WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM) 

SET Index: แนวรับ 1730 แนวต้าน 1750 และ 1780 
  SET Index: 1736.58 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1740 จุดก่อนที่จะถูกขายทำกำไรออกมาในช่วงสั้น ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง จึงทำให้การปรับตัวลดลงน่าจะอยู่ในกรอบจำกัด โดยมีแนวรับที่ 1730 จุด และมีแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1750 จุดเป็นแนวต้านสำคัญ 
  แนวต้าน : 1740 และ 1742
  แนวรับ   : 1735 และ 1732
BANPU = 18.80/19.00, PTT = 436/440, KTB = 19.00/19.40, GPSC = 65.00/66.00, KBANK = 232/236
True Corporation (TRUE TB; THB 6.20) – ซื้อ
  แนวต้าน : 6.50 และ 6.65  / เป้าหมาย 7.00
  แนวรับ   : 6.20 และ 6.10
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคต่อเนื่อง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และเส้นแนวโน้มขาลงในระยะยาวขึ้นมาได้ 
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
  แนะนำซื้อ TRUE โดยมีแนวรับที่ 6.20 และ 6.10 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 6.50 และ 6.65 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 6.00 ลงไป    
Masterkool International (KOOL TB; THB 2.46) – ซื้อ
  แนวต้าน : 2.60 และ 2.70
  แนวรับ   : 2.46 และ 2.40
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะยาวขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นหนือระดับ 50
  แนะนำซื้อ KOOL โดยมีแนวรับที่ 2.46 และ 2.40 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.60 และ 2.70 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.28 ลงไป    

Analysts :  
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
Line ID : @CIMBS      Youtube : CIMBS

บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET…แกว่งกรอบแคบๆ
  ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐรอบนึ้ถือเป็นรอบการขึ้นที่ยาวนานเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นสหรัฐ คือขึ้นมาแล้วประมาณ 9 ปีกว่าๆ เทียบรอบที่ยาวนานที่สุดตั้งแต่เดือน ต.ค. 1990 ถึง ก.ย, 2000 โดยรอบนี้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นไปมากกว่า 400% ส่วนรอบล่าสุดขึ้นไปแล้วทั้งสิ้นประมาณ 300% คือตั้งแต่เดือน มี.ค. 2009 แม้ยังไม่ใครรู้ว่าจะขึ้นไปอีกเท่าไร แต่ต่างมองว่ายังขึ้นต่อ หากจะให้ขึ้นไปโดยใช้เวลาเท่าๆ กับรอบปี 1990-2000 ก็จะตรงกับปี 2018 (ดูรูปด้านซ้าย) แม้จะมองกันว่ามีแนวโน้มจะขึ้นต่อ แต่บางส่วนให้ความเห็นว่าต้องเพิ่มความระมัดระวังโดยเฉพาะในช่วง Q1/18 เนื่องจากต่างมองกันว่า ตลาดหุ้นสหรัฐจะรับข่าวเรื่องการลดภาษีไปหมด
  ดัชนี SET ที่สามารถขึ้นยืนเหนือ 1730 จุดได้ ถือเป็นสัญญาณในเชิงบวกมากๆ เพราะสามารถทะลุแนวต้านที่สำคัญไปแล้ว แม้ปริมาณการซื้อ-ขายจะไม่มาก แต่ก็ถือว่าไม่สำคัญเหมือนก่อน เนื่องจากแรงซื้อหุ้นที่เข้ามาจะเน้นหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลักๆ โดยแนวต่อไปที่ดัชนีน่าจะขึ้นไปถึง คือ1750+/- จุดหรือมากกว่า หากมาดูปัจจัยหนุนนอกจากค่า การเปลี่ยนแปลงรอบ 1 เดือนของค่า EPS 12 เดือนล่วงหน้าของตลาดรวมแล้ว ค่าEarning momentum ratio หรือจำนวนหุ้นที่ได้ปรับเพิ่มค่า EPS ลบด้วยจำนวนที่ถูกปรับลดลง หารด้วยจำนวนทั้งหมด พบว่าตอนนี้ขึ้นมายืนในแดนบวกได้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 5 ปี สะท้อนการฟื้นตัวของกำไร ของบริษัทจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจรวม (ดูรูปด้านขวา)โดยการฟื้นในรอบนี้ของค่า Earning momentum แรงพอๆ กับภูมิภาค
  หากหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลักปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า มีปัจจัยอะไรที่จะหนุนให้ตลาดไปต่อหรือยืนได้ เรามองว่าประเด็นดังกล่าวคือการประกาศงบ Q4/17 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กล่าวคือ หากออกมาดี แต่ไม่มากกว่าคาด หุ้นกลุ่มธนาคารอาจมีแรงขายทำกำไรแต่ไม่มาก แต่หากออกมาดีกว่าคาด หุ้นที่งบออกมาดีกว่าคาด จะมีแรงซื้อเข้ามา แต่หากส่วนใหญ่ยังออกมาแย่กว่าเดิม คาดจะมีแรงขายทำกำไรค่อนข้างแรงดังนั้นในช่วงปลายๆ ปีนี้ ดัชนี SET น่าจะเลี้ยงๆ อยู่บริเวณ 1750 จุด
  หากดัชนี SET สามารถขึ้นทะลุ 1750 จุดได้ในช่วงปลายปีนี้ เราแนะนำให้ ถือ และเข้าซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กในกลุ่มพลังงานทางเลือกชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์และบันเทิง ไปก่อนจนกว่าจะเห็นงบหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์หรือให้ดูดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐหลังทะลุ 25000 จุด ว่าเป็นอย่างไร สำหรับแนวโน้มดัชนี SET ในช่วงต้นเดือน ม.ค. น่าจะขึ้นไปที่ระดับ 1770 +/- จุด
  ทิศทางดัชนี SET วันนี้คาดจะเริ่มแกว่งตัวกรอบแคบ หลังรับข่าวการผ่านกฏหมายปฎิรูปโครงสร้างภาษี โดยอาจจะผันผวนบ้างหลังขึ้นติดต่อมาหลายวัน แต่สุดท้ายจะประคับประคองตัวได้ วันนี้มองแนวต้านที่ 1742-1746 จุดและแนวรับที่ 1734-1730 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร CHG MINT LH และ CPN
 
Analysts :  
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
Line ID : @CIMBS      Youtube : CIMBS

บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM) 

Morning Market Summary
  SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,734.23 จุด เพิ่มขึ้น 1.92 จุด (+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย25,059.49 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในกรอบ 1734-1742 จุด ในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคที่แกว่งบวก-ลบ หลังตลาดรับข่าวร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีสหรัฐฯไปแล้วบ้านเรามีแรงหนุนจากกลุ่มสื่อสาร ขณะที่มีแรงขายจากกลุ่มธนาคาร ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์เผยตัวเลขส่งออกเดือนพ.ย. โต 13.4% มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ 7.15%
Afternoon Perspective…
  แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งลง ตลาดน่าจะเข้าสู่ช่วงปรับฐานย่อย หลังดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1745 จุด แล้วยังไม่สามารถผ่านไปในรอบแรก โดยมีโอกาสที่จะปรับฐานย่อยลงมาบริเวณแนวรับ 1728 จุด อย่างไรก็ตาม เรามองว่าสัญญาณการเก็งกำไรยังคงดูดี แนะนำ ถือหุ้นต่อ หรือหาจังหวะเข้าซื้อเพิ่มบริเวณ 1728-1730 จุด มองกลุ่มสื่อสารใหญ่และปิโตรเคมีน่าสนใจ แนะนำ PTTGC IVL ADVANC TRUE
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
  True Corporation (TRUE TB; THB 6.20) – ซื้อ
  Masterkool International (KOOL TB; THB 2.46) – ซื้อ
  Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : AU*, GCAP*, KCM* (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts : 
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS      Youtube : CIMBS
OO3876

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!