- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 11 January 2018 16:43
- Hits: 9309
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“แกว่งไม่หลุด 1775 เลือกซื้อ/ถือต่อ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ---
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ปัจจัยภายนอก ดัชนีแกว่งตัวจากแรงขายทำกำไรหลังปรับขึ้นมามาก แต่ยังเป็นการพักฐานเล็กๆ เพราะมีปัจจัยเรื่องการเก็งกำไรผลประกอบการช่วยหนุนอยู่ จับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะรายงานในปลายสัปดาห์นี้ ส่วนปัจจัยภายใน ก.แรงงานจะเสนอการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้ครม.พิจารณาภายในม.ค.61 นี้ และที่ประชุมกรรมการฯจะสรุป 17 ม.ค. ทาง DBS คาดอัตราค่าแรงจะเพิ่มราว 3-5%...ซึ่งกระทบไม่มาก เพราะในช่วงเศรษฐกิจดี จะสามารถส่งผ่านต้นทุนแรงงานที่เพิ่มบางส่วนไปยังผู้บริโภคได้ และยอดขายที่เพิ่มจากกำลังซื้อที่ดีขึ้นก็ทำให้ภาคธุรกิจ มี Economy of scale ส่วนตลาดหุ้น มีแกว่งแต่ยังไม่ลงแรง เพราะมีปัจจัยหนุนเรื่องผลประกอบการ 4Q60 & ทั้งปี 60 และซื้อดักหุ้นปันผลสูง
หุ้นเด่นปันผลดี ได้แก่ KKP (คาด Yield 2H60 ไว้ 4.3%, TP 88 บาท), SENA (คาด Yield 2H60 ไว้ 4.5%, TP 4.75 บาท), LALIN (คาด Yield 2H60 ไว้ 2.6%, TP 6.15 บาท), LH (คาด Yield 2H60 ไว้ 3.3%, TP 11.30 บาท), TMT (คาด Yield ปี 60 ไว้ 6%, TP 17.70 บาท)
บริษัทที่ไปทำ Conference กับ DBSV ในงาน POA ที่สิงคโปร์ (ต่อจากวานนี้) ได้แก่ KKP ธุรกิจหลักเป็นธนาคารและตลาดทุน (รายได้ 80% มาจากธนาคาร) มีแผนพัฒนาระบบดิจิตอลแบงกิ้งและทีมขายผลิตภัณฑ์การเงิน เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าในโลกยุคปัจจุบันและอนาคต ด้านตลาดทุนก็มีดีลในมือจำนวนมาก ธนาคารจ่ายปันผลสูง คาดการณ์ Yield ปี 60-61 ไว้ราว 7% ต่อปี, AEONTS ดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง ปัจจุบันมี Market share ในสินเชื่อส่วนบุคคล 18% และในบัตรเครดิต 12% การฟื้นตัวของการบริโภคหนุนการเติบโตธุรกิจในปี 61 เริ่มทำธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์มือสองตั้งแต่ธ.ค.60 และจับมือกับ KBANK ทำ App บนมือถือ ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตในปี 61, TU ราคาวัตถุดิบทูน่าลดลง 22% จาก Peak ที่ 2,300 US$/ton หลังจบ FAD ban และการเก็งกำไร ธุรกิจ Red Lobster ทำกำไรได้ดีขึ้น จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ (Fish oil) ใน 2Q61 ซึ่งจะหนุนกำไรในระยะยาว ความเสี่ยง คือ สภาพอากาศแปรปรวน ทำให้ราคาวัตถุดิบอาจกลับมาสูงอีก
กลยุทธ์ทางพื้นฐาน : แนะเลือกซื้อเป็นรายบริษัท โดยธีมเด่นหุ้นดีจาก DBS รอบนี้เลือก 1. Investment recovery play (หุ้นเด่น AMATA ราคาพื้นฐาน 30 บาท), 2. Dividend play (หุ้นเด่น KKP ราคาพื้นฐาน 88 บาท) และ 3. Growth play (หุ้นเด่น IVL ราคาพื้นฐาน 65 บาท)
กลยุทธ์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ ควรระวังการแกว่ง ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกหุ้นและตลาด แนวต้าน SET ให้ไว้ที่ 1800, 1810-1820 ถ้าหลุด 1775 ควร Stop loss แนวรับ 1740-1730, 1700-1680 จุด หุ้นที่มีโอกาสทำ New high ได้แก่ TCAP, ASAP, AIT, TU, TIPCO, BGRIM, SCP ส่วนหุ้นที่หาจังหวะ Take profit เป็น BANPU, PSL, VNT, JKN หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ INTUCH, CKP, ESSO, SEAFCO, IVL, IRPC, TCMC, CK, GLOBAL
ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ : จับตาตัวเลขเงินเฟ้อที่จะออกมาปลายสัปดาห์นี้
# จับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยจะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือน ธ.ค.ในวันพรุ่งนี้ และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนธ.ค.ในวันศุกร์
•/+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ ยุโรป อ่อนลงเล็กน้อย ส่วนดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนทำ New high
# ดัชนี DJIA ปิดที่ 25,369.13 จุด ลดลง 16.67 จุด หรือ -0.07% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,748.23 จุด ลดลง 3.06 จุด หรือ -0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,153.57 จุด ลดลง 10.01 จุด หรือ -0.14%...นักลงทุนกังวลว่าจีนอาจยุติการซื้อพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐ และได้รับแรงกดดันข่าวว่าทรัมป์อาจประกาศนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ในเร็วๆนี้
# ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิด -0.4% ปิดที่ 398.60 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิด -19.26 จุด หรือ -0.35% ดัชนี DAX ปิด -104.25 จุด หรือ -0.78% เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร
# ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (10 ม.ค.) ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 17.49 จุด หรือ +0.23% ปิดที่ 7,748.51 จุด โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารรายใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาปรับขึ้นต่อ 0.6%-1.0%
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ +1% ปิดที่ 63.57 ดอลลาร์/บาร์เรล, BRENT ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ +0.6% ปิดที่ 69.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ภาวะตลาดทองคำ : ราคาขยับขึ้นเล็กน้อย
• สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 5.6 ดอลลาร์ หรือ 0.43% ปิดที่ระดับ 1,319.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
• กระทรวงอุตสาหกรรมประเมินดัชนี MPI ปี 61 ขยายตัว 1.5-2.5%
# กระทรวงอุตสาหกรรมคาดการณ์ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Manufacturing Production Index : MPI) ในปี 2561 จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.5%-2.5% สอดคล้องกับที่คสช.คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 61 จะขยายตัว 3.4-4.6% จากการส่งออกที่เติบโตดีต่อเนื่อง อุตสาหกรรมที่คาดว่าจะมีการผลิตเติบโตดี คือ อาหาร (โต 3-4%), ไฟฟ้า (โต 3%), อิเลคทรอนิกส์ โดยเฉพาะ IC (โต 7% ) รถยนต์ (โต 2-3%)
• สำนักงบประมาณเล็งเสนอกรอบวงเงินงบประมาณปี 62 ที่ 3 ล้านล้านบาท ขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท
# ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเปิดเผยภายหลังการประชุมร่วม 4 หน่วยงาน เพื่อกำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 เบื้องต้นกำหนดกรอบงบประมาณรายจ่ายไว้ที่ 3 ล้านล้านบาท ตั้งเป้าการจัดเก็บรายได้ไว้ที่ 2.55 ล้านล้านบาท และตั้งเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณที่ 4.5 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 21% ของงบลงทุนกว่า 6 แสนล้านบาท ภายใต้การคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่ 4.2% ในปี 2562...คาดว่าจะเสนอเข้าครม.สัปดาห์หน้า และให้สนช.พิจารณาต้นมิ.ย.61
# โครงการลงทุนสำคัญในปี 62 คือ โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC), เศรษฐกิจฐานราก, โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศในด้านการบริหารจัดการน้ำ ระบบคมนาคมขนส่งทางบก
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO4411