WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

YuanTaล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 

กลยุทธ์วันนี้
          SMID Cap Play
Smart Pick
1. สะสม TCMC : ราคาปิด 3.60 บาท ราคาเหมาะสม 5.90 บาท
          a) คาดกำไรสุทธิ 4Q60 ที่ 70 ล้านบาท +/- เติบโต +27% YoY และ +218% QoQ เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่รวมงบของ Tai Ping เข้าสู่งบการเงินรวม
          b) คงมุมมองบวกต่อผลประกอบการปี 2561 จากการรวมงบการเงินของ Tai Ping แบบเต็มปี และ Synergy จากฐานธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นหลังก้าวขึ้นสู่ผู้ผลิตพรม Axminster อันดับ 1 ของโลก ส่งผลให้เกิดการประหยัดต่อขนาด และประสิทธิภาพในการผลิตที่สูงขึ้น
          c) ดังนั้น คาดว่ากำไรสุทธิปี 2561 จะเติบโตสูงถึง +104% YoY เป็น 429 ล้านบาท ขณะที่ Valuation น่าสนใจ ที่ระดับ PER2561 เพียง 8.5 เท่า รวมทั้งให้ Dividend Yield 4% ต่อปี และมี Upside Risk จากการนำบริษัทลูกที่อังกฤษเข้าจดทะเบียน IPO
2. สะสม LANNA : ราคาปิด 19.10 บาท ราคาเหมาะสม 26.00 บาท
          a) Yuanta คาดว่าหุ้นที่มีการเติบโตของกำไรสูง และ Valuation ไม่แพง จะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปี เนื่องจากเชื่อว่า SET Index มี Upside ที่จำกัดบริเวณ 1,740 จุด ส่งผลให้เกิด Stock Rotation แบบเลือกซื้อรายตัว
          b) คาดกำไรสุทธิ 4Q60 เติบโต YoY จากราคาเฉลี่ยถ่านหินที่เพิ่มขึ้นเป็น US$99.00/ตัน เทียบกับ 4Q59 ที่ US$95.00/ตัน รวมทั้งปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น +20% YoY จากความต้องการถ่านหินจากจีนและเกาหลีที่เพิ่มขึ้น
          c) คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของกำไรปี 2561 ที่ 917 ล้านบาท เติบโต +31% YoY และมี Valuation น่าสนใจที่ระดับ PER2561 เพียง 10.9 เท่า และให้เงินปันผลในเกณฑ์ดีปีละ 5%

 

ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลง 1.25 จุด ปิดที่ 1736.91 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 3.6 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อยราว 560 ล้านบาท และสถาบันในประเทศยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 13 ติดต่อกันอีกราว 693 ล้านบาท รวมกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิราว 1.2 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิเล็กน้อยราว 751 สัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิ 6.7 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิ 2.7 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิวันที่ 8 ติดต่อกันอีกราว 3 พันล้านบาท รวมกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท

 

ลยุทธ์วันนี้

          เราคาด SET INDEX วันนี้แกว่งในกรอบแคบ 1730-1740 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ทยอยลดกิจกรรมการลงทุนในช่วงโค้งสุดท้ายของปี โดยเฉพาะต่างชาติ ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ช่วงหยุดเทศกาลคริสมาสต์ พร้อมกับแรงขายทำกำไรในหุ้นหลักที่ขึ้นมาเด่นก่อนหน้าและ/หรือเป็นการปรับพอร์ตบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับภาพตลาดในปี 2561 ทำให้ SET INDEX อาจไม่ทะลุ 1740 จุดในรอบนี้
          อย่างไรก็ตามเรามีมุมมองเชิงบวกต่อตัวเลขเศรษฐกิจของไทย เมื่อการส่งออกไทยเดือน พ.ย.60 ขยายตัว 13.4% YoY สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค.56 ทำให้ 11M60 เพิ่มขึ้นถึง 10% YoY และหากเดือน ธ.ค.นี้ มูลค่าการส่งออกทำได้มากกว่า US$2 หมื่นล้าน ทำให้ส่งออกทั้งปีจะเพิ่มขึ้นได้มากกว่า 10% YoY และเป็นปัจจัยสำคัญหนุนให้ GDP ปี 2560 มีโอกาสขยายตัวได้สูงกว่า 4% อีกทั้งยอดสินเชื่อเดือนพ.ย.ของธนาคาร 8 แห่งที่เราศึกษาพบว่าเพิ่มขึ้น ต่อเนื่อง และเป็นการเติบโตในทุกๆ กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อภาคเอกชนขนาดใหญ่ / SMEs หรือรายย่อย เป็นการยืนยันภาพเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และคาดว่าจะส่งโมเมนตัมต่อเนื่องถึงปีหน้าได้เช่นกัน
          ดังนั้นกลยุทธ์ระยะสั้น  เราแนะนำทยอยขายทำกำไรหุ้นที่ขึ้นมาโดดเด่นในช่วงก่อนหน้า หรืออาจเข้าเก็งกำไรรอบสั้นแบบจำกัดวงเงินบางส่วน ในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Plays) ที่ทรงตัวในระดับสูงและ/หรือขยับขึ้น เช่น น้ำมัน (PTT) /ปิโตรเคมี (PTTGC/ IVL) /ถ่านหิน (LANNA)/เหล็ก (MILL) และหุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุนเฉพาะตัว แต่ราคายังปรับตัวขึ้นไม่มาก (Bottom Fishing) หรือเก็งกำไรไปกับประเด็น Window Dressing รอบสุดท้ายอย่าง THAI / CPF / TRUE ที่กองทุนส่วนใหญ่ถืออยู่

 

ปัจจัยสำคัญวันนี้
สหรัฐฯรายงาน GDP3Q60 ครั้งที่ 3 ขยายตัว 3.2% สูงสุดนับตั้งแต่ 1Q57 แต่ลดลงจากการรายงานครั้งที่ 2 และประมาณการของตลาดที่ 3.3%
วุฒิสภามีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการอนุมัติงบประมาณชั่วคราวออกไปจนถึงวันที่ 19 ม.ค.
กระทรวงพาณิชย์เผยการส่งออกเดือน พ.ย. ขยายตัว 13.4% ส่งผลให้ 11M60 ขยายตัวถึง 10.01%YoY
BOJ มีมติคงนโยบายทางการเงิน โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ -0.1% เพื่อให้เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และตั้งเป้าเงินเฟ้อไว้ที่ 2%
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือน พ.ย. วันที่ 26 ธ.ค. ตลาดคาดขยายตัว 0.5%YoY เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวเพียง 0.2%YoY
         
Strategist Team
          Mayuree Chowvikran    Head of Research ,   662-009-8050
          Padon Vannarat     Strategist ,   662-009-8060
          Piyapat Patarapuvadol      Strategist ,    662-009-8062
          Nutt Treepoonsuk     Strategist ,   662-009-8059
OO3938

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!