WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FITCH12 25ฟิทช์ คงอันดับเครดิตของธนาคารกรุงไทยและบริษัทลูก แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

     ฟิทช์ เรทติ้งส์- กรุงเทพฯ/สิงคโปร์ - 26 มีนาคม 2564: ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)  หรือ KTB ที่ ‘BBB’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ที่ ‘AA+(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

     พร้อมกันนี้ ฟิทช์ยังได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัทลูกที่ถือโดย KTB ในสัดส่วน 50% ซึ่งคือบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ที่ 'A+ (tha)' และ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ 'F1+ (tha)' 

รายละเอียดอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ

     อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB มีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจาก อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (Support Rating Floor) ที่ ‘BBB’ ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองที่ไม่เปลี่ยนแปลงของฟิทช์ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนพิเศษที่นอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติ (extraordinary support) แก่ KTB ในกรณีที่มีความจำเป็น นอกจากนี้อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB ยังรวมการพิจารณาถึงโครงสร้างเครดิตของธนาคารในเชิงเปรียบเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับในประเทศ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ KTB สะท้อนถึงภาระผูกพันที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของธนาคาร และได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศ

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต - อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

         สถานะทางการเงิน (standalone profile ) ของ KTB สะท้อนได้จากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB ที่ ‘bbb-’  KTB มีเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งในประเทศไทยและยังได้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ที่ยาวนานและใกล้ชิดกับหน่วยงานรัฐ KTB เป็นธนาคารหลักในการบริหารเงินสดให้กับภาครัฐ และความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดดังกล่าวช่วยให้ KTB สามารถรักษาเสถียรภาพในการระดมทุนและความสามารถในการแข่งขัน

         อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังพิจารณาถึงแรงกดดันต่อคุณภาพสินทรัพย์และกำไร จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจรุนแรงในปี 2563 มาตรการช่วยเหลือและมาตรการผ่อนปรนในเกณฑ์การจัดชั้นลูกหนี้ได้ช่วยชะลอผลกระทบในทางการเงินของธนาคารในประเทศไทย ฟิทช์มองว่าอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมของระบบจะปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2563 (KTB: 4.6%)  และยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในปี 2564-2565

ฟิทช์มองว่า KTB มีระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้สูงกว่าธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศรายอื่น จากการที่คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารมีความผันผวนในช่วงวัฏจักรเศรษฐกิจ (through-the-cycle) ที่สูงกว่า

         อย่างไรก็ตาม ระดับของสำรองหนี้สูญ (loan loss absorption buffers) มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะช่วยรองรับความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในปัจจุบัน อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 15.7% ณ สิ้นปี 2563 ซึ่งขยับเข้ามาใกล้เคียงกับธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศรายอื่น แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 16.4% นอกจากนี้อัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของ KTB ยังได้ปรับตัวขึ้นเป็น 140% ณ สิ้นปี 2563 จาก 132% ณ สิ้นปี 2562

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต - อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ

         อันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) และ อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (Support Rating Floor) พิจารณาจากความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนพิเศษที่นอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติแก่ KTB ในกรณีที่มีความจำเป็น KTB เป็นธนาคารที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินภายในประเทศด้วยส่วนแบ่งการตลาดของเงินฝากที่ 16% และฟิทช์ยังเชื่อว่า KTB เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อภาครัฐ เนื่องจากเป็นธนาคารพาณิชย์เพียงรายเดียวที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นรัฐบาล KTB มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและยาวนานกับภาครัฐ เช่นในกรณีที่ KTB เป็นตัวกลางหลักในการกระจายเงินช่วยเหลือจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส ผ่านทางแอพพลิเคชั่น และเครือข่ายสาขาของธนาคาร 

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต - หุ้นกู้ด้อยสิทธิ

         ฟิทช์ จัดอันดับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของ KTB ที่ระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารอยู่ 2 อันดับ ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์พื้นฐานของการพิจารณาอันดับเครดิตของฟิทช์ในการจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทดังกล่าว  การใช้อันดับเครดิตภายในประเทศที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (support-driven National Rating) เป็นอันดับเครดิตที่ใช้อ้างอิง (anchor rating)

         สะท้อนถึงความคาดหวังที่ว่า รัฐบาลน่าจะเข้ามาให้การช่วยเหลือ KTB ก่อนที่จะถึงจุดที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ (the point of non-viability) การจัดอันดับดังกล่าวสะท้อนถึงความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risk) ที่มีสูงกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ ทั้งนี้ไม่ได้มีการลดทอนอันดับเครดิตเพิ่มเติมเนื่องจากข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่ได้มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนในระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) เช่น การงดหรือเลื่อนการจ่ายดอกเบี้่ย

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต - อันดับเครดิตบริษัทร่วมและบริษัทย่อย

         อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTZ อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB อยู่ 3 อันดับ อันดับเครดิตสะท้อนถึงการสนับสนุนจาก KTB ซึ่งถือหุ้นที่ 50% ของบริษัท อีกทั้ง KTZ ยังเป็นบริษัทเดียวภายในกลุ่มที่สามารถให้บริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักทรัพย์ นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการสนับสนุนอย่างยาวนานจากธนาคารแม่ เช่น ในแง่ของสภาพคล่อง และยังมีการเชื่อมโยงทางการตลาดระหว่างกันอย่างมีนัยสำคัญ 

         อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ มองว่าระดับการเชื่อมโยงในการดำเนินงาน (integration) ยังอยู่ในระดับที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นลูกของธนาคารรายอื่นที่ได้รับการจัดอันดับจากฟิทช์ อีกทั้งการที่บริษัทมีผู้ถือหุ้นอื่นที่มีสัดส่วนการถือหุ้นในระดับนัยสำคัญ อาจส่งผลให้ KTB มีระดับการควบคุมการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้นได้ไม่มากนัก และยังส่งผลถึงระดับความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อธนาคารแม่ได้

         อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ KTZ อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ของบริษัทที่ 'A+(tha)' เนื่องจากเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

         การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ จะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว และ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB ยังได้รวมถึงการพิจารณาโครงสร้างอันดับเครดิตของธนาคารเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

         การปรับลดอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ จะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว และ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB อาจมีการทบทวนการประเมิน หากฟิทช์มองว่าโครงสร้างเครดิตของธนาคารด้อยลงเมื่อเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นในประเทศ

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต - อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

         โอกาสในการการปรับเพิ่มอันดับเครดิตมีค่อนข้างจำกัดในระยะสั้น เนื่องจากสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่ยังคงมีความท้าทาย  อย่างไรก็ตามการปรับตัวดีขึ้นของคุณภาพสินทรัพย์และกำไร อาจนำไปสู่การปรับเพิ่มอันดับเครดิตได้ เช่น กรณีที่อัตราสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมปรับลดลงต่ำกว่า 3.5% (2020: 4.6%) และอัตรากำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% (2020: 1.2%) ควบคู่ไปกับการรักษาสถานะของเงินกองทุนที่เข้มแข็ง

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

         อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB อาจถูกปรับลดลงเป็น 'bb+' หากฐานะทางการเงินของธนาคารปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การมีเงินกองทุนที่ไม่เพียงพอในการรองรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่แย่ลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตัวอย่างเช่น มีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของที่ต่ำกว่า 13 %

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต - อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

         การปรับตัวดีขึ้นในความสามารถของรัฐบาลที่จะให้การสนับสนุนแก่ KTB ซึ่งอาจสะท้อนได้จากการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของประเทศไทย อาจส่งผลให้มีการปรับเพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ ในกรณีที่สมมุติฐานในการสนับสนุนไม่มีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับได้ ถ้าฟิทช์มองว่า KTB มีบทบาทต่อรัฐบาลที่ชัดเจนและสำคัญมากขึ้นกว่ามุมมองปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการที่ธนาคารยังคงมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะนำไปสู่การทบทวนมุมมองของฟิทช์ในเรื่องโอกาสการให้การสนับสนุนจากรัฐบาล

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

         การปรับลดอันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย อาจนำไปสู่การปรับลดอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำได้ อย่างไรก็ตามฟิทช์อาจมีการทบทวนมุมมองของโอกาสในการให้การสนับสนุนจากรัฐบาลซึ่งอาจปรับสูงขึ้น ณ ระดับอันดับเครดิตที่ต่ำลงได้  นอกจากนี้อันดับเครดิตสนับสนุนของ KTB อาจถูกปรับลดอันดับได้ ในกรณีที่ มีการปรับลดลงของแนวโน้มในการให้การสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น การลดลงอย่างมีนัยสำคัญของระดับความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ  แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต - หุ้นกู้ด้อยสิทธิ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

         หุ้นกู้ด้อยสิทธิ สกุลเงินบาทของ KTB อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ซึ่งเป็นอันดับเครดิตที่ใช้ในการอ้างอิง ดังนั้นการปรับเพิ่มขึ้นของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว อาจนำไปสู่การปรับเพิ่มขึ้นของอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิได้

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

         การปรับลดลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว จะส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิถูกปรับลดอันดับ

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต - อันดับเครดิตบริษัทร่วมและบริษัทย่อย

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

         การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB อาจนำไปสู่การปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ KTZ อันดับเครดิตของ KTZ อาจได้รับผลกระทบในเชิงบวก หาก KTB มีแนวโน้มที่จะให้การสนับสนุนแก่ KTZ ในระดับที่สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ KTB มีการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีการเชื่อมโยงในการดำเนินงานในระดับที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

         ฟิทช์ อาจปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTZ หากความสามารถหรือแนวโน้มในการสนับสนุนจาก KTB มีการปรับลดลง การลดลงของแนวโน้มการสนับสนุนอาจบ่งชี้จากการลดลงของสัดส่วนการถือหุ้นจาก KTB และระดับการควบคุมใน KTZ หรือ ในกรณีที่มีการลดลงของการเชื่อมโยงและกลยุทธ์ทางธุรกิจระหว่างกัน การลดลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB ยังอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ KTZ ได้เช่นกัน

         อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อาจมีการเปลี่ยนแปลง ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงในอันดับเครดิตภายในประเทศของบริษัท

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

         KTB มีระดับคะแนนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)ที่ระดับ 4 สำหรับความสัมพันธ์ของโครงสร้างธรรมาภิบาล (Governance Structure) เนื่องจากมีโอกาสที่ภาครัฐจะมีอิทธิพลต่อการกำกับดูแลกิจการและความเสี่ยง (risk governance) จากการถือหุ้นโดยรัฐบาลในธนาคารรวมถึงจะสามารถมีอิทธิพลต่อคณะกรรมการและผู้บริหารซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบทางลบต่อโครงสร้างเครดิตและสัมพันธ์ต่ออันดับเครดิตเช่นเดียวกับปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตอื่น การเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งกับรัฐบาลยังอาจเป็นปัจจัยที่เราพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการสนับสนุนจากรัฐบาลซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนอันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสากลระยะยาว

         หากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนนี้ แสดงว่าธนาคารมีระดับคะแนนความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต ไม่เกินระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตาม

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com/esg

Primary Rating Analysts

Tania Gold (อันดับเครดิตสากล)

Senior Director

+65 6796 7224

Fitch Ratings Singapore Pte Ltd

One Raffles Quay #22-11, South Tower

Singapore 048583

อาลฎา สุขะการผดุง (อันดับเครดิตภายในประเทศ)

Associate Director

+662 108 0163

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

อาคารปาร์คเวนเชอร์ ชั้น 17

57 ถนน วิทยุ ลุมพินี

ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

Secondary Rating Analysts

อาลฎา สุขะการผดุง (อันดับเครดิตสากล)

Associate Director

+662 108 0163

พชร ศรายุทธ (อันดับเครดิตภายในประเทศ)

Director

+662 108 0152

Committee Chairperson

Jonathan Cornish

Managing Director

+852 2263 9901

ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จาก  www.fitchratings.com 

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!