- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 25 December 2017 17:43
- Hits: 2125
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“ทดสอบ 1750...ผ่าน&ยืนได้ เล่นรอบ&ถือต่อ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ปัจจัยภายนอก เมื่อศุกร์ 22 ธ.ค.60 ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีและร่างกม.งบประมาณระยะสั้นที่ทำให้รัฐบาลจะมีเงินงบประมาณใช้ไปได้ถึง 19 ม.ค.61 เพื่อเป็นของขวัญคริสต์มาสให้กับชาวอเมริกันเรียบร้อยตามคาดแล้ว ส่วนตัวเลข PCE พื้นฐาน (ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดติดตาม) เดือนพ.ย.ของสหรัฐ +0.1%MoM, +1.5%YoY ถือว่าอยู่ในคาคการณ์ของตลาด ด้านญี่ปุ่น ครม.ก็อนุมัติงบประมาณปี 2561 วงเงิน 97.71 ล้านล้านเยน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (งบฯด้านประกันสังคม & กลาโหมสูงสุดเป็น Record high…ตั้งงบฯรองรับเรื่องความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือไว้ด้วย)
ส่วนปัจจัยภายใน มาถึงสัปดาห์สุดท้ายของปี 60 แล้ว คาดว่า LTF ยังคงช่วยหนุนตลาดและเป็น Window dressing สำคัญหนึ่งของสิ้น 4Q…คาด SET Index ปีนี้จะปิด 1700++ จุดได้ (ณ ระดับปิด 22 ธ.ค.ที่ 1742.08 เพิ่มขึ้น 13%YTD) แม้ว่าต่างชาติและรายย่อยจะขายสุทธิในเดือนธ.ค.และ YTD ปีนี้ (Net sell 1.2 หมื่นลบ. & 1.9 หมื่นลบ.ใน MTD และ 2.9 หมื่นลบ. & 8.7 หมื่นลบ.ใน YTD) แต่นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิสูงในปีนี้ (Net buy 9.7 หมื่นลบ.ใน YTD)
หุ้น Update วันนี้เป็น ADVANC : คาดกำไร 4Q60 โต 21%YoY, 5%QoQ เป็น 7.8 พันลบ. โดยภาวะการณ์แข่งขันด้านราคาผ่อนคลายลงรายได้หลักมีการเติบโตดีขึ้น ผลขาดทุนจาก Handset ลดลงราว 4 เท่าจาก 4Q59 และ 3Q60 สำหรับดีล 2.1 GHz จะเซ็นกับ TOT ได้ราวต้นปีหน้า แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 192 บาท คาดการณ์ Dividend yield ปี 60-61 เท่ากับ 3.8% และ 4.3% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำรายสัปดาห์ (25-29 ธ.ค.60) เป็น PTTGC (หุ้นวัฎจักร), TMB (หุ้นเติบโต), SENA (หุ้นปันผล) ส่วนหุ้นแนะนำใน Wealth Perspective เดือนธ.ค.60 ประกอบด้วย หุ้นเติบโต MTLS, TMB หุ้นมูลค่า AMATA, BBL หุ้นปันผล KKP, SENA
กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นมากภาพตลาดเป็นบวก แต่ยังควรระวังการแกว่ง ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของราคาหุ้นและตลาด แนวต้าน SET ระยะสั้นให้ไว้ที่ 1750, 1760 ถ้าหลุด 1725 ควร Stop loss สำหรับหุ้นที่มีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ AMATA, JAS, BGRIM, IVL, AH, ROJNA, GULF, BCPG ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List เป็น TMB, PYLON, PTT, TOP, SGP, PTTGC, BBL, ASK, MEGA, PT, TCMC, BANPU, VGI, RS, ERW, PSH, JMART หุ้นที่หลุด List –ไม่มี- และหุ้นที่ให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น PTT
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : ทรัมป์ลงนามกฎหมายปฏิรูปภาษี-งบประมาณระยะสั้นเป็นของขวัญวันคริสต์มาสแก่ชาวอเมริกัน
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีวงเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อ 22 ธ.ค.60 ทั้งนี้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายด้วยคะแนนเสียง 224 ต่อ 201 เสียง หลังจากวุฒิสภาลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 48 เสียง
# โดยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายจะยังคงจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้ที่ 7 ขั้น คือที่ระดับ 10%, 12%, 22%, 24%, 32%, 35% และ 37% (ลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดเป็น 37% จาก 39.6%) และปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 21% จากระดับ 35% โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า ถือเป็นการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่ปี 2529 หรือกว่า 30 ปี
# รวมทั้งปธน.ทรัมป์ยังได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นในวันที่ 22 ธ.ค.60 ก่อนที่จะถึงเส้นตายภายในเที่ยงคืนหลังจากที่สภาคองเกรสให้การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวก่อนหน้านี้ โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 231 ต่อ 188 อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นก่อนที่วุฒิสภาจะมีมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 66 ต่อ 32 ซึ่งทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการบริหารประเทศต่อไปจนถึงวันที่ 19 ม.ค. และจะช่วยให้หลีกเลี่ยงการชัทดาวน์หน่วยงานรัฐบาล
+ สหรัฐ : ดัชนี PCE พื้นฐาน +0.1%MoM และ +1.5%YoY ในเดือนพ.ย. และยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นแรง
# ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน +0.1%MoM ในเดือนพ.ย. และ +1.5%YoY
# การใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐ +0.6%MoM ในเดือนพ.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.5%MoM ส่วนรายได้ส่วนบุคคลของสหรัฐ +0.3%MoM ในเดือนพ.ย.
# ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐเดือนพ.ย. +17.5%MoM สู่ระดับ 733,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.50
+ ญี่ปุ่น : คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นไฟเขียวร่างงบประมาณปี 2561 วงเงิน 97.71 ล้านล้านเยน
# คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นอนุมัติร่างงบประมาณประจำปี 2561 ซึ่งมีวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 97.71 ล้านล้านเยน (8.62 แสนล้านดอลลาร์) เมื่อ 22 ธ.ค.60 โดยค่าใช้จ่ายด้านประกันสังคม (32.97 ล้านล้านเยน) และค่าใช้จ่ายด้านกลาโหม (5.19 ล้านล้านเยน) เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
• ภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ : นักลงทุนชะลอซื้อขายก่อนวันหยุดคริสต์มาส
# ดัชนี DJIA ปิด 24,754.06 จุด -0.11% ด้านดัชนี NASDAQ ปิด 6,959.96 จุด -0.08% ส่วนดัชนี S&P500 ปิด 2,683.34 จุด -0.05%
# ตลาดหุ้นยุโรปติดลบ 0.10-0.4% เมื่อวันศุกร์ (22 ธ.ค.) จากปัจจัยการเมืองในสเปน หลังพรรคการเมืองที่สนับสนุนให้แคว้นกาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งท้องถิ่นแคว้นกาตาลุญญา ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าสเปนจะกลับมาเผชิญวิกฤตทางการเมืองอีกครั้ง ซึ่งจะบั่นทอนเสถียรภาพของยุโรปด้วย
# ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบ 0.15% จากแรงกดดันของสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษได้เปิดเผยตัวเลขจีดีพี 3Q60 ว่า +0.3%QoQ
• ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาขยับขึ้นเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 58.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 65.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
# เบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐว่าทรงตัวที่ 747 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว
+ ภาวะตลาดทองคำ : ราคาทอง COMEX ปรับขึ้น 0.6%
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,278.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+ Window Dressing สิ้นปี 2560
# โดยปกติแล้วตลาดจะมีความคาดหวังว่าจะมีการทำราคาปิดสิ้นไตรมาสของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งสำหรับสิ้น 4Q ก็จะมีปัจจัย LTF & RMF เข้ามาช่วยหนุนการทำ Window dressing ไปในตัวอยู่แล้ว สำหรับสิ้นปี 2560 เราคาดว่า SET Index จะปิดในระดับที่ดี โดย ณ ระดับปิดวันที่ 22 ธ.ค.60 ที่ 1742.08 ก็เพิ่มขึ้น 13%YTD แล้ว
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO3980
“ทดสอบ 1750...ผ่าน&ยืนได้ เล่นรอบ&ถือต่อ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ปัจจัยภายนอก เมื่อศุกร์ 22 ธ.ค.60 ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีและร่างกม.งบประมาณระยะสั้นที่ทำให้รัฐบาลจะมีเงินงบประมาณใช้ไปได้ถึง 19 ม.ค.61 เพื่อเป็นของขวัญคริสต์มาสให้กับชาวอเมริกันเรียบร้อยตามคาดแล้ว ส่วนตัวเลข PCE พื้นฐาน (ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดติดตาม) เดือนพ.ย.ของสหรัฐ +0.1%MoM, +1.5%YoY ถือว่าอยู่ในคาคการณ์ของตลาด ด้านญี่ปุ่น ครม.ก็อนุมัติงบประมาณปี 2561 วงเงิน 97.71 ล้านล้านเยน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (งบฯด้านประกันสังคม & กลาโหมสูงสุดเป็น Record high…ตั้งงบฯรองรับเรื่องความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือไว้ด้วย)
ส่วนปัจจัยภายใน มาถึงสัปดาห์สุดท้ายของปี 60 แล้ว คาดว่า LTF ยังคงช่วยหนุนตลาดและเป็น Window dressing สำคัญหนึ่งของสิ้น 4Q…คาด SET Index ปีนี้จะปิด 1700++ จุดได้ (ณ ระดับปิด 22 ธ.ค.ที่ 1742.08 เพิ่มขึ้น 13%YTD) แม้ว่าต่างชาติและรายย่อยจะขายสุทธิในเดือนธ.ค.และ YTD ปีนี้ (Net sell 1.2 หมื่นลบ. & 1.9 หมื่นลบ.ใน MTD และ 2.9 หมื่นลบ. & 8.7 หมื่นลบ.ใน YTD) แต่นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิสูงในปีนี้ (Net buy 9.7 หมื่นลบ.ใน YTD)
หุ้น Update วันนี้เป็น ADVANC : คาดกำไร 4Q60 โต 21%YoY, 5%QoQ เป็น 7.8 พันลบ. โดยภาวะการณ์แข่งขันด้านราคาผ่อนคลายลงรายได้หลักมีการเติบโตดีขึ้น ผลขาดทุนจาก Handset ลดลงราว 4 เท่าจาก 4Q59 และ 3Q60 สำหรับดีล 2.1 GHz จะเซ็นกับ TOT ได้ราวต้นปีหน้า แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 192 บาท คาดการณ์ Dividend yield ปี 60-61 เท่ากับ 3.8% และ 4.3% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำรายสัปดาห์ (25-29 ธ.ค.60) เป็น PTTGC (หุ้นวัฎจักร), TMB (หุ้นเติบโต), SENA (หุ้นปันผล) ส่วนหุ้นแนะนำใน Wealth Perspective เดือนธ.ค.60 ประกอบด้วย หุ้นเติบโต MTLS, TMB หุ้นมูลค่า AMATA, BBL หุ้นปันผล KKP, SENA
กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นมากภาพตลาดเป็นบวก แต่ยังควรระวังการแกว่ง ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของราคาหุ้นและตลาด แนวต้าน SET ระยะสั้นให้ไว้ที่ 1750, 1760 ถ้าหลุด 1725 ควร Stop loss สำหรับหุ้นที่มีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ AMATA, JAS, BGRIM, IVL, AH, ROJNA, GULF, BCPG ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List เป็น TMB, PYLON, PTT, TOP, SGP, PTTGC, BBL, ASK, MEGA, PT, TCMC, BANPU, VGI, RS, ERW, PSH, JMART หุ้นที่หลุด List –ไม่มี- และหุ้นที่ให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น PTT
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : ทรัมป์ลงนามกฎหมายปฏิรูปภาษี-งบประมาณระยะสั้นเป็นของขวัญวันคริสต์มาสแก่ชาวอเมริกัน
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีวงเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อ 22 ธ.ค.60 ทั้งนี้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายด้วยคะแนนเสียง 224 ต่อ 201 เสียง หลังจากวุฒิสภาลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 48 เสียง
# โดยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายจะยังคงจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้ที่ 7 ขั้น คือที่ระดับ 10%, 12%, 22%, 24%, 32%, 35% และ 37% (ลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดเป็น 37% จาก 39.6%) และปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 21% จากระดับ 35% โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า ถือเป็นการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่ปี 2529 หรือกว่า 30 ปี
# รวมทั้งปธน.ทรัมป์ยังได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นในวันที่ 22 ธ.ค.60 ก่อนที่จะถึงเส้นตายภายในเที่ยงคืนหลังจากที่สภาคองเกรสให้การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวก่อนหน้านี้ โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 231 ต่อ 188 อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นก่อนที่วุฒิสภาจะมีมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 66 ต่อ 32 ซึ่งทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการบริหารประเทศต่อไปจนถึงวันที่ 19 ม.ค. และจะช่วยให้หลีกเลี่ยงการชัทดาวน์หน่วยงานรัฐบาล
+ สหรัฐ : ดัชนี PCE พื้นฐาน +0.1%MoM และ +1.5%YoY ในเดือนพ.ย. และยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นแรง
# ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน +0.1%MoM ในเดือนพ.ย. และ +1.5%YoY
# การใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐ +0.6%MoM ในเดือนพ.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.5%MoM ส่วนรายได้ส่วนบุคคลของสหรัฐ +0.3%MoM ในเดือนพ.ย.
# ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐเดือนพ.ย. +17.5%MoM สู่ระดับ 733,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.50
+ ญี่ปุ่น : คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นไฟเขียวร่างงบประมาณปี 2561 วงเงิน 97.71 ล้านล้านเยน
# คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นอนุมัติร่างงบประมาณประจำปี 2561 ซึ่งมีวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 97.71 ล้านล้านเยน (8.62 แสนล้านดอลลาร์) เมื่อ 22 ธ.ค.60 โดยค่าใช้จ่ายด้านประกันสังคม (32.97 ล้านล้านเยน) และค่าใช้จ่ายด้านกลาโหม (5.19 ล้านล้านเยน) เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
• ภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ : นักลงทุนชะลอซื้อขายก่อนวันหยุดคริสต์มาส
# ดัชนี DJIA ปิด 24,754.06 จุด -0.11% ด้านดัชนี NASDAQ ปิด 6,959.96 จุด -0.08% ส่วนดัชนี S&P500 ปิด 2,683.34 จุด -0.05%
# ตลาดหุ้นยุโรปติดลบ 0.10-0.4% เมื่อวันศุกร์ (22 ธ.ค.) จากปัจจัยการเมืองในสเปน หลังพรรคการเมืองที่สนับสนุนให้แคว้นกาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งท้องถิ่นแคว้นกาตาลุญญา ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าสเปนจะกลับมาเผชิญวิกฤตทางการเมืองอีกครั้ง ซึ่งจะบั่นทอนเสถียรภาพของยุโรปด้วย
# ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบ 0.15% จากแรงกดดันของสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษได้เปิดเผยตัวเลขจีดีพี 3Q60 ว่า +0.3%QoQ
• ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาขยับขึ้นเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 58.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 65.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
# เบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐว่าทรงตัวที่ 747 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว
+ ภาวะตลาดทองคำ : ราคาทอง COMEX ปรับขึ้น 0.6%
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,278.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+ Window Dressing สิ้นปี 2560
# โดยปกติแล้วตลาดจะมีความคาดหวังว่าจะมีการทำราคาปิดสิ้นไตรมาสของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งสำหรับสิ้น 4Q ก็จะมีปัจจัย LTF & RMF เข้ามาช่วยหนุนการทำ Window dressing ไปในตัวอยู่แล้ว สำหรับสิ้นปี 2560 เราคาดว่า SET Index จะปิดในระดับที่ดี โดย ณ ระดับปิดวันที่ 22 ธ.ค.60 ที่ 1742.08 ก็เพิ่มขึ้น 13%YTD แล้ว
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO3980
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 25/12/60
“ทดสอบ 1750...ผ่าน&ยืนได้ เล่นรอบ&ถือต่อ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ปัจจัยภายนอก เมื่อศุกร์ 22 ธ.ค.60 ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีและร่างกม.งบประมาณระยะสั้นที่ทำให้รัฐบาลจะมีเงินงบประมาณใช้ไปได้ถึง 19 ม.ค.61 เพื่อเป็นของขวัญคริสต์มาสให้กับชาวอเมริกันเรียบร้อยตามคาดแล้ว ส่วนตัวเลข PCE พื้นฐาน (ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดติดตาม) เดือนพ.ย.ของสหรัฐ +0.1%MoM, +1.5%YoY ถือว่าอยู่ในคาคการณ์ของตลาด ด้านญี่ปุ่น ครม.ก็อนุมัติงบประมาณปี 2561 วงเงิน 97.71 ล้านล้านเยน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (งบฯด้านประกันสังคม & กลาโหมสูงสุดเป็น Record high…ตั้งงบฯรองรับเรื่องความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือไว้ด้วย)
ส่วนปัจจัยภายใน มาถึงสัปดาห์สุดท้ายของปี 60 แล้ว คาดว่า LTF ยังคงช่วยหนุนตลาดและเป็น Window dressing สำคัญหนึ่งของสิ้น 4Q…คาด SET Index ปีนี้จะปิด 1700++ จุดได้ (ณ ระดับปิด 22 ธ.ค.ที่ 1742.08 เพิ่มขึ้น 13%YTD) แม้ว่าต่างชาติและรายย่อยจะขายสุทธิในเดือนธ.ค.และ YTD ปีนี้ (Net sell 1.2 หมื่นลบ. & 1.9 หมื่นลบ.ใน MTD และ 2.9 หมื่นลบ. & 8.7 หมื่นลบ.ใน YTD) แต่นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิสูงในปีนี้ (Net buy 9.7 หมื่นลบ.ใน YTD)
หุ้น Update วันนี้เป็น ADVANC : คาดกำไร 4Q60 โต 21%YoY, 5%QoQ เป็น 7.8 พันลบ. โดยภาวะการณ์แข่งขันด้านราคาผ่อนคลายลงรายได้หลักมีการเติบโตดีขึ้น ผลขาดทุนจาก Handset ลดลงราว 4 เท่าจาก 4Q59 และ 3Q60 สำหรับดีล 2.1 GHz จะเซ็นกับ TOT ได้ราวต้นปีหน้า แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 192 บาท คาดการณ์ Dividend yield ปี 60-61 เท่ากับ 3.8% และ 4.3% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำรายสัปดาห์ (25-29 ธ.ค.60) เป็น PTTGC (หุ้นวัฎจักร), TMB (หุ้นเติบโต), SENA (หุ้นปันผล) ส่วนหุ้นแนะนำใน Wealth Perspective เดือนธ.ค.60 ประกอบด้วย หุ้นเติบโต MTLS, TMB หุ้นมูลค่า AMATA, BBL หุ้นปันผล KKP, SENA
กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นมากภาพตลาดเป็นบวก แต่ยังควรระวังการแกว่ง ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของราคาหุ้นและตลาด แนวต้าน SET ระยะสั้นให้ไว้ที่ 1750, 1760 ถ้าหลุด 1725 ควร Stop loss สำหรับหุ้นที่มีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ AMATA, JAS, BGRIM, IVL, AH, ROJNA, GULF, BCPG ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List เป็น TMB, PYLON, PTT, TOP, SGP, PTTGC, BBL, ASK, MEGA, PT, TCMC, BANPU, VGI, RS, ERW, PSH, JMART หุ้นที่หลุด List –ไม่มี- และหุ้นที่ให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น PTT
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : ทรัมป์ลงนามกฎหมายปฏิรูปภาษี-งบประมาณระยะสั้นเป็นของขวัญวันคริสต์มาสแก่ชาวอเมริกัน
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีวงเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อ 22 ธ.ค.60 ทั้งนี้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายด้วยคะแนนเสียง 224 ต่อ 201 เสียง หลังจากวุฒิสภาลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 48 เสียง
# โดยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายจะยังคงจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้ที่ 7 ขั้น คือที่ระดับ 10%, 12%, 22%, 24%, 32%, 35% และ 37% (ลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดเป็น 37% จาก 39.6%) และปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 21% จากระดับ 35% โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า ถือเป็นการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่ปี 2529 หรือกว่า 30 ปี
# รวมทั้งปธน.ทรัมป์ยังได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นในวันที่ 22 ธ.ค.60 ก่อนที่จะถึงเส้นตายภายในเที่ยงคืนหลังจากที่สภาคองเกรสให้การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวก่อนหน้านี้ โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 231 ต่อ 188 อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นก่อนที่วุฒิสภาจะมีมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 66 ต่อ 32 ซึ่งทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการบริหารประเทศต่อไปจนถึงวันที่ 19 ม.ค. และจะช่วยให้หลีกเลี่ยงการชัทดาวน์หน่วยงานรัฐบาล
+ สหรัฐ : ดัชนี PCE พื้นฐาน +0.1%MoM และ +1.5%YoY ในเดือนพ.ย. และยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นแรง
# ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน +0.1%MoM ในเดือนพ.ย. และ +1.5%YoY
# การใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐ +0.6%MoM ในเดือนพ.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.5%MoM ส่วนรายได้ส่วนบุคคลของสหรัฐ +0.3%MoM ในเดือนพ.ย.
# ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐเดือนพ.ย. +17.5%MoM สู่ระดับ 733,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.50
+ ญี่ปุ่น : คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นไฟเขียวร่างงบประมาณปี 2561 วงเงิน 97.71 ล้านล้านเยน
# คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นอนุมัติร่างงบประมาณประจำปี 2561 ซึ่งมีวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 97.71 ล้านล้านเยน (8.62 แสนล้านดอลลาร์) เมื่อ 22 ธ.ค.60 โดยค่าใช้จ่ายด้านประกันสังคม (32.97 ล้านล้านเยน) และค่าใช้จ่ายด้านกลาโหม (5.19 ล้านล้านเยน) เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
• ภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ : นักลงทุนชะลอซื้อขายก่อนวันหยุดคริสต์มาส
# ดัชนี DJIA ปิด 24,754.06 จุด -0.11% ด้านดัชนี NASDAQ ปิด 6,959.96 จุด -0.08% ส่วนดัชนี S&P500 ปิด 2,683.34 จุด -0.05%
# ตลาดหุ้นยุโรปติดลบ 0.10-0.4% เมื่อวันศุกร์ (22 ธ.ค.) จากปัจจัยการเมืองในสเปน หลังพรรคการเมืองที่สนับสนุนให้แคว้นกาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งท้องถิ่นแคว้นกาตาลุญญา ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าสเปนจะกลับมาเผชิญวิกฤตทางการเมืองอีกครั้ง ซึ่งจะบั่นทอนเสถียรภาพของยุโรปด้วย
# ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบ 0.15% จากแรงกดดันของสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษได้เปิดเผยตัวเลขจีดีพี 3Q60 ว่า +0.3%QoQ
• ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาขยับขึ้นเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 58.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 65.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
# เบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐว่าทรงตัวที่ 747 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว
+ ภาวะตลาดทองคำ : ราคาทอง COMEX ปรับขึ้น 0.6%
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,278.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+ Window Dressing สิ้นปี 2560
# โดยปกติแล้วตลาดจะมีความคาดหวังว่าจะมีการทำราคาปิดสิ้นไตรมาสของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งสำหรับสิ้น 4Q ก็จะมีปัจจัย LTF & RMF เข้ามาช่วยหนุนการทำ Window dressing ไปในตัวอยู่แล้ว สำหรับสิ้นปี 2560 เราคาดว่า SET Index จะปิดในระดับที่ดี โดย ณ ระดับปิดวันที่ 22 ธ.ค.60 ที่ 1742.08 ก็เพิ่มขึ้น 13%YTD แล้ว
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO3981
“ทดสอบ 1750...ผ่าน&ยืนได้ เล่นรอบ&ถือต่อ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ปัจจัยภายนอก เมื่อศุกร์ 22 ธ.ค.60 ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีและร่างกม.งบประมาณระยะสั้นที่ทำให้รัฐบาลจะมีเงินงบประมาณใช้ไปได้ถึง 19 ม.ค.61 เพื่อเป็นของขวัญคริสต์มาสให้กับชาวอเมริกันเรียบร้อยตามคาดแล้ว ส่วนตัวเลข PCE พื้นฐาน (ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดติดตาม) เดือนพ.ย.ของสหรัฐ +0.1%MoM, +1.5%YoY ถือว่าอยู่ในคาคการณ์ของตลาด ด้านญี่ปุ่น ครม.ก็อนุมัติงบประมาณปี 2561 วงเงิน 97.71 ล้านล้านเยน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (งบฯด้านประกันสังคม & กลาโหมสูงสุดเป็น Record high…ตั้งงบฯรองรับเรื่องความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือไว้ด้วย)
ส่วนปัจจัยภายใน มาถึงสัปดาห์สุดท้ายของปี 60 แล้ว คาดว่า LTF ยังคงช่วยหนุนตลาดและเป็น Window dressing สำคัญหนึ่งของสิ้น 4Q…คาด SET Index ปีนี้จะปิด 1700++ จุดได้ (ณ ระดับปิด 22 ธ.ค.ที่ 1742.08 เพิ่มขึ้น 13%YTD) แม้ว่าต่างชาติและรายย่อยจะขายสุทธิในเดือนธ.ค.และ YTD ปีนี้ (Net sell 1.2 หมื่นลบ. & 1.9 หมื่นลบ.ใน MTD และ 2.9 หมื่นลบ. & 8.7 หมื่นลบ.ใน YTD) แต่นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิสูงในปีนี้ (Net buy 9.7 หมื่นลบ.ใน YTD)
หุ้น Update วันนี้เป็น ADVANC : คาดกำไร 4Q60 โต 21%YoY, 5%QoQ เป็น 7.8 พันลบ. โดยภาวะการณ์แข่งขันด้านราคาผ่อนคลายลงรายได้หลักมีการเติบโตดีขึ้น ผลขาดทุนจาก Handset ลดลงราว 4 เท่าจาก 4Q59 และ 3Q60 สำหรับดีล 2.1 GHz จะเซ็นกับ TOT ได้ราวต้นปีหน้า แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 192 บาท คาดการณ์ Dividend yield ปี 60-61 เท่ากับ 3.8% และ 4.3% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำรายสัปดาห์ (25-29 ธ.ค.60) เป็น PTTGC (หุ้นวัฎจักร), TMB (หุ้นเติบโต), SENA (หุ้นปันผล) ส่วนหุ้นแนะนำใน Wealth Perspective เดือนธ.ค.60 ประกอบด้วย หุ้นเติบโต MTLS, TMB หุ้นมูลค่า AMATA, BBL หุ้นปันผล KKP, SENA
กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นมากภาพตลาดเป็นบวก แต่ยังควรระวังการแกว่ง ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของราคาหุ้นและตลาด แนวต้าน SET ระยะสั้นให้ไว้ที่ 1750, 1760 ถ้าหลุด 1725 ควร Stop loss สำหรับหุ้นที่มีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ AMATA, JAS, BGRIM, IVL, AH, ROJNA, GULF, BCPG ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List เป็น TMB, PYLON, PTT, TOP, SGP, PTTGC, BBL, ASK, MEGA, PT, TCMC, BANPU, VGI, RS, ERW, PSH, JMART หุ้นที่หลุด List –ไม่มี- และหุ้นที่ให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น PTT
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : ทรัมป์ลงนามกฎหมายปฏิรูปภาษี-งบประมาณระยะสั้นเป็นของขวัญวันคริสต์มาสแก่ชาวอเมริกัน
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีวงเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อ 22 ธ.ค.60 ทั้งนี้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติเห็นชอบต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายด้วยคะแนนเสียง 224 ต่อ 201 เสียง หลังจากวุฒิสภาลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 48 เสียง
# โดยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายจะยังคงจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้ที่ 7 ขั้น คือที่ระดับ 10%, 12%, 22%, 24%, 32%, 35% และ 37% (ลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดเป็น 37% จาก 39.6%) และปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 21% จากระดับ 35% โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า ถือเป็นการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่ปี 2529 หรือกว่า 30 ปี
# รวมทั้งปธน.ทรัมป์ยังได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นในวันที่ 22 ธ.ค.60 ก่อนที่จะถึงเส้นตายภายในเที่ยงคืนหลังจากที่สภาคองเกรสให้การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวก่อนหน้านี้ โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 231 ต่อ 188 อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นก่อนที่วุฒิสภาจะมีมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 66 ต่อ 32 ซึ่งทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการบริหารประเทศต่อไปจนถึงวันที่ 19 ม.ค. และจะช่วยให้หลีกเลี่ยงการชัทดาวน์หน่วยงานรัฐบาล
+ สหรัฐ : ดัชนี PCE พื้นฐาน +0.1%MoM และ +1.5%YoY ในเดือนพ.ย. และยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นแรง
# ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน +0.1%MoM ในเดือนพ.ย. และ +1.5%YoY
# การใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐ +0.6%MoM ในเดือนพ.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.5%MoM ส่วนรายได้ส่วนบุคคลของสหรัฐ +0.3%MoM ในเดือนพ.ย.
# ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐเดือนพ.ย. +17.5%MoM สู่ระดับ 733,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.50
+ ญี่ปุ่น : คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นไฟเขียวร่างงบประมาณปี 2561 วงเงิน 97.71 ล้านล้านเยน
# คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นอนุมัติร่างงบประมาณประจำปี 2561 ซึ่งมีวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 97.71 ล้านล้านเยน (8.62 แสนล้านดอลลาร์) เมื่อ 22 ธ.ค.60 โดยค่าใช้จ่ายด้านประกันสังคม (32.97 ล้านล้านเยน) และค่าใช้จ่ายด้านกลาโหม (5.19 ล้านล้านเยน) เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
• ภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ : นักลงทุนชะลอซื้อขายก่อนวันหยุดคริสต์มาส
# ดัชนี DJIA ปิด 24,754.06 จุด -0.11% ด้านดัชนี NASDAQ ปิด 6,959.96 จุด -0.08% ส่วนดัชนี S&P500 ปิด 2,683.34 จุด -0.05%
# ตลาดหุ้นยุโรปติดลบ 0.10-0.4% เมื่อวันศุกร์ (22 ธ.ค.) จากปัจจัยการเมืองในสเปน หลังพรรคการเมืองที่สนับสนุนให้แคว้นกาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งท้องถิ่นแคว้นกาตาลุญญา ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าสเปนจะกลับมาเผชิญวิกฤตทางการเมืองอีกครั้ง ซึ่งจะบั่นทอนเสถียรภาพของยุโรปด้วย
# ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบ 0.15% จากแรงกดดันของสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษได้เปิดเผยตัวเลขจีดีพี 3Q60 ว่า +0.3%QoQ
• ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาขยับขึ้นเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 58.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 65.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
# เบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐว่าทรงตัวที่ 747 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว
+ ภาวะตลาดทองคำ : ราคาทอง COMEX ปรับขึ้น 0.6%
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,278.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+ Window Dressing สิ้นปี 2560
# โดยปกติแล้วตลาดจะมีความคาดหวังว่าจะมีการทำราคาปิดสิ้นไตรมาสของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งสำหรับสิ้น 4Q ก็จะมีปัจจัย LTF & RMF เข้ามาช่วยหนุนการทำ Window dressing ไปในตัวอยู่แล้ว สำหรับสิ้นปี 2560 เราคาดว่า SET Index จะปิดในระดับที่ดี โดย ณ ระดับปิดวันที่ 22 ธ.ค.60 ที่ 1742.08 ก็เพิ่มขึ้น 13%YTD แล้ว
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO3981