- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 13 December 2017 16:25
- Hits: 1250
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> ERW, LPN, ROJNA
Stock S R Comment
ERW 8.10 8.35 High Season ท่องเที่ยวหนุนกำไรโต
LPN 13.20 13.50 คาด 4Q60 เติบโตสูงสุดของปี จากโครงการเริ่มโอนใหม่
ROJNA 6.80 7.15 กลุ่มทุนใหญ่จากจีน ซื้อที่ดิน 300 ไร่ หนุนยอดโอนโต
Domestic demand will be a forefront in 2018
FOMC : ติดตามผลการประชุม FOMC ที่จะออกมาในช่วงดึกคืนนี้ ซึ่งเราคาดว่าคงจะไม่มี Surprise แต่อย่างใด โดย Fed น่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยจากระดับ 1.00-1.25% สู่ 1.25%-1.50% ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์ไว้แล้ว สะท้อนจาก Fed Funds futures ที่ Price in การขึ้นดอกเบี้ยไป 100% แล้ว ด้วยเหตุนี้คงจะไม่มีผลกระทบใดๆที่สำคัญออกมาก
THB : ธปท.ออกรายงานเมื่อวานนี้ประมาณการว่าการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในช่วงถัดไปน่าจะเริ่มมีระดับที่ลดลง จากการนำเข้าที่ปรับตัวสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยลดทอนแรงกดดันการแข็งค่าของเงินบาทได้
มุมมองของเรา : เห็นด้วย โดยเราเชื่อว่าในปีหน้าแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศจะเริ่มเปลี่ยนจากภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว มายังภาคอุปสงค์ภายในประเทศ ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนของการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าทุนบ้างแล้ว ซึ่งน่าจะทำให้การเกินดุลการค้าในช่วงถัดไปมีระดับที่ลดลงหรืออาจเป็นการขาดดุลในบางเดือนได้ ไม่นับรวมปัจจัยราคาน้ำมันดิบ ที่หากราคายังคงอยู่สูงเช่นนี้ จะทำให้การมูลค่านำเข้าสินค้าหมวดเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้นต่อไปได้อีก จนส่งผลกดดันต่อดุลการค้าอีกทอดหนึ่ง สำหรับ Implication ต่อตัวหุ้นนั้น คาดกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Domestic demand เช่น ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ สื่อและสิ่งพิมพ์ เช่าซื้อ นิคมอุตสาหกรรม และก่อสร้าง จะเป็นกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในปีหน้า ส่วนกลุ่มธนาคารฯ ประเมินเป็นกลุ่มที่มี Upside risk ในปีหน้าสูงที่สุด หากปัญหา NPL Formation เริ่มส่งสัญญาณชะลอลง
EPS : ในระยะสัปดาห์ที่ผ่านมา เราเริ่มเห็นการปรับประมาณการ EPS ปี 2018 ของ SET Index อย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดอยู่ที่ระดับ 111.55 บาท ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน การปรับตัวขึ้นนี้เกิดขึ้นจากหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคเป็นสำคัญ โดยในกลุ่มนี้เรายังคงชื่นชอบกลุ่มโรงกลั่นเป็นสำคัญ ซึ่งมีปัจจัยบวกหนุนล่าสุดได้แก่การปรับตัวขึ้นของค่าการกลั่น Singapore GRM ที่ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 8.86 เหรียญฯต่อบาร์เรลแล้ว นอกจากนั้นคาดบริษัทส่วนใหญ่ในกลุ่มโรงกลั่นจะไม่เผชิญกับการขาดทุนสต็อกน้ำมันหรืออาจมีกำไรในส่วนดังกล่าวเล็กน้อยในไตรมาสที่ 4 นี้ โดยในกลุ่มนี้เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" BCP, SPRC และ IRPC ที่ราคาเป้าหมาย 61, 19.4 และ 7 บาทตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุน : สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำซื้อขายตามกรอบแนวรับและแนวต้านที่ 1670-1680 และ 1730-1740 จุด ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว หากดัชนีย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ ให้ใช้เป็นจุดสะสมหุ้นเพื่อถือครองไปขายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าได้ สำหรับกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนหากดัชนีปรับย่อมาที่แนวรับได้แก่
1) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แก่ GPSC, TPIPP, WHAUP
2) กลุ่มโรงกลั่น ได้แก่ BCP, IRPC, SPRC
3) กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ ได้แก่ PRM
แนวรับ 1,694 แนวต้าน 1,715
Today's Event :
GOLD XD 0.25 บาท
EASON ลูกหุ้นเข้า 70,296,763 หุ้น
PLANB ลูกหุ้นเข้า 13,476,883 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO3537