- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 22 December 2017 18:52
- Hits: 8234
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
คาด Sideways
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : แนะนำเริ่มระวังแรงขายทำกำไรหุ้นขนาดใหญ่ช่วงก่อนสิ้นปี 2560 ซึ่งอาจจะมีการทำ Window Dressing ในทางขายทำกำไรของกองทุนต่างประเทศ หลังจากที่หุ้นใหญ่ขึ้นมาแรงและเร็ว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรเริ่มให้ความสนใจหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีแนวโน้มธุรกิจดีขึ้นในปีหน้า เราแนะนำ Selective Buy BCH และเลือกธนาคารขนาดกลางและเล็กเช่น TCAP ยังมีความน่าสนใจ และแนะนำ PLANB ซึ่งแผนธุรกิจในการรุกเข้าสู่ตลาดอาเซียนยังคงเป็นเรื่องที่น่าติดตาม ในขณะที่ธุรกิจที่ดำเนินในประเทศไทย จะเริ่มได้รับผลดีจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้นนับจากเดือน ต.ค.เป็นต้นมา ส่วนหุ้นนำตลาดที่ยังคง Laggard เราชอบ PTT มากกว่า PTTEP และ SCC เรารอฟังแผนธุรกิจปี 2561 ของบริษัทต่าง ๆ ที่ทยอยประกาศออกมาในช่วงนี้เป็นต้นไป PTT จะประกาศแผนงาน 5 ปี ในช่วงเย็นวันนี้ และเลือก BANPU เป็นหุ้น Turnaround เนื่องจากธุรกิจถ่านหินจะทำให้เติบโตได้อีกใน 2 ปีข้างหน้า คาดกรอบดัชนีวันนี้ 1,730-1,742 จุด
Stock Comment
BCH เลือกเป็น Pick of the day
TCAP แนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้น และตัวเลขการปล่อยสินเชื่อทั้งภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ย. ดีขึ้นทั้ง MoM และ YoY
PLANB เพิ่มสัดส่วนลงทุนมาเลเซีย เตรียมควบรวมกิจการในฟิลิปปินส์ เป็นการก้าวเข้าสู่ AEC ที่น่าสนใจ
หุ้นเด่นวันนี้ : BCH (ราคาปิด 16.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าของ AWS 19.10 บาท)
BCH เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นที่เราแนะนำในกลุ่มโรงพยาบาลนอกเหนือจาก BDMS (ราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าของ AWS 24.00 บาท) เราชื่นชอบ BCH เนื่องจากบริษัทมีฐานกลุ่มผู้ป่วยที่หลากหลายและมีจำนวนผู้ประกันตนสูงถึง 798,223 ราย (ณ ไตรมาส 3/60) อีกทั้ง เราคาดแนวโน้มบริษัทจะสดใสต่อเนื่องในปีหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากการที่บริษัทจะเริ่มได้รับผลบวกเต็มปีจากการปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายจากสำนักงานประกันสังคม, การเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง, และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล เราประมาณการ EPS ของบริษัทจะเติบโต 13.4% YoY ในปี 2560 และ 20.1% YoY ในปี 2561
คาด Sideways
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : แนะนำเริ่มระวังแรงขายทำกำไรหุ้นขนาดใหญ่ช่วงก่อนสิ้นปี 2560 ซึ่งอาจจะมีการทำ Window Dressing ในทางขายทำกำไรของกองทุนต่างประเทศ หลังจากที่หุ้นใหญ่ขึ้นมาแรงและเร็ว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรเริ่มให้ความสนใจหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีแนวโน้มธุรกิจดีขึ้นในปีหน้า เราแนะนำ Selective Buy BCH และเลือกธนาคารขนาดกลางและเล็กเช่น TCAP ยังมีความน่าสนใจ และแนะนำ PLANB ซึ่งแผนธุรกิจในการรุกเข้าสู่ตลาดอาเซียนยังคงเป็นเรื่องที่น่าติดตาม ในขณะที่ธุรกิจที่ดำเนินในประเทศไทย จะเริ่มได้รับผลดีจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้นนับจากเดือน ต.ค.เป็นต้นมา ส่วนหุ้นนำตลาดที่ยังคง Laggard เราชอบ PTT มากกว่า PTTEP และ SCC เรารอฟังแผนธุรกิจปี 2561 ของบริษัทต่าง ๆ ที่ทยอยประกาศออกมาในช่วงนี้เป็นต้นไป PTT จะประกาศแผนงาน 5 ปี ในช่วงเย็นวันนี้ และเลือก BANPU เป็นหุ้น Turnaround เนื่องจากธุรกิจถ่านหินจะทำให้เติบโตได้อีกใน 2 ปีข้างหน้า คาดกรอบดัชนีวันนี้ 1,730-1,742 จุด
Stock Comment
BCH เลือกเป็น Pick of the day
TCAP แนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้น และตัวเลขการปล่อยสินเชื่อทั้งภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ย. ดีขึ้นทั้ง MoM และ YoY
PLANB เพิ่มสัดส่วนลงทุนมาเลเซีย เตรียมควบรวมกิจการในฟิลิปปินส์ เป็นการก้าวเข้าสู่ AEC ที่น่าสนใจ
หุ้นเด่นวันนี้ : BCH (ราคาปิด 16.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าของ AWS 19.10 บาท)
BCH เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นที่เราแนะนำในกลุ่มโรงพยาบาลนอกเหนือจาก BDMS (ราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าของ AWS 24.00 บาท) เราชื่นชอบ BCH เนื่องจากบริษัทมีฐานกลุ่มผู้ป่วยที่หลากหลายและมีจำนวนผู้ประกันตนสูงถึง 798,223 ราย (ณ ไตรมาส 3/60) อีกทั้ง เราคาดแนวโน้มบริษัทจะสดใสต่อเนื่องในปีหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากการที่บริษัทจะเริ่มได้รับผลบวกเต็มปีจากการปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายจากสำนักงานประกันสังคม, การเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง, และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล เราประมาณการ EPS ของบริษัทจะเติบโต 13.4% YoY ในปี 2560 และ 20.1% YoY ในปี 2561
ปัจจัยในประเทศ :
ส่งออกเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 13.4% YoY อยู่ที่ 2.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ ขณะที่นำเข้าเพิ่มขึ้น 13.7% YoY อยู่ที่ 1.97 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้มีดุลการค้าเกินดุลที่ 1.76 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ส่งออกในช่วง 11 เดือนแรกเติบโต 10% YoY อยู่ที่ 2.17 แสนล้านดอลลาร์ และนำเข้าเพิ่มขึ้น 14.5% YoY อยู่ที่ 2.03 แสนล้านดอลลาร์ มีดุลการค้าเกินดุลที่ 1.42 หมื่นล้านดอลลาร์ (บางกอกโพสต์) ความเห็น: ส่งออกไทยเติบโต 2 หลักเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันแล้ว หนุนโดยการปรับตัวดีขึ้นในทุกตลาดหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกเหนือจากนั้นแล้ว กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกปี 61 เติบโตที่ 6-6.5% แต่เรามองว่าตัวเลขส่งออกมีแนวโน้มเติบโตได้มากกว่าเป้าดังกล่าวถ้าโมเมนตัมยังเป็นเช่นนี้ต่อไป
รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มีมุมมองบวกในปีหน้า และคาดกว่าเศรษฐกิจไทยจะทะยานขึ้น หลังจากที่ซบเซามามากกว่า 2 ทศวรรษ โดยรองนายกฯ ให้ความเห็นดังกล่าวในช่วงระหว่างงาน "Thailands opportunities in 2018" วานนี้ (บางกอกโพสต์)
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ปีนี้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) น่าจะอยู่ที่ 17.5 ล้านล้านบาทได้ เป็นการเติบโตจาก 2 ส่วน คือ การที่ราคาหุ้นปรับขึ้นและมาร์เก็ตแคปหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) เพิ่มขึ้น โดยปีนี้มาร์เก็ตแคปหุ้นไอพีโอทำสถิติสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์มา คือ 4.2 แสนล้านบาท จาก 42 บริษัท (ที่มา : โพสต์ทูเดย์)
คณะกรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอลดอัตราค่าภาษีที่ดิน : สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้เสนอให้กระทรวงการคลังกำหนดเพดานภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ 40% โดยข้อเสนอนี้ได้กำหนดให้ภาษีสำหรับบ้านลดลงเหลือ 0.3% จาก 0.5% (Bangkok Post)
รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา เริ่มก่อสร้าง ตั้งเป้าประมูลงานโยธาครบ 14 สัญญา 1.2 แสนล้านบาทในปีหน้า เล็งสรุปสเปคซื้อขบวนรถโดยสาร 4 หมื่นล้านภายในเดือน เม.ย. 2561 เชื่อมรถไฟความเร็วสูงกับลาวภายในปี 2566 (ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ) ความเห็น หากเน้นการใช้ผู้รับเหมาจากจีนและกำหนดสเปกเฉพาะ อาจส่งผลบวกต่อกลุ่มรับก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างไทยไม่มาก
PLANB(ปิด 6.45 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS ที่ 7.70 บาท) เข้าลงทุนใน แซงจูรี่ ผู้ให้บริการสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย(Outdoor Advertising) ประเทศมาเลเซีย เพิ่มเติมจากเดิม 30% เป็น 40% โดยคิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งหมดประมาณ 10 ล้านริงกิตมาเลเซีย (เทียบเท่า 80 ล้านบาท) และลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นของ JKJ ผู้ให้บริการป้ายโฆษณาภาพนิ่งขนาดใหญ่ทั่วประเทศฟิลิปปินส์ การลงทุนเป็นไปตามแผนการขยายสื่อโฆษณาฯ ให้ครอบคลุมทั้งภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในปัจจุบันแพลนบีมีฐานการให้บริการสื่อโฆษณาฯ ใน 4 ประเทศ ในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว และฟิลิปปินส์ คิดเป็นเงินลงทุนในภูมิภาคอาเซียนทั้งหมด 296.5 ล้านบาท
สรุปภาพรวมตลาดคอนโดกรุงเทพปี 60 : ภาพรวมของอุปสงค์ในปี 2560 นี้ ยังคงเติบโตได้ดี โดยอุปสงค์หรือยอดขายใหม่ในตลาดอยู่ที่ 57,300 หน่วย ซึ่งสูงกว่าอัตราขายเฉลี่ยห้องชุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่ 14% ทั้งนี้ ทำเลที่มีจำนวนห้องชุดที่ขายได้สูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1. พระโขนง - สวนหลวง 2. พญาไท - รัชดาภิเษก 3. ปทุมวัน - ราชเทวี
ส่งออกเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น 13.4% YoY อยู่ที่ 2.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ ขณะที่นำเข้าเพิ่มขึ้น 13.7% YoY อยู่ที่ 1.97 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้มีดุลการค้าเกินดุลที่ 1.76 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ส่งออกในช่วง 11 เดือนแรกเติบโต 10% YoY อยู่ที่ 2.17 แสนล้านดอลลาร์ และนำเข้าเพิ่มขึ้น 14.5% YoY อยู่ที่ 2.03 แสนล้านดอลลาร์ มีดุลการค้าเกินดุลที่ 1.42 หมื่นล้านดอลลาร์ (บางกอกโพสต์) ความเห็น: ส่งออกไทยเติบโต 2 หลักเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันแล้ว หนุนโดยการปรับตัวดีขึ้นในทุกตลาดหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกเหนือจากนั้นแล้ว กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกปี 61 เติบโตที่ 6-6.5% แต่เรามองว่าตัวเลขส่งออกมีแนวโน้มเติบโตได้มากกว่าเป้าดังกล่าวถ้าโมเมนตัมยังเป็นเช่นนี้ต่อไป
รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มีมุมมองบวกในปีหน้า และคาดกว่าเศรษฐกิจไทยจะทะยานขึ้น หลังจากที่ซบเซามามากกว่า 2 ทศวรรษ โดยรองนายกฯ ให้ความเห็นดังกล่าวในช่วงระหว่างงาน "Thailands opportunities in 2018" วานนี้ (บางกอกโพสต์)
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ปีนี้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) น่าจะอยู่ที่ 17.5 ล้านล้านบาทได้ เป็นการเติบโตจาก 2 ส่วน คือ การที่ราคาหุ้นปรับขึ้นและมาร์เก็ตแคปหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) เพิ่มขึ้น โดยปีนี้มาร์เก็ตแคปหุ้นไอพีโอทำสถิติสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์มา คือ 4.2 แสนล้านบาท จาก 42 บริษัท (ที่มา : โพสต์ทูเดย์)
คณะกรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอลดอัตราค่าภาษีที่ดิน : สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้เสนอให้กระทรวงการคลังกำหนดเพดานภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ 40% โดยข้อเสนอนี้ได้กำหนดให้ภาษีสำหรับบ้านลดลงเหลือ 0.3% จาก 0.5% (Bangkok Post)
รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา เริ่มก่อสร้าง ตั้งเป้าประมูลงานโยธาครบ 14 สัญญา 1.2 แสนล้านบาทในปีหน้า เล็งสรุปสเปคซื้อขบวนรถโดยสาร 4 หมื่นล้านภายในเดือน เม.ย. 2561 เชื่อมรถไฟความเร็วสูงกับลาวภายในปี 2566 (ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ) ความเห็น หากเน้นการใช้ผู้รับเหมาจากจีนและกำหนดสเปกเฉพาะ อาจส่งผลบวกต่อกลุ่มรับก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างไทยไม่มาก
PLANB(ปิด 6.45 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS ที่ 7.70 บาท) เข้าลงทุนใน แซงจูรี่ ผู้ให้บริการสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย(Outdoor Advertising) ประเทศมาเลเซีย เพิ่มเติมจากเดิม 30% เป็น 40% โดยคิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งหมดประมาณ 10 ล้านริงกิตมาเลเซีย (เทียบเท่า 80 ล้านบาท) และลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นของ JKJ ผู้ให้บริการป้ายโฆษณาภาพนิ่งขนาดใหญ่ทั่วประเทศฟิลิปปินส์ การลงทุนเป็นไปตามแผนการขยายสื่อโฆษณาฯ ให้ครอบคลุมทั้งภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในปัจจุบันแพลนบีมีฐานการให้บริการสื่อโฆษณาฯ ใน 4 ประเทศ ในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว และฟิลิปปินส์ คิดเป็นเงินลงทุนในภูมิภาคอาเซียนทั้งหมด 296.5 ล้านบาท
สรุปภาพรวมตลาดคอนโดกรุงเทพปี 60 : ภาพรวมของอุปสงค์ในปี 2560 นี้ ยังคงเติบโตได้ดี โดยอุปสงค์หรือยอดขายใหม่ในตลาดอยู่ที่ 57,300 หน่วย ซึ่งสูงกว่าอัตราขายเฉลี่ยห้องชุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่ 14% ทั้งนี้ ทำเลที่มีจำนวนห้องชุดที่ขายได้สูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1. พระโขนง - สวนหลวง 2. พญาไท - รัชดาภิเษก 3. ปทุมวัน - ราชเทวี
ตลาดต่างประเทศ :
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : การปิดเพิ่มขึ้น จากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร รวมทั้งข่าวที่ว่าบริษัทหลายแห่งประกาศเพิ่มการลงทุนและเพิ่มค่าจ้างให้กับพนักงาน หลังจากสภาคองเกรสมีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/60 ของสหรัฐฯ ที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 2 ปี
ตลาดหุ้นยุโรป : ปิดบวก (21 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งในแคว้นกาตาลุญญาของสเปน ซึ่งถือว่าสำคัญ เนื่องจากเป็นแคว้นขนาดใหญ่ และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อสเปน ซึ่งมีการลงคะแนนเสียงในวันที่ 21 ธ.ค.เวลา 15.00 น. ตามเวลาไทย
ตลาดหุ้นลอนดอน : ปิดทำนิวไฮที่ระดับเหนือ 7,600 จุดเป็นครั้งแรก ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งนำโดยหุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์ ถึงแม้ว่าตลาดจะมีแรงกดดันจากข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการบริโภคภาคเอกชนที่อ่อนแอของสหราชอาณาจักร
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : การปิดเพิ่มขึ้น จากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร รวมทั้งข่าวที่ว่าบริษัทหลายแห่งประกาศเพิ่มการลงทุนและเพิ่มค่าจ้างให้กับพนักงาน หลังจากสภาคองเกรสมีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/60 ของสหรัฐฯ ที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 2 ปี
ตลาดหุ้นยุโรป : ปิดบวก (21 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งในแคว้นกาตาลุญญาของสเปน ซึ่งถือว่าสำคัญ เนื่องจากเป็นแคว้นขนาดใหญ่ และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อสเปน ซึ่งมีการลงคะแนนเสียงในวันที่ 21 ธ.ค.เวลา 15.00 น. ตามเวลาไทย
ตลาดหุ้นลอนดอน : ปิดทำนิวไฮที่ระดับเหนือ 7,600 จุดเป็นครั้งแรก ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งนำโดยหุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์ ถึงแม้ว่าตลาดจะมีแรงกดดันจากข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการบริโภคภาคเอกชนที่อ่อนแอของสหราชอาณาจักร
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาทองคำ : ปิดขยับขึ้น (21 ธ.ค.) ได้ปัจจัยหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง หลังจากสหรัฐฯเปิดเผย GDP ไตรมาส 3/60 ซึ่งขยายตัวน้อยกว่าการประมาณการครั้งก่อน และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ : (WTI เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 58.36 ดอลลาร์/บาร์เรล; น้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 64.90 ดอลลาร์/บาร์เรล) นักลงทุนยังคงขานรับรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น
ดัชนีค่าระวางเรือ BDI ปรับตัวลงต่อ 46 จุดเหลือ 1,430 จุด หรือ -3.1% เนื่องจากกิจกรรมขนส่งลดลงช่วงใกล้วันหยุดยาวสิ้นปี คาดหลังปีใหม่จะกลับมาปรับตัวดีขึ้น คงมุมมองตลาดขนส่งสินค้าแห่งเทกองเป็นบวก ราคาลงมาแรงเป็นโอกาสทยอยเข้าสะสม
การกลั่นปรับตัวลงเหลือ 7.08 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือลดลง -6.1% ส่งผลลบต่อกลุ่มโรงกลั่น
ราคาทองคำ : ปิดขยับขึ้น (21 ธ.ค.) ได้ปัจจัยหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง หลังจากสหรัฐฯเปิดเผย GDP ไตรมาส 3/60 ซึ่งขยายตัวน้อยกว่าการประมาณการครั้งก่อน และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ : (WTI เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 58.36 ดอลลาร์/บาร์เรล; น้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 64.90 ดอลลาร์/บาร์เรล) นักลงทุนยังคงขานรับรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด หลังจากมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น
ดัชนีค่าระวางเรือ BDI ปรับตัวลงต่อ 46 จุดเหลือ 1,430 จุด หรือ -3.1% เนื่องจากกิจกรรมขนส่งลดลงช่วงใกล้วันหยุดยาวสิ้นปี คาดหลังปีใหม่จะกลับมาปรับตัวดีขึ้น คงมุมมองตลาดขนส่งสินค้าแห่งเทกองเป็นบวก ราคาลงมาแรงเป็นโอกาสทยอยเข้าสะสม
การกลั่นปรับตัวลงเหลือ 7.08 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือลดลง -6.1% ส่งผลลบต่อกลุ่มโรงกลั่น
Thailand Research Department
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Mr. Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 2-2680-5094
OO3944
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Mr. Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 2-2680-5094
OO3944