- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 20 December 2017 16:45
- Hits: 2508
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับ 1730 แนวต้าน 1750 และ 1780
SET Index: 1734.23 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในระยะสั้นหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1730 จุดขึ้นไป พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1730 จุด ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1750 และ 1780 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1700 จุด
แนวต้าน : 1738 และ 1740
แนวรับ : 1732 และ 1730
BANPU = 18.50/18.80, SCB = 150/152, PTT = 436/440, CPF = 24.50/25.00, AOT = 64.00/65.00
Mega Lifesciences (MEGA TB; THB 43.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 45.00 และ 47.00 / เป้าหมาย 52.00
แนวรับ : 43.00 และ 42.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทาเทคนิคต่อเนื่อง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 48.50 และปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากแรงขายทำกำไรไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้เส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ MEGA โดยมีแนวรับที่ 43.00 และ 42.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 45.00 และ 47.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 40.00 ลงไป
Eastern Polymer Group (EPG TB; THB 11.40) – ซื้อ
แนวต้าน : 12.00 และ 12.40
แนวรับ : 11.40 และ 11.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปสร้างฐานในรูปแบบสามเหลี่ยม ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD เคลื่อนไหวออกด้านในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ EPG โดยมีแนวรับที่ 11.40 และ 11.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 12.00 และ 12.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 11.00 ลงไป
SET Index: 1734.23 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในระยะสั้นหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1730 จุดขึ้นไป พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 1730 จุด ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1750 และ 1780 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1700 จุด
แนวต้าน : 1738 และ 1740
แนวรับ : 1732 และ 1730
BANPU = 18.50/18.80, SCB = 150/152, PTT = 436/440, CPF = 24.50/25.00, AOT = 64.00/65.00
Mega Lifesciences (MEGA TB; THB 43.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 45.00 และ 47.00 / เป้าหมาย 52.00
แนวรับ : 43.00 และ 42.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทาเทคนิคต่อเนื่อง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 48.50 และปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากแรงขายทำกำไรไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้เส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ MEGA โดยมีแนวรับที่ 43.00 และ 42.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 45.00 และ 47.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 40.00 ลงไป
Eastern Polymer Group (EPG TB; THB 11.40) – ซื้อ
แนวต้าน : 12.00 และ 12.40
แนวรับ : 11.40 และ 11.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปสร้างฐานในรูปแบบสามเหลี่ยม ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD เคลื่อนไหวออกด้านในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ EPG โดยมีแนวรับที่ 11.40 และ 11.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 12.00 และ 12.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 11.00 ลงไป
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ขึ้นต่อ
หลัง ส.ส. สหรัฐฯ ผ่านร่างกฏหมายปฎิรูปโครงสร้างภาษีเมื่อคืนนี้ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบลงเล็กน้อย เพื่อรอผลการโหวตของ ส.ว. ในวันนี้การผ่านร่างกฏหมายดังกล่าวนักวิเคราะห์ต่างมีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นและเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐจะปรับตัวขึ้นต่อหรือขายทำกำไร ยังต้องติดตามดูไปถึงต้นปีหน้า เพราะช่วงนี้เป็นช่วงย่อยข่าวโดยเฉพาะผลของการลดภาษีจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมไหน ที่จะส่งผลให้เกิดแรงซื้อหุ้นที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นช่วงนี้น่าจะยังเป็นช่วงที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ จะขยับตัวขึ้นได้ต่อ จนกว่าจะเริ่มมีบทวิเคราะห์ผลของการลดภาษีหรือมุมมองของตลาดหุ้น
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้า น่าจะยังเป็นช่วงที่มีข่าวหนุนและดัชนีจะยังขึ้นได้ต่อ ตามทิศทางดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีประเด็นว่าหุ้นกลุ่มไหนหรือตัวไหนน่าลงทุนมากที่สุด โดยที่ผ่านมาแม้แรงซื้อหุ้นในกลุ่มหลักๆจะยังไม่มาก ทั้ง พลังงาน ปิโตรเคมี พลังงานและสื่อสาร แต่ดูเหมือนว่ากำลังมีแรงซื้อเข้ามา และน่าจะมากขึ้น เมื่อดัชนี SET สามารถขึ้นทะลุ 1730 จุดไปได้ เพราะหากเราประเมินความถูก-ความแพงผ่านค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าจะพบว่า หุ้นใหญ่ในกลุ่มหลักๆ ยังเทรดกันไม่แพงเมื่อเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยรอบ 5 ปี
รูปด้านซ้าย เราแสดงค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของหุ้นใหญ่ในกลุ่มต่างๆ เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปี พบว่า SCC IVL BANPU PTTEP IRPC และSCB ยังเทรดกันต่ำกว่าค่า P/E เฉลี่ย 5 ปีหรือเล่นกันที่ค่าเฉลี่ย เท่านั้น ส่วนหุ้นที่เล่นกันเหนือค่า P/E เฉลี่ย 5 ปี ก็ถือว่าไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับหุ้นขนาดกลาง (Mid cap) ในรูปด้านขวา โดยหุ้นขนาดกลางที่ยังเทรดกันต่ำกว่าค่า P/E เฉลี่ย 5 ปี คือ ERW TKN LH QH ดังนั้นเรามองว่าหุ้นที่ไม่แพงและยังไม่ขึ้น น่าจะเป็นหุ้นที่น่าสนใจหลังจากนี้ ส่วนหุ้นที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและเริ่มแพง ในกลุ่ม ค้าปลีก โยงท่องเที่ยว เครื่องดื่มคาดจะยังยืนๆ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่จะโตได้ต่อในปีหน้า เพียงแต่ตอนนี้รอดูงบ Q4/17 ก่อน
หลังเราแนะนำ ซื้อเพิ่มหุ้นในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ธนาคารพาณิชย์และสื่อสารใหญ่ กลุ่มต่อไปที่น่าสนใจ ทั้งแนวโน้มอุตสาหกรรมและยังเทรดกันไม่แพง คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์สร้างบ้าน อย่าง LH QH นอกนั้นจะเป็นปูนใหญ่ (SCC) เรามองว่าในสัปดาห์หน้า น่าจะได้เห็นแรงซื้อหุ้นในกลุ่มที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ทั้งจากการทำปิดงบและแรงซื้อคืนของต่างชาติ
วันนี้แนวโน้มดัชนี SET คาดยังสดใส หลังเกิดแรงซื้อหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลักๆ เข้ามา โดยคาดวันนี้ดัชนีจะเปิดบวกและไปต่อ สลับมีแรงขายบ้างแต่ไม่น่ามีปัญหา กลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่ดัชนีกำลังขึ้นสร้างสถิติรอบใหม่ คือ ซื้อเพิ่มหรือซื้อแล้วถือข้ามปี หุ้นที่น่าสนใจหลังมีสัญญาณแรงซื้อหุ้นใหญ่เข้ามา คือ SCB BANPU IVL SCC LH QH วันนี้มองแนวต้านที่ 1738-1742 จุดและแนวรับที่ 1728-1725 จุด หุ้นที่น่าสนใจในการซื้อเก็งกำไร คือ ADVANC ERW IRPC และ QH
หลัง ส.ส. สหรัฐฯ ผ่านร่างกฏหมายปฎิรูปโครงสร้างภาษีเมื่อคืนนี้ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบลงเล็กน้อย เพื่อรอผลการโหวตของ ส.ว. ในวันนี้การผ่านร่างกฏหมายดังกล่าวนักวิเคราะห์ต่างมีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นและเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐจะปรับตัวขึ้นต่อหรือขายทำกำไร ยังต้องติดตามดูไปถึงต้นปีหน้า เพราะช่วงนี้เป็นช่วงย่อยข่าวโดยเฉพาะผลของการลดภาษีจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมไหน ที่จะส่งผลให้เกิดแรงซื้อหุ้นที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นช่วงนี้น่าจะยังเป็นช่วงที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ จะขยับตัวขึ้นได้ต่อ จนกว่าจะเริ่มมีบทวิเคราะห์ผลของการลดภาษีหรือมุมมองของตลาดหุ้น
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้า น่าจะยังเป็นช่วงที่มีข่าวหนุนและดัชนีจะยังขึ้นได้ต่อ ตามทิศทางดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีประเด็นว่าหุ้นกลุ่มไหนหรือตัวไหนน่าลงทุนมากที่สุด โดยที่ผ่านมาแม้แรงซื้อหุ้นในกลุ่มหลักๆจะยังไม่มาก ทั้ง พลังงาน ปิโตรเคมี พลังงานและสื่อสาร แต่ดูเหมือนว่ากำลังมีแรงซื้อเข้ามา และน่าจะมากขึ้น เมื่อดัชนี SET สามารถขึ้นทะลุ 1730 จุดไปได้ เพราะหากเราประเมินความถูก-ความแพงผ่านค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าจะพบว่า หุ้นใหญ่ในกลุ่มหลักๆ ยังเทรดกันไม่แพงเมื่อเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยรอบ 5 ปี
รูปด้านซ้าย เราแสดงค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของหุ้นใหญ่ในกลุ่มต่างๆ เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปี พบว่า SCC IVL BANPU PTTEP IRPC และSCB ยังเทรดกันต่ำกว่าค่า P/E เฉลี่ย 5 ปีหรือเล่นกันที่ค่าเฉลี่ย เท่านั้น ส่วนหุ้นที่เล่นกันเหนือค่า P/E เฉลี่ย 5 ปี ก็ถือว่าไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับหุ้นขนาดกลาง (Mid cap) ในรูปด้านขวา โดยหุ้นขนาดกลางที่ยังเทรดกันต่ำกว่าค่า P/E เฉลี่ย 5 ปี คือ ERW TKN LH QH ดังนั้นเรามองว่าหุ้นที่ไม่แพงและยังไม่ขึ้น น่าจะเป็นหุ้นที่น่าสนใจหลังจากนี้ ส่วนหุ้นที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและเริ่มแพง ในกลุ่ม ค้าปลีก โยงท่องเที่ยว เครื่องดื่มคาดจะยังยืนๆ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่จะโตได้ต่อในปีหน้า เพียงแต่ตอนนี้รอดูงบ Q4/17 ก่อน
หลังเราแนะนำ ซื้อเพิ่มหุ้นในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ธนาคารพาณิชย์และสื่อสารใหญ่ กลุ่มต่อไปที่น่าสนใจ ทั้งแนวโน้มอุตสาหกรรมและยังเทรดกันไม่แพง คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์สร้างบ้าน อย่าง LH QH นอกนั้นจะเป็นปูนใหญ่ (SCC) เรามองว่าในสัปดาห์หน้า น่าจะได้เห็นแรงซื้อหุ้นในกลุ่มที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ทั้งจากการทำปิดงบและแรงซื้อคืนของต่างชาติ
วันนี้แนวโน้มดัชนี SET คาดยังสดใส หลังเกิดแรงซื้อหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลักๆ เข้ามา โดยคาดวันนี้ดัชนีจะเปิดบวกและไปต่อ สลับมีแรงขายบ้างแต่ไม่น่ามีปัญหา กลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่ดัชนีกำลังขึ้นสร้างสถิติรอบใหม่ คือ ซื้อเพิ่มหรือซื้อแล้วถือข้ามปี หุ้นที่น่าสนใจหลังมีสัญญาณแรงซื้อหุ้นใหญ่เข้ามา คือ SCB BANPU IVL SCC LH QH วันนี้มองแนวต้านที่ 1738-1742 จุดและแนวรับที่ 1728-1725 จุด หุ้นที่น่าสนใจในการซื้อเก็งกำไร คือ ADVANC ERW IRPC และ QH
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,734.23 จุด เพิ่มขึ้น 1.92 จุด (+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย25,059.49 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งในกรอบ โดยมีแรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน และสื่อสาร ขณะที่มีแรงขายจากกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตามเม็ดเงินจาก LTF/RMF ยังคงหนุนตลาด
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งขึ้น ตลาดน่าจะได้แรงหนุนต่อเนื่อง จากการผ่านกฎหมายปฏิรูปภาษีของสภาสูงของสหรัฐ ซึ่งจะเริ่มมีผลในปีหน้า ภาพรวมตลาดยังมีสัญญาณเก็งกำไรได้ต่อเนื่อง โดยจะเริ่มสามารถมองแนวต้านถัดไปที่ 1745 จุด แนวรับจะอยู่ที่ระดับ1728 จุด เรายังเน้นเก็งกำไรในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการผ่านแผนภาษีของสหรัฐ แนะนำIVL BANPU EPG TU CPF
Technical Pick (PM) ...
Mega Lifesciences (MEGA TB; THB 43.00) – ซื้อ
Eastern Polymer Group (EPG TB; THB 11.40) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO3798
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO3798