- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 01 September 2014 15:15
- Hits: 2539
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ผันผวนอยู่ แต่คาดกรอบลบจำกัด และยังลุ้นวิ่งขึ้นใหม่ได้อยู่!!
กลยุทธ์ : ถึงแม้ว่าช่วงนี้ SET ยังมีลักษณะแกว่งผันผวนอยู่ แต่เราคาดว่ากรอบลบจำกัด และสุดท้ายแล้วยังมีโอกาสที่ดัชนีจะกลับไปแกว่งตัวบวกขึ้นต่อเนื่องได้ตามคาดเดิม โดยลุ้นเป้าหมายที่ 1600 จุด(+/-) ได้ ดังนั้นยังสามารถเลือกหุ้นซื้อช่วงลบ แล้วเน้นถือต่อเนื่องเพื่อรอรอบบวกขึ้นได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BMCL, TUF, SAMART(short)
แนวโน้ม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET พักตัวลงในกรอบเดิม ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ดัชนีพลิกกลับมาปิดเป็นบวกได้อีกครั้ง โดยคาดว่าส่วนหนึ่งมาจากแรงซื้อเก็งกำไรรายชื่อ ครม. ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะประกาศในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งผลก็ออกมาตามคาด โดยรายชื่อ ครม.ส่วนใหญ่ไม่ได้พลิกโผจากที่นักลงทุนคาดไว้ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อค่ำวันศุกร์ก็สามารถปิดด้านบวกได้ หลังข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐออกมาดี ช่วยชดเชยตัวเลขการบริโภคส่วนบุคคลที่ออกมาน่าผิดหวังได้บ้าง ส่วนในตลาดหุ้นยุโรปหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ดีดตัวขึ้น ช่วยบดบังการร่วงลงของหุ้นผู้ประกอบการซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่อย่างเทสโก้ได้ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังแกว่งตัวไร้ทิศทางในกรอบบวก-ลบแคบๆ เนื่องจากตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนเดือน ส.ค. ลดลงเล็กน้อย รวมทั้งคาดว่านักลงทุนบางส่วนยังรอลุ้นผลประชุม ECB ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 ก.ย.ก่อนว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่หรือไม่ และรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนวันศุกร์ที่ 5 ก.ย.ด้วย ดังนั้นคาดว่า SET อาจจะยังมีลักษณะแกว่งตัวผันผวนให้เห็นอยู่เช่นเดิม แต่สุดท้ายแล้ว FSS ยังคาดหมายว่า SET ยังมีแนวโน้มแกว่งบวกต่อได้
แนวรับ 1558-1556 , 1553-1550 จุด แนวต้าน 1565-1568 , 1570-1573 จุด
Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องอีก US$1,535 ล้าน ลดลงเล็กน้อยจาก US$1,637 ล้านเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ศุกร์ที่ผ่านมากระแสเงินทุนยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 แต่ปริมาณค่อนข้างเบาบาง โดยซื้อสุทธิในเกาหลีใต้ US$154.7 ล้าน ไต้หวัน US$151.8 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$142.6 ล้าน เวียดนาม US$42.5 ล้าน แต่ขายอินโดนีเซีย US$64 ล้าน และไทย US$0.9 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง นักลงทุนส่วนใหญ่รอดูผลประชุม ECB 4 ก.ย. แนวโน้ม Flow น่าจะยังเบาบางในช่วงต้นสัปดาห์นี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ครม.ชุดใหม่ไม่พลิกโผ ด้านเศรษฐกิจมีม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุลเป็นรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ คุณสมหมาย ภาษีเป็นรมว.คลัง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เป็นรมว.คมนาคม คาดนายกฯจะถวายสัตย์ฯ 2-4 ก.ย. และแถลงนโยบายต่อสนช. จึงเริ่มบริหารงานได้
(+) กลุ่มประกันชีวิต เบี้ยประกันชีวิตในอดีตที่ผ่านมาเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจและการเมือง และยังเติบโตได้อีกมาก เบี้ยประกันในระยะต่อไปไม่ควรต่ำกว่าประมาณ 7 แสนล้านบาท/ปี จากปัจจุบัน 4.8-5 แสนล้านบาท/ปี คิดเป็นเติบโตเฉลี่ยปีละ 10-15% เราคาดกำไรรวมของ BLA และ THREL ในปีนี้ลดลง 11% จากการสำรองค่าสินไหมเพิ่ม แต่จะโตถึง 63% ในปี 2015 โดย THREL (เป้าหมายปี 2015 ที่ 19.70 บาท) โดดเด่นกว่า BLA เพราะศักยภาพในการทำกำไรสูงโดยเฉพาะอัตรากำไรจากการรับประกันภัยสูงเฉลี่ยกว่า 30% สูงกว่ากลุ่มที่ 0-1% เราคาดกำไรปี 2014-18 ของ THREL โตสูง 16-18% ต่อปี เราเริ่มต้น Coverage ด้วยคำแนะนำซื้อ
(+) QH เป็นหนึ่งใน Top pick ในกลุ่มที่อยู่อาศัย จากการฟื้นตัวของกำลังซื้อในตลาดที่อยู่อาศัยในช่วง 2H14 โดยเฉพาะบ้านแนวราบที่จะฟื้นตัวก่อน ขณะที่ QH มีกลยุทธ์เน้นบ้านแนวราบระดับกลาง-ล่างซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการอยู่อาศัยจริง และกระจายทำเลการเปิดโครงการทั้งกรุงเทพและปริมณฑลและต่างจังหวัด ช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เราคงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 4.90 บาท แนะนำซื้อ
(-) RCL เราเชื่อว่ากำไรผ่านจุดสูงสุดแล้วใน 2Q14 แม้ 3Q14 จะยังมีกำไรแต่น่าจะชะลอ และมีโอกาสสูงที่จะกลับมาขาดทุนใน 4Q14-1Q15 เพราะ Low season และอาจมีบันทึกด้อยค่าเรือคอนเทนเนอร์ เราคาด RCL จะมีกำไร 200-300 ล้านบาทในปีนี้ (ไม่รวมด้อยค่า) ทรงตัวในปี 2015 และลดลงในปี 2016 เพราะมีเรือใหม่เข้ามาในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น หุ้น RCL ไม่ได้อยู่ใน FSS Coverage แต่หากอิงการซื้อขายของหุ้นเรือคอนเทนเนอร์ในเอเชียที่ PBV 1.1 เท่า จะคิดเป็นราคาหุ้น RCL 12.60 บาทซึ่งปัจจุบันเกินมูลค่าแล้ว
(-) JAS แจ้งตลาดฯว่าได้รับสำเนาคำฟ้องจากศาลจากธนาคาร 4 แห่ง มูลหนี้รวม 1,635 ล้านบาท (คิดเป็น EPS 0.23 บาท/หุ้น) มากกว่าที่บริษัทประเมินไว้ที่ 1.3 พันล้านบาท JAS ยังมีคดีที่ TT&T ฟ้องซึ่งศาลจะสั่งคุ้มครองหรือไม่ ต้องลุ้นวันที่ 9 ก.ย. หากศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราว จะกระทบการดำเนินธุรกิจอย่างมาก เราไม่แนะนำให้ลงทุนใน JAS
(+) IPO ล่าสุด “FSMART” บมจ.ฟอร์ทสมาร์ทเซอร์วิส ประกอบธุรกิจให้บริการเติมเงินมือถือประเภทเติมเงินล่วงหน้าและบริการออนไลน์อื่นๆ ผ่านเครื่องรับชำระเงินอัตโนมัติระบบออนไลน์ ภายใต้ชื่อตู้ “บุญเติม” กำไรในอดีตเติบโตก้าวกระโดดจากที่เคยขาดทุน 25 ล้านบาทในปี 2011 เป็น 87 ล้านบาทในปี 2013 เราคาดกำไรปี 2014-15 จะโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง 65% Y-Y และ 34% Y-Y ตามลำดับ จากการเพิ่มจำนวนตู้เติมเงินบริการ และยังมีศักยภาพในการเติบโตจากการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เช่น ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือร่วมกับการขายสินค้า เราประเมินมูลค่าหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานปี 2015 ที่ 4.30 บาท (DCF) (FSS เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ SMART)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาขยับเพิ่มได้เล็กน้อย โดยนักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ออกมาดีกว่าคาดและมองข้ามประเด็นความไม่สงบทางการเมืองจากฝั่งยุโรป
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในกรอบแคบโดยได้รับแรงกดดันหลังสหราชอาณาจักรยกระดับเตือนภัยก่อนการร้ายเป็นขั้นรุนแรง
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ผันผวนมีทั้งบวกและลบโดยนักลงทุนจับตาดูตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนในเช้าวันนี้ รวมถึงสถานการณ์คึงเครียดในยูเครนที่เพิ่มขึ้น
ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกทางข้าง ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 31.85-32.00 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.41 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 95.96 ดอลลาร์/บาร์เรล จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาน่าพอใจ รวมถึงแรงหนุนจากความกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครนที่ตึงเครียดมากขึ้น
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ขยับลง 3.00 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,287.40 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่ยังแข็งค่าขึ้นหลังตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นบริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1 ก.ย. - ไทย: เงินเฟ้อ (ส.ค.)
- จีน: Manufacturing PMI (ส.ค.)
- มาเลเซีย: ตลาดการเงินปิดทำการ วัน National Day
- สหรัฐ: ตลาดการเงินปิดทำการ วัน Labor Day
2 ก.ย. - ไทย: LDC เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 1.50 บาท)
- ออสเตรเลีย: ธนาคารกลางประชุม
- สหรัฐ: ISM Manufacturing (ส.ค.)
3 ก.ย. - จีน: Non-manufacturing PMI (ส.ค.)
- สหรัฐ: Factory Orders (ก.ค.)
- ยูโรโซน: 2Q14 GDP, Markit Composite PMI (ส.ค.)
- ออสเตรเลีย: 2Q14 GDP
4 ก.ย. - เกาหลีใต้: 2Q14 GDP
- สหรัฐ: รายงาน Beige Book, การจ้างงานภาคเอกชน (ส.ค.)
- ยูโรโซน: ECB ประชุม
5 ก.ย. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ส.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852