WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Asiawealthบล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook 

ระวังแรงขายระหว่างสัปดาห์
          กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ตลาดหุ้นศุกร์ที่ผ่านมาขึ้นไปทดสอบ 1,800 จุด และอ่อนตัวลงมาปิด 1,795 จุด บวกขึ้น 4.43 จุด ซึ่งหุ้นที่ไม่ Active อย่าง BAY บวกขึ้น 16.56% ส่งผลให้ตลาดบวกขึ้นจาก BAY ประมาณ 5.3จุด ดังนั้นหากหักผลบวกของ BAY แล้ว ดัชนีอาจปิดติดลบเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นอาจบวกขึ้นต่อตามตลาดต่างประเทศ แต่ยังคงเน้นให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น เริ่มถือเงินสดมากขึ้น หุ้นแนะนำวันนี้ เลือก Defensive เช่น BEM และหุ้นขนาดใหญ่ที่คาดว่ามีทิศทางดีต่อในช่วงไตรมาส  1/61 คือ ADVANC และเริ่มเก็งกำไรหุ้นเดินเรือตามค่าระวางเรือที่ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง เลือก TTA
Stock            Comment
BEM              เลือกเป็น Pick of the day
ADVANC    ลงนามในสัญญาการใช้บริการข้ามโครงข่ายกับ TOT บนคลื่นความถี่  2100MHz เมื่อวันที่  5 ม.ค.61 ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านโครงข่ายให้กับบริษัทเพื่อรองรับการเติบโตการใช้งานประเภทดาต้าของ ADVANC ในอนาคต การลงนามดังกล่าวช่วยให้บริษัทมี Bandwidth เพิ่มมาเป็น 55MHz (2100MHz จำนวน  30 MHz; 1800 MHz จำนวน 15 MHz; 900 MHz จำนวน  10 MHz) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 223 บาท
TTA             ดัชนีค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,371.00 จุด เพิ่มขึ้น 30.00 จุด ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3
หุ้นเด่นวันนี้ : BEM (ปิด 7.90 บาท; ซื้อ; เป้าหมาย AWS 10.10 บาท)
           หุ้น BEM ได้รับประโยชน์ทั้งจากการขยายตัวของสังคมเมือง (Urbanization) การท่องเที่ยวบูม และภาวะที่ดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ  เป็นธุรกิจที่มี Recurring Income คาดยังมีการเติบโตของกำไรที่ดีต่อเนื่องในปี 2560 และ 2561 ในระดับ 21% ต่อปี บริษัทมีแผนเร่งรัดเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงที่ 2 หัวลำโพง-หลักสอง เป็นเดือน ก.ค.62 และจะเปิดเดินรถเต็มรูปแบบใน ม.ค.63 เรามอง BEM เป็นหุ้น Defensive แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 10.10 บาท
           Price Pattern ของ BEM กลับมาเกิดความแข็งแกร่งระยะสั้นจากการเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ โดย Price Pattern ของ BEM จะกลับมามีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ หากปิดตลาดรายสัปดาห์เหนือ 8.10 บาท จะกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ และหากปิดตลาดรายเดือนเหนือ 7.95 บาท จะกลับมาเกิด Monthly Buy Signal ครั้งใหม่ BEM มีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 8.05 บาท ซึ่งหาก Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 8.05 บาทได้สำเร็จ นี่จะเป็นการบ่งบอกถึงการทำ New High โดยมีเป้าหมายแรกเพื่อทดสอบ High เดิมที่ 8.50 บาท และมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 9 บาท ทั้งนี้ BEM มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 7.60 บาท (Resistance: 8.00, 8.15, 8.30; Support: 7.75, 7.60, 7.45)
ปัจจัยในประเทศ :
มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย 9.5 หมื่นล้านบาท ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เตรียมเสนอ 3 มาตรการ 9 โครงการ วงเงินสินเชื่อรวม 9.5 หมื่นล้านบาท ต่อที่ประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ ตั้งเป้าเพื่อดูแลเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนในโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ตัวอย่างมาตรการเหล่านี้ ได้แก่ การพัฒนาอาชีพและการช่วยลดภาระหนี้สินเกษตรกรทั้งในและนอกระบบ (ไทยโพสต์)
คาดค้าปลีกโต 6% ปัจจัยบวกเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวหนุน นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในอีก 3 ปีนับจากนี้ (2561-2563) คาดจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจไทย โดยในแต่ละปีประเมินว่าดัชนีการเติบโตของผู้ประกอบการค้าปลีกจะขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 4-6% สูงกว่าเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา (2556-2559) ที่ธุรกิจค้าปลีกมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.4% เท่านั้น (ที่มา: โพสต์ทูเดย์) ความเห็น: เป็น Sentiment ทางบวกต่อกลุ่มพาณิชย์ โดยเฉพาะ CPALL
คาดราคายางฟื้นตัว :ราคายางพาราคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น  60 บาทต่อกิโลกรัมในไตรมาสแรกหลังจากที่ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซียให้คำมั่นที่จะระงับการส่งออกยางธรรมชาติจำนวน 350,000 ตันจากเดือนนี้จนถึงเดือนมีนาคม (Bangkok Post) ความเห็น: ข่าวนี้ส่งผลดีต่อหุ้น TRUBB และ STA
ตลาดต่างประเทศ :(5 ม.ค.61)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : ปิดพุ่งขึ้นเดินหน้าทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ธ.ค.ของสหรัฐฯ ที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดนั้น จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก
ตลาดหุ้นยุโรป : ปิดปรับตัวขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์ นอกจากนี้ การทำนิวไฮอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างคึกคัก
ตลาดหุ้นลอนดอน : ปิดบวก ขานรับตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดติดต่อกันหลายวันทำการ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐขยายตัวน้อยกว่าคาดในเดือนธ.ค.
สินค้าโภคภัณฑ์ : (5 ม.ค.61)
ราคาน้ำมันดิบ : WTI ลดลง 57 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 61.44 ดอลลาร์/บาร์เรล; เบรนท์ ลดลง 45 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 67.62 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นติดต่อกันในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความไม่สงบในอิหร่าน และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ปรับตัวลงติดต่อกันหลายสัปดาห์ ได้ช่วยจำกัดการร่วงลงของสัญญาน้ำมันดิบ
ราคาทองคำ : ปิดขยับขึ้น โดยสัญญาทองคำทำสถิติปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 11 หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ธ.ค.ของสหรัฐที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดนั้น ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ราคาทองแดง : ปิดร่วงลง 1%  เนื่องจากนักลงทุนจีนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงช่วงวันหยุดในเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐฯ ยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ฉุดสัญญาทองแดงปิดตลาดอ่อนแรงลง โดยราคาเมื่อวันศุกร์ลดลง 3.35 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 3.23 ดอลลาร์/ปอนด์ และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองแดงปรับตัวลงทั้งสิ้น 2.2%
ดัชนีค่าระวางเรือ BDI : ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,371.00 จุด เพิ่มขึ้น 30.00 จุด
Thailand Research Department
          Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
          Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
          Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
          Mr. Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
          Mr. Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 2-2680-5094
OO4266

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!