Tweet

0

Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Tuesday, 12 December 2017 20:15

Hits: 7624

บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

“Selective Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Rebound” ต้าน 1714/1718จุด รับ 1697/1695จุด อังกฤษปิดซ่อมท่อส่งน้ำมันในภูมิภาคทะเลเหนือ กระตุ้นราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นกว่า 2% ทำจุดสูงสุดในรอบ2ปีครึ่ง หนุนกลุ่มพลังงานนำตลาด ผสาน EU  ฟื้นสัมพันธ์การเมืองกับไทย หลังการเลือกตั้งชัดเจน คาดหนุน Fund Flows ไหลเข้าได้ นอกจากนี้ แรงหนุนในประเทศ วันนี้ครม.เตรียมพิจารณารถไฟไฮสปีดไทย-จีน และทางคู่5เส้นทาง เพิ่มแรงเก็งกลุ่มรับเหมา ผสานรองนายกฯสมคิดเร่งช่วยเกษตรกรกระตุ้นเศรษฐกิจฐานแรก วันนี้แนะ “Selective Play” : STEC, MINT, PSTC
Nomura : Key Factors
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.1% สู่ $57.99/bbl / BRT +2.03% สู่ $64.69/bbl
(+) OIL: อังกฤษปิดดำเนินงานเพื่อซ่อมแซมท่อส่งน้ำมันในภูมิภาคทะเลเหนือ
(+) EU: EU ฟื้นความสัมพันธ์ด้านการเมืองกับไทย จากความชัดเจนของการเลือกตั้ง
(+) TH: ครม.เตรียมพิจารณาก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงแรก 3.5กม.
(+) TH: ครม.มีโอกาสอนุมัติรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ซึ่งรฟท.เตรียมลงนามสัญญาธค.นี้
(+) TH: รองนายกฯสมคิด เร่งช่วยเหลือเกษตรกร แก้ไขปัญหาราคายาง ภายใน 3 เดือนนี้
(*) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น-839 ลบ,Long Future +3,691สัญญา,ขายBond-2,685ลบ
Opp Day: UV, SEAFCO, SAT, TCJ, TCAP
Nomura Daily Top Picks: STEC, MINT, PSTC
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Rebound” แนวต้าน 1714/1718จุด แนวรับ 1697/1695จุด อังกฤษประกาศปิดดำเนินงานเพื่อซ่อมแซมท่อส่งน้ำมันในภูมิภาคทะเลเหนือ ซึ่งท่อส่งน้ำมันดิบดังกล่าวคิดเป็นกว่า 40% ของกำลังการผลิต หนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยน้ำมันดืบ Brent ดีดตัวขึ้นกว่า 2.03% สู่ระดับ 64.69 เหรียญต่อบาร์เรล ทำจุดสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง หนุนกลุ่มพลังงานฟื้นนำตลาดได้ ผสานคณะรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป (EU) ตกลงที่จะปรับความสัมพันธ์ด้านการเมืองกับไทย จากความชัดเจนของการเลือกตั้งในประเทศ ถือเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุน หนุน Fund Flows ไหลเข้าไทยได้ นอกจากนี้ ปัจจัยในประเทศยังคงเป็นแรงหนุนต่อเนื่อง โดยวันนี้ครม.เตรียมพิจารณาก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงแรก 3.5กม.และมีโอกาสที่จะอนุมัติรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ซึ่งรฟท.เตรียมลงนามสัญญาในเดือนธค.นี้ คาดเพิ่มแรงเก็งกำไรในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ประกอบกับรองนายกฯสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เร่งช่วยเหลือเกษตรกร แก้ไขปัญหาราคายาง และเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ภายใน 3 เดือนนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากซึ่งจะนำไปสู่กำลังซื้อ และการบริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งการลงทุนภาครัฐฯที่ต่อเนื่อง และมาตรการกระตุ้นฐานราก คาดจะหนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น เพิ่ม Sentiment บวกต่อการลงทุนในไทย
Asset allocation : ถือหุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%
Daily Strategy :  กลยุทธ์เน้นกลุ่ม Big cap(PTTEP, KBANK, MINT, STEC) ผสาน 9 Theme เด่น
    Election & Investment spending : สนช.มติเอกฉันท์รับหลักการ พ.ร.ป.ว่าได้การได้มาซึ่งส.ส. ทำให้กรอบเลือกตั้งยังเป็นไปตามเดิม (มิ.ย.18 กำหนดวันเลือกตั้ง, พ.ย. 18 เลือกตั้ง) + ครม. เตรียม พิจารณาก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงแรก 3.5กม.และมีโอกาสที่จะอนุมัติรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ซึ่งรฟท.เตรียมลงนามสัญญาในเดือนธค.นี้  + BBL, KBANK, TMB, STEC, CK
    EU : เตรียมพิจารณากลับมาเจรจาการค้ากับไทย หลังเลือกตั้งปี 2018 หนุน TU, CPF
    Tourism play : คลังอนุมัติในหลักการ การเพิ่มจุดขอคืนภาษี (Tax refund) ตามแหล่งท่องเที่ยว จุดเปลี่ยนรอบใหญ่ หนุนนักท่องเที่ยวจับจ่ายเพิ่ม  (+MINT ERW) และ consumer  +ROBINS FN MM PM JUBILE
    FTSE Play : Small Cap นำ TPIPP, BGRIM เข้า + เพิ่มน้ำหนัก MINT มีผล 15 ธ.ค.
    Tourism & Seasonal laggard  Play : รัฐบาลเตรียมหนุนการท่องเที่ยวจังหวัดรอง คาดรู้ผลธ.ค. บวกกับ นักท่องเที่ยวเดือน ตค 2017 เพิ่มขึ้น 21%y-y หนุน ERW, MINT และ BDMS
    กลยุทธ์ Pair Trade แนะนำ Short หุ้นเสียประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าไว คือ SBL/Short KCE  ไป ซื้อ/Long THAI ได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าเทียบ Euro และ Seasonal ล่าสุด THAI/KCE มี Ratio ที่ 0.20X รอปิดทำกำไร 0.22-0.23X
    Consumer Play : คาด Small Cap Outperform และเป็นเป้าของกองทุน Mid-Small Cap Funds แนะนำ MM(TP6.5), FN(TP7) , KAMART, JUBILE, PM ส่วน Big Cap. ROBINS, CPALL, HMPRO แนะนำถือลงทุน
    กลยุทธ์ SET50/100 แนะ SAWAD, TPIPP, CENTEL/WHAUP, UV  มีผลกลาง ธ.ค
    Portfolio Top Picks DEC 2017 : KBANK, MINT, STEC, FN, MM, PSTC
Investment Theme:
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
STEC (TP18F 33.5*):  Support: 22.6/22.0 Resistant: 23.6/24.4
Theme : Infrastructure Spending
Earnings Outlook : คาดกำไรปกติ 4Q17F เติบโตทั้ง y-y และ q-q จากรายได้ก่อสร้างงานภาครัฐส่งมอบมากขึ้น ชดเชยงานเก่า ประกอบกับ คาดกำไรปี 2018F เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำในปีนี้ จากเริ่มรับรู้รายได้งานก่อสร้างและอัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้น หนุนแตะระดับ 1.8 พันลบ. +97% y-y โดย Backlog สูงระดับแสนลบ. เป็นจุดสูงสุดในประวัติการณ์ และ Secured รายได้ 3-4 ปีข้างหน้า
Valuation : ปัจจุบันซื้อขาย P/BV  2.8 เท่า แม้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มฯ แต่ยังเหมาะสมจากความสามารถในการทำกำไรสูง , ฐานะการเงินแข็งแกร่ง รวมถึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์ลำดับต้นๆจากการรับงานลงทุนรอบใหญ่ในช่วงถัดไป
Catalyst :  15ธ.ค.นี้ คณะกรรมการรฟท.ประชุมพิจารณาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบินกรุงเทพฯ-ระยองมูลค่า 2.15 แสนล้านบาท คาดเห็นชอบพร้อมเปิดประมูลปีหน้า
MINT (TP18F 50.0*):  Support: 41.5/40.0 Resistant: 43.75/45.0
Theme: Earnings Play
Earnings Outlook: คาดกำไรปกติ 4Q17F เพิ่มขึ้น  y-y, q-q จาก i) ธุรกิจโรงแรมในไทยจะเติบโต ตามการท่องเที่ยว ประกอบกับคาดโรงแรมในต่างประเทศทั้ง โปรตุเกสและบราซิลยังเติบโตดี และมัลดีฟส์อาจมี RevPar กลับมาเป็นบวกจากการเข้าสู่ high season ii) คาด SSS ของธุรกิจร้านอาหารจะกลับมาเป็นบวก จากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น
Valuation: ราคาหุ้นที่ปรับฐานและเริ่มยืนได้อีกครั้งและยัง Laggard กลุ่มฯ มองยังเป็นจุดเข้าลงทุนได้  โดย Valuation ซื้อขายที่ PER18F ระดับ 31x เท่า และยังเหมาะสมจากการเป็นผู้นำในกลุ่มฯที่มีรายได้กระจายตัวที่สุด Upside 18%
Catalyst: คลังเห็นชอบในหลักการ คืนภาษี ณ จุดขาย ช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยวใช้จ่ายเพิ่ม กระจายวงกว้างการบริโภคไปทุกภาคส่วนของประเทศ โดยอาจมีการเริ่มทดลองใช้ใน 3-4 จุดในเมืองในช่วงแรก เป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว
PSTC (TP18F 1.00): Support: 0.75/0.72 Resistant: 0.81/0.85
Earnings Outlook : คาดกำไร 4Q17F พลิกเป็นกำไร y-y แต่ทรงตัว q-q จากยังไม่มีโรงไฟฟ้าจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เพิ่ม + มีค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาทางการเงินทำดีล Big gas และจะเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในช่วง 1H18 หลังจาก ซึ่งเตรียมรับรู้โรงไฟฟ้าชีวภาพ 4 แห่งใหม่ +11.1 MW (SPN, ARN, NWR, SYS) หนุนกำไรสุทธิ 2018F เติบโตแตะ  192.7 ลบ. เพิ่มขึ้นกว่า +271.6% y-y
Valuation : มูลค่าพื้นฐานปี 2018F ที่ 1.0 บาท Upside สูง 30% มีแนวโน้มปรับประมาณการขึ้นอีกครั้ง หากมีความชัดเจนมากขึ้นในส่วนของโครงการ BIGGAS และโครงการท่อน้ำมันในช่วงถัดไป เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเชิงพื้นฐาน ซึ่งจะเพิ่ม Recurring income อย่างมีนัยฯ
Catalyst : บริษัทเพิ่มทุน PP ให้นักลงทุนรายบุคคลรวม 2 พันล้านหุ้น ที่ราคา 0.72 บาท โดยก้อนแรก 1 พันล้านหุ้นจ่ายเงินแล้วเสร็จ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจ่ายเงินก้อนสองอีก 1 พันล้านหุ้น นับราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังแล้วเสร็จ ในสัปดาห์นี้ (7-14 ธ.ค.) ประกอบกับ คาดกกพ.ประกาศผลผู้ชนะประมูล SPP Hybrid ในวันที่ 14 ธ.ค.17 ในเบื้องต้น คาดมีแนวโน้มชนะ 1 โครงการ (25 MW) เป็น Potential upside มูลค่าพื้นฐานเท่ากับ 0.009 บาทต่อ1 MW
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)