- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 10 January 2018 16:54
- Hits: 2655
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
SET INDEX
1795.21 +2.40(+0.13) // Vol. 75,384
มีแนวโน้มพักตัว
กรอบการเคลื่อนไหว 1780-1798
ดัชนีวานนี้มีทิศทางอ่อนตัว หลังจากที่ไม่สามารถทำ New High ได้ต่อ และไม่สามารถยืน 1800 จุด พร้อมกับดึง High-Low ต่ำกว่าวันก่อนหน้า ถึงแม้จะดีดกลับขึ้นมายืน 1795 จุด แต่ท่ามกลางสัญญาณเตือนในเชิงลบยังไม่ถูกลบล้าง ทำให้ดัชนียังคงมีความเสี่ยงต่อการพักตัวลงต่อ
แนวรับ 1780-1786
แนวต้าน 1800-1806
SET INDEX
1795.21 +2.40(+0.13) // Vol. 75,384
มีแนวโน้มพักตัว
กรอบการเคลื่อนไหว 1780-1798
ดัชนีวานนี้มีทิศทางอ่อนตัว หลังจากที่ไม่สามารถทำ New High ได้ต่อ และไม่สามารถยืน 1800 จุด พร้อมกับดึง High-Low ต่ำกว่าวันก่อนหน้า ถึงแม้จะดีดกลับขึ้นมายืน 1795 จุด แต่ท่ามกลางสัญญาณเตือนในเชิงลบยังไม่ถูกลบล้าง ทำให้ดัชนียังคงมีความเสี่ยงต่อการพักตัวลงต่อ
แนวรับ 1780-1786
แนวต้าน 1800-1806
Technical Analyst : พรรณนภา เขมะสุรัตน์ // เลขทะเบียน 060110 // Tel. : 02-648-1124 // phannapa.k@ktbst .co.th
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
“ปรับฐานต่อ ฝรั่งยังขายหุ้น”
ทิศทางตลาดหุ้นไทย:
เรามองตลาดอยู่ในช่วงปรับฐาน แต่ยังมองว่าการปรับตัวลงมาของดัชนีจะไม่ลงมาลึกมาก ให้แนวรับไว้ที่ระดับ 1,780 จุด .... ภาพต่างประเทศ ตัวเลขทางเศรษฐกิจยุโรปออกมาดี, ราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องทำนิวไฮในรอบกว่า 2 ปี .... ปัจจัยในประเทศ ครม.วานนี้อนุมติมาตรการแก้จนเฟส 2 โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 35,679 ล้านบาท และ จำนวนผู้โดยสารช่วงปีใหม่ปรับตัวสูงขึ้น 6.88% ที่ประมาณ 2.95 ล้านคน
กลยุทธ์การลงทุน:
ภาพระยะสั้นเรามองว่าตลาดกำลังเข้าสู่ในช่วงปรับฐาน ซึ่งเรามองการปรับฐานในครั้งนี้จะไม่ลงไปลึกมากโดยมีแนวรับที่ระดับ 1,780 จุด อย่างไรก็ตามในภาพระยะกลาง-ยาว เรามองว่าตลาดจะสามารถปรับตัวขึ้น ทะลุ 1,800 จุดได้ จึงแนะนำเป็น “ถือ” หลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มที่มีแรงขายเข้ามาอย่างกลุ่มท่องเที่ยว (ภายในประเทศ) - ค้าปลีก โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่ติด most active และตลาดยังให้ความสนใจต่อเนื่อง ได้แก่ PTTEP, BANPU, MINT
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์: WICE
หุ้นแนะนำทางเทคนิค: MCS, HMPRO, VCOM
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
หุ้น Active ที่น่าสนใจ
(+) PTTEP:
เราทำการ switch จาก PTTGC มายัง PTTEP เนื่องจากราคาหุ้น PTTGC ปรับตัวสูงขึ้นมามากในช่วงวานนี้ โดยราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับสูงจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก และจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน เป็นบวกโดยตรงต่อ PTTEP
ภาพระยะสั้นเรามองว่าตลาดกำลังเข้าสู่ในช่วงปรับฐาน ซึ่งเรามองการปรับฐานในครั้งนี้จะไม่ลงไปลึกมากโดยมีแนวรับที่ระดับ 1,780 จุด อย่างไรก็ตามในภาพระยะกลาง-ยาว เรามองว่าตลาดจะสามารถปรับตัวขึ้น ทะลุ 1,800 จุดได้ จึงแนะนำเป็น “ถือ” หลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มที่มีแรงขายเข้ามาอย่างกลุ่มท่องเที่ยว (ภายในประเทศ) - ค้าปลีก โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่ติด most active และตลาดยังให้ความสนใจต่อเนื่อง ได้แก่ PTTEP, BANPU, MINT
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์: WICE
หุ้นแนะนำทางเทคนิค: MCS, HMPRO, VCOM
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
หุ้น Active ที่น่าสนใจ
(+) PTTEP:
เราทำการ switch จาก PTTGC มายัง PTTEP เนื่องจากราคาหุ้น PTTGC ปรับตัวสูงขึ้นมามากในช่วงวานนี้ โดยราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับสูงจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก และจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน เป็นบวกโดยตรงต่อ PTTEP
(+) BANPU:
เรามองว่า BANPU จะสามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้ในวันนี้ โดย BANPU ได้รับแรงหนุนจากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูงราว 107 เหรียญ/ตัน ปรับตัวสูงขึ้นมาถึง +6% จากปลายปี 2017
(+) MINT:
MINT มีความน่าสนใจจากปัจจัยเฉพาะตัว จากการไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งตัวเลขทางเศรษฐกิจในประเทศแถบยุโรปมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งตัวเลขการว่างงานในยุโรปที่ประกาศในวานนี้ต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี
(+) WICE:
จากงาน Analyst Meeting ของ WICE เมื่อวานนี้ (9) บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ในเรื่องของการซื้อกิจการบริษัท Universal Worldwide Transportation Limited (UWT) ซึ่งทำธุรกิจรับจ้างขนสินค้า เหมือนไหวแต่มีฐานรายได้อยู่ในฮ่องกงและจีน ด้วยเงิน 115 ลบ. (ถือหุ้น 80%) ในแง่ของกำไรที่จะรับรู้จากบริษัทนี้ อาจเพียง 6-7% ของกำไรปัจจุบันของ WICE แต่แผนการซื้อกิจการอื่นที่ยังอยู่ใน pipeline เรามองเป็นบวกต่ออนาคตของ WICE ราคาที่เหมาะสมล่าสุดของเรา 5.30 แนะนำ “ซื้อ” โดยเรากำลังอยู่ในระหว่างการปรับเพิ่มราคาที่เหมาะสมของหุ้นตัวนี้
หุ้นมีประเด็น
(0) กลุ่มสายการบิน: (น้ำหนักเท่ากับตลาด)
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จะมีการทบทวนกรอบเพดานค่าโดยสารสายการบินในประเทศ โดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำ (low cost airline) โดยจะกำหนดกรอบเพดานค่าโดยสารสายการบินต้นทุนต่ำในอัตราใหม่ที่ไม่เกิน 9.40 บาท/กม. ลดลงจากเดิมที่ไม่เกิน 13 บาท/ก.ม. โดยหากที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ตามที่ กพท.เสนอ จะมีการออกเป็นประกาศกระทรวงคมนาคมเพื่อบังคับต่อไป
เรามองว่าประกาศดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ เนื่องจากปัจจุบันสายการบินต้นทุนต่ำส่วนใหญ่ขายบัตรโดยสารไม่เต็มเพดานอยู่แล้ว อยู่ที่ประมาณ 5 บาท/ก.ม. เท่านั้น ส่วนที่เก็บเต็มเพดาน หรือใกล้เคียงเพดาน มักจะเป็นการขายบัตรโดยสารที่จองแบบกระชั้นชิดใกล้เวลาเดินทาง ไม่ได้จองล่วงหน้า ซึ่งมีสัดส่วนไม่มากทั้งนี้ ในกลุ่มสายการบิน AAV เราแนะนำ ถือ เป้าหมาย 6.60 บาท และ BA เราแนะนำ ขาย เป้าหมาย 17.70 บาท
เรามองว่า BANPU จะสามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้ในวันนี้ โดย BANPU ได้รับแรงหนุนจากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูงราว 107 เหรียญ/ตัน ปรับตัวสูงขึ้นมาถึง +6% จากปลายปี 2017
(+) MINT:
MINT มีความน่าสนใจจากปัจจัยเฉพาะตัว จากการไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งตัวเลขทางเศรษฐกิจในประเทศแถบยุโรปมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งตัวเลขการว่างงานในยุโรปที่ประกาศในวานนี้ต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี
(+) WICE:
จากงาน Analyst Meeting ของ WICE เมื่อวานนี้ (9) บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ในเรื่องของการซื้อกิจการบริษัท Universal Worldwide Transportation Limited (UWT) ซึ่งทำธุรกิจรับจ้างขนสินค้า เหมือนไหวแต่มีฐานรายได้อยู่ในฮ่องกงและจีน ด้วยเงิน 115 ลบ. (ถือหุ้น 80%) ในแง่ของกำไรที่จะรับรู้จากบริษัทนี้ อาจเพียง 6-7% ของกำไรปัจจุบันของ WICE แต่แผนการซื้อกิจการอื่นที่ยังอยู่ใน pipeline เรามองเป็นบวกต่ออนาคตของ WICE ราคาที่เหมาะสมล่าสุดของเรา 5.30 แนะนำ “ซื้อ” โดยเรากำลังอยู่ในระหว่างการปรับเพิ่มราคาที่เหมาะสมของหุ้นตัวนี้
หุ้นมีประเด็น
(0) กลุ่มสายการบิน: (น้ำหนักเท่ากับตลาด)
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จะมีการทบทวนกรอบเพดานค่าโดยสารสายการบินในประเทศ โดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำ (low cost airline) โดยจะกำหนดกรอบเพดานค่าโดยสารสายการบินต้นทุนต่ำในอัตราใหม่ที่ไม่เกิน 9.40 บาท/กม. ลดลงจากเดิมที่ไม่เกิน 13 บาท/ก.ม. โดยหากที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ตามที่ กพท.เสนอ จะมีการออกเป็นประกาศกระทรวงคมนาคมเพื่อบังคับต่อไป
เรามองว่าประกาศดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ เนื่องจากปัจจุบันสายการบินต้นทุนต่ำส่วนใหญ่ขายบัตรโดยสารไม่เต็มเพดานอยู่แล้ว อยู่ที่ประมาณ 5 บาท/ก.ม. เท่านั้น ส่วนที่เก็บเต็มเพดาน หรือใกล้เคียงเพดาน มักจะเป็นการขายบัตรโดยสารที่จองแบบกระชั้นชิดใกล้เวลาเดินทาง ไม่ได้จองล่วงหน้า ซึ่งมีสัดส่วนไม่มากทั้งนี้ ในกลุ่มสายการบิน AAV เราแนะนำ ถือ เป้าหมาย 6.60 บาท และ BA เราแนะนำ ขาย เป้าหมาย 17.70 บาท
(0) AOT: (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 70.00 บาท)
AOT เปิดเผยช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา 28 ธ.ค.2017 - 3 ม.ค.2018 ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT มีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการรวมประมาณ 2.95 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.9% และจำนวนเที่ยวบินประมาณ 17,200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ของปีก่อน
การเติบโตของจำนวนผู้โดยสารในช่วงเทศกาลปีใหม่ยังเป็นไปตามที่เราคาด ส่งผลให้เราคาดว่าจำนวนผู้โดยสารรวมในงวด 1Q18 (ต.ค.-ธ.ค.2017) เติบโตได้โดดเด่นมากกว่า 10% จากปีก่อน เรายังมีมุมมองเป็นบวกต่อ AOT ในการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารระยะยาว จากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี และแผนขยายสนามบินต่อเนื่อง ขณะที่ระยะสั้นยังมีปัจจัยหนุนจากการเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่สนามบินสุวรรณภูมิที่คาดว่าจะเกิดขึ้นราวเดือน ก.พ.-มี.ค.2018 เรายังแนะนำ ซื้อ โดยอยู่ระหว่างปรับราคาเป้าหมายขึ้นจากเดิมที่ 70 บาท
AOT เปิดเผยช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา 28 ธ.ค.2017 - 3 ม.ค.2018 ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT มีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการรวมประมาณ 2.95 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.9% และจำนวนเที่ยวบินประมาณ 17,200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ของปีก่อน
การเติบโตของจำนวนผู้โดยสารในช่วงเทศกาลปีใหม่ยังเป็นไปตามที่เราคาด ส่งผลให้เราคาดว่าจำนวนผู้โดยสารรวมในงวด 1Q18 (ต.ค.-ธ.ค.2017) เติบโตได้โดดเด่นมากกว่า 10% จากปีก่อน เรายังมีมุมมองเป็นบวกต่อ AOT ในการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารระยะยาว จากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดี และแผนขยายสนามบินต่อเนื่อง ขณะที่ระยะสั้นยังมีปัจจัยหนุนจากการเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่สนามบินสุวรรณภูมิที่คาดว่าจะเกิดขึ้นราวเดือน ก.พ.-มี.ค.2018 เรายังแนะนำ ซื้อ โดยอยู่ระหว่างปรับราคาเป้าหมายขึ้นจากเดิมที่ 70 บาท
(0) กลุ่มธนาคาร: (น้ำหนักเท่ากับตลาด)
ธปท.ได้ร่างกรอบการปล่อยกู้แบบ Peer to Peer Lending (P2P) หรือ การกู้ยืมระหว่างบุคคล ผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่ผ่านตัวกลางอย่างธนาคารพาณิชย์ ให้กระทรวงการคลังพิจารณาถึงหลักการและความเป็นไปได้ คาดน่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ เรามองเป็นกลางต่อกลุ่มสถาบันทางการเงิน แม้จะก่อให้เกิดแรงกดดันในการปล่อยสินเชื่อในอนาคต
เรามองว่าธนาคารจะมีการปรับตัวในการปล่อยสินเชื่อทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น โดย ณ ปัจจจุบันธนาคารต่างๆได้มีการลงทุนในธุรกรรมการออนไลน์มากขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เช่น TMB ได้มีการเปิดตัว Digital Lending ที่จะพิจารณาความเสี่ยงของลูกค้า และปล่อยสินเชื่อผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยเรายังคงแนะนำ ซื้อ TMB ที่ราคา 3.20 บาท (ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 11 - 13 ม.ค. 2561)
(+) JKN:
ทีวีดิจิตอลแห่ปรับผังรับปีใหม่ ชูคอนเทนต์หนังดี ซีรีส์ดังหวังดันเรตติ้งพุ่ง ซื้อลิขสิทธิ์ เพิ่มเร่งสปีดหนีคู่แข่ง ขณะที่ ซีรีส์อินเดียแรงเว่อร์ (Source – ฐานเศรษฐกิจ) เช่น ช่อง 8 (RS) , ช่อง 3 (BEC), Workpoint TV (WORK) มีเพิ่มซีรีย์อินเดียเข้ามาในผังรายการ
เรามองว่าการปรับผังรับปีใหม่ของกลุ่มทีวีดิจิตอล โดยเร่งซื้อลิขสิทธิ์ซีรีย์ต่างประเทศมาออกอากาศในช่องมากขึ้น โดยเฉพาะซีรีย์อินเดียเป็นที่นิยม และช่วยเพิ่มเรตติ้งของช่องให้สูงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลในข้างต้นเป็นลูกค้าของทาง JKN เช่นช่อง8 หลังประสบความสำเร็จในการฉาย หนุมานสงครามมหาเทพ จึงเตรียมส่งซีรีย์อินเดียอีก 4 เรื่องเข้าฉาย ส่งผลให้ Demandในซีรีย์อินเดียเพิ่มขึ้น เป็นประโยชน์ต่อหุ้น JKN ในฐานะผู้นำเข้าคอนเทนต์ต่างประเทศรายใหญ่ที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะซีรีส์อินเดีย จาก Demand ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ทางJKN สามารถปรับค่าลิขสิทธิ์ของซีรีย์อินเดียเพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (09 ม.ค.) – ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 11,795.21 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด หรือ +0.13% มูลค่าการซื้อขาย 75,384.07 ล้านบาท ตลาดได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่จากการปรับ downgrade หุ้นของนักวิเคราะห์ส่งผลให้ตลาดมีการปรับตัวขึ้นอย่างมีกรอบที่จำกัด
ธปท.ได้ร่างกรอบการปล่อยกู้แบบ Peer to Peer Lending (P2P) หรือ การกู้ยืมระหว่างบุคคล ผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่ผ่านตัวกลางอย่างธนาคารพาณิชย์ ให้กระทรวงการคลังพิจารณาถึงหลักการและความเป็นไปได้ คาดน่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ เรามองเป็นกลางต่อกลุ่มสถาบันทางการเงิน แม้จะก่อให้เกิดแรงกดดันในการปล่อยสินเชื่อในอนาคต
เรามองว่าธนาคารจะมีการปรับตัวในการปล่อยสินเชื่อทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น โดย ณ ปัจจจุบันธนาคารต่างๆได้มีการลงทุนในธุรกรรมการออนไลน์มากขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เช่น TMB ได้มีการเปิดตัว Digital Lending ที่จะพิจารณาความเสี่ยงของลูกค้า และปล่อยสินเชื่อผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยเรายังคงแนะนำ ซื้อ TMB ที่ราคา 3.20 บาท (ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 11 - 13 ม.ค. 2561)
(+) JKN:
ทีวีดิจิตอลแห่ปรับผังรับปีใหม่ ชูคอนเทนต์หนังดี ซีรีส์ดังหวังดันเรตติ้งพุ่ง ซื้อลิขสิทธิ์ เพิ่มเร่งสปีดหนีคู่แข่ง ขณะที่ ซีรีส์อินเดียแรงเว่อร์ (Source – ฐานเศรษฐกิจ) เช่น ช่อง 8 (RS) , ช่อง 3 (BEC), Workpoint TV (WORK) มีเพิ่มซีรีย์อินเดียเข้ามาในผังรายการ
เรามองว่าการปรับผังรับปีใหม่ของกลุ่มทีวีดิจิตอล โดยเร่งซื้อลิขสิทธิ์ซีรีย์ต่างประเทศมาออกอากาศในช่องมากขึ้น โดยเฉพาะซีรีย์อินเดียเป็นที่นิยม และช่วยเพิ่มเรตติ้งของช่องให้สูงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลในข้างต้นเป็นลูกค้าของทาง JKN เช่นช่อง8 หลังประสบความสำเร็จในการฉาย หนุมานสงครามมหาเทพ จึงเตรียมส่งซีรีย์อินเดียอีก 4 เรื่องเข้าฉาย ส่งผลให้ Demandในซีรีย์อินเดียเพิ่มขึ้น เป็นประโยชน์ต่อหุ้น JKN ในฐานะผู้นำเข้าคอนเทนต์ต่างประเทศรายใหญ่ที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะซีรีส์อินเดีย จาก Demand ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ทางJKN สามารถปรับค่าลิขสิทธิ์ของซีรีย์อินเดียเพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (09 ม.ค.) – ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 11,795.21 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด หรือ +0.13% มูลค่าการซื้อขาย 75,384.07 ล้านบาท ตลาดได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่จากการปรับ downgrade หุ้นของนักวิเคราะห์ส่งผลให้ตลาดมีการปรับตัวขึ้นอย่างมีกรอบที่จำกัด
ปัจจัยต่างประเทศ
(+) ตัวเลขทางเศรษฐกิจยุโรปออกมาดี - สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานในยูโรโซนปรับตัวลงสู่ระดับ 8.7% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2009 จากระดับ 8.8% ในเดือนต.ค.
(+) ราคาน้ำมันทำนิวไฮในรอบกว่า 2 ปี - ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 61.92 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน
(+) ตัวเลขทางเศรษฐกิจยุโรปออกมาดี - สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานในยูโรโซนปรับตัวลงสู่ระดับ 8.7% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2009 จากระดับ 8.8% ในเดือนต.ค.
(+) ราคาน้ำมันทำนิวไฮในรอบกว่า 2 ปี - ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 61.92 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน
ปัจจัยในประเทศ
(+) ครม. อนุมัติมาตรการแก้จนเฟส 2 - ครม.ได้อนุมัติงบประมาณรวมทั้งสิ้น 35,679 ล้านบาท ครอบคลุมผู้มีรายได้น้อยราว 4.7 ล้านคน โดยจะมีมาตรการจูงใจสำหรับผู้ถือบัตรฯที่มาเข้าโครงการในเฟส 2 กรณีที่รายได้ไม่ถึง 30,000 บาท/ปี จะได้วงเงินช่วยเหลือเพิ่มอีก 200 บาท/เดือน ส่วนในกรณีที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี จะได้วงเงินช่วยเหลือเพิ่ม 100 บาท/เดือน
(-) การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขอความร่วมมือภาคเอกชนให้เข้าใจเหตุผลการพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งจะประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง 3 ฝ่ายในวันที่ 10 ม.ค.นี้
(+) จำนวนผู้โดยสารช่วงปีใหม่เพิ่มสูงขึ้น – บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่ผ่านมา (28 ธ.ค. 60 - 3 ม.ค.61) มีเที่ยวบินและผู้โดยสารจำนวนมากใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. ซึ่งมีผู้โดยสารใช้บริการรวมประมาณ 2.95 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.88% ซึ่งวันที่ 30 ธ.ค. 60 มีผู้โดยสารใช้บริการมากสุดประมาณ 439,160 คน
Analyst
Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
(+) ครม. อนุมัติมาตรการแก้จนเฟส 2 - ครม.ได้อนุมัติงบประมาณรวมทั้งสิ้น 35,679 ล้านบาท ครอบคลุมผู้มีรายได้น้อยราว 4.7 ล้านคน โดยจะมีมาตรการจูงใจสำหรับผู้ถือบัตรฯที่มาเข้าโครงการในเฟส 2 กรณีที่รายได้ไม่ถึง 30,000 บาท/ปี จะได้วงเงินช่วยเหลือเพิ่มอีก 200 บาท/เดือน ส่วนในกรณีที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี จะได้วงเงินช่วยเหลือเพิ่ม 100 บาท/เดือน
(-) การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขอความร่วมมือภาคเอกชนให้เข้าใจเหตุผลการพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งจะประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง 3 ฝ่ายในวันที่ 10 ม.ค.นี้
(+) จำนวนผู้โดยสารช่วงปีใหม่เพิ่มสูงขึ้น – บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่ผ่านมา (28 ธ.ค. 60 - 3 ม.ค.61) มีเที่ยวบินและผู้โดยสารจำนวนมากใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. ซึ่งมีผู้โดยสารใช้บริการรวมประมาณ 2.95 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.88% ซึ่งวันที่ 30 ธ.ค. 60 มีผู้โดยสารใช้บริการมากสุดประมาณ 439,160 คน
Analyst
Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]