- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Sunday, 28 March 2021 22:51
- Hits: 12688
ฟิทช์ คงอันดับเครดิตของธนาคารกรุงไทยและบริษัทลูก แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ฟิทช์ เรทติ้งส์- กรุงเทพฯ/สิงคโปร์ - 26 มีนาคม 2564: ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ที่ ‘BBB’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ที่ ‘AA+(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
พร้อมกันนี้ ฟิทช์ยังได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัทลูกที่ถือโดย KTB ในสัดส่วน 50% ซึ่งคือบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ที่ 'A+ (tha)' และ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ 'F1+ (tha)'
รายละเอียดอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศและอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB มีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจาก อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (Support Rating Floor) ที่ ‘BBB’ ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองที่ไม่เปลี่ยนแปลงของฟิทช์ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนพิเศษที่นอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติ (extraordinary support) แก่ KTB ในกรณีที่มีความจำเป็น นอกจากนี้อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB ยังรวมการพิจารณาถึงโครงสร้างเครดิตของธนาคารในเชิงเปรียบเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับในประเทศ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ KTB สะท้อนถึงภาระผูกพันที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของธนาคาร และได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต - อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
สถานะทางการเงิน (standalone profile ) ของ KTB สะท้อนได้จากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB ที่ ‘bbb-’ KTB มีเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งในประเทศไทยและยังได้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ที่ยาวนานและใกล้ชิดกับหน่วยงานรัฐ KTB เป็นธนาคารหลักในการบริหารเงินสดให้กับภาครัฐ และความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดดังกล่าวช่วยให้ KTB สามารถรักษาเสถียรภาพในการระดมทุนและความสามารถในการแข่งขัน
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังพิจารณาถึงแรงกดดันต่อคุณภาพสินทรัพย์และกำไร จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจรุนแรงในปี 2563 มาตรการช่วยเหลือและมาตรการผ่อนปรนในเกณฑ์การจัดชั้นลูกหนี้ได้ช่วยชะลอผลกระทบในทางการเงินของธนาคารในประเทศไทย ฟิทช์มองว่าอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมของระบบจะปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2563 (KTB: 4.6%) และยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในปี 2564-2565
ฟิทช์มองว่า KTB มีระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้สูงกว่าธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศรายอื่น จากการที่คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารมีความผันผวนในช่วงวัฏจักรเศรษฐกิจ (through-the-cycle) ที่สูงกว่า
อย่างไรก็ตาม ระดับของสำรองหนี้สูญ (loan loss absorption buffers) มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะช่วยรองรับความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในปัจจุบัน อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 15.7% ณ สิ้นปี 2563 ซึ่งขยับเข้ามาใกล้เคียงกับธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศรายอื่น แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 16.4% นอกจากนี้อัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของ KTB ยังได้ปรับตัวขึ้นเป็น 140% ณ สิ้นปี 2563 จาก 132% ณ สิ้นปี 2562
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต - อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ
อันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) และ อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (Support Rating Floor) พิจารณาจากความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนพิเศษที่นอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติแก่ KTB ในกรณีที่มีความจำเป็น KTB เป็นธนาคารที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินภายในประเทศด้วยส่วนแบ่งการตลาดของเงินฝากที่ 16% และฟิทช์ยังเชื่อว่า KTB เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อภาครัฐ เนื่องจากเป็นธนาคารพาณิชย์เพียงรายเดียวที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นรัฐบาล KTB มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและยาวนานกับภาครัฐ เช่นในกรณีที่ KTB เป็นตัวกลางหลักในการกระจายเงินช่วยเหลือจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส ผ่านทางแอพพลิเคชั่น และเครือข่ายสาขาของธนาคาร
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต - หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
ฟิทช์ จัดอันดับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของ KTB ที่ระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารอยู่ 2 อันดับ ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์พื้นฐานของการพิจารณาอันดับเครดิตของฟิทช์ในการจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทดังกล่าว การใช้อันดับเครดิตภายในประเทศที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาล (support-driven National Rating) เป็นอันดับเครดิตที่ใช้อ้างอิง (anchor rating)
สะท้อนถึงความคาดหวังที่ว่า รัฐบาลน่าจะเข้ามาให้การช่วยเหลือ KTB ก่อนที่จะถึงจุดที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ (the point of non-viability) การจัดอันดับดังกล่าวสะท้อนถึงความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risk) ที่มีสูงกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ ทั้งนี้ไม่ได้มีการลดทอนอันดับเครดิตเพิ่มเติมเนื่องจากข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่ได้มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนในระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) เช่น การงดหรือเลื่อนการจ่ายดอกเบี้่ย
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต - อันดับเครดิตบริษัทร่วมและบริษัทย่อย
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTZ อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB อยู่ 3 อันดับ อันดับเครดิตสะท้อนถึงการสนับสนุนจาก KTB ซึ่งถือหุ้นที่ 50% ของบริษัท อีกทั้ง KTZ ยังเป็นบริษัทเดียวภายในกลุ่มที่สามารถให้บริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักทรัพย์ นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการสนับสนุนอย่างยาวนานจากธนาคารแม่ เช่น ในแง่ของสภาพคล่อง และยังมีการเชื่อมโยงทางการตลาดระหว่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ มองว่าระดับการเชื่อมโยงในการดำเนินงาน (integration) ยังอยู่ในระดับที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นลูกของธนาคารรายอื่นที่ได้รับการจัดอันดับจากฟิทช์ อีกทั้งการที่บริษัทมีผู้ถือหุ้นอื่นที่มีสัดส่วนการถือหุ้นในระดับนัยสำคัญ อาจส่งผลให้ KTB มีระดับการควบคุมการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้นได้ไม่มากนัก และยังส่งผลถึงระดับความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อธนาคารแม่ได้
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ KTZ อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ของบริษัทที่ 'A+(tha)' เนื่องจากเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต - อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ จะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว และ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB ยังได้รวมถึงการพิจารณาโครงสร้างอันดับเครดิตของธนาคารเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับลดอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ จะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว และ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB อาจมีการทบทวนการประเมิน หากฟิทช์มองว่าโครงสร้างเครดิตของธนาคารด้อยลงเมื่อเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นในประเทศ
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต - อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
โอกาสในการการปรับเพิ่มอันดับเครดิตมีค่อนข้างจำกัดในระยะสั้น เนื่องจากสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่ยังคงมีความท้าทาย อย่างไรก็ตามการปรับตัวดีขึ้นของคุณภาพสินทรัพย์และกำไร อาจนำไปสู่การปรับเพิ่มอันดับเครดิตได้ เช่น กรณีที่อัตราสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมปรับลดลงต่ำกว่า 3.5% (2020: 4.6%) และอัตรากำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% (2020: 1.2%) ควบคู่ไปกับการรักษาสถานะของเงินกองทุนที่เข้มแข็ง
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB อาจถูกปรับลดลงเป็น 'bb+' หากฐานะทางการเงินของธนาคารปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การมีเงินกองทุนที่ไม่เพียงพอในการรองรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่แย่ลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตัวอย่างเช่น มีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของที่ต่ำกว่า 13 %
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต - อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับตัวดีขึ้นในความสามารถของรัฐบาลที่จะให้การสนับสนุนแก่ KTB ซึ่งอาจสะท้อนได้จากการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของประเทศไทย อาจส่งผลให้มีการปรับเพิ่มอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ ในกรณีที่สมมุติฐานในการสนับสนุนไม่มีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับได้ ถ้าฟิทช์มองว่า KTB มีบทบาทต่อรัฐบาลที่ชัดเจนและสำคัญมากขึ้นกว่ามุมมองปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการที่ธนาคารยังคงมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะนำไปสู่การทบทวนมุมมองของฟิทช์ในเรื่องโอกาสการให้การสนับสนุนจากรัฐบาล
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับลดอันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย อาจนำไปสู่การปรับลดอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำได้ อย่างไรก็ตามฟิทช์อาจมีการทบทวนมุมมองของโอกาสในการให้การสนับสนุนจากรัฐบาลซึ่งอาจปรับสูงขึ้น ณ ระดับอันดับเครดิตที่ต่ำลงได้ นอกจากนี้อันดับเครดิตสนับสนุนของ KTB อาจถูกปรับลดอันดับได้ ในกรณีที่ มีการปรับลดลงของแนวโน้มในการให้การสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น การลดลงอย่างมีนัยสำคัญของระดับความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต - หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
หุ้นกู้ด้อยสิทธิ สกุลเงินบาทของ KTB อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ซึ่งเป็นอันดับเครดิตที่ใช้ในการอ้างอิง ดังนั้นการปรับเพิ่มขึ้นของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว อาจนำไปสู่การปรับเพิ่มขึ้นของอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิได้
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับลดลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว จะส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิถูกปรับลดอันดับ
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต - อันดับเครดิตบริษัทร่วมและบริษัทย่อย
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB อาจนำไปสู่การปรับเพิ่มอันดับเครดิตของ KTZ อันดับเครดิตของ KTZ อาจได้รับผลกระทบในเชิงบวก หาก KTB มีแนวโน้มที่จะให้การสนับสนุนแก่ KTZ ในระดับที่สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ KTB มีการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีการเชื่อมโยงในการดำเนินงานในระดับที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
ฟิทช์ อาจปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTZ หากความสามารถหรือแนวโน้มในการสนับสนุนจาก KTB มีการปรับลดลง การลดลงของแนวโน้มการสนับสนุนอาจบ่งชี้จากการลดลงของสัดส่วนการถือหุ้นจาก KTB และระดับการควบคุมใน KTZ หรือ ในกรณีที่มีการลดลงของการเชื่อมโยงและกลยุทธ์ทางธุรกิจระหว่างกัน การลดลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB ยังอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ KTZ ได้เช่นกัน
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อาจมีการเปลี่ยนแปลง ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงในอันดับเครดิตภายในประเทศของบริษัท
การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
KTB มีระดับคะแนนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)ที่ระดับ 4 สำหรับความสัมพันธ์ของโครงสร้างธรรมาภิบาล (Governance Structure) เนื่องจากมีโอกาสที่ภาครัฐจะมีอิทธิพลต่อการกำกับดูแลกิจการและความเสี่ยง (risk governance) จากการถือหุ้นโดยรัฐบาลในธนาคารรวมถึงจะสามารถมีอิทธิพลต่อคณะกรรมการและผู้บริหารซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบทางลบต่อโครงสร้างเครดิตและสัมพันธ์ต่ออันดับเครดิตเช่นเดียวกับปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตอื่น การเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งกับรัฐบาลยังอาจเป็นปัจจัยที่เราพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการสนับสนุนจากรัฐบาลซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนอันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสากลระยะยาว
หากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนนี้ แสดงว่าธนาคารมีระดับคะแนนความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต ไม่เกินระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตาม
รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com/esg
Primary Rating Analysts
Tania Gold (อันดับเครดิตสากล)
Senior Director
+65 6796 7224
Fitch Ratings Singapore Pte Ltd
One Raffles Quay #22-11, South Tower
Singapore 048583
อาลฎา สุขะการผดุง (อันดับเครดิตภายในประเทศ)
Associate Director
+662 108 0163
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
อาคารปาร์คเวนเชอร์ ชั้น 17
57 ถนน วิทยุ ลุมพินี
ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
Secondary Rating Analysts
อาลฎา สุขะการผดุง (อันดับเครดิตสากล)
Associate Director
+662 108 0163
พชร ศรายุทธ (อันดับเครดิตภายในประเทศ)
Director
+662 108 0152
Committee Chairperson
Jonathan Cornish
Managing Director
+852 2263 9901
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ