บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 05-01-18

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Friday, 05 January 2018 19:34; Hits: 2203

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้

กลับมาเก็งกำไรหุ้นไซค์กลาง

Smart Pick

1. สะสม SAPPE : ราคาปิด 26.50 บาท ราคาเหมาะสม 34.50 บาท

a) เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้อานิสงค์เชิงบวกต่อการฟื้นตัวการบริโภคในประเทศ ล่าสุดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค. สูงสุดในรอบ 35 เดือน และเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกระแสความนิยมด้านสุขภาพ และความงาม

b) คาดกำไรปกติในปี 2561 ทำระดับสูงสุดใหม่เป็นปีที่ 2 ที่ 478 ล้านบาท เติบโต 26% YoY จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และประเทศในกลุ่มเอเชียและตะวันออกกลาง ที่เป็นฐานรายได้หลักราว 90% ทำให้ SAPPE วางแผนขยายกำลังการผลิตอีกไม่น้อยกว่า 20% ปีนี้

c) ราคาปัจจุบันซื้อขาย PER 2561 ต่ำเพียง 17x เทียบกับกลุ่มเครื่องดื่มที่ 20-30x ขณะที่ราคาหุ้นปี 2560 ติดลบถึง 15% ขณะที่กลุ่มลดลงเพียง 0.8% เชื่อว่าปีนี้ SAPPE จะกลับมา Outperform ตลาดและกลุ่มได้

2. สะสม JWD : ราคาปิด 12.20 บาท ราคาเหมาะสม 14.10 บาท

a) คาดกำไรสุทธิ 4Q60 เติบโตกว่า 10x YoY จากการรับรู้รายได้งานของกลุ่ม Nissan และเป็น High Season ของธุรกิจคลังสินค้าอันตราย อีกทั้งมีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ราว 400 ลบ.

b) จ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง โดยคาดการณ์เงินปันผลปี 2560 หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 4.1%

c) เป็น Growth Stock ที่โดดเด่น คาดกำไรปกติปี 2561 เติบโตสูงถึง +104% YoY เป็น 393 ล้านบาท จากทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจห้องเย็นที่สร้างกำไรเต็มปี, รับรู้รายได้เต็มปีจากธุรกิจ JV กับกลุ่ม NISSAN และธุรกิจคลังสินค้าเคมีที่ผ่านจุดคุ้มทุนแล้วใน 3Q60

ตลาดหุ้นไทยวานนี้

วานนี้ SET INDEX ทำระดับสูงสุดใหม่เหนือ 1789.16 จุด ที่ทำไว้เมื่อปี 2537 ได้สำเร็จ ปิดที่ 1791.02 จุด บวกอีก 12.49 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 9.1 หมื่นล้านบาท แม้ว่าต่างชาติขายสุทธิราว 1.1 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่คงซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 3.5 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเล็กน้อยราว 853 สัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศที่มีสถานะ Long สุทธิหนาแน่นถึง 5.2 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหนาแน่นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 1.3 หมื่นล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิแล้วกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่องลงมาอยู่ที่ 32.22 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ

กลยุทธ์วันนี้

SET INDEX วานนี้ทำระดับสูงสุดใหม่ (All Time High) ปิดที่ 1791.02 จุด พร้อมมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นต่อเนื่องอีก 9.1 หมื่นล้านบาท ผลักดันโดยหุ้นขนาดใหญ่สะท้อนจาก SET INDEX +0.7% แต่ SET50 +0.95% เราประเมินภาพวันนี้ SET INDEX มีโอกาสทดสอบแนว 1800-1805 จุดระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่คาดว่าจะเกิดแรงขายมากขึ้นในบริเวณดังกล่าว

แม้ว่าราคาน้ำมันดิบ NYMEX จะทำระดับปิดสูงสุดในรอบ 3 ปี ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน/ปิโตรเคมีต่างขยับขึ้นมาตอบรับเชิงบวกไปค่อนข้างมากแล้วกับประเด็นนี้ และเรามองว่าความตึงเครียดในอิหร่านจะค่อยๆ คลายตัวลงในที่สุด ขณะที่ค่าการกลั่นหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์วานนี้ปรับฐานลงแรงหลุดแนว US$7/barrel เชิงกลยุทธ์การลงทุนเรามองว่าหุ้นกลุ่มโรงกลั่นมีความสนใจลดลง upside จำกัด อาจเป็นเพียงการถือเพื่อรอขายสะท้อนงบการเงินในงวดนี้ เหลือเพียง PTTEP ที่อาจเก็งกำไรไปกับราคาน้ำมันช่วงสั้นๆ ได้ หรือ IRPC / PTTGC ที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวเหนือหุ้นโรงกลั่นอื่น ส่วน PTT หลังราคาขึ้นมาร้อนแรงตลอด 2 วันที่เราแนะนำอาจถือเพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 478 บาท +/-

สำหรับกลยุทธ์หลักในวันนี้ เรากลับมาเน้นสะสมหุ้นขนาดกลางที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 4Q60 เด่น ภาพดีต่อเนื่องในปีนี้ เช่น SAPPE / JWD / AIT / TCMC/ TCJ / LPN เป็นต้น แต่หากนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้จำกัด ณ ระดับ SET INDEX 1,800 +/- การพักเงินในหุ้นปันผลก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งหุ้นปันผลเด่นงวดนี้ (High Dividend Yield Stocks) ได้แก่ KKP/ TISCO/ AIT/ JWD/ AP ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทวิเคราะห์ Theme Strategy เช้านี้