- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 December 2017 17:00
- Hits: 5443
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
SET INDEX
1752.89 +0.41 (+0.02) // Vol. 61,507
มีสัญญาณเตือนในเชิงลบมากขึ้น ถึงแม้จะเดินหน้าทำ New High แต่จะมีความผันผวนมากขึ้น กรอบการเคลื่อนที่ 1746-1758
ดัชนีวานนี้มีความผันผวนมากขึ้น ซึ่งดูเหมือนจะไปได้ต่อด้วยการทำ New High 1763 จุด (เป็นแนวต้าน Fibonacci 61.8% ของกรอบสามเหลี่ยม)ก่อนที่จะมีแรงขายกดดัชนีลงมาทำ Low 1751 จุด และทำปิดที่ใกล้จุดต่ำสุดของวันที่ 1752 จุด ส่งผลให้รูปแบบของกราฟแท่งเทียนเตือนในเชิงลบที่มีรูปแบบ Shooting Star บวกกับ Stochastic เริ่มโค้งตัวและตัด Signal ลงมา ทำให้ดัชนีมีโอกาสพักตัว เพื่อลดความร้อนแรงจากค่าสัญญาณที่ Overbought แต่หากดัชนีเลือกเดินหน้าต่อ ควรแบ่งขายทำกำไรบ้าง
แนวรับ 1745-1749
แนวต้าน 1756-1760
Technical Analyst : พรรณนภา เขมะสุรัตน์ // เลขทะเบียน 060110 // Tel. : 02-648-1124 // phannapa.k@ktbst .co.th
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
SHARE
'แรงซื้อเริ่มแผ่ว'
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมา 4 วันติดต่อกัน ตามที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้ เราเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรเข้ามายังตลาดมากขึ้น จึงมองว่าโอกาสที่ดัชนีในวันนี้จะปรับตัวขึ้นในวันนี้มีน้อยลง และจะมีความผันผวนเข้ามามากยิ่งขึ้น .... ภาพต่างประเทศ มองว่าประเด็นใหม่ๆยังไม่มีเข้ามาให้เห็น ปัจจัยต่างๆเช่น มาตรการภาษีทรัมป์, การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ได้คลี่คลายลง .... ปัจจัยในประเทศ มีประเด็นที่เป็นบวกต่อประชาชนที่มีรายได้น้อยอย่างต่อเนื่อง อย่างเรื่องโครงการของขวัญปีใหม่ปี 2018 ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และประเด็นการอนุมัติการใช้งานคลื่น 2,300 MHz รวมถึงการผ่อนผันจ่ายชำระคลื่น 900 MHz งวดสุดท้าย ซึ่งจะส่งผลบวกต่อกลุ่ม ICT
กลยุทธ์การลงทุน : ด้านกลยุทธการลงทุน ด้วยมุมมองที่ว่าตลาดในวันนี้มีโอกาสที่จะเจอแรงขายทำกำไร ในระยะสั้น จึงปรับลดคำแนะนำลงเป็น "ถือ" เน้นการถือระยะสั้น เน้นหุ้นที่นักลงทุนเข้ามา เก็งงบ 4Q17 (โรงกลั่นน้ำมัน-ปิโตรเคมี), หุ้นที่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับตลาดหุ้น, โดยหุ้นขนาดใหญ่ที่ติด most active และตลาดยังให้ความสนใจต่อเนื่อง ได้แก่ DTAC, KBANK, BJC
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ TK, THANI
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : SAT, UV, TITLE
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
(+) SUN - King of Corn
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (27 ธ.ค.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,752.48 จุด เพิ่มขึ้น 0.41 จุด หรือ +0.02% มูลค่าการซื้อขาย 61,507.53 ล้านบาท ตลาดมีแรงเทขายออกมาในช่วงท้ายตลาด มองเป็นการขายทำกำไรหลังตลาดฯปรับตัวขึ้นมา 3 วันติดต่อกัน แต่แรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันยังคงมีอยู่
ปัจจัยในประเทศ
(+) โครงการของขวัญปีใหม่ปี 2018 ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ - ธอส. จะจ่ายเงินจำนวน 1,000 บาท ให้กับลูกค้ารายย่อยที่มีการชำระเงินงวดของเดือนธันวาคม 2017, ธ.ก.ส. จะคืนดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าร้อยละ 30 ของจำนวนดอกเบี้ยที่ชำระในช่วงวันที่ 1 ม.ค. 2018 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2018 มองประเด็นดังกล่าวเป็นบวกต่อผู้มีรายได้น้อย (สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, 27/12/2017)
(+) โครงการ EEC เสร็จเป็นรูปธรรมภายใน 2Q18 - ลขาธิการคณะกรรมการ EEC ระบุว่า วงเงินลงทุนของโครงการ EEC มีจำนวนไม่น้อยกว่า 6 แสนล้านบาท โดยกำหนดร่างขอบเขตงาน (TOR) ทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2018
(+) คาดการณ์พฤติกรรมการใช้บัตรเครดิตปี 2018 เพิ่มขึ้น - แนวโน้มการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตปี 2018 ประเมินว่า แนวโน้มสินเชื่อบัตรเครดิตปี 2018 ของธนาคารพาณิชย์อาจขยายตัว 6.5% ดีขึ้นจากปี 2017 ที่คาดว่าจะขยายตัว 6% (โพสต์ทูเดย์, 28/12/2017)
(+) เห็นชอบการใช้คลื่น 2,300 MHz แก่ DTAC , ผ่อนผันการจ่ายชำระคลื่น 900 MHz งวดสุดท้าย - กสทช.ห็นชอบให้ บมจ. ทีโอที นำคลื่นความถี่ 2300 MHz จำนวน 60 MHz ให้ DTAC ซึ่งเป็นพันธมิตรธุรกิจในการดำเนินงาน และยังมีการอนุมัติขยายเวลาผ่อนผันออกไป 3-5 งวด หรือ 3-5 ปี โดยจ่ายดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศ
Most Active Stocks
(+) DTAC (ราคาปิด 44.00 บาท) - จากประเด็นเรื่องการอนุมัตินำคลื่นความถี่ 2300 MHz ให้ DTAC ดำเนินการ ส่งผลให้ความกังวลเรื่องการประมูลคลื่นในปีหน้าลดลงไป (รายละเอียดหน้า 2) .... ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 51.43 บาท
(-) BBL (ราคาปิด 204.00 บาท) / (+) KBANK (ราคาปิด 235.00 บาท) - เรามองว่า BBL ยังไม่ใช่หุ้นที่น่าสนใจสำหรับช่วงนี้จากปริมาณ Foreign Limit ที่เต็มจำนวน และมองว่าโครงการรับเหมาฯต่างๆยังไม่เป็นรูปธรรม รายได้สินเชื่อจากส่วนนี้ของ BBL จะลดลงกว่าคาด.... ในเชิงกลยุทธ เรามองว่า KBANK ณ ปัจจุบันมีความน่าสนใจมากกว่า จากมุมมอง flow ต่างประเทศที่ไหลเข้ามายังตลาดหุ้นไทย อีกทั้ง KBANK ยังได้ผลบวกจากการเติบโตของสินเชื่อรายใหญ่อีกด้วย .... ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 248.00 บาท
(+) BJC (ราคาปิด 63.50 บาท) - เราคาดว่า BJC มีโอกาสที่จะติด most active ในช่วงเวลาอันสั้นนี้ จากปริมาณการซื้อขายที่เริ่มมีเข้ามามาก อีกทั้ง BJC ยังได้ผลบวกจากการเร่งขยายสาขา BIGC ให้ครบ 781 สาขาภายในสิ้นปีนี้ .... ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 63.00 บาท แต่มีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการขึ้น
Fund Flow Analysis & Stock Rotation
# คำแนะนำหรือมุมมองของหุ้นแต่ละกลุ่มในเชิงกลยุทธ์ #
ผลประชุมบอร์ดกสทช. วานนี้ (26) คณะกรรมการ เห็นชอบแผนธุรกิจใช้คลื่น 2300 MHz ระหว่างทีโอที-บ.ลูก DTAC และอีกวาระการประชุมที่มีการพิจารณา คือเตรียมส่งความเห็นให้ คสช.พิจารณาใช้ ม.44 ผ่อนผันกลุ่ม ADVANC-RUE ชำระค่างวดคลื่น 900 MHz
ความเห็นของ KTBST
การอนุมัติให้ DTAC ใช้คลื่น 2300 MHz ของ ทีโอที เคยเป็นประเด็นที่ กสทช. ต้องการให้ ทีโอที ส่งแผนการใช้คลื่นให้ กสทช.พิจารรา การอนุมัติให้ DTAC ใช้คลื่นดังกล่าวได้ จึงส่งผลบวกต่อ DTAC เพราะ จะมีคลื่นความถี่ใช้ไปอีกระยะหนึ่ง ไม่กดดันว่าจะต้องเข้าประมูลคลื่นความถี่ในปีหน้ามากนัก จึงน่าจะเป็นบวกต่อราคาหุ้น DTAC
ปัจจุบัน DTAC มีคลื่นความถี่เหลือ 75 MHz แต่จะมีคลื่นความถี่ที่หมดสัมปทานปีหน้า (2561) 60 MHz ทำให้ DTAC ต้องหาคลื่นความถี่มาให้บริการเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังส่งผลบวกต่อ ADVANC และ TRUE เพราะ DTAC อาจไม่จำเป็นต้องได้มาซึ่งคลื่น 900+1800 ที่จะประมูลในปีหน้ามากนัก ราคาที่แข่งขันจะไม่สูง แข่งไม่ดุเดือด เราให้ความสนใจต่อ ADVANC มากกว่า TRUE เพราะ TRUE มีคลื่นที่ยังไม่ใช้งานคงเหลือมากกว่า การได้ใบอนุญาตเพิ่มในเวลานี้ อาจไปเพิ่มต้นทุนให้กับกิจการ ส่วนการที่ กสทช. เห็นชอบให้ ADVANC ผ่อนได้ 3-5 งวด แต่มีดอกเบี้ย และจะเสนอให้ คสช.พิจารณา เรามองเป็นทางออกที่ดี และ ADVANC - TRUE อาจใช้สิทธิในการผ่อนจ่าย ซึ่งจะบวกต่อ cash flow ของบริษัทฯ
ทั้งนี้ กรณีผ่อนจ่ายของ ทีวีดิจิตอล กสทช. คิดอัตราดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี แต่เราดูจากงบ 3Q-17 ของ ADVANC พบว่า cost of fund ของ ADVANC อยู่ประมาณ 4-5%
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
TK(ราคาปิด 15.50) เรามองว่า ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภูมิภาคที่มีมากขึ้นในช่วงหลังนี้จะเป็นปัจจัยบวกสำคัญให้กับ TK โดย เราคาดกำไรสุทธิ 4Q17 ยังสามารถเติบโตได้ดี คาดการณ์ที่ 160 ล้านบาท (+20%QoQ และ 57%YoY) มีแรงหนุนจากยอดขายรถจักรยานยนต์ในประเทศที่ดีขึ้น .... KTBST คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 517ล้านบาท (+20% YoY) และ ปี 2018 ที่ 600 ล้านบาท (+16% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 20.00 บาท)
THANI(ราคาปิด 10.50) เรามองว่ามาตรการโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่จะมีมากขึ้นและการขยายตัวด้านธุรกิจขนส่งในอนาคตจะช่วยส่งผลบวกให้ยอดสินเชื่อรถบรรทุกเติบโตสูงขึ้น ซึ่ง THANI มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจดังกล่าวในระดับสูงที่ 70% ได้รับผลบวก .... KTBST คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2017 ที่ 1,119 ล้านบาท (+27% YoY) และปี 2018 ที่ 1,401 ล้านบาท (+24% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 11.00 บาท)
Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
(0) AAV นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ รายงานการเข้าซื้อหุ้น AAV สัดส่วน 36.3% ที่ราคา 4.70 บาท/หุ้น รวม 1,761 ล้านหุ้น จากกลุ่มครอบครัวศรีวัฒนประภา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน คิง เพาเวอร์ ส่งผลให้ภายหลังการซื้อขายครั้งนี้ นายธรรศพลฐ์ กลับมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 41.32% หลังจากในช่วงกลางปี 2016 ได้มีการขายหุ้นให้ครอบครัวศรีวัฒนประภา สัดส่วน 39% ที่ราคา 4.20 บาท/หุ้น ..... เรามีมุมมองเป็นลบเล็กน้อย ต่อการขายหุ้นของครอบครัวศรีวัฒนประภา เนื่องจากเดิมเราเคยคาดว่าจะเกิดการ synergy ร่วมกันระหว่างสายการบินไทยแอร์เอเชีย และ คิง เพาเวอร์ อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนเกิดขึ้น ขณะที่การกลับมาเป็นผู้ถือหุ้นใน AAV ของนายธรรศพลฐ์ ในแง่ของผลการดำเนินงานของเราคาดว่าจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเดิมนายธรรศพลฐ์ได้คงดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ AAV ตั้งแต่การซื้อและขายหุ้นให้แก่กลุ่มศรีวัฒนประภาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ ในเชิงปัจจัยพื้นฐานเรายังคงราคาเป้าหมาย 7.40 บาท โดยเราคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q17 - 1Q18 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่น
(+) KTC ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ธุรกิจบัตรเครดิตปี 2561 อาจทยอยปรับตัวดีขึ้น ทั้งในส่วนของการขยายฐานลูกค้า และยอดคงค้างของสินเชื่อ โดยมีแรงหนุนจากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำลังซื้อของประชาชน ขณะที่ การส่งเสริมระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ผ่านยุทธศาสตร์ National e-Payment ของภาครัฐ น่าจะเข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศ การใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัล/อิเล็กทรอนิกส์ให้มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อข่าวข้างต้นที่จะช่วยกระตุ้นยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของประชาชน โดยเราชอบ KTC เนื่องจากบริษัทมีการขยายตัวของยอดใช้จ่าย, สินเชื่อบัตรเครดิตที่ขยายตัวภายใต้คุณภาพที่ดีอย่างแข็งแกร่ง และการตั้งสำรองที่คาดว่าเพียงพอต่อ IFRS 9 เราแนะนำ "ถือ" ที่ราคาเหมาะสม 170.00 บาท
(-) ETRON ราคาทองแดงพุ่งขึ้นถึง 1.2% แตะระดับ 7,210 ดอลลาร์ต่อตันในการซื้อขายที่ตลาดลอนดอนวันนี้ ภายหลังจากที่จีนได้สั่งการให้บริษัทผู้ผลิตทองแดงชั้นนำของประเทศปรับลดการผลิตลง เพื่อรับมือกับมลภาวะที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว โดยบริษัทผู้ผลิตทองแดงของจีน ได้รับคำสั่งจากทางการจีนให้ปรับลดการผลิตลงเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และจะมีการประเมินเรื่องระดับของมลภาวะที้เกิดขึ้นในพื้นที่เป็นระยะๆ เพื่อพิจารณาว่าจะกลับมาฟื้นการผลิตอีกครั้งเมื่อใด ซึ่งราคาทองแดงที่ดีดตัวขึ้นในวันนี้ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง โดยราคาทองแดงที่ปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้นั้น แม้ว่าจะได้รับปัจจัยลบจากภาวะติดขัดด้านอุปทาน แต่แนวโน้มการขยายตัวทั่วโลกที่ดีขึ้น ประกอบความต้องการใช้งานที่มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นจากการผลิตรถพลังงานไฟฟ้า จึงทำให้ราคาทองแดงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรามองประเด็นข่าวดังกล่าวเป็นผลลบต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากจะทำให้ต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตชิ้นส่วนวัตถุดิบสูงขึ้น โดยเฉพาะ KCE ซึ่งเรามองว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากมีต้นทุนวัตถุดิบทองแดงมากที่สุดเมื่อเทียบเป็นสัดส่วนกับตัวอื่น ปัจจุบันเราให้คำแนะนำ ขาย ที่ราคาเหมาะสม 85.50 บาท
Source: KTBST Research
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]