- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 January 2018 17:11
- Hits: 2458
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“เลือกซื้อ/ถือต่อถ้า SET ไม่หลุด 1770”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ROJNA (จาก Fully Valued เป็นซื้อ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ปัจจัยภายนอก ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนธ.ค.60 ยูโรโซนเพิ่มขึ้น 1.4 จุดเป็น 116.0 สูงสุดในรอบ 17 ปี นำโดยความเชื่อมั่นในฝรั่งเศส และเยอรมนี ซึ่งหนุนตลาดหุ้นยุโรปให้ปรับขึ้นต่อ ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐ & อังกฤษ มีแรงขายทำกำไรออกมาบ้างแต่ไม่มาก สำหรับราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นเล็กน้อย WTI ปิดที่ 61.73 และ BRENT ปิด 67.78 US$/bbl โดยมีความไม่สงบในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุน
ปัจจัยภายใน SET Index แกว่งจากแรงขายทำกำไรในวัน (ขึ้นไปสูงสุด 1813.17 แล้วปิดต่ำสุดในวันที่ 1792.81 ลดลง 2.64 จุด) โดยต่างชาติยังคงขายสุทธิ (-3.3 พันลบ.) สถาบันในปท.ซื้อสุทธิลดลง รายย่อยและพอร์ตบล.ซื้อสุทธิเพิ่มขึ้น สำหรับประเด็นเรื่องการปรับขึ้นค่าแรง 15 บาท/วันนั้น ทางรมว.แรงงานกล่าวว่ายังไม่เป็นข้อสรุป อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าจะมีการปรับขึ้น 3-5% ซึ่งเป็นไปตามค่าครองชีพที่สูงขึ้น กลุ่มที่จะได้รับผลกระทบจากค่าแรงเพิ่ม คือ กลุ่มสินค้าใช้แรงงานมาก เช่น เสื้อผ้า สิ่งทอ อาหาร รองเท้า กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มบริการ อย่างไรก็ตาม ถ้าเศรษฐกิจเติบโตดี ภาคธุรกิจก็สามารถส่งผ่านภาระต้นทุนค่าแรงงานที่สูงขึ้นไปให้กับผู้บริโภคและผู้ใช้บริการได้
หุ้น Update : คาดการณ์ว่า BBL, TCAP, TMB จะมีกำไรสุทธิงวด 4Q60 เติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากการกันสำรองฯลดลง และทำให้ BBL เป็นแบงค์ที่มีกำไรสุทธิทั้งปี 60 โดดเด่นที่สุดในแบงค์ใหญ่ ส่วนแบงค์เล็ก คาดว่า TISCO จะมีกำไรปี 60 ขยายตัวมากที่สุด
สำหรับแนวโน้มปี 61 คาดกำไรกลุ่มแบงค์ขยายตัว 7% จากลดลง 5% ในปี 60 หุ้น Top picks เป็น BBL(Value play), TMB (Growth play)
ส่วนหุ้นเล็กปันผลดี และ P/E ต่ำ - ที่น่าสนใจเป็น LALIN โดยทาง DBSV คาดการณ์กำไรปี 60-61 เติบโต 26% และ 13% ณ ราคาหุ้นปัจจุบัน 5.10 บาท มี P/E ปี 61 ต่ำเพียง 7 เท่า และ P/BV 0.8 เท่า จ่ายปันผลสูง คาด yield ปี 60-61 ที่ 6.5% และ 7.5% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 6.15 บาท อิงกับ P/E ปี 61 ที่ 8 เท่า ซึ่งมี Upside จากราคาปัจจุบัน 23%
กลยุทธ์ทางพื้นฐาน : แนะเลือกซื้อเป็นรายบริษัท โดยธีมเด่นหุ้นดีจาก DBS รอบนี้เลือก 1. Investment recovery play (หุ้นเด่น AMATA ราคาพื้นฐาน 30 บาท), 2. Dividend play (หุ้นเด่น KKP ราคาพื้นฐาน 88 บาท) และ 3. Growth play (หุ้นเด่น IVL ราคาพื้นฐาน 65 บาท)
กลยุทธ์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ จากภาวะ Overbought + Divergence การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกหุ้นและตลาด แนวต้าน SET ให้ไว้ที่ 1800, 1810-1820 ถ้าหลุด 1770 ควร Stop loss แนวรับ 1740-1730, 1700-1680 จุด
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ยูโรโซน : ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนธ.ค.60 สูงสุดรอบกว่า 17 ปี
# คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (ESI) เพิ่มขึ้น 1.4 จุด สู่ระดับ 116.0 ในเดือนธ.ค.60 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.43 แรงหนุนมาจากความเชื่อมั่นในภาคบริการ, ค้าปลีก และภาคก่อสร้างประเทศที่มีความเชื่อมั่นสูงขึ้นมาก คือ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ขณะที่ความเชื่อมั่นของสเปนลดลง
# ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (EU) เพิ่มขึ้น 1.6 จุด สู่ระดับ 115.9 ในเดือนธ.ค.60 สูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.43
•/+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ ยุโรป อังกฤษ : แม้มีแรงขายทำกำไรแต่ดัชนีก็ยังยืนได้ในระดับสูง และอ่อนลงไม่มาก
# ดัชนี DJIA ปิดที่ 25,283.00 จุด -12.87 จุด หรือ -0.05% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,157.39 จุด +20.83 จุด หรือ +0.29% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,747.71 จุด +4.56 จุด หรือ +0.17% ทั้งนี้ประธานเฟดแอตแลนตาออกมาให้ความเห็นทางเดียวกับประธานเฟดฟิลาเดลเฟียว่า เฟดอาจจำเป็นปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 2 คร้งในปีนี้ เพราะเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ
# ดัชนีตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก +0.3%-0.4% หลังความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจยูโรโซนเพิ่มขึ้นต่อในเดือนธ.ค.60 และสูงสุดในรอบ 17 ปี
# ดัชนีตลาดหุ้นอังกฤษ ปิดลดลง -0.36% จากแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มค้าปลีก
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาปรับขึ้นเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 61.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 67.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
# เบเกอร์ ฮิวจ์ เปิดเผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 742 แท่นในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์
• ภาวะตลาดทองคำ : ราคาลดลง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.90 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ระดับ 1,320.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+ LALIN : ตั้งเป้าปี 61 ยอดขาย & รับรู้รายได้เติบโต 15%YoY
# LALIN เปิดเผยว่าในปี 61 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 4,400 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 4,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นราว 15%YoY โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ 8-10 โครงการ มูลค่า 4.5-5.0 พันล้านบาท ทำเลกรุงเทพฯปริมณฑล 75-80% และต่างจังหวัด 20-25%
# ฝ่ายวิจัยฯ DBSV คาดการณ์กำไรสุทธิปี 60-61 บริษัทเติบโต 26% และ 13% ตามลำดับ ณ ราคาหุ้นปัจจุบัน 5.10 บาท มี P/E ปี 61 ต่ำเพียง 7 เท่า และมี P/BV อยู่ที่ 0.8 เท่า นับว่ายัง Under value นอกจากนั้นยังจ่ายปันผลดี ประเมิน Dividend yield ปี 60-61 ไว้ที่ 6.5% และ 7.5% ตามลำดับ (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
# ฐานะการเงินแข็งแรง โดยกำหนดระดับหนี้สินต่อทุนไว้ไม่เกิน 1 เท่า (ปัจจุบันอยู่ที่ 0.8 เท่า)
# แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 6.15 บาท อิงกับ P/E ปี 61 ที่ 8 เท่า ซึ่งมี Upside จากราคาปัจจุบัน 23%
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO4316