- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 December 2017 17:02
- Hits: 5746
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
คาดดัชนีแตะจุดสูงสุดของปีไปแล้วที่ 1,763 จุด
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ช่วงท้ายตลาดวานนี้ดัชนีถอยลงจากระดับสูงสุด 1,763 จุด คาดว่าวันนี้มีโอกาสถอยต่อจากการขายล็อกกำไรก่อนสิ้นปีของนักลงทุน ตลาดหุ้นยังคงมีข่าวดีหนุนเรื่อง EEC ที่จะเปิดให้มีการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (Public Private Partnerships : PPP) สำหรับ 5 โครงการที่เป็นงานเกี่ยวกับการเกี่ยวกับ Transportation ได้แก่ พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และศูนย์ซ่อมเครื่องบิน รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินหลัก รวมถึงท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด โดยกำหนดกรอบ TOR ให้แล้วเสร็จในไตรมาส 2/61 เราเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเอื้อต่อธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม Top Pick ในกลุ่มยังเป็น AMATA และ WHA คาดกรอบดัชนีช่วง 2 วันทำการสุดท้ายของปีที่ 1,740-1,763 จุด
Stock Comment
ANAN เลือกเป็น Pick of the day
AMATA EEC เริ่มมีความคืบหน้าต่อเนื่อง ซึ่งเราคาดว่า AMATA เป็นผู้ได้รับประโยชน์มากสุดรายหนึ่ง ในการพัฒนา EEC
BGRIM เป็นผู้ผลิตไฟฟ้า SPP ที่ทำธุรกิจไฟฟ้าร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ คือ AMATA และ WHA การพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมใน EEC จะทำให้ BGRIM เป็นผู้รับประโยชน์ร่วมไปด้วย
หุ้นเด่นวันนี้ : ANAN (ราคาปิด 6.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS 7.20 บาท)
เราคาดว่าจะได้เห็น Profit sharing ใน 4Q60 เป็นบวก จากการโอนรับรู้รายได้ของโครงการ JV ทั้งหมด 5 โครงการ ส่งผลให้ Profit sharing ทั้งปีจากขาดทุนจะพลิกกลับมาเป็นบวกที่ 419 ล้านบาท โดยเราคาดการณ์รายได้และกำไรใน 4Q60 ที่ 5,550 ล้านบาท และ 1,183 ล้านบาทตามลำดับ แนะนำซื้อโดยให้ราคาเป้าหมายที่ 7.20 บาท อ้างอิง PER 10x จากกำไรสุทธิในปี 2561
Price Pattern ของ ANAN ยังคงมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) อย่างชัดเจน จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ ANAN ยังคงบ่งบอกถึงการทำ New High โดยมีเป้าหมายสำคัญของการทำ New High อยู่ที่ 7.05 บาท ทั้งนี้ ANAN มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 5.90 บาท (Resistance: 6.05, 6.15, 6.30; Support: 5.90, 5.80, 5.65)
ปัจจัยในประเทศ :
รัฐเร่งดัน 5 โครงการ EEC รัฐบาลตั้งเป้าทำร่างขอบเขตงาน (ToR) สำหรับ 5 โครงการในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน มูลค่า 6 แสนล้านบาท ภายในไตรมาส 2/61 หนึ่งในโครงการได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 2.36 แสนล้านบาท (บางกอกโพสต์) ความเห็น: การดำเนินการดังกล่าวเป็นหนึ่งในความพยายามที่รัฐบาลต้องการเร่งการลงทุนจากภาคเอกชน เรามองว่ากลุ่มธนาคารจะเป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการเหล่านี้ จากความต้องการสินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่ที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
AAV (ราคาปิด 6.15 บาท) นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัทกับครอบครัวศรีวัฒนประภา เพื่อซื้อหุ้นบริษัทคืนจำนวน 36.3% ของหุ้นทั้งหมด ที่ราคา 4.70 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 1.76 พันล้านบาท หลังจากการโอนหุ้นดังกล่าว นายธรรศพลฐ์ จะถือหุ้นของบริษัทจำนวน 41.32% ขณะที่ครอบครัวศรีวัฒนประภาจะเหลือการถือหุ้นบริษัทจำนวน 3.5% (SET)
DTAC ได้รับความเห็นชอบในการทำสัญญาคู่ค้า TOT หลังกสทช.เห็นชอบไฟเขียวตามมติ : เมื่อวานนี้ กสทช ได้ให้ไฟเขียวในการทำธุรกิจร่วมเป็นหุ้นส่วนระหว่าง TOT และ DTAC ในการให้บริการคลื่นความถี่ 2300MHz ในขณะเดียวกันก็อนุมัติขยายระยะเวลาการชำระเงินใบอนุญาตสำหรับการประมูล 900MHz เพิ่มออกไปอีก 5 ปี (Bangkok Post) ความเห็น: ข่าวนี้เป็นมุมมองบวกต่อหุ้น DTAC อย่างมากในการที่จะได้คลื่น 2300MHz มาให้บริการเพิ่มแทนในส่วนของคลื่นที่กำลังจะหมดสัญญาซึ่งจะทำให้บริษัทมีคลื่นน้อยที่สุดในการให้บริการ
'ธีรพงศ์' ซื้อหุ้น TU กว่า 38 ล้านบาท ข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU รายงานซื้อหุ้นจำนวน 2 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 19.30 บาท มูลค่ารายการรวม 38.6 ล้านบาท (ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ) ความเห็น: ช่วยสร้าง sentiment ทางบวกให้กับนักลงทุน เราชอบกลยุทธ์ของบริษัทที่เน้นการออกสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Ready to Eat (RTE) และกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้บริษัทเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยที่ลงทุนไว้ ระยะยาวพื้นฐานยังแข็งแกร่ง คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 23 บาทต่อหุ้น
ตลาดต่างประเทศ :
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ: ปิดบวก โดยได้ปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) วอลุ่มการซื้อขายบางเบา เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการซื้อขายในช่วงใกล้สิ้นปี
ตลาดหุ้นยุโรป-อังกฤษ : ปิดบวก โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาทองแดงทะยานขึ้น
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.พ. : ปรับตัวลง (WTI ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 59.64 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล; น้ำมันเบรนท์ ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 66.44 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล)นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากข่าวการลอบวางระเบิดท่อส่งน้ำมันในลิเบีย ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เวลา 5 ทุ่มประเทศไทย ส่วน API ประกาศว่าสต๊อกน้ำมันสหรัฐฯ ลดลง 6 ล้านบาร์เรล ขณะที่คาดการณ์ไว้ลดลงเพียง 3.8 ล้านบาร์เรล
ราคาทองคำ : ได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น อันเนื่องมาจากนักลงทุนซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.ไปหมดแล้ว
ราคาทองคำ : ได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น อันเนื่องมาจากนักลงทุนซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.ไปหมดแล้ว
ราคาทองแดง : ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง มาอยู่ที่ 7,058 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน จากข่าวที่ว่า บริษัท เจียงซี คอปเปอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของจีน ได้รับคำสั่งจากทางการจีนให้ปรับลดการผลิตลงเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ โดยก่อนหน้านี้ บริษัท ตงหลิง นันเฟอรัส เมทัลส์ กรุ๊ป ก็ได้รับคำสั่งให้ปรับลดการผลิตทองแดงลงเช่นกัน โดยจะมีการประเมินเรื่องระดับของมลภาวะที้เกิดขึ้นในพื้นที่เป็นระยะ เพื่อพิจารณาว่าจะกลับมาฟื้นการผลิตอีกครั้งเมื่อใด ความเห็น: ราคาทองแดงปรับตัวขึ้นเป็นลบต่อ KCE เราเชื่อว่าราคาทองแดงในปี 2561 จะเทรดอยู่ในระดับเกิน 7,000 เหรียญสหรัฐฯ หลังจากพักตัวนานช่วงปี 2558-2559 และเพิ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2560
Thailand Research Department
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Mr. Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 2-2680-5094