- Details
- Category: แบงก์พาณิชย์
- Published: Saturday, 26 May 2018 13:44
- Hits: 2078
ฟิทช์ เพิ่มอันดับเครดิตสากลระยะสั้นของ KTB เป็น ‘F2’ และคงอันดับเครดิตของธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีนัยต่อความเสี่ยงเชิงระบบอีก 4 แห่ง
ฟิทช์ เรทติ้งส์-กรุงเทพฯ/สิงคโปร์- 2 พฤษภาคม 2561: ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น (Short-Term Issuer Default Rating) ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เป็น ‘F2’ จาก ‘F3’ และคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency IDR) ที่ ‘BBB’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA+(tha)’ โดยธนาคารมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
พร้อมกันนี้ฟิทช์ยังได้คงอันดับเครดิตของธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีนัยต่อความเสี่ยงเชิงระบบในประเทศ (Domestic Systemically-Important Bank หรือ D-SIB) ที่เหลืออีก 4 แห่ง ดังนี้
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBank และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้รับการคงอันดับที่ ‘BBB+’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารทั้ง 3 แห่งได้รับการคงอันดับที่ ‘AA+(tha)’ โดยทั้งหมดมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ได้รับการคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ ‘A-’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AAA(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
นอกจากนี้ ฟิทช์ยังได้ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์อีก 2 แห่ง คือ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KS) และบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) โดยทั้ง 2 บริษัทได้รับการคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA(tha)’ และแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
รายละเอียดอันดับเครดิตทั้งหมดได้แสดงไว้ในส่วนท้าย
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ BBL KBank และ SCB พิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของแต่ละธนาคาร (Viability Rating หรือ VR)
การสนับสนุนจากรัฐบาลไทยเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ KTB โดยฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนพิเศษที่นอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติ (Extraordinary Support) แก่ KTB ในกรณีที่มีความจำเป็น ทั้งนี้การสนับสนุนดังกล่าวจากรัฐบาลเป็นปัจจัยหนุนอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (Support Rating Floor) ที่ ‘BBB’ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB ที่ ‘bbb-’ การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของ KTB สะท้อนถึงการทบทวนการประเมิน (re-assess) ความสามารถในการชำระหนี้สินระยะสั้นของธนาคาร ซึ่งฟิทช์เชื่อว่าความแตกต่างของความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น ซึ่งสะท้อนจากอันดับเครดิตสากลระยะสั้นของ KTB ที่อยู่ต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีสถานะเป็น D-SIB อยู่ 1 อันดับ นั้น อาจไม่ใช่ระดับที่เหมาะสมอีกต่อไป เนื่องจาก KTB มีอัตราส่วนทางการเงินด้านสภาพคล่องที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกทั้งธนาคารยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นที่เป็นสถาบันการเงินเป็นปัจจัยหลักในการพิจาณาอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ BAY ทั้งนี้ฟิทช์มองว่า BAY เป็นบริษัทลูกที่มีบทบาทสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อ MUFG Bank, Ltd. (‘A’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/‘a’) ซึ่งเป็นธนาคารแม่ที่มีสัดส่วนการถือหุ้นใน BAY ที่ 76.9% การดำเนินงานระหว่าง MUFG Bank กับ BAY มีความเชื่อมโยงและผสานการดำเนินงาน (integration) กันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การรวมกิจการของ MUFG Bank สาขากรุงเทพฯ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ BAY เมื่อปี 2558 BAY มีบทบาทสำคัญในการดำเนินกลยุทธ์ของกลุ่มในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นหนึ่งในบริษัทลูกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่นของ MUFG Bank
อันดับเครดิตภายในประเทศของ KS และ SCBS พิจารณาจากการที่บริษัททั้งสองมีสถานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อธนาคารแม่ ซึ่งคือ KBank และ SCB ตามลำดับ โดยทั้งสองบริษัทมีบทบาทที่สำคัญในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจรูปแบบธนาคารครบวงจร (universal banking strategy) ของธนาคารแม่ อีกทั้งธนาคารแม่ยังเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทลูก และยังมีการผสานการดำเนินงานและบริหารงานกันอย่างใกล้ชิดมากกับธนาคารแม่
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ BBL KBank SCB KTB และ BAY สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งในประเทศไทยและฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารทั้ง 5 แห่งมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าภาคอุตสาหกรรมธนาคารในระยะปานกลาง อัตรากำไรและคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ไทยโดยรวมเผชิญกับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่อ่อนแอจนถึงปี 2560 และส่งผลให้อัตราส่วนทางการเงินในด้านคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารทั้ง 5 แห่งปรับตัวอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์กลุ่มเดียวกันในต่างประเทศ (global peers) แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่าแรงกดดันดังกล่าวน่าจะเริ่มทยอยปรับตัวลดลงในช่วงปี 2561 เนื่องจากแนวโน้มของสภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งธนาคารได้เพิ่มความเข้มงวดในเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
BBL มีเครือข่ายทางธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และลูกค้าธุรกิจต่างประเทศ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ BBL สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่งและฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของธนาคาร อีกทั้งยังสะท้อนถึงระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (risk appetite) ของ BBLที่ต่ำกว่าและการบริหารจัดการในด้านการระดมเงินและสภาพคล่อง (funding and liquidity) ที่ระมัดระวังกว่า เมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ซึ่งสะท้อนได้จากการที่ธนาคารมีอัตราส่วนเงินฝากต่อสินเชื่อในระดับที่ต่ำกว่าธนาคารอื่นอย่างต่อเนื่องและมีสัดส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องในระดับสูง BBL มีอัตรากำไรที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในประเทศ ฟิทช์คาดว่าการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) น่าจะอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ในขณะที่อัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง (160% ณ สิ้นปี 2560) และฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง น่าจะช่วยรองรับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในระดับที่มากกว่าคาดการณ์ได้
KBank มีเครือข่ายทางธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในด้านลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) อีกทั้งธนาคารยังมีฐานลูกค้าเงินฝากที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นปัจจัยช่วยลดความเสี่ยงด้านการระดมเงินและสภาพคล่อง อีกทั้งยังช่วยให้ธนาคารมีต้นทุนทางการเงินที่ค่อนข้างต่ำ KBank มีอัตรากำไรและฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งกว่าธนาคารพาณิชย์ในประเทศส่วนใหญ่ ในขณะที่ธนาคารมีระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ที่ต่ำกว่าเช่นกัน ฟิทช์คาดว่าอัตรากำไรและฐานะเงินกองทุนจะปรับตัวมีเสถียรภาพมากขึ้นในปี 2561 จากสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นนอกจากนี้ KBank ยังมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่แข็งแกร่งขึ้น ในด้าน ระดับของสำรองหนี้สูญ (loan loss reserve) และฐานะเงินกองทุน ซึ่งน่าจะช่วยให้ธนาคารสามารถรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระดับที่มากกว่าคาดการณ์ โดยรวมถึงความเสี่ยงในด้านคุณภาพสินทรัพย์ ซึ่งคล้ายกับธนาคารอื่นในประเทศไทยที่คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารยังคงอยู่ในระดับที่ไม่ดีนัก แต่อย่างไรก็ตามคุณภาพสินทรัพย์มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้น
SCB มีเครือข่ายธุรกิจธนาคารครบวงจร (universal bank) ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในด้านลูกค้ารายย่อย นอกจากนี้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของ SCB ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ในประเทศ SCB มีความสามารถในการสร้างรายได้ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอโดยมีอัตราดอกเบี้ยสุทธิในระดับสมเหตุสมผล อีกทั้งยังมีการควบคุมต้นทุนที่ค่อนข้างดี ฟิทช์มองว่า SCB มีระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกันธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่และมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของสินเชื่อ แต่อย่างไรก็ตามธนาคารมีความสามารถในการบริหารจัดการและควบคุมความเสี่ยงดังกล่าวในระดับที่สมเหตุสมผล และธนาคารยังคงสามารถรักษาอัตราส่วนด้านคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ แม้ว่าจะเผชิญกับแรงกดดันที่สูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ฟิทช์ยังคาดว่า SCB น่าจะยังคงสามารถรักษาระดับรายได้ อัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และฐานะเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้อย่างต่อเนื่อง และทั้ง 3 ปัจจัยดังกล่าวกันน่าจะช่วยให้ธนาคารสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB อยู่ต่ำกว่าอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ BBL KBank และ SCB อยู่ 2 อันดับ ซึ่งสะท้อนถึงฐานะทางการเงินโดยรวมที่ด้อยกว่าโดยเฉพาะในด้านฐานะเงินกองทุน อีกทั้ง KTB (ซึ่งเป็นธนาคารที่ภาครัฐถือหุ้นในสัดส่วน 55%) มีระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้สูงกว่าธนาคารขนาดใหญ่ที่มีสถานะเป็น D-SIB รายอื่น ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ธนาคารมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ด้อยกว่า แม้ KTB ยังคงมีความเสี่ยงในด้านคุณภาพสินทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าความเสี่ยงดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ จากการที่ KTB ได้เพิ่มความระมัดระวังในการพิจารณาสินเชื่อในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับสภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่เริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ฟิทช์คาดว่าผลประกอบการโดยรวมของ KTB น่าจะยังคงด้อยกว่าธนาคาร D-SIB รายอื่น ดังนั้นฐานะเงินกองทุนของ KTB น่าจะยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับธนาคาร D-SIB ในประเทศ เนื่องจากกำไรสะสมที่น่าจะเติบโตช้ากว่า
BAY มีอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินต่ำกว่า BBL KBank และ SCB อยู่ 1 อันดับ สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่เล็กกว่าและความแข็งแกร่งทางการเงินโดยรวมที่ด้อยกว่าเมื่อเทียบกันธนาคารพาณิชย์ในประเทศที่มีขนาดใหญ่กว่า ในด้านฐานะเงินกองทุนและอัตรากำไร รวมถึงระดับความเสี่ยงที่ยอมรับที่สูงกว่า BAY มีการเติบโตของธุรกิจในระดับที่สูงเมื่อเทียบธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ในขณะที่โครงสร้างธุรกิจมีการกระจายตัวมากขึ้น เนื่องจากธนาคารมีความแข็งแกร่งทางการตลาดในด้านสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อธุรกิจกลุ่มบริษัทญี่ปุ่น อัตราส่วนทางการเงินในด้านกำไรโดยรวมมีการปรับตัวดีขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับผู้นำในภาคอุตสาหกรรมธนาคารในประเทศ MUFG Bank เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน BAY ตั้งแต่ปี 2556 และเริ่มได้ดำเนินการเชื่อมโยงและผสานการดำเนินงาน (integration) ของ BAY เข้ากับทางกลุ่มในระดับที่สูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารแม่ให้การสนับสนุนในการดำเนินงานปรกติ (ordinary support) ที่สำคัญ เช่น การระดมเงินและการบริหารจัดการ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) และ อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ
อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ BBL KBank SCB และ KTB สะท้อนถึงการที่ธนาคารพาณิชย์ทั้ง 4 แห่งมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศไทย ซึ่งสะท้อนได้จากการที่ธนาคารแต่ละแห่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านเงินฝากมากกว่า 14% ของระบบธนาคารพาณิชย์ อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ KTB ที่ ‘BBB’ อยู่สูงกว่าธนาคารพาณิชย์อีก 3 แห่ง 1 อันดับ เนื่องจาก KTB ไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศเท่านั้น แต่ KTB ยังมีความสำคัญในเชิงกลยุทย์ต่อรัฐบาลไทย โดย KTB เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งเดียวที่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ ทั้งยังมีความใกล้ชิดในการดำเนินงานกับกระทรวงการคลังและธนาคารยังใช้สัญลักษณ์ทางการค้าที่มีลักษณะใกล้เคียงกับสัญลักษณ์ของกระทรวงการคลัง
อันดับเครดิตสนับสนุนของ BAY สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่ BAY จะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษที่นอกเหนือจากการสนับสนุนในด้านการดำเนินงานปรกติจาก MUFG Bank แม้ว่า BAY จะมีสถานะเป็นธนาคาร D-SIB แต่ฟิทช์ไม่ได้ให้อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำแก่ธนาคาร เนื่องจากอันดับเครดิตของ BAY พิจารณาจากการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นที่เป็นสถาบันการเงิน
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (ที่ไม่เข้าเกณฑ์บาเซล 3) ของ BBL และ SCB มีอันดับเครดิตที่ต่ำกว่าอันดับเครดิตอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว หรือ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวอยู่ 1 อันดับ เพื่อสะท้อนสถานะด้อยสิทธิตามโครงสร้างเงินทุนเมื่อเทียบกับอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน ซึ่งสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของฟิทช์ในการจัดอันดับเครดิตตราสารประเภทดังกล่าว
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 ของ KBank BAY และ KTB ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวอยู่ 1 อันดับ ซึ่งสะท้อนถึงการที่หุ้นกู้ดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติในการรองรับผลขาดทุนในลักษณะที่เป็นการบังคับตัดเป็นหนี้สูญทั้งจำนวน (mandatory full write-down) และความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risk) ที่มากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิเนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะด้อยสิทธิ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ดังกล่าวไม่ได้ถูกปรับลดอันดับเพิ่มเติมเพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นกู้จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดการณ์ (non-performance risk) เนื่องจากหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption)
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ของ KTB ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารอยู่ 1 อันดับ ทั้งนี้แนวทางในการพิจารณาอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวฟิทช์ใช้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศที่สะท้อนถึงโอกาสที่ KTB จะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ (support driven) เป็นอันดับเครดิตที่ใช้อ้างอิง (anchor rating) ในการจัดอันดับแทนที่จะใช้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร เนื่องจากฟิทช์มองว่าภาครัฐน่าจะให้การช่วยเหลือเพื่อป้องกันมิให้ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ (non-viability) ในขณะที่อันดับเครดิตของหุ้นกู้ดังกล่าวที่อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตอ้างอิงอยู่ 1 อันดับ สะท้อนถึงสถานะด้อยสิทธิ การรองรับผลขาดทุนในลักษณะการตัดเป็นหนี้สูญบางส่วน (partial write-down) โดยไม่มีการบังคับตัดหนี้สูญทั้งจำนวน และการไม่มีคุณสมบัติที่สามารถรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ BBL KBank และ SCB จะได้รับผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของระดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ KTB อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ ซึ่งอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำนั้นสะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ต่อความสามารถของภาครัฐในการให้การสนับสนุนและโอกาสที่รัฐจะให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ BAY อาจเปลี่ยนแปลงได้จากการเปลี่ยนแปลงของสมมติฐานของฟิทช์ต่อความสามารถหรือโอกาสที่ MUFG Bank จะให้การสนับสนุนแก่ BAY อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ BAY อยู่ในระดับเดียวกับเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย (Country Ceiling) และอันดับเครดิตภายในประเทศก็อยู่ในระดับที่สูงสุดแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับ อันดับเครดิตของ BAY อาจได้รับผลกระทบในเชิงลบหากอันดับเครดิตของ MUFG Bank ถูกปรับลดอันดับ หรือความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของ BAY ต่อ MUFG Bank ลดลง
อันดับเครดิตภายในประเทศของ บล.กสิกรไทย และ บล.ไทยพาณิชย์ จะได้รับผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารแม่ อีกทั้งยังอาจได้รับผละกระทบจากการเปลี่ยนแปลงมุมมองของฟิทช์เกี่ยวกับโอกาสในการที่ KBank และ SCB จะให้การสนับสนุนกับบริษัทลูก เช่น หากมีการลดการถือหุ้นในบริษัทลูกอย่างมากหรือมีการลดของระดับความใกล้ชิดหรือความเชื่อมโยงในด้านการดำเนินงานและการบริหารงาน อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
โอกาสที่อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ BBL KBank และ SCB จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากอันดับเครดิตของธนาคารทั้ง 3 แห่งอยู่ในระดับเดียวกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย (BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) และยังมีสัดส่วนเงินลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในระดับสูง ในขณะที่การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยน่าจะส่งผลให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ BBL KBank และ SCB ถูกปรับลดอันดับเช่นกัน สำหรับธนาคารทั้ง 3 แห่ง การปรับตัวแย่ลงของคุณภาพสินทรัพย์และอัตรากำไรอย่างต่อเนื่องและมากกว่าระดับที่ฟิทช์คาดการณ์ในด้านคุณภาพสินทรัพย์หรือความสามารถในการทำกำไร (ทั้งนี้รวมถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากของระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ปัจจัยทั้ง 2 ปรับตัวลดลงอย่างมากได้ในอนาคต) พร้อมกับการที่ธนาคารไม่สามารถรักษาความสามารถในการรองรับความเสี่ยงไว้ในระดับที่เพียงพอ ในด้าน ระดับของสำรองหนี้สูญและฐานะเงินกองทุน อาจส่งผลให้ธนาคารถูกปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินได้
การเปลี่ยนแปลงของฐานะเงินกองทุนเป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผลกระทบต่ออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ KTB ฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตของ KTB หากธนาคารมีความเสี่ยงในด้านคุณภาพสินทรัพย์เพิ่มขึ้นและมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ลดลงต่ำกว่าธนาคารอื่นในกลุ่ม ‘bbb-’ ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้จากการที่ KTB มีการเติบโตของสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐในระดับสูงขึ้น และส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารปรับตัวแย่ลงอย่างรวดเร็ว ในทางกลับกันอาจมีการปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน หากคุณภาพสินทรัพย์และฐานะเงินกองทุนของธนาคารปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง และอัตราส่วนทางการเงินอื่นโดยรวมยังคงอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ BAY อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากการร่วมมือและผสานการดำเนินงานของ BAY กับ MUFG Bank ส่งผลให้ธนาคารมีเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่แข็งแกร่งมากเพิ่มขึ้น ประกอบกับการที่ธนาคารมีฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งขึ้นโดยที่ความเสี่ยงที่ธนาคารยอมรับได้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในทางกลับกันอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ BAY อาจถูกปรับลดอันดับหากคุณภาพสินทรัพย์และความสามารถในการทำกำไร หรือความสามารถในการรองรับความเสี่ยงในด้านสภาพคล่อง มีการปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญและต่อเนื่อง
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ
ฟิทช์อาจต้องทบทวนการประเมินอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ BBL KBank และ SCB ใหม่ หากมีการเปลี่ยนแปลงในความสามารถของรัฐบาลในการให้การสนับสนุนแก่ธนาคารพาณิชย์ เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้จากการที่อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยถูกปรับลดอันดับลง อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ KTB จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในมุมมองของฟิทช์ต่อแนวโน้มที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศไทย อาจส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ทั้ง 4 แห่ง อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง
อันดับเครดิตสนับสนุนของ BAY ที่ ‘1’ อาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากการลดลงของโอกาสที่ MUFG Bank จะให้การสนับสนุนแก่ BAY ทั้งนี้อาจสะท้อนได้จากการปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นลงอย่างมีนัยสำคัญหรือการลดลงของการเชื่อมโยงในการดำเนินงาน เป็นต้น อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น อันดับเครดิตสนับสนุนของ BAY อาจได้รับผลกระทบจากการปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ MUFG Bank ได้เช่นกัน
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งทั้ง 5 ธนาคาร จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในอันดับเครดิตอ้างอิงของตราสารนั้นๆ
รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้
BBL:
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘BBB+’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F2’
- อันดับความเข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ ‘bbb+’
- อันดับเครดิตสนับสนุน คงอันดับที่ ‘2’
- อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำคงอันดับที่ ‘BBB-’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้ Global Medium Term Note ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน มูลค่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คงอันดับเครดิตที่ ‘BBB+’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘BBB+’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ คงอันดับที่ ‘BBB’
KBank:
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘BBB+’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F2’
- อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ ‘bbb+’
- อันดับเครดิตสนับสนุน คงอันดับที่ ‘2’
- อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำคงอันดับที่ ‘BBB-’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้ Euro Medium-Term Note ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน มูลค่ารวม 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คงอันดับเครดิตที่ ‘BBB+’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘BBB+’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (ตามเกณฑ์บาเซล 3) คงอันดับที่ ‘AA(tha)’
SCB:
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘BBB+’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F2’
- อันดับความเข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ ‘bbb+’
- อันดับเครดิตสนับสนุน คงอันดับที่ ‘2’
- อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำคงอันดับที่ ‘BBB-’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของโครงการหุ้นกู้ Medium-Term Note ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน มูลค่ารวม 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คงอันดับเครดิตที่ ‘BBB+’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘BBB+’
- อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ระยะสั้น ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ คงอันดับที่ ‘AA(tha)’
KTB:
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘BBB’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น ปรับเพิ่มอันดับเป็น ‘F2’ จาก ‘F3’
- อันดับเครดิตความแข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ ‘bbb-’
- อันดับเครดิตสนับสนุน คงอันดับที่ ‘2’
- อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ คงอันดับที่ ‘BBB’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของโครงการห้นกู้ Euro Medium-Term Note ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน มูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ คงอันดับที่ ‘BBB’
- อันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘BBB’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (ตามเกณฑ์บาเซล 3) คงอันดับที่ ‘BBB-’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของโครงการห้นกู้ระยะสั้น มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (ตามเกณฑ์บาเซล 3) คงอันดับที่ ‘AA(tha)’
BAY
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับเครดิตที่ ‘A-’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น คงอันดับเครดิตที่ ‘F2’
- อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับเครดิตที่ ‘bbb’
- อันดับเครดิตสนับสนุน คงอันดับเครดิตที่ ‘1’
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับเครดิตที่ ‘AAA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับเครดิตที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน คงอันดับเครดิตที่ ‘AAA(tha)’
- อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (ตามเกณฑ์บาเซล 3) คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’
บล.กสิกรไทย:
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
บล.ไทยพาณิชย์:
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
Fitch Upgrades KTB's Short-Term IDR to 'F2'; Affirms 4 Other Thai D-SIBs
Fitch Ratings-Bangkok/Singapore-02 May 2018: Fitch Ratings has today upgraded Krung Thai Bank Public Company Limited's (KTB) Short-Term Issuer Default Rating (IDR) to 'F2' from 'F3', and affirmed its Long-Term IDR at 'BBB' and its National Long-Term Rating at 'AA+(tha)'. The Outlooks are Stable.
At the same time, Fitch has affirmed the ratings on four other Thai domestic systemically-important banks (D-SIBs) as follows:
- The Long-Term IDRs on Bangkok Bank Public Company Limited (BBL), KASIKORNBANK Public Company Limited (KBank) and The Siam Commercial Bank Public Company Limited (SCB) at 'BBB+' and their National Long-Term Ratings at 'AA+(tha)'. The Outlooks are Stable.
- Bank of Ayudhya Public Company Limited's (BAY) Long-Term IDR at 'A-' and its National Long-Term Rating at 'AAA(tha)'. The Outlooks are Stable.
Fitch has also affirmed the National Long-Term Ratings on the securities subsidiaries of two of the banks, namely Kasikorn Securities Public Company Limited and SCB Securities Company Limited, at 'AA(tha)'. The Outlooks are Stable.
A full list of rating actions is at the end of this rating action commentary.
KEY RATING DRIVERS
IDRS, NATIONAL RATINGS AND SENIOR DEBT
The IDRs, National Ratings, and ratings on the senior debt of BBL, KBank, and SCB are driven by their Viability Ratings (VR).
Thailand's sovereign support drives the IDRs, National Ratings and ratings on senior debt of KTB. Fitch believes the state is highly likely to provide KTB extraordinary support, if required. Such sovereign support underpins the bank's Support Rating Floor of 'BBB', which exceeds its 'bbb-' VR. The upgrade of the Short-Term IDR reflects Fitch's re-assessment of KTB's capacity to meet short-term debt obligations. The agency no longer believes its capacity warrants a one-notch gap with the other Thai D-SIBs on the short-term scale given sustained improvement in KTB's key liquidity ratios and continuing evidence of ordinary support from the state to KTB.
Institutional support drives BAY's IDRs, National Ratings, and senior debt ratings. Fitch sees BAY as a strategically important subsidiary of MUFG Bank, Ltd. (A/Stable/a), which owns 76.9% of BAY. The linkages between BAY and MUFG Bank have increased since the integration of MUFG Bank's Bangkok branch into BAY in 2015, and we expect this to continue. BAY plays a key role in implementing the group's strategies in south-east Asia, and represents one of MUFG Bank's largest overseas investments.
The National Ratings on Kasikorn Securities and SCB Securities are driven by their strategic importance to their parents, KBank and SCB. The securities firms play a key role in their parent banks' universal banking strategy, are wholly owned subsidiaries, and exhibit high levels of management and operational integration with their parents.
VIABILITY RATINGS
The VRs of BBL, KBank, SCB, KTB and BAY take into consideration their strong domestic franchises and large client bases, which should allow them to outperform the industry over the medium term. Thai banks' profitability and asset quality had come under heightened pressure amid a weak operating environment in the period up to 2017. In particular, the core asset quality metric of the five banks is relatively weak compared with that of their global peers. However, Fitch expects pressure to recede over 2018 amid a more benign economic environment, particularly as the banks have already been tightening credit standards over the past few years.
BBL's domestic franchise is particularly strong among large corporates and in international banking. The bank's VR reflects not only its strong domestic franchise and solid capitalisation, but also its lower appetite for risk and more prudent funding and liquidity profile relative to domestic peers. Its funding and liquidity profile is characterised by a consistently low loans-to-deposits ratio and high levels of liquid assets. BBL has had weaker profitability compared with large domestic bank peers, but Fitch believes any further increases in NPLs would be manageable; the bank's high reserve coverage (end-2017: 160%) and solid capitalisation represent a strong buffer against any unexpected downturns.
KBank has a particular strength in the SME segment, while its strong deposit franchise mitigates funding and liquidity risks, and helps the bank maintain relatively low funding cost. Profitability and capitalisation are superior to that of most domestic peers, particularly considering its comparatively low risk appetite, and we expect them to become more stable in 2018 as the operating environment improves. KBank's improved buffers, including loan loss reserves and capitalisation, should help the bank withstand potential downside risks, including in asset quality, which like other banks in Thailand remains relatively weak, although it is showing signs of stabilisation.
SCB has an extensive universal-banking franchise, with a strength in retail banking. SCB's ratings also take into account the bank's financial performance relative to local peers; it has consistently generated earnings with reasonable net interest margins and good cost controls. Fitch perceives SCB's risk appetite to be higher than those of its large bank peers, with some concentration risks. However, SCB has reasonable risk controls to mitigate such risks, and the bank has been able to maintain satisfactory asset-quality metrics, although it has been under pressure in recent years. We also expect SCB to maintain adequate earnings, reserve coverage and capital, which together provide adequate buffers for the bank.
KTB's VR is two notches below those of BBL, KBank and SCB, reflecting KTB's weaker standalone financials - particularly its capitalisation. The 55% state-owned bank has a higher risk appetite than the other D-SIBs, explaining its asset-quality gaps with the other banks. KTB remains vulnerable to asset-quality issues, although Fitch believes these risks to be manageable as KTB appears to have been more cautious in underwriting over the past few years, while the operating environment is also improving. Fitch also expects the bank's earnings to continue underperforming some of the other D-SIBs. As a result, KTB's capitalisation level should still lag those of its domestic peers from weaker earnings retention.
BAY's VR is rated at one notch below those of BBL, KBank and SCB, reflecting its smaller domestic franchise; weaker profile relative to its larger domestic peers in other areas, including capitalisation and profitability; as well as higher risk appetite. BAY's business has grown faster than that of local peers and has been increasingly diversifying as it consolidates already strong market positions in consumer lending and among Japanese corporates. Key profitability ratios have improved over the past several years, but still lag those of market leaders. MUFG Bank acquired a majority stake in BAY in 2013, and since then has further integrated BAY into the group's operations; the parent provides important ordinary support, particularly, in funding and management.
SUPPORT RATING AND SUPPORT RATING FLOOR (SRF)
The Support Rating and SRF of BBL, KBank, SCB and KTB are based on their systemic importance to the Thai financial system, as reflected by their significant deposit market share of over 14% each. KTB's SRF of 'BBB' is one notch higher than those for the other three banks, as Fitch views that KTB is important not only systemically to the financial sector, but is also strategically to the government. KTB is the only majority state-owned commercial bank, with close operational and branding links to Thailand's Ministry of Finance.
BAY's Support Rating is based on Fitch's view that it is extremely likely to receive extraordinary support from its parent, MUFG Bank, if needed. Despite BAY's D-SIB status, Fitch has not assigned a SRF to it as its ratings are driven by institutional support.
SUBORDINATED DEBT
BBL and SCB have issued legacy Tier 2 notes (non-Basel III compliant) that are rated one notch down from their Long-Term IDRs or National Long-Term Ratings. This reflects the subordination in the capital structure relative to senior unsecured debt, and is in line with Fitch's approach to rating such instruments.
The Basel III Tier 2 subordinated Thai baht-denominated notes of KBank, BAY and KTB are rated one notch below their National Long-Term Ratings to reflect their lack of mandatory full write-down features, as well as their higher loss-severity risks than senior unsecured instruments, which arise from their subordinated status. There is no notching for non-performance risks as the notes' key terms exclude going-concern loss-absorption features.
KTB's US dollar-denominated Basel III Tier 2 subordinated debt is rated one notch below the IDR. Fitch has used the support-driven IDR rather than the VR as the anchor, since the agency believes government support would flow through to KTB to prevent non-viability. The one-notch differential reflects the notes' subordinated status, the presence of partial rather than mandatory full write-down features, and the lack of going-concern loss-absorption features.
RATING SENSITIVITIES
IDRS, NATIONAL RATINGS AND SENIOR DEBT
The IDRs, National Ratings and ratings on the senior debt of BBL, KBank and SCB are sensitive to changes in their standalone profile as indicated by their VR.
The IDR, National Ratings and ratings on KTB's senior debt would be affected by changes in its Support Rating Floor, which in turn reflects Fitch's view on the sovereign's capacity and propensity to provide timely extraordinary support to KTB.
BAY's IDRs, National Ratings and senior debt ratings are sensitive to changes in Fitch's assumptions about the ability or propensity of MUFG Bank to support BAY. No upside is possible to the IDR, which is at Thailand's Country Ceiling, or the National Ratings, which are already at the highest level on the Thai national scale. There may be downside to the ratings if MUFG Bank is downgraded, or if Fitch believes that there is a reduction in MUFG Bank's propensity to extend support to BAY.
The National Ratings of Kasikorn Securities and SCB Securities would be similarly affected by changes in their parents' National Ratings. The ratings could also be affected by any perceived changes in the propensity of KBank or SCB to support their subsidiaries, for example, if the parents materially reduced their shareholding or their operational and management linkages. However, Fitch does not expect such changes in the medium term.
VIABILITY RATINGS
There is unlikely to be upside to the VRs on BBL, KBank and SCB in the near term. The ratings are already at the same level as the Thai sovereign's Long-Term Foreign-Currency IDR (BBB+/Stable), and the banks have a substantial exposure to sovereign bonds. A downgrade of the sovereign's Long-Term Foreign-Currency IDR could result in a similar rating action for the VRs on BBL, KBank and SCB. For all three banks, a significant and sustained deterioration beyond Fitch's expectations in either asset quality or profitability (including much higher risk appetite, which could raise the prospects for future deterioration) without adequate buffers in terms of loan loss reserves and capitalisation could lead to a negative rating action on their VRs.
KTB's VR is most sensitive to changes in capital adequacy. Fitch may downgrade its VR if asset-quality risks increase and reduce the bank's capital ratios below those of its 'bbb-' peers. This may happen if KTB adopts a more aggressive policy-lending role, leading to a rapid deterioration in its credit profile. Conversely, a VR upgrade can happen if both its asset quality and capitalisation improve in a sustained and significant manner and other key credit metrics remain broadly stable.
BAY's VR may see upside if the bank can further leverage its integration with MUFG Bank into a corporate profile that is the equal to those its large domestic peers, while also adding to its capital buffers without changing its risk appetite. Conversely, there may be downside pressure if there is a severe and sustained deterioration in asset quality and earnings, or a large decline in liquidity buffers.
SUPPORT RATING AND SUPPORT RATING FLOOR (SRF)
Fitch may re-assess the SRFs on BBL, KBank and SCB if the government's ability to provide support to these banks diminishes. This may happen if the agency downgrades Thailand's Long-Term Foreign-Currency IDR. Changes in Thailand's Long-Term Foreign-Currency IDR would trigger changes in a similar direction in KTB's SRF.
The SRFs on all four banks could change if Fitch changes its view on the propensity of the state to provide support to these systemically important banks. However, Fitch does not expect such changes over the medium term.
Fitch may change BAY's Support Rating of '1' if MUFG Bank reduces its propensity to support BAY. This can happen if the group significantly lowers its shareholding in BAY or reverses recent integration measures. However, Fitch deems this unlikely in the short term. Changes in MUFG Bank's Long-Term IDR may also affect BAY's Support Rating.
SUBORDINATED DEBT
The subordinated debt instruments of all five banks would be affected by changes in the anchor ratings for the respective instruments, namely their Long-Term Foreign-Currency IDRs or National Long-Term Ratings.
The rating actions are as follows:
BBL
Long-Term Foreign-Currency IDR affirmed at 'BBB+'; Outlook Stable
Short-Term Foreign-Currency IDR affirmed at 'F2'
Viability Rating affirmed at 'bbb+'
Support Rating affirmed at '2'
Support Rating Floor affirmed at 'BBB-'
National Long-Term Rating affirmed at 'AA+(tha)'; Outlook Stable
National Short-Term Rating affirmed at 'F1+(tha)'
Senior unsecured USD3 billion global medium-term note programme affirmed at 'BBB+'
Long-term foreign-currency senior unsecured notes affirmed at 'BBB+'
Long-term foreign-currency subordinated debt affirmed at 'BBB'
KBank
Long-Term Foreign-Currency IDR affirmed at 'BBB+'; Outlook Stable
Short-Term Foreign-Currency IDR affirmed at 'F2'
Viability Rating affirmed at 'bbb+'
Support Rating affirmed at '2'
Support Rating Floor affirmed at 'BBB-'
National Long-Term Rating affirmed at 'AA+(tha)'; Outlook Stable
National Short-Term Rating affirmed at 'F1+(tha)'
Senior unsecured USD2.5 billion Euro medium-term note programme affirmed at 'BBB+'
Long-term foreign-currency senior unsecured debt affirmed at 'BBB+'
Basel III Tier 2 subordinated debt affirmed at 'AA(tha)'
SCB
Long-Term Foreign-Currency IDR affirmed at 'BBB+'; Outlook Stable
Short-Term Foreign-Currency IDR affirmed at 'F2'
Viability Rating affirmed at 'bbb+'
Support Rating affirmed at '2'
Support Rating Floor affirmed at 'BBB-'
National Long-Term Rating affirmed at 'AA+(tha)'; Outlook Stable
National Short-Term Rating affirmed at 'F1+(tha)'
Senior unsecured USD3.5 billion medium-term note programme affirmed at 'BBB+'
Long-term foreign-currency senior unsecured debt affirmed at 'BBB+'
National rating on short-term senior unsecured debt programme affirmed at 'F1+(tha)'
Legacy Tier 2 subordinated debt affirmed at 'AA(tha)'
KTB
Long-Term Foreign-Currency IDR affirmed at 'BBB'; Outlook Stable
Short-Term Foreign-Currency IDR upgraded to 'F2' from 'F3'
Viability Rating affirmed at 'bbb-'
Support Rating affirmed at '2'
Support Rating Floor affirmed at 'BBB'
National Long-Term Rating affirmed at 'AA+(tha)'; Outlook Stable
National Short-Term Rating affirmed at 'F1+(tha)'
Senior unsecured USD2.5 billion Euro medium-term note programme affirmed at 'BBB'
Senior unsecured notes affirmed at 'BBB'
Basel III Tier 2 subordinated US dollar debentures affirmed at 'BBB-'
National rating on THB20 billion short-term debenture programme affirmed at 'F1+(tha)'
Basel III Tier 2 subordinated debt affirmed at 'AA(tha)'
BAY
Long-Term Foreign-Currency IDR affirmed at 'A-'; Outlook Stable
Short-Term Foreign-Currency IDR affirmed at 'F2'
Viability Rating affirmed at 'bbb'
Support Rating affirmed at '1'
National Long-Term Rating affirmed at 'AAA(tha)'; Outlook Stable
National Short-Term Rating affirmed at 'F1+(tha)'
Long-term senior unsecured debt affirmed at 'AAA(tha)'
Basel III Tier 2 subordinated debt affirmed at 'AA+(tha)'
Kasikorn Securities
National Long-Term Rating affirmed at 'AA(tha)'; Outlook Stable
National Short-Term Rating affirmed at 'F1+(tha)'
SCB Securities
National Long-Term Rating affirmed at 'AA(tha)'; Outlook Stable
National Short-Term Rating affirmed at 'F1+(tha)'
Contact: ติดต่อ
Primary Analysts
Ambreesh Srivastava (อันดับเครดิตสากลของ BBL, KBank, SCB, BAY และ KTB)
Senior Director
+65 6796 7218
Fitch Ratings Singapore Pte Ltd
One Raffles Quay, South Tower #22-11
Singapore 048583
พาสันติ์ สิงหะ, CFA (อันดับเครดิตภายในประเทศของ BAY และ SCBS)
Senior Director
+662 108 0151
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ชั้น 17 อาคารปาร์คเวนเชอร์
57 ถนน วิทยุ ลุมพินี
ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
พชร ศรายุทธ (อันดับเครดิตภายในประเทศของ SCB และ KS)
Director
+662 108 0152
จินดารัตน์ สิริสิทธิโชติ (อันดับเครดิตภายในประเทศของ BBL)
Associate Director
+662 108 0153
จักรินทร์ เจียรดิฐ (อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB)
Associate Director
+662 108 0163
ธนสิทธิ์ อุตมเพทาย (อันดับเครดิตภายในประเทศของ KBank)
Associate Director
+662 108 0154
Secondary Analysts
พาสันติ์ สิงหะ, CFA (อันดับเครดิตสากลของ BAY)
Senior Director
+662 108 0151
พชร ศรายุทธ (อันดับเครดิตสากลของ SCB และอันดับเครดิตภายในประเทศของ BBL KBank และ KTB)
Director
+662 108 0152
จินดารัตน์ สิริสิทธิโชติ (อันดับเครดิตสากลของ BBL และอันดับเครดิตภายในประเทศของ SCB และ BAY)
Associate Director
+662 108 0153
จักรินทร์ เจียรดิฐ (อันดับเครดิตสากลของ KTB)
Associate Director
+662 108 0163
ธนสิทธิ์ อุตมเพทาย (อันดับเครดิตสากลของ KBank และอันดับเครดิตภายในประเทศของ SCBS และ KS)
Associate Director
+662 108 0154
Committee Chairperson
Jonathan Cornish
Managing Director
+852 2263 9901