- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Thursday, 21 February 2019 17:56
- Hits: 2562
EXIM BANK ครบรอบ 25 ปี ชูบทบาทเชื่อมผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดใหม่ พัฒนาผลิตภัณฑ์และองค์ความรู้สร้างผู้ส่งออก SMEs ไทยที่แข่งขันได้ในทุกตลาด
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ในปี 2562 EXIM BANK ครบรอบ 25 ปีนับจากเปิดดำเนินงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2537 และก้าวสู่ปีที่ 3 ของการปรับบทบาทใหม่ตามแผนแม่บท 10 ปี (ปี 2560-2570) EXIM BANK จึงได้ทบทวนและปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและทิศทางเศรษฐกิจของไทย โดยกำหนด 6 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ 1. เชื่อมไทย เชื่อมโลก ด้วยการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ 2. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและภาคอุตสาหกรรมของประเทศ 3. ป้องกันความเสี่ยงด้านการค้าและการลงทุนไทยในต่างประเทศ 4. เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ 5. เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ 6 พัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ
จากยุทธศาสตร์ดังกล่าว EXIM BANK จะทำหน้าที่เติมเต็มช่องว่างเครือข่ายธุรกิจ เป็นตัวกลางสร้างเครือข่ายทางธุรกิจใหม่ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจรุกตลาดใหม่ (New Frontiers) โดยทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนทั้งใน และต่างประเทศเพื่อเชื่อมผู้ประกอบการไทย รวมทั้งสินค้าและบริการของไทย เข้ากับภาคการผลิตและผู้บริโภคในประเทศตลาดใหม่ รวมทั้งอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบที่เหมาะสมในการเข้าไปสนับสนุนผู้ประกอบการในตลาดใหม่ เช่น อินเดีย แอฟริกา และเวียดนาม หลังจากการเปิดสำนักงานผู้แทน EXIM BANK แห่งแรกและแห่งที่สองในย่างกุ้งและเวียงจันทน์ และแห่งที่ 3 ในกรุงพนมเปญ เดือนมีนาคมนี้
ขณะเดียวกัน EXIM BANK จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเติมเต็มช่องว่างทางการเงิน สนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้รุกตลาดใหม่ได้อย่างประสบความสำเร็จ โดยมีความพร้อมทั้งด้านเงินทุนและเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศที่จะขยายธุรกิจได้อย่างมั่นใจ รวมทั้งสามารถยกระดับการผลิตไปสู่ระบบที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับสูงได้ เพื่อสร้างมูลค่าของสินค้าไทยให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนเติมเต็มช่องว่างองค์ความรู้ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมีข้อมูลเชิงลึกและรอบด้าน นำไปปรับใช้ในการเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจการค้าและการลงทุนได้อย่างประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศ
ในการเติมเต็มช่องว่างเครือข่ายธุรกิจ การเงิน และองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดย่อม (Small Enterprises) ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 99% ของจำนวนผู้ประกอบการทั้งประเทศ และสัดส่วน GDP ของผู้ประกอบการขนาดย่อมต่อ GDP ประเทศยังเติบโตอย่างต่อเนื่องจนแตะระดับ 30% ในปี 2560 หากผู้ประกอบการกลุ่มนี้สามารถยกระดับเป็นผู้ส่งออกได้มากขึ้น จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้อีกมาก EXIM BANK จึงได้จัดตั้ง “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า (EXIM Excellence Academy : EXAC)” ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานจัดกิจกรรมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเริ่มต้นส่งออกได้หรือขยายการส่งออกได้เพิ่มขึ้น
แบ่งตามระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ ดังนี้ 1. กลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยส่งออก (Neo-exporters) 2. กลุ่มผู้ที่เคยส่งออกบ้างแล้ว (Mid-pros) และ 3. กลุ่มผู้ที่ส่งออกอยู่แล้ว (High-flyers) ซึ่งยังต้องการการสนับสนุนทางการเงินและข้อมูลเพื่อขยายธุรกิจส่งออกให้เติบโตได้อย่างมั่นคง โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้าจะจัดกิจกรรมตั้งแต่ระดับการบ่มเพาะความรู้ที่จำเป็นต่อการเริ่มต้นและขยายธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ พาไปสำรวจตลาดและโอกาสการส่งออก จับคู่ธุรกิจกับผู้ส่งออกที่เป็นเทรดเดอร์หรือผู้ซื้อในต่างประเทศ จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชนมาให้คำปรึกษาแนะนำในทุกมิติ พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินสนับสนุนการเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจ ส่งเสริมการขยายพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ไปจนถึงการสร้างสังคมผู้ส่งออก โดยให้ผู้ส่งออกที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งผู้ที่ผ่านการอบรมจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า กลับมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเป็นพี่เลี้ยงผู้ส่งออกรุ่นใหม่ต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศไทยมีชุมชนผู้ส่งออกที่เข้มแข็งและแข่งขันได้ในทุกตลาดทั่วโลก
ในโอกาสครบรอบ 25 ปี EXIM BANK พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ “สินเชื่อส่งออกเพิ่มสุข (EXIM Happier Credit)” เป็นสินเชื่อหมุนเวียนช่วงก่อนและหลังการส่งออก ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นส่งออก (Start up) และไม่เคยได้รับสินเชื่อจาก EXIM BANK จะได้รับพิจารณาวงเงินสินเชื่อสูงสุด 700,000 บาทต่อราย ส่วนลูกค้าปัจจุบันของ EXIM BANK จะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุด 1 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย/อัตรารับซื้อลด ปีแรกอยู่ที่ 5.50% ต่อปี ปีที่ 2 อยู่ที่ Prime Rate -0.50% ต่อปี (หรือ 5.75% ต่อปี) พร้อมวงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) สูงสุดเท่ากับวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ใช้เพียงบุคคลค้ำประกัน สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมอบรมของศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้าและค้าขายออนไลน์ หรือลงทะเบียนร่วมกิจกรรมกับ EXIM BANK จะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยปีแรก 0.50% ต่อปี บริการใหม่นี้มีเป้าหมายอนุมัติวงเงินรวม 400 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดย่อมไม่น้อยกว่า 550 รายเริ่มต้นส่งออกได้หรือส่งออกได้มากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลปัญหาสภาพคล่องทางธุรกิจและความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ผลการดำเนินงานของ EXIM BANK ภายใต้บทบาทใหม่ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 EXIM BANK มีเงินสินเชื่อคงค้างสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 108,589 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,703 ล้านบาท หรือ 18.18% เมื่อเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อการค้า 38,412 ล้านบาท และสินเชื่อเพื่อการลงทุน 70,177 ล้านบาท ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ (Business Turnover) 197,120 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นปริมาณธุรกิจของ SMEs เท่ากับ 106,362 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 มีเงินให้สินเชื่อคงค้างแก่ SMEs เท่ากับ 42,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,765 ล้านบาท หรือ 15.53% ส่งผลให้ EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 1,365 ล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs Ratio) ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 อยู่ที่ 3.78% โดยมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 4,103 ล้านบาท และมีเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 9,385 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,436 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นสำรองหนี้พึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 4,572 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรองที่กันไว้แล้วต่อสำรองหนี้พึงกัน 205.25% ทำให้ EXIM BANK ยังคงดำรงฐานะการเงินที่มั่นคง
ขณะเดียวกัน EXIM BANK ได้ขยายบริการประกันการส่งออกเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงให้ผู้ประกอบการไทยจากการไม่ได้รับชำระเงินจากคู่ค้าในต่างประเทศ ทั้งในตลาดการค้าเดิมและตลาดใหม่ ในปี 2561 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและประกันความเสี่ยงการลงทุนเท่ากับ 92,448 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26,545 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นปริมาณธุรกิจของ SMEs จำนวน 22,278 ล้านบาท หรือ 24.10% ของปริมาณธุรกิจสะสมรวม
ในส่วนของการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายฐานการค้าและการลงทุนไปยังต่างประเทศ ปัจจุบัน EXIM BANK มีวงเงินที่ให้การสนับสนุนแก่สินเชื่อโครงการระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้น 84,245 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี 2561 จำนวน 39,265 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายฐานการค้าและการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ผู้ส่งออกไทยมีโอกาสที่จะขยายการค้าการลงทุนระหว่างประเทศอีกมาก โดย ณ สิ้นปี 2561 มีเงินให้สินเชื่อคงค้างจำนวน 29,441 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2560 เท่ากับ 1,546 ล้านบาท
“EXIM BANK เร่งเดินหน้าพัฒนาองค์กรและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยนำพาผู้ประกอบการไทยไปสู่โอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในตลาดใหม่ ด้วยการทำงานร่วมกันกับภาครัฐและเอกชนในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยด้วยความพร้อมทั้งด้านเครือข่ายธุรกิจ การเงิน และองค์ความรู้ นำไปสู่การพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน” นายพิศิษฐ์กล่าว
EXIM Thailand Celebrates 25th Anniversary Promoting Thai Entrepreneurs’ Opportunities in New Frontiers and Product and Knowledge Base Development to Enhance SME Exporters’ Global Competitiveness
Mr.Pisit Serewiwattana, President of Export-Import Bank of Thailand (EXIM Thailand), has revealed that the year 2019 marks EXIM Thailand’s 25th Anniversary since its inception in February 1994 and the 3rd year after the Bank has redefined its role under the 10-year Enterprise Plan (2017-2027). The Bank has reviewed its strategic plan in line with the changing global economic circumstances and Thai economic outlook. Six main strategies are identified comprising: 1. Develop and Expand Thai Trade and Investment Globally, 2. Support National Infrastructure and Industrial Development, 3. Provide Protection against International Trade and Investment Risks, 4. Enhance the Competitiveness of Thai Entrepreneurs, 5. Enhance the Bank’s Technological and Digital Efficiency, and 6. Build a High Performance Organization.
Under the above strategies, EXIM Thailand plays a role in bridging the gaps of Thai business networks, serving as an intermediary in building new business networks for Thai entrepreneurs interested in penetrating new frontier markets. The Bank seeks to collaborate with the public and private sectors, both at home and abroad, to connect Thai entrepreneurs, products and services, to manufacturing sectors and consumers in such new destinations. Appropriate forms of supporting Thai entrepreneurs in new frontiers are under study following the establishment of EXIM Thailand’s first and second representative offices in Yangon and Vientiane, respectively, and with the third one to be founded in Phnom Penh in March 2019.
Meanwhile, EXIM Thailand strives to develop its products with a view to close the financial gap experienced by Thai entrepreneurs by providing them with needed capital as well as international trade and investment risk hedging tools to ease their entry or expansion into new markets. The aim is also to upgrade their manufacturing process with innovation and high technology to increase value added of Thai products in a sustainable manner. Further, EXIM Thailand also aims to narrow the knowledge gap so that Thai entrepreneurs will obtain in-depth and multifaceted information for use in establishing or expanding their trade and investment successfully both at home and overseas.
Small enterprises represent as high as 99% of the country’s total business entities. Their share of Thailand’s GDP has consistently grown and contributed to 30% of the country’s GDP in 2017. If these enterprises are successful in turning themselves into exporters, Thailand’s growth potential will also be enhanced substantially. EXIM Thailand has thus established EXIM Excellence Academy (EXAC) as a work unit to initiate and execute activities in support of Thai export businesses for start-up or expansion. These business enterprises are classified by their growth potential as follows: 1. new or start-up exporters (“Neo-exporters”), 2. exporters with some export experience ('Mid-pros' or intermediate exporters), and 3. Advanced exporters (“High-Flyers”). EXAC activities range from incubation courses to provide knowledge necessary for starting or expanding international trade, business trips to survey markets and export opportunities ,business matching with foreign traders or buyers, talks or seminars involving experts from public and private sectors invited to give comprehensive consultation and advice, financial product development to support business start-up or expansion, promotion of business partnership network both at home and abroad, to creation of “exporters society” where successful exporters and EXAC graduates are invited to share their experience and act as mentors for new generations of exporters. These activities aim to help nurture a strong community of exporters that can compete well in the global market.
On the occasion of its 25th Anniversary, EXIM Thailand has launched EXIM Happier Credit, a pre- and post-shipment revolving credit for export start-ups who are new to the Bank’s services, each with a credit limit of up to 700,000 baht. For existing customers, a credit limit is raised to up to 1 million baht with interest rate/discount purchase rate of 5.50% per annum in the first year and prime rate - 0.50% per annum (or 5.75% per annum) in the second year in conjunction with a forward contract worth up to the amount equal to the approved credit amount. No asset-based collateral is required (only a personal guarantee applies). As an additional benefit, participants of EXAC programs or other activities of the Bank will be eligible for a discount of 0.50% on the first-year interest rate. The total approval amount of this new credit facility is targeted at 400 million baht and expected to assist at least 550 small enterprises in starting or growing their exports with no hindrance on business liquidity or foreign exchange risks.
In view of EXIM Thailand’s operating results under its new role, the Bank has exceeded the targets set forth. As of the end of December 2018, the Bank’s total outstanding loans reached a record high of 108,589 million baht, a 16,703 million baht or 18.18% growth year-on-year, comprising 38,412 million baht in trade finance and 70,177 million baht in investment finance. Provision of credit facilities contributed to a business turnover of 197,120 million baht, of which 106,362 million baht came from SMEs. As of the end of December 2018, outstanding SME loans amounted to 42,906 million baht, representing a 5,765 million baht or 15.53% year-on-year growth. This contributed to the Bank’s net profit of 1,365 million baht. NPLs ratio as of the end of December 2018 stood at 3.78%, with NPLs amounting to 4,103 million baht. Allowance for doubtful accounts was 9,385 million baht, a 1,436 million baht increase from the corresponding period of the previous year. Of the total allowance, 4,572 million baht was minimum provisioning requirement by the Bank of Thailand, which represented a ratio of loan loss provision against the regulatory requirement of 205.25%, hence enabling the Bank to maintain a strong financial status.
In expanding export credit insurance to safeguard Thai exporters against risk of non-payment by foreign trade partners in both existing and new frontier markets, in 2018, EXIM Thailand recorded 92,448 million baht in export credit and investment insurance business turnover, up by 26,545 million baht year-on-year, of which 22,278 million baht came from SMEs’ exports, representing 24.10% of the Bank’s accumulated insurance business turnover.
As for support for Thai entrepreneurs’ expansion of international trade and investment, EXIM Thailand currently has a total accumulated loan approval amount of 84,245 million baht for international projects, with outstanding loans accounting for 39,265 million baht as of the end of December 2018. The Bank has also continued its support for Thai trade and investment
in the CLMV (Cambodia, Lao PDR, Myanmar and Vietnam) which recorded consistent economic growth, hence providing ample opportunities for Thai exporters’ expansion. As of the end of 2018, outstanding CLMV loans amounted to 29,441 million baht, a 1,546 million baht growth from the end of 2017.
“EXIM Thailand remains steadfast in pursuing its organization development and driving its international trade and investment strategies, introducing new business opportunities, particularly those in new frontiers, to Thai entrepreneurs. We have been working closely with public and private entities in maximizing Thai entrepreneurs’ competitive advantage with the availability of our business networks, finance and knowledge bases, in our consistent attempt to help contribute to the country’s sustainable development,” added Mr. Pisit.
ส่วนสื่อสารองค์กร ฝ่ายเลขานุการและสื่อสารองค์กร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนสื่อสารองค์กร ฝ่ายเลขานุการและสื่อสารองค์กร EXIM BANK สำนักงานใหญ่ โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1141, 1144
Click Donate Support Web