WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

GBXบล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market Summary 19-12-17
Close               1,732.31      Volume       Bt65799M
Change            8.60             P/E            18.8
%Change         0.50%          P/BV         2.09
หุ้นแนะนำพิเศษ
STEC (ราคาปิด 23.50 Bloomberg Consensus 30.50)
รฟท.เตรียมเซ็นสัญญางานโยธารถไฟทางคู่ ITD-STEC-UNIQ 28 ธ.ค.นี้ คาดประมูลเฟส 2 กพ.-มี.ค.61
ปี 61 เป็นปีทองชองกลุ่มรับเหมาขนาดใหญ่เพราะมีงาน MEGA Project ที่เตียมประมูล 8.7 แสนล้านบาท (รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าหลากสี และทางด่วนพระราม 3- ดาวคะนอง) นอกจากนี้ยังมีงานจากโครงการ EEC อีกกว่า 5.5 แสนล้านบาท (ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด สนามบินอู่ตะเภา รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ และรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน)
หุ้นเริ่มซื้อขายวันแรก : CPT (ราคา IPO 2.30 บาท)
บมจ.ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ ผู้จำหน่ายอุปกรณ์และระบบควบคุมไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงให้บริการติดตั้งและก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย ซึ่งแบ่งธุรกิจออกเป็น 4 ส่วนคือ 1.ธุรกิจขายตู้ไฟฟ้า (Panel) ได้แก่ ระบบควบคุมเครื่องจักรและตู้ไฟฟ้าแรงดันต่ำ คิดเป็น 56.7% ของรายได้ 2.ธุรกิจขายสินค้าสำเร็จรูปประเภทหน่วย (Unit) ในสัดส่วน 22.3% 3.ธุรกิจให้บริการรับเหมาและติดตั้งสายฟ้า สัดส่วน 18.1% และ 4.ธุรกิจให้บริการและซ่อมแซม คิดเป็น 2.5% ผลประกอบการงวด 9M60 รายได้หลัก 762.4  ลบ. ลดลง -2.9% YoY แต่กำไรสุทธินั้นเพิ่มขึ้นจาก 52.0 ลบ. เป็น 85.6 ลบ. หรือเพิ่มขึ้น +64.5% YoYโดยมีเหตุผลหลักเกิดจากสัดส่วนรายได้มาจากการขายมากขึ้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่มาร์จินสูงกว่างานบริการ   
เงินทุนที่ได้จากการเสนอขาย IPO มูลค่า 621 ลบ. หลักๆ ใช้ลงทุนซื้อที่ดินเพื่อสร้างโรงงานและซื้อเครื่องจักรใหม่ จำนวน 200 ลบ. อีกส่วนสำหรับแผนการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ จำนวน 70 ลบ. และส่วนที่เหลืออีกประมาณ 350 ลบ.สำหรับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการต่อไป
ราคา IPO คิดเป็น Current PER ที่ 14.12 เท่า เทียบกับบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกันมีค่า PER เท่ากับ 12.85 เท่า
Market View  :  ลุ้นกฏหมายปฏิรูปภาษีสหรัฐ
Technical  Insight : BEAUTY  RS
หุ้นแนะนำพิเศษ   : STEC
หุ้นมีข่าว  : CPT NDR  ATP30  TRC 
  ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน ยังฟื้นตัวต่อเนื่องจากความคาดหวังต่อการพิจารณาผ่านร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีสหรัฐฯขั้นตอนสุดท้ายในสัปดาห์นี้  รวมถึงเม็ดเงินจาก LTF และ RMF ยังหนุนต่อ โดยมีแรงหนุนจากกลุ่ม ENERG BANK COMM และ TRANS ทำให้ SET Index ปิดที่ 1732.31 จุด (+8.60 จุด) Volume 6.58 หมื่นลบ. โดย Foreign Net –2,750.44 ลบ.  TFEX Net +1,146 สัญญา ตราสารหนี้ +4,926 ลบ.
 
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
  +น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นขึ้นจากคาดการณ์ว่า EIA จะเผยสต๊อกน้ำมันดิบลดลงต่อเนื่อง อีกทั้สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
  +สหรัฐ ยอดสร้างบ้านใหม่ +3.3% ในเดือนพ.ย. แตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี 
  +ครม.เห็นชอบมาตรการพิเศษเพื่อขับเคลื่อน SME สู่ยุค 4.0 วงเงิน 2.45 แสนลบ.
  -เยอรมนี ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจปรับตัวลงสู่ระดับ 117.2 ในเดือนธ.ค.
  + เม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF
  -ดาวโจนส์ปิดลบหลังนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่า ร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้มากเท่าที่รัฐบาลคาดหวัง    
  +/- Fund Flow ยังผันผวนต่างชาติพลิกกลับเป็นขายกว่า 2.75 พันล้านบาท (ตั้งแต่ต้นธ.ค.มีสถานะขาย 1.17 หมื่นล้านบาท) ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่32.69  Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือน ก.ย. ราว  1.23 แสนสัญญา)
  **20 ธ.ค. กำหนดประชุมกนง. (คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5%)
  ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าในที่สุดร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐจะผ่านขั้นตอนสุดท้ายในสัปดาห์นี้ มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปีและการอนุมัติโครงการขนาดใหญ่ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องถึงปีหน้า และเม็ดเงินจากกองทุน LTF RMF ที่ช่วยพยุงตลาด โดยมีแรงกดดันจาก fund flow ที่ผันผวน คาดวันนี้ SET จะผันผวนในกรอบ 1,723-1,737 จุด
 
กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
  - STA UVAN ครม.ออกมาตรการแก้ปัญหาราคายาง-ปาล์มน้ำมัน
  - BANPU ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นแตะระดับ 100 $/Ton +9%MoM 
  - หุ้นเข้าคำนวณ SET50 :  BCP BEAUTY CENTEL TPIPP SAWAD WHA
  - หุ้นที่มีโอกาส Window dressing SCB KTB PTTEP
  - หุ้นได้ประโยชน์จากการปฏิรูปภาษีสหรัฐ IVL
  - PSTC ได้รับคัดเลือก SPP HYBRID Firm 
  - ERW ปลัดท่องเที่ยว หนุนใช้มาตรการภาษีกระตุ้นเที่ยวไทยเที่ยวไทย
  - หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TWPC JUBILE AMA
 
หุ้นมีข่าว  
Analyst Meeting : NDR (ราคาปิด 3.70 บาท Bloomberg Consensus 4.59 บาท)
ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ยางนอก ยางใน รถจักรยานยนต์ที่มีสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศที่ 55 : 45 ตามลำดับ โดยมีผลประกอบการในช่วง 9M60 หดตัวถึง 56.3%YoY แม้รายได้จากการดำเนินงานทรงตัว YoY หลักๆเกิดจากการสั่งซื้อยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ (คิดเป็นสัดส่วน 40% ของต้นทุน) ในช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นแรงราวปลายปี 59 - ต้นปี 60 ในขณะที่ยังไม่สามารถปรับขึ้นราคาจำหน่ายได้ทันเนื่องจากราคายางได้ปรับตัวลงอย่างรุนแรงในช่วงเวลาดังกล่าว
แต่ทั้งนี้ ล่าสุดมติที่ประชุมคณะกรรมการ (วันที่ 26 พ.ย. 60) ได้อนุมัติเข้าซื้อบริษัท Fung Keong Rubber Manufactory (Malaya) Sdn Bhd หรือ FKRMM (ตัวแทนจำหน่ายยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ FKR ในประเทศมาเลเซีย) ซึ่งเดิมเป็นลูกค้ารายหลักของ NDR (รายได้กว่า 90% ของส่วนต่างประเทศของบริษัทมาจาก FKR) ด้วยวงเงิน 416.5 ล้านบาท (จาก PP 55 ล้านหุ้น ที่ 4 บาท และเงินสดอีกราว 196.5 ล้านบาท) โดยรอมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 18 ม.ค. 61 คาดเข้าทำรายการแล้วเสร็จ 2 ก.พ. 61
ความเห็น เบื้องต้น การเข้าซื้อบริษัทดังกล่าวน่าจะส่งผลให้ 1) NDR ขยายบทบาทจากเดิมเป็นผู้ผลิต OEM เพิ่มเป็นผู้จัดจำหน่ายภายใต้
แบรนด์ของตนเอง (FKR) ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 ในประเทศมาเลเซียที่ราว 25% และ 2) ฐานกำไรที่มีขนาดเท่าๆกัน กล่าวคือ ในภาวะปกติอยู่ที่ 40 ล้านบาทต่อปี น่าจะหนุนให้กำไรของ NDR เติบโตแบบ Inorganic Growth ในปี 61 แต่ทั้งนี้ อาจเผชิญ Dilution Effect ขั้นต่ำ ราว 28.25% อย่างไรก็ตามงวด 4Q60 - Q61 อาจยังไม่สดใสหลังราคาต้นทุนวัตถุดิบอื่นๆ มีการปรับตัวขึ้น และมีค่าใช้จ่ายด้านที่ปรึกษาการเงินเข้ามาอีกบางส่วน แนะนำให้ติดตามผลประกอบการที่ใกล้ผ่านจุดต่ำสุดก่อน "ทยอยซื้อ" รับการเติบโตก้าวกระโดด
(+) ATP30 (ราคาปิด 1.70 ซื้อ ราคาเหมาะสม 2) ผู้บริหารส่งซิกธุรกิจปีหน้าก้าวสู่ยุคทองขนส่ง เปิดกรุรับทรัพย์ลูกค้าใหม่เต็มปี ดันมาร์จิ้นทะลุ 25% ส่วนรายได้คาดโต 20% พร้อมคอนเฟิร์มผลงานปีนี้มาตามนัดเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนที่ 302.58 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานของ ATP30 เนื่องจากพื้นที่ให้บริการอยู่ในบริเวณรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกซึ่งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี  ประกอบกับการเป็นผู้ประกอบการรับขนส่งคนรายแรกของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองระบบ ISO 39001 Road Traffic Safety Management System ซึ่งทำให้ได้รับการยอมรับจากลูกค้าที่เป็นบริษัทข้ามชาติมากขึ้น  คาดกำไรปี 60 เติบโตราว 22% เป็น 26.7 ล้านบาท กำไร 9M60 มีกำไรสุทธิ 15.7 ล้านบาท ลดลง 15%YoY คิดเป็น 59% ของประมาณกำไรทั้งปี  ทั้งนี้แนวโน้มกำไรไตรมาสสุดท้ายของปีมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นมากจากการเริ่มให้บริการลูกค้าใหม่ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง   สำหรับปี 61 คาดรายได้ 412 ล้านบาทเติบโต 19% และคาดกำไรราว 36.5 ล้านบาทเติบโต 37%
(+) TRC (ราคาปิด 1.06 ถือ ราคาเหมาะสม 1.35) เซ็นสัญญาโครงการติดตั้งอุปกรณ์รับ-ส่งกระสวยบนท่อส่งก๊าซธรรมชาติกับ PTT
(+)PTTEP ประกาศลงทุน 5 ปี วงเงิน 5 แสนล้านบาท รองรับแผนพัฒนาโครงการปิโตรเลียมในมือ ลั่นปี 2561 ฟาดยอดขายรวม 3.02 แสนบาร์เรลต่อวัน ลั่นเล็งเข้าซื้อกิจการเพิ่ม-ร่วมประมูลสัมปทานไทย (ที่มา ข่าวหุ้น)
 
นักวิเคราะห์  02-672-5999                   ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง  ext.5937               ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ชัยยศ จิวางกูร  ext.5805                              สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์  ext.5936
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร  ext.5940
OO3802

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!