WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TMB PitiCEOทีเอ็มบี ขยายฐานเงินฝากและสินเชื่อต่อเนื่อง และมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ เติบโต 7% พร้อมคงสัดส่วนสำรองฯ ต่อ NPL ในระดับแข็งแกร่งที่ 142% ขณะที่สัดส่วน NPL ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 2.40%

    ทีเอ็มบี หรือธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2561 ซึ่งยังคงเติบโตต่อเนื่องทั้งด้านเงินฝากและสินเชื่อ ควบคู่ไปกับการบริหารคุณภาพสินทรัพย์อย่างรอบคอบ โดยทีเอ็มบีมีกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองฯ จำนวน 5,109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และดำเนินการตั้งสำรองฯ เป็นจำนวน 2,305 ล้านบาท เพื่อคงอัตราส่วนสำรองฯ ต่อ NPL ให้อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 142% ขณะที่สัดส่วน NPL ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 2.40% ทั้งนี้ หลังหักสำรองฯ และภาษี ธนาคารฯ มีกำไรสุทธิ 2,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

    นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “ทีเอ็มบียังคงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการ (Need Based) และไม่ยุ่งยากซับซ้อน (Simple & Easy) เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ในแบบที่ต้องการ พร้อมกับการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างรอบคอบ”

    โดยในไตรมาส 1 ปี 2561 ธนาคารสามารถขยายฐานเงินฝากเพิ่มได้ 2% มาอยู่ที่ 6.23 แสนล้านบาท โดยมาจากฐานเงินฝากลูกค้ารายย่อยเป็นสำคัญ ทั้งในส่วนของเงินฝาก “ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี” (TMB All Free) ที่ให้ประโยชน์ด้านการทำธุรกรรม เติบโต 4% และเงินฝาก “ทีเอ็มบี โน-ฟิกซ์” (TMB No-Fixed) ที่ให้ประโยชน์ด้านการออม เพิ่มขึ้น 5% ขณะเดียวกันสินเชื่อคุณภาพเติบโต 0.4% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 6.28 แสนล้านบาท ซึ่งหลักๆ มาจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยเช่นกัน โดยเฉพาะจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยซึ่งเติบโตได้อย่างต่อเนื่องที่ 4% ในไตรมาสหนึ่ง อันเป็นผลจากการที่ธนาคารปรับปรุงกระบวนการนำเสนอสินเชื่อให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในส่วนของสินเชื่อลูกค้าธุรกิจ พบว่าสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ยังคงเติบโตได้ดีที่ 2% ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีขนาดเล็กให้ภาพการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยขยายตัวได้ 1% จากไตรมาสก่อนหน้า

     สำหรับ ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย (Net Interest Margin) อยู่ที่ 3.02% เทียบกับ 3.21% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการขยายพอร์ตสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 2% มาอยู่ที่ 6,030 ล้านบาท อย่างไรก็ดี รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 22% มาอยู่ที่ 3,353 ล้านบาท ปัจจัยหนุนหลักคือรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่เติบโตได้เป็นอย่างดี หรือเพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับไตรมาสหนึ่งของปีที่แล้ว โดยเฉพาะจากรายได้ค่าธรรมเนียมกลุ่มลูกค้ารายย่อยจากแบงก์แอสชัวรันส์และกองทุนรวมซึ่งเติบโตได้ 88% และ 59% ตามลำดับ การเติบโตอย่างต่อเนื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ รวมทั้งการพัฒนาการให้บริการในทุกๆ ช่องทางของทีเอ็มบี

     ทำให้โดยรวม ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานทั้งสิ้น 9,383 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 4,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% ทำให้ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ อยู่ที่ 5,109 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

    ธนาคารยังคงดำเนินธุรกิจและบริหารคุณภาพสินทรัพย์ด้วยความรอบคอบ และดำเนินการตั้งสำรองฯ เป็นจำนวน 2,305 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2561 หรือเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า เพื่อคงอัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ให้อยู่ในระดับสูงที่ 142% พร้อมกับการบริหารสัดส่วน NPL หรือ NPL ratio ให้อยู่ในระดับต่ำที่ 2.40% ซึ่งหลังหักสำรองฯ และภาษี ธนาคารมีกำไรสุทธิเป็นจำนวน 2,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อนหน้า

     ด้านสถานะเงินกองทุน ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยอัตราส่วนเงินกองทุนรวม (CAR) และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) ภายใต้เกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 17.5% และ 13.3% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 10.375% และ 7.875% ตามลำดับ

      นายปิติ สรุปว่า “ผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงภายใต้แนวทาง “Need-Based Bank” กับ “Simple & Easy” ได้เป็นอย่างดี ซึ่งที่ทีเอ็มบี เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพี่อเดินหน้าสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับลูกค้า”

      “สำหรับ ก้าวต่อไป ทีเอ็มบีจะต่อยอดความสำเร็จจากการเป็นธนาคารที่บุกเบิกการยกเลิกค่าธรรมเนียมมาตั้งแต่ 9 ปีที่แล้ว โดยเรามุ่งมั่นที่จะเป็นธนาคารซึ่งให้ลูกค้าได้มากกว่า (Get MORE with TMB) เมื่อใช้ทีเอ็มบีเป็นธนาคารหลัก (Main Bank) เป็นประจำ ทั้งในด้านสิทธิประโยชน์ที่มากกว่า (More Benefits) ความคล่องตัวและเวลาเพื่อใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบหรือเพื่อทำสิ่งอื่นที่สำคัญกว่าในชีวิตและธุรกิจ โดยไม่ต้องกังวลกับการจัดการด้านการเงินการธนาคาร (More Time) และมีโอกาสที่ดีกว่าทั้งในชีวิตและธุรกิจ (More Possibilities) โดยทีเอ็มบีมุ่งหวังที่จะเป็นธนาคารที่ลูกค้าได้ใช้และชื่นชอบผลิตภัณฑ์และบริการของเราจนต้องบอกต่อ (The Most Advocated Bank in Thailand)”  

 

 

TMB expanded deposit and loan further and reports 7% growth of pre-provision operating profit

•          Coverage ratio remains strong at 142% while NPL ratio stays at low level at 2.40%.

    TMB Bank Public Company Limited today announced its financial results for the first quarter of 2018. The results showed positive momentum in both deposit and loan growths as well as its prudent management of asset quality. TMB generated THB5,109 million of pre-provision operating profit (PPOP) which represented a 7% growth from the same period last year. The Bank set aside THB2,305 million for provision to maintain coverage ratio at a high level of 142% while NPL ratio stayed relatively low at 2.40%. After provision and tax, TMB reported net profit of THB2,280 million, a 9% increase from the same period last year.

     Mr. Piti Tantakasem, CEO of TMB Bank, said “TMB has always focused on customer centricity, meaning that the Bank aims to deliver “need-based” and “simple and easy” products and services for customers to make the most of their lives. Prudent management of asset quality has also one of the Bank’s priorities.”

      In 1Q18, TMB expanded deposit base further by 2% to THB623 billion with retail deposit as a major driver. Especially, “TMB All Free”, transactional deposit, grew by 4% and TMB No-Fixed, non-transactional deposit, increased by 5%. Meanwhile, performing loan grew by 0.4% to THB628 billion, also driven mainly by retail segment as mortgage continued to grow by 4% in the first quarter. A positive momentum in mortgage is a result of process improvement and more efficient turnaround time. On the commercial lending side, large corporate lending registered 2% growth and Small SME continued its recovery momentum with 1% growth from the previous quarter.

     Net Interest Margin (NIM) was 3.02%, compared to 3.21% in the same quarter last year. The decline in NIM was due to a shift in loan mix toward mortgage. Net Interest Income (NII), therefore, dropped by 2% to THB6,030 million. Non-Interest Income (Non-NII), on the other hand, performed well and rose by 22% to THB3,353 million. Key driver was a 35% growth in net fee and service income, especially fees from bancassurance and mutual fund which grow robustly by 88% and 59%, respectively. Such an improvement reflected that TMB has been on the right direction in delivering products and services that meet customers’ need as well as improving services across the omni-channels.

     Overall, TMB generated total operating income of THB9,383 million, a 5% increase, while operating expenses was THB4,265 million, an increase of 4%. Pre-provision operating profit, therefore, was reported at THB5,109 million, a 7% growth from the same period last year.

     TMB has continued to emphasize on prudent management in business operation and asset quality. The Bank set aside THB2,305 million for provision the 1Q18 which increased by 3% from the same quarter last year. As a result, coverage ratio was maintained at high level of 142% while NPL ratio was kept at 2.40%, a relatively low level. After provision and tax, TMB reported net profit of THB2,280 million, a 9% increase from last year.

     Capital adequacy remained strong. Capital adequacy ratio (CAR) and Tier 1 ratio under Basel III framework stayed at 17.5% and 13.3%, which are higher than the Bank of Thailand’s minimum requirement of CAR at 10.375% and Tier 1 at 7.875%, respectively.

      Mr.Piti concluded “a continued improvement in operating performance reflected the results of our focus in delivering products and service that meet needs of the customers under the concept of “Need-based Bank” and “Simple & Easy”. At TMB, we never stop challenging ourselves to improve customer experience.”

     “Going forward, TMB will strengthen the success from being the first bank who sparked the “no fee” idea 9 years ago and to the bank with “get more” idea. TMB is currently set to make customers “Get MORE with TMB” when using TMB as a main bank on a regular basis. With TMB’s products and services, customers can expect to have “More Benefits”, “More Time” and “More Possibilities”. TMB a confident that customers will definitely enjoy our products and services and advocated TMB.” 

 

Click Donate Support Web BIT FUN728x90

yobit 560 60

8

f1 728x90 ru

468x60 bit

468x60 DOG

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!