- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Wednesday, 20 June 2018 18:53
- Hits: 4215
กสิกรไทย จับมือสสว.เวียดนาม ดันเอสเอ็มอีเวียดนาม เพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
ธนาคารกสิกรไทย ประสานความร่วมมือสำนักงานพัฒนาวิสาหกิจแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (The Agency for Enterprise Development) ภายใต้กระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) ประเทศเวียดนาม พัฒนาเอสเอ็มอีในเวียดนามให้มีศักยภาพ ตอบรับนโยบายการค้าการลงทุนระดับทวิภาคีของทั้งประเทศไทยและประเทศเวียดนาม ตั้งเป้ายกระดับศักยภาพของเอสเอ็มอีทั้งสองประเทศเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน ให้เติบโตกว่า 30% เป็น 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563
นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยมียุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างเครือข่ายบริการในประเทศอาเซียนบวกสาม (AEC+3) เพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทและกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้สามารถต่อยอดธุรกิจออกไปสู่ตลาดที่มีศักยภาพในภูมิภาคได้ ซึ่งภายหลังจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ส่งผลให้เวียดนามเป็นหนึ่งในที่หมายสำคัญที่นักธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศต้องการเข้าไปลงทุน เนื่องจากมีความพร้อมด้านแรงงานที่อยู่ในวัยหนุ่มสาว มีทัศนคติที่ดีในการพัฒนาศักยภาพตนเอง เป็นแหล่งวัตถุดิบ และตลาดรองรับสินค้าที่มีศักยภาพ ด้วยจำนวนประชากรมากกว่า 90 ล้านคน
โดยในปี 2560 ประเทศไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนามในภูมิภาคอาเซียน ด้วยมูลค่าการค้าระหว่างกันจำนวน 15,110 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 30.5% ของมูลค่าการค้ารวมระหว่างเวียดนามกับอาเซียน ขณะที่มูลค่าการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment) เข้าสู่ประเทศเวียดนามมีจำนวนถึง 3.17 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเงินลงทุนจากนักลงทุนไทยจำนวน 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงเป็นลำดับที่ 9 ของนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม และมีธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในรูปแบบการซื้อและควบรวมกิจการของเวียดนาม รวมมูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกลุ่มธุรกิจดังกล่าวล้วนเป็นลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยทั้งสิ้น อาทิ ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธุรกิจโรงแรม กลุ่มวัตถุดิบและอุปกรณ์ก่อสร้าง และ กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น สะท้อนความสนใจของภาคธุรกิจไทยที่มีต่อตลาดประเทศเวียดนาม
ธนาคารกสิกรไทย และสำนักงานพัฒนาวิสาหกิจแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จึงได้ร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) โดยสาระสำคัญเพื่อส่งเสริม สนับสนุนการสร้างธุรกิจเอสเอ็มอีให้มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่มีความเป็นสากล (SMEs Internationalization) พร้อมกับขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนของทั้งสองประเทศให้เพิ่มมากขึ้นผ่านความร่วมมือกันในทุกมิติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างบูรณาการและยั่งยืน โดยธนาคารกสิกรไทยจะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างและพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในประเทศไทย มาใช้ในการยกระดับความร่วมมือในการสนับสนุนการค้าระดับทวิภาคี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม จากมูลค่า 15,110 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2560 เป็น 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเติบโตกว่า 30% ภายในปี 2563
นายพิพิธ กล่าวเสริมว่า ในปัจจุบัน ธนาคารกสิกรไทย มีสำนักงานผู้แทนในเวียดนามอยู่ 2 แห่ง ได้แก่ สำนักงานผู้แทนกรุงฮานอย และสำนักงานผู้แทนนครโฮจิมินห์ ที่ทำหน้าที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดูแลธุรกิจของลูกค้าคนไทยที่ต้องการขยายตลาดไปยังเวียดนาม ทั้งเพื่อการค้าระหว่างประเทศและเพื่อการลงทุนในเวียดนาม รองลงมาคือลูกค้าบริษัทจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ที่ต้องการขยายธุรกิจในเวียดนาม รวมทั้งมีความพร้อมที่จะให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กของเวียดนามที่เป็นหนึ่งในซัพพลายเชนของลูกค้าธนาคารกสิกรไทย นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยมีแผนจะยกระดับสำนักงานผู้แทนในเวียดนาม ให้เป็นสาขาธนาคารต่างประเทศ (Foreign Bank Branch) ต่อไป ซึ่งจะช่วยให้ธนาคาร ฯ เพิ่มบทบาทในการให้บริการด้านการเงินที่มากขึ้น รวมทั้งการให้การสนับสนุนธุรกิจผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของเวียดนามด้วย
กสิกรไทยจับมือสสว.เวียดนาม ดันเอสเอ็มอีเวียดนาม เพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นาย เหงวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือในการสนับสนุนการค้าการลงทุนระดับทวิภาคีของทั้งประเทศไทยและประเทศเวียดนาม โดยมีนายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และ นายเล แหม่ง หุ่ง รักษาการณ์ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิสาหกิจแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นผู้แทนลงนาม เพื่อช่วยยกระดับศักยภาพของเอสเอ็มอีทั้งสองประเทศในการสนับสนุนการค้าระหว่างกัน พร้อมตั้งเป้าหมายร่วมผลักดันเพิ่มมูลค่าการค้าไทย-เวียดนามเป็น 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563 ในระหว่างการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี–เจ้าพระยา–แม่โขง (ACMECS) ครั้งที่ 8 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพมหานคร เมื่อเร็วๆ นี้
Joint efforts of KBank and AED to promote Vietnamese SMEs' role in boosting bilateral trade and investment
KASIKORNBANK (KBank) partners with the Agency for Enterprise Development (AED) under the Ministry of Planning and Investment (MPI) of Vietnam to promote the potential of Vietnamese SMEs in response to the bilateral trade and investment policies of the two countries. Both parties expect that, given the enhanced potential of SMEs, the value of bilateral trade will rise more than 30 percent to reach USD20 billion in 2020.
According to Mr. Pipit Aneaknithi, KBank President, creation of service network in the AEC+3 nations is one of the key strategies of KBank. Such network is aimed at supporting Thai corporations and SMEs to gain a foothold in potential markets in the region. After the AEC inauguration, Vietnam has become an important target of Thai and foreign investors, given its young workforce with a self-driven attitude, abundant raw materials and promising market potential affirmed by a large population of 90 million persons. In 2017, Thailand was Vietnam’s top trade partner in ASEAN, recording total bilateral trade value of USD15.11 billion, or 30.5 percent of total trade between Vietnam and ASEAN. Meanwhile, FDI from Thailand amounted to USD8.5 billion, or the ninth largest amount in the total FDI of USD317 billion. Furthermore, M&A deals concluded by Thai businesses totaled over USD7 billion, all of which were KBank customers in the sectors of retail trade, petrochemicals, real estate, hotels, raw materials and construction materials, and food and beverages. Those records mirror considerable interest of Thai businesses toward the Vietnamese market.
KBank and AED have thus prepared a memorandum of understanding (MOU) to promote SME Internationalization while also expanding trade and investment opportunities for Thailand and Vietnam through cooperative efforts across all dimensions for sustainable development. KBank will apply its experience and expertise in creating and developing stronger SMEs in Thailand to upgrade this collaboration in order to boost bilateral trade between the two countries from USD15.11 billion in 2017 to USD20 billion in 2020, growing more than 30 percent.
Mr. Pipit added that KBank’s Hanoi and Ho Chi Minh Representative Offices are tasked with enhancing liquidity for our Thai customers wishing to tap into the Vietnamese market for trade and investment purposes, as well as our Chinese, Japanese and South Korean clients wanting to expand their businesses in Vietnam. Our two Representative Offices here are well equipped to offer advisory services to Vietnamese SMEs that are part the supply chains of KBank’s customers. In addition, KBank is planning to upgrade the status of these Representative Offices to a foreign bank branch later on. Once achieved, KBank will have a greater role in offering services and supporting Vietnamese SMEs ahead.
Photo Caption
Joint efforts of KBank and AED to promote Vietnamese SMEs' role in boosting bilateral trade and investment
Recently, at Shangri-la Hotel, Bangkok, General Prayut Chan-o-cha, Prime Minister of the Kingdom of Thailand, and Mr. Nguyễn Xuân Phúc, Prime Minister of the Socialist Republic of Vietnam, witnessed the signing of a memorandum of understanding to promote bilateral trade and investment between Thailand and Vietnam. Signed by Mr. Pipit Aneaknithi, KBank President, and Mr. Lê Mạnh Hùng, Acting Director General of the Agency for Enterprise Development, Ministry of Planning and Investment of Vietnam, the MOU is aimed at promoting SME capacities and opening up trade and investment opportunities of the two countries which aim for USD20 billion in two-way trade turnover by 2020. The ceremony was part of the 8th Ayeyawady – Chao Phraya – Mekong Economic Cooperation Strategy (ACMECS) Summit.