและการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงิน อย่างไรก็ตามฟิทช์ไม่คาดว่าโอกาสในการให้การสนับสนุนจะมีการเปลี่ยนแปลงในระยะปานกลาง
การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตามสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com/esg
อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตภายในประเทศของ KS มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตของ KBank
รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘BBB’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F3’
- อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ ‘bbb’
- อันดับเครดิตสนับสนุน คงอันดับที่ ‘2’
- อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำปรับเพิ่มอันดับเป็น ‘BBB’ จาก ‘BBB-’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้ Euro Medium-Term Note ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน มูลค่ารวม 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คงอันดับที่ ‘BBB’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘BBB’
- อันดับเครดิตสากลระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (ตามเกณฑ์บาเซล 3) คงอันดับที่ ‘BB+’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (ตามเกณฑ์บาเซล 3) คงอันดับที่ ‘AA-(tha)’
KS:
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
ติดต่อ
Primary Analysts
Tania Gold (อันดับเครดิตสากลของ KBank)
Senior Director
+65 6796 7224
Fitch Ratings Singapore Pte Ltd
One Raffles Quay, South Tower #22-11
Singapore 048583
จินดารัตน์ สิริสิทธิโชติ (อันดับเครดิตภายในประเทศของ KBank; อันดับเครดิตภายในประเทศของ KS)
Associate Director
+662 108 0153
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ชั้น 17 อาคารปาร์คเวนเชอร์ 57 ถนน วิทยุ
ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
Secondary Analysts
จินดารัตน์ สิริสิทธิโชติ (อันดับเครดิตสากลของ KBank)
Associate Director
+662 108 0153
พชร ศรายุทธ (อันดับเครดิตภายในประเทศของ KBank)
Director
+662 108 0152
อาลฎา สุขะการผดุง (อันดับเครดิตภายในประเทศของ KS)
Associate Director
+662 108 0163
Committee Chairperson
Jonathan Cornish
Managing Director
+852 2263 9901
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ