- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 19 December 2017 16:28
- Hits: 2542
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ขึ้นในกรอบจำกัด
SET Index เช้านี้ปิดที่ 1732.92 จุด เพิ่มขึ้น 9.21 จุด (+0.53%) มูลค่าการซื้อขาย 31,658.78 ล้านบาท SET ช่วงเช้าปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตามทิศทางของตลาดต่างประเทศ เราคาดว่าการปรับขึ้นของ SET น่าจะอยู่ในกรอบที่จำกัดหาก SET ไม่สามารถยืนเหนือ 1730 จุดได้ มีแนวโน้มที่จะถูกขายทำกำไรในระยะสั้น หากผ่านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1740-1750 จุด
แนวต้าน : 1734 และ 1738
แนวรับ : 1727 และ 1720
BANPU = 18.00/18.50 SCB = 149.00/151.50 KBANK = 230.0 / 235.0 PTTEP = 98.75/ 99.50 BDMS = 21.50/ 21.80
Bangkok Ranch (BR TB; THB 7.25) – ซื้อ
แนวต้าน : 7.40 และ 7.60
แนวรับ : 7.20 และ 7.15
ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น หลังปรับฐานบริเวณ 1.40 บาท ราคามีแนวโน้มปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 7.40-7.60 บาท
RSI มีสัญญาณฟื้นตัว
แนะนำซื้อ BR โดยมีแนวรับที่ 7.20 และ 7.15 และมีแนวต้านที่ 7.40 และ 7.60เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 7.10 ลงไป
WHA Corporation (WHA TB; THB 3.90) – ซื้อ
แนวต้าน : 4.00 และ 4.08
แนวรับ : 3.88 และ 3.86
ราคาหุ้นปรับขึ้น คาดว่าราคามีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านเดิมบริเวณ 4.00-4.10 บาท
RSI มีสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง
แนะนำซื้อ WHA โดยมีแนวรับที่ 3.88 และ 3.86 และมีแนวต้านที่ 4.00 และ4.08 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.82 ลงไป
SET Index: ขึ้นในกรอบจำกัด
SET Index เช้านี้ปิดที่ 1732.92 จุด เพิ่มขึ้น 9.21 จุด (+0.53%) มูลค่าการซื้อขาย 31,658.78 ล้านบาท SET ช่วงเช้าปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตามทิศทางของตลาดต่างประเทศ เราคาดว่าการปรับขึ้นของ SET น่าจะอยู่ในกรอบที่จำกัดหาก SET ไม่สามารถยืนเหนือ 1730 จุดได้ มีแนวโน้มที่จะถูกขายทำกำไรในระยะสั้น หากผ่านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1740-1750 จุด
แนวต้าน : 1734 และ 1738
แนวรับ : 1727 และ 1720
BANPU = 18.00/18.50 SCB = 149.00/151.50 KBANK = 230.0 / 235.0 PTTEP = 98.75/ 99.50 BDMS = 21.50/ 21.80
Bangkok Ranch (BR TB; THB 7.25) – ซื้อ
แนวต้าน : 7.40 และ 7.60
แนวรับ : 7.20 และ 7.15
ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น หลังปรับฐานบริเวณ 1.40 บาท ราคามีแนวโน้มปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 7.40-7.60 บาท
RSI มีสัญญาณฟื้นตัว
แนะนำซื้อ BR โดยมีแนวรับที่ 7.20 และ 7.15 และมีแนวต้านที่ 7.40 และ 7.60เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 7.10 ลงไป
WHA Corporation (WHA TB; THB 3.90) – ซื้อ
แนวต้าน : 4.00 และ 4.08
แนวรับ : 3.88 และ 3.86
ราคาหุ้นปรับขึ้น คาดว่าราคามีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านเดิมบริเวณ 4.00-4.10 บาท
RSI มีสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง
แนะนำซื้อ WHA โดยมีแนวรับที่ 3.88 และ 3.86 และมีแนวต้านที่ 4.00 และ4.08 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.82 ลงไป
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ขึ้นทดสอบ 1730 จุด
นักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ คาดกันว่าในวันนี้ ทางสภาคองเกรส น่าจะโหวตลงคะแนนผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี หากผ่าน ก็จะส่งผ่านไปยังประธานาธิบดี Donald trump เซ็นเป็นกฎหมาย โดยจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า โดยภาษีนิติบุคคลจะลดจาก 35% เหลือ 21% ผลดังกล่าวน่าจะไปหนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะจะไปหนุนให้อัตราการทากาไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐเพมิ่ สูงขึ้น โดยโบรกเกอร์ใหญ่ๆของสหรัฐต่างมีการปรับเพมิ่ ประมาณการณ์ของอัตราการทากาไรของบริษัทจดทะเบียนใน S&P 500 เพมิ่ ขึ้นประมาณ 6-9% รวมทั้งปรับเพิ่มเป้าหมายของดัชนี S&P ในปีหน้าเพิ่มขึ้น
หากดูปฏิกริยาของตลาดหุ้นสหรัฐ(S&P500) ต่อการตอบสนองของการผ่านกฎหมายปฏิรูปโครงสร้างภาษีของสหรัฐในช่วง 2 ครั้งที่ผ่านมา คือในวันที่ 26 ก.พ. 1964 ในสมัยประธานาธิบดี Lyndon Johnson และช่วงประธานาธิบดี Ronald Reagan ในวันที่ 22 ต.ค.ปี 1986 จากรูปด้านซ้ายพบว่าต่างดีดตัวขึ้นในระดับ 10-40 % ในช่วงเวลาหลังการผ่านกฏหมายประมาณ 1 ปี ส่วนการผ่านกฎหมายในครั้งนี้จะส่งผลต่อดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเท่าไร ยังคงต้องดูกันต่อ โดยส่วนใหญ่มองในเชิงบวกมากๆ หากตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มที่ดีต่อในปีหน้า ก็น่าจะหนุนให้ตลาดหุ้นไทยคึกคักตามไปด้วยทั้งผลทางจิตวิทยาและผลทางเศรษฐกิจ
หลังนักลงทุนต่างชาติเทขายตลาดหุ้นไทยมาตลอด หลายๆฝ่ายมองว่าสุดท้ายเม็ดเงินต่างชาติบางส่วนน่าจะกลับมาซื้อคืน โดยเฉพาะหุ้นที่ยังไม่ขึ้นหรือหุ้นที่ขึ้นช้ากว่าเพื่อนบ้าน เพราะที่ผ่านมาแรงขายหุ้นของต่างชาติในตลาดหุ้นไทย น่าจะมาจากการโยกเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นที่ขึ้นได้เร็วหรือที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า อย่างกลุ่มเทคโนโลยี ประกอบในช่วงที่ตลาดหุ้นต่างประเทศขึ้นกันแรงๆ อัตราการทากาไรหรือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ช้ากว่าเพื่อนบ้าน ส่วนตอนนี้คาดกันว่าอัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหรืออัตราการทากาไรของตลาด น่าจะกลับมาอยู่ในช่วงความร้อนแรงหรือดีขึ้นกว่าเก่ามากๆ
ดังนั้นในช่วงต้นปีหน้าหรือเร็วสุดในปลายปีนี้ เราน่าจะเห็นเม็ดเงินกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทย โดยเรมิ่ มีสัญญาณในเชิงบวกภายในคือ การออกทริกเกอร์ ฟัน ด์ ของกองทุนในประเทศ กลุ่มที่คาดว่าน่าสนใจ คงหนีไม่พ้นหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลักและหุ้นที่ยังไม่ขึ้นหรือขึ้นช้า อย่าง ธนาคารพาณิชย์พลังงาน ปิโตรเคมี และสื่อสารใหญ่ หากมาดูว่ากลุ่มไหนยังไม่แพง ดูได้จาก รูปด้านขวา ที่เราแสดงค่า P/E ของกลุ่มอุตสาหกรรมในตลาดหุ้นไทย พบว่า กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี โรงพยาบาล ยังเล่นต่ากว่าค่า P/E เฉลี่ย 5 ปี ส่วน ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ อาหาร-เครื่องดื่ม เล่นกันที่ค่าเฉลี่ย เราจึงมองว่าในรอบนี้ กลุ่มที่ยังเล่นในระดับต่ากว่าค่า P/E เฉลี่ย 5 ปีน่าจะยังมี upside รวมทั้งกลุ่มที่เล่นกันที่ค่าเฉลี่ย
วันนี้มองแนวโน้มตลาดน่าจะยังขึ้นได้ต่อหลังดัชนี SET สามารถขึ้นทะลุแนว 1720 จุดได้จากแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์ เราจึงมองว่าวันนี้ดัชนีน่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านแข็งแกร่งที่ 1730+/- จุดจากแรงหนุนของตลาดหุ้นในภูมิภาคและราคาน้ามัน วันนี้มองแนวต้านที่1727-1730 จุด และแนวรับที่ 1720-1716 จุดวันนี้แนะนา ซื้อเก็งกาไร BCP BEAUTY AMATA IVL
นักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ คาดกันว่าในวันนี้ ทางสภาคองเกรส น่าจะโหวตลงคะแนนผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี หากผ่าน ก็จะส่งผ่านไปยังประธานาธิบดี Donald trump เซ็นเป็นกฎหมาย โดยจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า โดยภาษีนิติบุคคลจะลดจาก 35% เหลือ 21% ผลดังกล่าวน่าจะไปหนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะจะไปหนุนให้อัตราการทากาไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐเพมิ่ สูงขึ้น โดยโบรกเกอร์ใหญ่ๆของสหรัฐต่างมีการปรับเพมิ่ ประมาณการณ์ของอัตราการทากาไรของบริษัทจดทะเบียนใน S&P 500 เพมิ่ ขึ้นประมาณ 6-9% รวมทั้งปรับเพิ่มเป้าหมายของดัชนี S&P ในปีหน้าเพิ่มขึ้น
หากดูปฏิกริยาของตลาดหุ้นสหรัฐ(S&P500) ต่อการตอบสนองของการผ่านกฎหมายปฏิรูปโครงสร้างภาษีของสหรัฐในช่วง 2 ครั้งที่ผ่านมา คือในวันที่ 26 ก.พ. 1964 ในสมัยประธานาธิบดี Lyndon Johnson และช่วงประธานาธิบดี Ronald Reagan ในวันที่ 22 ต.ค.ปี 1986 จากรูปด้านซ้ายพบว่าต่างดีดตัวขึ้นในระดับ 10-40 % ในช่วงเวลาหลังการผ่านกฏหมายประมาณ 1 ปี ส่วนการผ่านกฎหมายในครั้งนี้จะส่งผลต่อดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเท่าไร ยังคงต้องดูกันต่อ โดยส่วนใหญ่มองในเชิงบวกมากๆ หากตลาดหุ้นสหรัฐมีแนวโน้มที่ดีต่อในปีหน้า ก็น่าจะหนุนให้ตลาดหุ้นไทยคึกคักตามไปด้วยทั้งผลทางจิตวิทยาและผลทางเศรษฐกิจ
หลังนักลงทุนต่างชาติเทขายตลาดหุ้นไทยมาตลอด หลายๆฝ่ายมองว่าสุดท้ายเม็ดเงินต่างชาติบางส่วนน่าจะกลับมาซื้อคืน โดยเฉพาะหุ้นที่ยังไม่ขึ้นหรือหุ้นที่ขึ้นช้ากว่าเพื่อนบ้าน เพราะที่ผ่านมาแรงขายหุ้นของต่างชาติในตลาดหุ้นไทย น่าจะมาจากการโยกเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นที่ขึ้นได้เร็วหรือที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า อย่างกลุ่มเทคโนโลยี ประกอบในช่วงที่ตลาดหุ้นต่างประเทศขึ้นกันแรงๆ อัตราการทากาไรหรือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ช้ากว่าเพื่อนบ้าน ส่วนตอนนี้คาดกันว่าอัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหรืออัตราการทากาไรของตลาด น่าจะกลับมาอยู่ในช่วงความร้อนแรงหรือดีขึ้นกว่าเก่ามากๆ
ดังนั้นในช่วงต้นปีหน้าหรือเร็วสุดในปลายปีนี้ เราน่าจะเห็นเม็ดเงินกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทย โดยเรมิ่ มีสัญญาณในเชิงบวกภายในคือ การออกทริกเกอร์ ฟัน ด์ ของกองทุนในประเทศ กลุ่มที่คาดว่าน่าสนใจ คงหนีไม่พ้นหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลักและหุ้นที่ยังไม่ขึ้นหรือขึ้นช้า อย่าง ธนาคารพาณิชย์พลังงาน ปิโตรเคมี และสื่อสารใหญ่ หากมาดูว่ากลุ่มไหนยังไม่แพง ดูได้จาก รูปด้านขวา ที่เราแสดงค่า P/E ของกลุ่มอุตสาหกรรมในตลาดหุ้นไทย พบว่า กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี โรงพยาบาล ยังเล่นต่ากว่าค่า P/E เฉลี่ย 5 ปี ส่วน ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ อาหาร-เครื่องดื่ม เล่นกันที่ค่าเฉลี่ย เราจึงมองว่าในรอบนี้ กลุ่มที่ยังเล่นในระดับต่ากว่าค่า P/E เฉลี่ย 5 ปีน่าจะยังมี upside รวมทั้งกลุ่มที่เล่นกันที่ค่าเฉลี่ย
วันนี้มองแนวโน้มตลาดน่าจะยังขึ้นได้ต่อหลังดัชนี SET สามารถขึ้นทะลุแนว 1720 จุดได้จากแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์ เราจึงมองว่าวันนี้ดัชนีน่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านแข็งแกร่งที่ 1730+/- จุดจากแรงหนุนของตลาดหุ้นในภูมิภาคและราคาน้ามัน วันนี้มองแนวต้านที่1727-1730 จุด และแนวรับที่ 1720-1716 จุดวันนี้แนะนา ซื้อเก็งกาไร BCP BEAUTY AMATA IVL
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,732.92 จุด เพิ่มขึ้น 9.21 จุด (+0.53%) มูลค่าการซื้อขาย31,658.78 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศที่ส่วนใหญ่เป็นบวกเนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกที่คาดว่าการร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐจะผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภา (คืนนี้) บ้านเรายังคงมีแรงหนุนจากเม็ดเงิน LTF/RMF
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งขึ้น มีลุ้นปิดเหนือระดับ 1730 จุด เพื่อให้ SETเกิด สัญญาณการซื้อเก็งกำไรต่อเนื่อง ตลาดได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์การผ่านแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐ ซึ่งหากสามารถปิดเกินระดับ 1730 จุด จะสามารถมองเป้าถัดไปที่ระดับ 1745จุด ส่วนแนวรับจะอยู่ที่ระดับ 1727 จุด เราแนะนำเก็งกำไรตามในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนภาษีของสหรัฐ แนะนำ IVL BANPU EPG
Technical Pick (PM) ...
Bangkok Ranch (BR TB; THB 7.25) – ซื้อ
WHA Corporation (WHA TB; THB 3.90) – ซื้อ
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,732.92 จุด เพิ่มขึ้น 9.21 จุด (+0.53%) มูลค่าการซื้อขาย31,658.78 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศที่ส่วนใหญ่เป็นบวกเนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกที่คาดว่าการร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐจะผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภา (คืนนี้) บ้านเรายังคงมีแรงหนุนจากเม็ดเงิน LTF/RMF
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งขึ้น มีลุ้นปิดเหนือระดับ 1730 จุด เพื่อให้ SETเกิด สัญญาณการซื้อเก็งกำไรต่อเนื่อง ตลาดได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์การผ่านแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐ ซึ่งหากสามารถปิดเกินระดับ 1730 จุด จะสามารถมองเป้าถัดไปที่ระดับ 1745จุด ส่วนแนวรับจะอยู่ที่ระดับ 1727 จุด เราแนะนำเก็งกำไรตามในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนภาษีของสหรัฐ แนะนำ IVL BANPU EPG
Technical Pick (PM) ...
Bangkok Ranch (BR TB; THB 7.25) – ซื้อ
WHA Corporation (WHA TB; THB 3.90) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO3758