- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Saturday, 03 August 2019 21:15
- Hits: 6249
ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 12,000 ล้านบาท'บ.เกียรตินาคิน'ที่ระดับ 'A/Stable'
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ 'A' รวมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของธนาคารที่ระดั’A’ และหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ชุดปัจจุบันของธนาคารที่ระดับ ‘BBB+’ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ ในวงเงินไม่เกิน 12,000 ล้านบาทของธนาคารที่ระดับ ‘A’ ด้วย
อันดับเครดิตสะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารที่พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นและฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นจากการรวมฐานการดำเนินการของธุรกิจด้านตลาดทุนและธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงฐานเงินทุนที่มีอยู่อย่างเพียงพอของธนาคารและความหลากหลายของแหล่งรายได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายได้ที่ไม่ได้มาจากการให้สินเชื่อ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็ถูกลดทอนลงจากการมีธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดเล็กและการที่ธนาคารต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมในระดับสูง
ทริสเรทติ้ง คาดว่า ธุรกิจสินเชื่อจะคงสัดส่วนในการสร้างรายได้สูงที่สุดของธนาคารในระยะ 3 ปีข้างหน้าถึงแม้ว่าธุรกิจธนาคารพาณิชย์จะมีขนาดค่อนข้างเล็กก็ตาม ในขณะที่สัดส่วนของรายได้และกำไรจากธุรกิจนอกเหนือจากธุรกิจสินเชื่ออันประกอบด้วยธุรกิจวาณิชธนกิจและธุรกิจ Private Banking ก็จะเพิ่มขึ้นต่อไปได้ในอนาคตด้วย ทริสเรทติ้งยังคาดว่าธนาคารจะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการเกื้อหนุนระหว่างธุรกิจในกลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นจากการมุ่งเน้นความร่วมมือกันในการให้บริการ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ และการรวมฐานการดำเนินงานถึงแม้ว่าความเสี่ยงจากความผันผวนในธุรกิจตลาดทุนอาจนำมาซึ่งความผันผวนของผลกำไรของธนาคารที่มากขึ้นก็ตาม
ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 ธนาคารเกียรตินาคินมีขนาดของสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 9 จากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทั้งสิ้น 11 แห่ง ธนาคารมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อที่ระดับ 1.9% และเงินรับฝากที่ระดับ 1.5% จากข้อมูล ณ สิ้นครึ่งแรกของปี 2562 สัดส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 65% และ 35% ของรายได้รวมของธนาคารตามลำดับ ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับธนาคารพาณิชย์ไทยรายอื่น ๆ ทั้งนี้ รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการของธนาคารอยู่ที่ระดับ 23% ของรายได้รวม ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ดี
ทริสเรทติ้ง ประมาณการอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคารว่าจะอยู่ในระดับ 13%-14% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ดังกล่าวลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 13.46% ณ เดือนมีนาคม 2562 จากระดับ 13.56% ณ สิ้นปี 2561 เงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่สัดส่วน 78% ของเงินกองทุนรวม ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 สะท้อนถึงคุณภาพของเงินกองทุนในระดับปานกลาง ความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งและที่มาของผลกำไรที่หลากหลายเป็นปัจจัยสนับสนุนการเพิ่มฐานทุนของกลุ่ม ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยที่ปรับเป็นตัวเลขเต็มปีของธนาคารอยู่ที่ระดับ 1.8% และอัตรากำไรจากดอกเบี้ยสุทธิหลังจากหักต้นทุนทางเครดิตที่ปรับเป็นตัวเลขเต็มปีอยู่ที่ระดับ 3.4% ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับที่ประมาณการไว้
ทริสเรทติ้ง ยังคาดว่า ธนาคารเกียรตินาคินจะยังคงความคืบหน้าในการแก้ปัญหาคุณภาพสินทรัพย์จากสินเชื่อคงค้างเดิม อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมซึ่งรวมส่วนของธุรกิจบริหารหนี้และการกู้ยืมระหว่างธนาคารเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.2% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 จากระดับ 4.1% ณ สิ้นปี 2561 ต้นทุนทางเครดิตปรับเป็นตัวเลขเต็มปีอยู่ที่ระดับ 0.95% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 เมื่อเทียบกับประมาณการเต็มปีที่ระดับ 1.10%
แหล่งเงินทุนของธนาคารเกียรตินาคินสะท้อนถึงแหล่งเงินทุนของธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดเล็กซึ่งมีสัดส่วนของฐานเงินฝากรายย่อยที่ค่อนข้างน้อยและมีการพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมในระดับสูง ธนาคารมีเงินกู้ยืมอยู่ที่ระดับ 28% ของแหล่งเงินทุนรวม ณ ครึ่งแรกของปี 2562 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยซึ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 13% สัดส่วนของบัญชีเงินฝากกระแสรายวันและออมทรัพย์ (Current Account and Savings Account – CASA) ของธนาคารซึ่งเป็นตัวสะท้อนถึงแหล่งเงินทุนที่มีความมั่นคงสูงนั้นยังคงอยู่ที่ระดับ 34% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 ถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทยซึ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 60% ในขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากรวมตั๋วแลกเงินนั้นอยู่ในระดับสูงที่ 131% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ประมาณ 100%
สภาพคล่องของธนาคารเกียรตินาคินอยู่ในระดับที่เพียงพอแต่ก็ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย ธนาคารมีอัตราส่วนสภาพคล่องเพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (Liquidity Coverage Ratio -- LCR) ที่ระดับ 115% ณ สิ้นปี 2561 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ อย่างไรก็ตาม ระดับดังกล่าวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดเล็กซึ่งอยู่ที่ระดับ 158% และค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ซึ่งอยู่ที่ระดับ 184% ตามตัวเลขของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทั้งนี้ อัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อเงินฝากของธนาคารอยู่ในระดับปานกลางที่ 33% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable' หรือ 'คงที่'สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าธนาคารเกียรตินาคินจะยังคงเพิ่มความแข็งแกร่งของเงินกองทุน ตลอดจนพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ และเพิ่มการเกื้อหนุนกับธุรกิจตลาดทุนและธุรกิจบริหารความมั่งคั่งซึ่งจะนำไปสู่ผลการดำเนินงานและสถานะทางเครดิตที่ดีขึ้น
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตจะขึ้นอยู่กับความสามารถของธนาคารเกียรตินาคินในการขยายธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และ/หรือเพิ่มความสามารถในการระดมเงินจากแหล่งเงินทุนที่มีความมั่นคงได้ อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากเงินกองทุนของธนาคารอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง และ/หรือความสามารถในการทำกำไรลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์ที่เสื่อมถอยลง หรือมีรายการขาดทุนขนาดใหญ่ที่ไม่ได้คาดหมายจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับตลาดทุน
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการในการจัดอันดับเครดิตธนาคารพาณิชย์, 30 มีนาคม 2560
ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK)
อันดับเครดิตองค์กร: A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
KK202A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A
KK203A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A
KK25DA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB+
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน วงเงินไม่เกิน 12,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 2 ปี A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ [email protected] โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้
ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html
Click Donate Support Web