- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 14 December 2017 17:29
- Hits: 2143
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> BEAUTY, PTTEP, WHA
Stock S R Comment
BEAUTY 18.20 19.10 คาดการบริโภคฟื้นตัว ขยายฐานตลาดจีน
PTTEP 93.00 94.50 OPEC มติขยายเวลาลดกำลังการผลิตยาวถึงปลายปี 61
WHA 3.62 3.76 ตั้งเป้าขายที่เข้ากอง REIT บุกตลาดเวียดนาม
Implication from SET50/SET100 rebalance & FOMC meeting
SET50/SET100 : ตลาดหลักทรัพย์ฯประกาศรายชื่อหุ้นที่จะใช้สำหรับคำนวณดัชนี SET50, SET100, sSET, และ SETHD ในช่วงครึ่งปีแรก พ.ศ. 2561 โดยในส่วนของ SET50 และ SET100 มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ (ตัวเข้มหมายถึงเป็นหุ้นที่เราไม่ได้คาดการณ์ไว้)
1) หุ้นที่ถูกนำเข้าดัชนี SET50 ได้แก่ BCP, BEAUTY, CENTEL, TPIPP, SAWAD, WHA
2) หุ้นที่ถูกถอดออกจากดัชนี SET50 ได้แก่ BLA, DELTA, GLOW, RATCH, SCCC, TPIPL
3) หุ้นที่ถูกนำเข้าดัชนี SET100 ได้แก่ ESSO, GGC, HANA, JMART, JWD, MC, ORI, PSL, SGP, STA, TPIPP, UV, WHAUP
4) หุ้นที่แนวโน้มถูกถอดออกจากดัชนี SET100 ได้แก่ BLA, DELTA, GLOW, LHBANK, MALEE, PLANB, PTL, RATCH, S, SCCC, STPI, THANI, VGI
มุมมองของเรา : ต่อการพิจารณาของตลาดหลักทรัพย์ฯดังกล่าว
1) การเปลี่ยนแปลงหุ้นในดัชนี SET50 รอบนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากพอสมควร มองหุ้นขนาดใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ในคาดการณ์ของเราและตลาดจะมีการเคลื่อนไหวของราคาที่มีนัยสำคัญได้ โดยหุ้นที่มีโอกาสได้แรงหนุนสำคัญได้แก่ BEAUTY, WHA, BCP (เรียงตามลำดับ Market cap) ส่วนหุ้นที่มีโอกาสถูกดดันสำคัญได้แก่ GLOW, DELTA, SCCC, RATCH, BLA (เรียงตามลำดับ Market cap)
2) การเปลี่ยนแปลงหุ้นในดัชนี SET100 ถึง 13 บริษัทในคราวเดียวกันจะทำให้ดัชนีนี้ยิ่งมีความน่าสนใจลดลงต่อนักลงทุนสถาบันในการใช้เป็น Benchmark ในการออกผลิตภัณฑ์พวก Passive fund
FOMC : Fed มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายตามคาดสู่ระดับ 1.25%-1.50% โดยมีปัจจัยอื่นที่น่าสนใจดังนี้
1) เสียงการขึ้นดอกเบี้ยไม่เป็นเอกฉันท์ โดยมีกรรมการ 2 ท่านได้แก่ นาย Charles Evans และ นาย Neel Kashkari ต่างเห็นว่าไม่ควรขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้
2) ค่ากลางของ Dot plots ในปี 2018 อยู่ที่การปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งท่าเดิม
3) Fed มีการ Upgrade ประมาณการ GDP ตลอดทั้ง 4 ปี (2017-2020) โดยของปี 2018 ถูกปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 2.1% สู่ระดับ 2.5%
4) Fed ปรับลดคาดการณ์อัตราการว่างงานตลอดทั้ง 4 ปี (2017-2020) แต่คงประมาณการเงินเฟ้อเป็นส่วนใหญ่
5) Janet Yellen กล่าวหลังการประชุมว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงถัดไปนั้นจะยังไม่ส่งแรงกดดันต่อระดับเงินเฟ้อมากนัก
มุมมองของเรา : โทนที่ออกมาถือว่า Dovish เล็กน้อย โดยเฉพาะคำพูดของนาง Janet Yellen และเสียงการขึ้นดอกเบี้ยที่แตกต่างถึง 2 คน โดยหลังการประชุม เงิน USD และ Bond yield สหรัฐฯปรับตัวลดลงชัดเจน มองเป็นผลบวกต่อสกุลเงินของประเทศเกิดใหม่ในช่วงเช้าวันนี้ ล่าสุดเงินบาทปรับตัวแข็งค่าทำสถิติใหม่อีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน : สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำซื้อขายตามกรอบแนวรับและแนวต้านที่ 1670-1680 และ 1730-1740 จุด ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว หากดัชนีย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ ให้ใช้เป็นจุดสะสมหุ้นเพื่อถือครองไปขายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าได้ สำหรับกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนหากดัชนีปรับย่อมาที่แนวรับได้แก่
1) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แก่ GPSC, TPIPP, WHAUP
2) กลุ่มโรงกลั่น ได้แก่ BCP, IRPC, SPRC
3) กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ ได้แก่ PRM
แนวรับ 1,699 แนวต้าน 1,713
Today's Event
BOL ลูกหุ้นเข้า 24,591,750 หุ้น
CNT ลูกหุ้นเข้า 25,000,000 หุ้น
ORI-W1 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (406.5mn sh 1:1 @ Bt.20)
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO3573