- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Sunday, 25 August 2019 20:56
- Hits: 5018
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร 'สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ' ที่ 'BBB+'แนวโน้ม 'Stable'
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของสหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ จำกัด (สอ.รพ.) ที่ระดับ 'BBB+'ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลประกอบการทางการเงินในระดับที่น่าพอใจของ สอ.รพ. ตลอดจนคุณภาพสินเชื่อที่ดีอย่างต่อเนื่อง และสิทธิพิเศษด้านกฎระเบียบที่สหกรณ์ได้รับการยกเว้นภาษีและมีบุริมสิทธิ์เป็นลำดับแรกก่อนเจ้าหนี้อื่นๆ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตลดทอนลงบางส่วนจากเกณฑ์การกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วไปที่ค่อนข้างอ่อนแอ รวมทั้งการที่ สอ.รพ. มีนโยบายเชิงรุกในการระดมเงินทุนที่ต้องพึ่งพิงเงินฝากจากสมาชิกสมทบเป็นอย่างมาก การมีโครงสร้างเงินทุนที่ค่อนข้างอ่อนแอ และความเสี่ยงที่ต้องพึ่งพิงบุคคลสำคัญในคณะผู้บริหาร
การประเมินอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงความพร้อมของ สอ.รพ. ต่อการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบภายหลังจากที่กฎระเบียบใหม่ที่ใช้ควบคุมการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์มีผลบังคับใช้ด้วย
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
ความพร้อมของ สอ.รพ. ต่อการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ
กฎระเบียบใหม่ที่ใช้ควบคุมการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์คือพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สหกรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ในเบื้องต้นแล้ว พ.ร.บ. ดังกล่าวใช้ในการกำกับดูแลสหกรณ์ให้เข้มงวดขึ้นทั้งในกิจกรรมที่เกี่ยวกับการรับฝากเงิน การให้กู้ยืม และการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์ ทริสเรทติ้งเห็นว่ากฎระเบียบใหม่นี้เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในระยะยาวของสหกรณ์ออมทรัพย์ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญองค์ประกอบหนึ่งของระบบการเงินไทย
ทริสเรทติ้ง มองว่า สอ.รพ. มีการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับกฎระเบียบใหม่โดยไม่มีประเด็นกังวลร้ายแรงเกี่ยวกับผลกระทบต่อการดำเนินงานของ สอ.รพ. ทริสเรทติ้งคาดว่าการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอาจจะเป็นอุปสรรคต่อโอกาสในการเติบโตและจะทำให้ผลประกอบการทางการเงินของ สอ.รพ. อ่อนแอลงในระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงสร้างเงินทุนที่เข้มงวดขึ้นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของ สอ.รพ. อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมิได้คาดหวังว่าผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของ สอ.รพ. จะทำให้มุมมองของทริสเรทติ้งที่มีต่อสถานะเครดิตโดยรวมของ สอ.รพ. เปลี่ยนแปลงไป ในทางกลับกัน กฎระเบียบใหม่น่าจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งในการบริหารความเสี่ยงและโครงสร้างทุน รวมถึงช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพในระยะยาวให้แก่ สอ.รพ. ได้ด้วย
สหกรณ์ออมทรัพย์จะยังคงได้รับสิทธิพิเศษภายใต้กฎระเบียบใหม่
สิทธิพิเศษต่างๆ ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ได้รับอันได้แก่ การยกเว้นภาษีหลัก ๆ ทุกประเภทและการมีบุริมสิทธิ์เป็นลำดับแรกก่อนเจ้าหนี้อื่นๆ จะยังคงมีอยู่ต่อไปภายใต้กฎระเบียบใหม่ กล่าวคือ สหกรณ์ออมทรัพย์และสมาชิกได้รับการยกเว้นภาษีหลัก ๆ ทุกประเภท เช่น ภาษีดอกเบี้ยออมทรัพย์ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีจากเงินลงทุน ตาม พ.ร.บ. สหกรณ์นั้น สอ.รพ. ยังมีบุริมสิทธิ์เป็นลำดับแรกก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆ ในการได้รับดอกเบี้ยและการได้รับชำระคืนเงินกู้อีกด้วย ซึ่งช่วยให้สหกรณ์ออมทรัพย์มีข้อได้เปรียบในการให้กู้แก่สมาชิกเหนือกว่าสถาบันการเงินอื่น ๆ ในขณะที่เงินกู้ส่วนใหญ่ที่ให้แก่สมาชิกสามัญของสหกรณ์ออมทรัพย์ขั้นปฐมภูมินั้นดำเนินการภายใต้ข้อตกลงกับนายจ้างหรือหน่วยงานต้นสังกัดว่าการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นของเงินกู้ตามงวดนั้นสามารถใช้วิธีหักจากเงินเดือนของสมาชิกได้ ส่งผลให้สหกรณ์ออมทรัพย์ขั้นปฐมภูมิส่วนใหญ่มีคุณภาพเครดิตที่ดีและช่วยลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายหนี้เสียของเงินที่ให้กู้แก่สมาชิกของสหกรณ์ด้วย
เงินให้กู้ยืมมีคุณภาพดี
สอ.รพ. ไม่มีเงินให้กู้ยืมที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ค้างชำระมากกว่า 90 วัน) มาตั้งแต่รอบปีบัญชี 2550 ทั้งจากเงินที่ให้กู้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นและเงินที่ให้กู้แก่สมาชิกสามัญ ในปี 2561 สอ.รพ. ได้มีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญไว้จำนวน 109 ล้านบาทเพื่อรองรับการจัดชั้นสินทรัพย์และการกันเงินสำรองตามกฎระเบียบใหม่
เงินให้กู้รวมของ สอ.รพ. รักษาระดับอยู่ที่ครึ่งหนึ่งของสินทรัพย์รวมในช่วงรอบปีบัญชี 2556-2560 โดยอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ระหว่าง 52%-57% ในช่วง 5 ปีดังกล่าว จากนั้นก็ปรับลดลงเป็น 48% ณ เดือนมีนาคม 2562 โดย 84% ของเงินให้กู้ยืมทั้งหมดนั้นเป็นเงินที่ให้กู้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่น ในขณะที่ส่วนที่เหลือเป็นเงินที่ให้กู้แก่สมาชิกสามัญของ สอ.รพ. เอง สอ.รพ. ได้ขยายปริมาณเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นมาตั้งแต่รอบปีบัญชี 2553 โดยเงินให้กู้ยืมดังกล่าวได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินลงทุนของ สอ.รพ. เอง เนื่องจากจวบจนถึงปัจจุบัน ความต้องการเงินกู้ยืมจากสมาชิกของ สอ.รพ. ยังอยู่ในระดับต่ำ
สอ.รพ. สามารถจัดการกับความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของเงินให้กู้ยืมในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาได้ ทั้งนี้ เงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์รายใหญ่ 10 อันดับแรกคิดเป็นสัดส่วน 29% ของเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นโดยรวม ณ เดือนมีนาคม 2562 ซึ่งลดลงจากระดับที่มากกว่า 50% ในปี 2558 ทริสเรทติ้งคาดหวังว่า สอ.รพ. จะลดความเสี่ยงการกระจุกตัวของเงินให้กู้ยืมแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่นได้มากกว่านี้จากข้อบังคับของกฎระเบียบใหม่ที่จำกัดเงินให้กู้ยืมแก่ลูกหนี้รายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะเท่านั้น
ข้อด้อยของการกำกับดูแล
การกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์มีความเข้มงวดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินซึ่งมีการกำกับดูแลที่ใกล้ชิดและเข้มงวดมากกว่า ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นข้อด้อยสำคัญที่สร้างข้อจำกัดให้แก่สถานะอันดับเครดิตของสหกรณ์ออมทรัพย์ในประเทศไทย ถึงแม้ว่ากรอบกฎระเบียบใหม่จะช่วยควบคุมกิจการของสหกรณ์ได้เข้มงวดยิ่งขึ้น แต่กฎระเบียบดังกล่าวก็ไม่ได้รับประกันว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ทั้งหมดจะยึดมั่นกับกฎระเบียบใหม่ได้จริงหรือไม่ การบังคับใช้กฎระเบียบทั้งหลายให้มีประสิทธิภาพได้นั้นจะต้องมีการติดตามตรวจสอบอย่างเข้มงวดและอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สหกรณ์ออมทรัพย์ปฏิบัติตาม ซึ่งดูเหมือนว่าจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้
การพึ่งพิงแหล่งเงินทุนจากสมาชิกภายนอกมากเกินไป
เงินทุนของ สอ.รพ. มาจากเงินฝากของสมาชิกเป็นหลัก โดยสมาชิกของ สอ.รพ. จำแนกออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ สมาชิกสามัญและสมาชิกสมทบ ซึ่งโดยเงื่อนไขของสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วไป สมาชิกสามัญจะต้องเป็นพนักงานของหน่วยงานต้นสังกัด ดังนั้น ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ประจำของโรงพยาบาลตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเป็นกลุ่มบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นสมาชิกสามัญของ สอ.รพ. ได้เท่านั้น ส่วนสมาชิกสมทบของ สอ.รพ. นั้นคือสมาชิกที่ไม่ได้เป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ประจำของโรงพยาบาลตำรวจแต่มีความเกี่ยวข้องกับสมาชิกสามัญของ สอ.รพ. หรือมีความเกี่ยวข้องในทางใดทางหนึ่งกับ สอ.รพ. ความพยายามในการขยายฐานเงินฝากในช่วงที่ผ่านมาทำให้ สอ.รพ. มีเกณฑ์การรับสมาชิกสมทบที่ค่อนข้างผ่อนปรน
หากพิจารณาจากเงินฝากจากสมาชิกทั้งหมดของ สอ.รพ. ณ เดือนมีนาคม 2562 แล้วจะเห็นว่าประมาณ 85% เป็นเงินฝากจากสมาชิกสมทบและอีก 15% มาจากสมาชิกสามัญ การมีอัตราดอกเบี้ยที่ดึงดูดใจและการได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้จากดอกเบี้ยรับช่วยให้ สอ.รพ. สามารถระดมเงินทุนจำนวนมากจากเงินฝากออมทรัพย์จากสมาชิกสมทบ การพึ่งพิงแหล่งเงินทุนภายนอกจากสมาชิกสมทบมากเกินไปส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของฐานเงินทุนในระยะยาวของ สอ.รพ. ทั้งนี้ สมาชิกสมทบส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะคงเงินฝากเอาไว้เพียงเพราะ สอ.รพ. ยังสามารถจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่น่าสนใจเท่านั้น ซึ่งต่างจากสมาชิกสามัญที่ยังมีผลประโยชน์อื่น ๆ จากการเป็นสมาชิกของ สอ.รพ.
เพื่อที่จะลดทอนความเสี่ยงจากเงินฝากที่มาจากสมาชิกสมทบดังกล่าวลง สอ.รพ. จึงได้ดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องให้เพียงพอและคงวงเงินกู้ยืมที่มีกับสถาบันการเงินอื่น ๆ เอาไว้โดยยังไม่เบิกใช้ ทริสเรทติ้งเห็นว่าระดับความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของ
สอ.รพ. อยู่ในระดับที่จัดการได้ตราบใดที่ สอ.รพ. ยังคงมีสิทธิพิเศษทางภาษีที่สามารถเสนออัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ดึงดูดใจและยังคงนโยบายการลงทุนที่ระมัดระวังเพื่อที่จะดำรงสัดส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเอาไว้ได้ ในอนาคตทริสเรทติ้งคาดหวังว่า สอ.รพ. จะทยอยลดเงินรับฝากจากสมาชิกสมทบลงจากผลของการบังคับใช้กฎระเบียบใหม่ซึ่งมีกฎเกณฑ์ในการรับสมาชิกสมทบที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
โครงสร้างเงินทุนที่อ่อนแอ
โครงสร้างเงินทุนของ สอ.รพ. อยู่ในระดับที่อ่อนแอจากการมีนโยบายการระดมทุนในเชิงรุก แม้ว่าทุนเรือนหุ้นที่จดทะเบียนแล้วของ สอ.รพ. จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การขยายฐานเงินฝากในเชิงรุกซึ่งส่วนใหญ่มาจากสมาชิกสมทบนั้นยังคงกดดันอัตราส่วนทุนต่อสินทรัพย์รวมของ สอ.รพ. อยู่ อนึ่ง ด้วยนโยบายการระดมทุนที่ใช้เงินรับฝากเป็นหลัก โครงสร้างเงินทุนของ สอ.รพ. จะคงอยู่ในระดับต่ำเช่นนี้ต่อไปในระยะยาวแม้ว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% ณ เดือนมีนาคม 2562 หลังจาก สอ.รพ. ลดฐานเงินฝากจากสหกรณ์อื่นลงก็ตาม ในขณะที่สหกรณ์ออมทรัพย์รายใหญ่อื่นๆ ที่ก่อตั้งมายาวนานมีอัตราส่วนทุนต่อสินทรัพย์รวมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระดับประมาณ 40%
ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงบุคคลสำคัญ
ตั้งแต่รอบปีบัญชี 2552 เป็นต้นมา สอ.รพ. สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่สมาชิกที่ถือหุ้นในระดับสูงสุดเท่าที่กฎหมายอนุญาตคือ 10% ของทุนเรือนหุ้นที่ชำระแล้ว สถานะทางการเงินและผลประกอบการของ สอ.รพ. ค่อนข้างขึ้นอยู่กับสมาชิกสำคัญรายหนึ่งในคณะผู้บริหาร ซึ่งทริสเรทติ้งเห็นว่าการดำเนินงานของ สอ.รพ. มีการพึ่งพิงบุคคลเพียงรายเดียวมากเกินไป ปัจจุบัน สอ.รพ. มีความพยายามที่จะลดทอนความเสี่ยงจากการต้องพึ่งพิงบุคคลใดบุคคลหนึ่งมากเกินไปด้วยการพัฒนาและปรับปรุงนโยบายและกระบวนการดำเนินงานให้เป็นมาตรฐานมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการสนับสนุนกิจกรรมของธุรกิจหลักทั้งหมดของ สอ.รพ. ด้วย
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน
• เงินทุนจะเติบโตในอัตราเฉลี่ย 10%-15% ต่อปีในช่วงปีบัญชี 2562-2565
• เงินให้กู้ยืมจะชะลอตัวลงในอัตราเฉลี่ย 2%-7% ต่อปีในช่วงปีบัญชี 2562-2565
• ส่วนต่างดอกเบี้ยจะอยู่ในช่วง 0.37%-0.46% ในช่วงปีบัญชี 2562-2565
• เงินฝากจากสมาชิกสมทบจะค่อยๆ ลดลง
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable' หรือ 'คงที่'สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า สอ.รพ. จะสามารถรักษาผลประกอบการที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ต่อไป นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังว่า สอ.รพ. จะสามารถปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ได้อีกด้วย
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
แนวโน้มการเพิ่มอันดับเครดิตของ สอ.รพ. มีค่อนข้างจำกัดจากกรอบการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันซึ่งยังขาดการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ในทางตรงกันข้าม การบังคับใช้กฎระเบียบใหม่อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อสถานะเครดิตของ สอ.รพ. การปรับลดอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากนโยบายในการดำเนินงานและการเงินในเชิงรุกทำให้สถานะเครดิตโดยรวมของ สอ.รพ. อ่อนแอลง นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบใดใดที่จะลดทอนสิทธิพิเศษของสหกรณ์ออมทรัพย์ก็อาจมีผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของ สอ.รพ. ได้ด้วยเช่นกัน
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการจัดอันดับเครดิตสหกรณ์ออมทรัพย์, 30 มีนาคม 2558
สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ จำกัด (PHSC)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ [email protected] โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้
ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html