- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 22 December 2017 18:52
- Hits: 7991
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“ยังควรระวังการแกว่ง”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ปัจจัยภายนอก ตัวเลขจีดีพีประมาณการครั้งสุดท้ายงวด 3Q60 ของสหรัฐโต 3.2% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย แต่มองว่าไม่ได้มีผลนัก ด้านดัชนีการผลิตเบื้องต้นธ.ค.เฟดฟิลาเดลเฟียรายงานว่าเพิ่มเป็น 26.2 จาก 22.7 ในเดือนพ.ย. และราคาน้ำมันดิบที่ขยับขึ้นต่อมาช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐ (ล่าสุด WTI อยู่ที่ 58.36 และ BRENT 64.9 US$/bbl) สำหรับการโหวตร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นที่จะใช้ถึง 19 ม.ค.61 ของสภาคองเกรสก่อนเที่ยงคืนวันนี้ของสหรัฐคาดว่าจะผ่านไปได้
ส่วนปัจจัยภายใน เราและตลาดยังมีมุมมองบวกต่อการส่งออกของไทย โดยเดือนพ.ย.60 โต 13.4% ดีกว่าที่คาดกันไว้ที่ 7.15% สำหรับทั้งปี 60 ก.พาณิชย์คาดว่าส่งออกจะโตกว่า 10% ส่วนปี 61 ประเมินการเติบโตไว้ 6-7% (WTO คาดการณ์ปริมาณการค้าโลกปีหน้าโต 9.2%) สินค้าที่ส่งออกได้ดีขึ้นมากคือ ข้าว, ไก่สดแช่แข็ง&แปรรูป, ผลิตภัณฑ์ยาง, รถยนต์ละส่วนประกอบ, โทรศัพท์และส่วนประกอบ เป็นต้นหุ้นส่งออกที่เราแนะนำทยอยซื้อสะสมเป็น GFPT และ KCE โดยเห็นว่าราคาหุ้น GFPT ได้ลงมาสะท้อนผลประกอบการ 4Q60-1Q61 ที่จะอ่อนลงจากปัจจัยฤดูกาล (4Q & 1Q เป็น Low season ของส่งออก) และราคาไก่ในประเทศทรงตัวที่ 33+/- บาท/กก. ซึ่งปรับขึ้นน้อยกว่าที่คาดกันไว้ก่อนหน้าไปแล้ว แนะนำทยอยซื้อสะสม ให้ TP ปี 61 เท่ากับ 17 บาท ส่วน KCE คาดว่าการดำเนินงานในปี 61 จะดีขึ้นและมี Economy of scale ได้มากขึ้นเมื่อกำลังการผลิตใหม่เฟส 3 เข้ามา ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 26% จากปีนี้ แนะนำซื้อ ให้ TP ปีหน้าที่ 94 บาท สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำรายสัปดาห์ (13-22 ธ.ค.60 เป็น MTLS–หุ้นเติบโต และ SENA-หุ้นปันผล ส่วนหุ้นแนะนำใน Wealth Perspective เดือนธ.ค.60 ประกอบด้วย หุ้นเติบโต MTLS, TMB หุ้นมูลค่า AMATA, BBL หุ้นปันผล KKP, SENA
กลยุทธ์การลงทุน : ระยะสั้นมากภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ ควรระวังการแกว่งตัว ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของราคาหุ้นและตลาด แนวต้าน SET ระยะสั้นให้ไว้ที่ 1740-1750, 1760 ถ้าหลุด 1720 ควร Stop loss สำหรับหุ้นที่มีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ TCMC, BANPU, VGI, RS, ERW, PSH, JMART ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List เป็น TMB, PYLON, PTT, TOP, SGP, PTTGC, BBL, ASK, MEGA, PT หุ้นที่หลุด List คือ JKN และหุ้นที่ให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น BCH
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : GDP งวด 3Q60 โต 3.2% และดัชนีการผลิตเบื้องต้นธ.ค.ยังเพิ่มขึ้นต่อ
• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจีดีพีประมาณการครั้งที่ 3 งวด 3Q60 ว่าขยายตัว 3.2% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ 3.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี แต่ดีกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 อยู่ที่ 3.0%
• เฟดฟิลาเดลเฟียเผยดัชนีการผลิตเบื้องต้นดีดตัวขึ้น สู่ระดับ 26.2 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 22.7 ในเดือนพ.ย.
• จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 20,000 ราย สู่ระดับ 245,000 ราย มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
• สหรัฐ : จับตาการลงมติร่างกม.งบประมาณระยะสั้นสหรัฐก่อนเที่ยงคืนวันนี้
• จับตาสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้น ก่อนถึงเส้นตายที่รัฐบาลจะขาดงบประมาณในการบริหารประเทศภายในเที่ยงคืนของวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยหากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาอนุมัติงบประมาณดังกล่าว และทรัมป์ลงนามรับรองเป็นกฎหมายได้ทัน ก็จะทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการใช้จ่ายจนถึงวันที่ 19 ม.ค.61
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ตลาดปรับขึ้นหลัง GDP งวด 3Q60 ออกมาแข็งแกร่ง
• ดัชนี DJIA ปิด 24,782.29 จุด +55.64 จุด หรือ +0.23% ดัชนี S&P500 ปิด 2,684.57 จุด +5.32 จุด หรือ +0.20% และดัชนี Nasdaq ปิด 6,965.36 จุด +4.40 จุด หรือ +0.06%
• ปัจจัยหนุน คือ 1. บริษัทหลายแห่งประกาศว่าจะนำเม็ดเงินที่ประหยัดได้จากมาตรการลดภาษีไปลงทุนเพิ่ม รวมทั้งเพิ่มค่าจ้างและจ่ายเงินโบนัสให้แก่พนักงาน 2. เศรษฐกิจสหรัฐ 3Q60 โตแข็งแกร่งที่ 3.2% และ 3. ราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อ
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาขยับขึ้นต่อ
• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 58.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 64.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
• มีรายงานว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐพุ่งขึ้น 16% นับตั้งแต่กลางปีที่แล้ว สู่ระดับ 9.8 ล้านบาร์เรล/วัน ทำให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นในกรอบที่จำกัด
• นักวิเคราะห์คาดว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐจะทะลุ 10 ล้านบาร์เรล/วันในไม่ช้า ซึ่งจะเป็นสถิติใหม่ และใกล้เคียงกับการผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย ซึ่งขณะนี้ผลิตน้ำมันราว 11 ล้านบาร์เรล/วัน
• ภาวะตลาดทองคำ : ราคาบวกเล็กน้อยหลัง US bond yield ร่วง
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ขยับขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ระดับ 1270.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.488% เมื่อคืนนี้
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
+ ส่งออกไทย : เดือนพ.ย.60 ขยายตัว 13.4% ดีกว่าที่ตลาดคาด 7.15%...เกินดุลการค้า 1,763 ล้านดอลลาร์
• กระทรวงพาณิชย์รายงานว่ามูลค่าส่งออกเดือนพ.ย.โต 13.4% เป็น 21,434.7 ล้านเหรียญสหรัฐ.ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 7.15% ส่วนนำเข้ามีมูลค่า 19,671.7 ล้านเหรียญสหรัฐ +13.7% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 1,763 ล้านเหรียญสหรัฐ
• สำหรับงวด 11M60 มูลค่าส่งออกโต 10% เท่ากับ 216,953 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้ามีมูลค่า 202,744 ล้านเหรียญสหรัฐ +14.5% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 14,208 ล้านเหรียญสหรัฐ
• คาดส่งออกไทยปีนี้จะเติบโตมากกว่า 10% โดยการส่งออกขยายตัวได้ดีในทุกตลาดสำคัญ โดยเฉพาะตลาดเอเชียใต้ที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 79 เดือน และตลาดอาเซียน (5) ขยายตัวสูงสุดในรอบ 21 เดือน
• กลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 โดยเฉพาะข้าว ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ที่มีการขยายตัวในระดับสูงทั้งด้านปริมาณและราคา ส่วนกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 โดยสินค้าที่ขยายตัวในระดับสูง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง, รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, เครื่องโทรสาร,โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
• แนวโน้มปี 61 การส่งออกยังไปได้ดี...มีลุ้นว่าจะเติบโตได้ 6-7% ล่าสุดองค์การการค้าโลก (WTO) ได้คาดการณ์ปริมาณการค้าโลกในปี 61 ว่าจะขยายตัว 9.2% ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าต่างๆ ทั้งยูโรโซน ญี่ปุ่น และจีนเริ่มฟื้นตัว อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นเล็กน้อยจากปีนี้ และเริ่มจะเข้าสู่จุดที่สมดุล ความเสี่ยง คือ อัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน และเหตุการณ์ที่กระทบการเติบโตของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO3950