- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 12 December 2017 17:23
- Hits: 1647
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มโรงไฟฟ้า, พลังงานทดแทน นำโดย GULF, GPSC, EA, CKP และ BCPG ในขณะที่ HUMAN เข้าซื้อขายในตลาดเป็นวันแรกปรับเพิ่มขึ้นกว่า 101% ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 2.7 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามมีแรงขายเด่นใน SQ โดยราคาหุ้นปรับลงกว่า 24% บนประเด็นการประมูลโครงการเหมืองแม่เมาะ 9 ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,706 จุด (+3.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.5 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.7 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องอีก 839 ล้านบาท แต่ Long สุทธิ SET50 Index Future ต่อเนื่องเป็นวันที่สามติดต่อกันอีก 3,691 สัญญา
Investment theme
สถิติระบุในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีนักลงทุนต่างประเทศ ชะลอแรงขาย เปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันดัน SET ทดสอบแนวต้าน : จากสถิติ 8 ปีที่ผ่านมา (หลัง Subprime crisis) พบว่านักลงทุนต่างประเทศจะเริ่มลดสัดส่วนการขายหุ้นไทยในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปี โดยสัดส่วนการขายจะลดลงเหลือเพียง 19% (จากค่าเฉลี่ย 23% ในช่วงไตรมาส 4 ) ด้วยมูลค่าขายสุทธิเฉลี่ยลดลงเหลือเพียง 2 ร้อยล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนสถาบันจะเพิ่มสัดส่วนการซื้อเป็น 14% (จาก 9% ในช่วงไตรมาส 4 ) ด้วยมูลค่าซื้อสุทธิสูงกว่า 5.3 พันล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้เรามีมุมมองสอดคล้องกับสถิติ กล่าวคือ นักลงทุนสถาบันจะใช้จังหวะช่วงเทศกาลวันหยุดของนักลงทุนต่างประเทศ ในการทยอยซื้อสะสมหุ้นอีกครั้ง โดยแนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ที่คาดจะเป็นเป้าหมายของการทำ Window dressing อย่าง BDMS, TU
Investment theme: คาด SET ใกล้จบการแกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยม บริเวณ 1,680-1,720 และมีโอกาส Break กรอบสามเหลี่ยมในช่วงปลายเดือนธันวาคม-ต้นเดือนมกราคม โดยกลยุทธ์ระยะสั้นเน้น ขึ้นขาย-ลงซื้อ แนะกลุ่ม Logistic (PSL, WICE, PORT) รวมถึงทยอยสะสมกลุ่มธนาคาร (KBANK, BBL) และกลุ่มอสังหา (LPN, AP)
สถิติระบุในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีนักลงทุนต่างประเทศ ชะลอแรงขาย เปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันดัน SET ทดสอบแนวต้าน : จากสถิติ 8 ปีที่ผ่านมา (หลัง Subprime crisis) พบว่านักลงทุนต่างประเทศจะเริ่มลดสัดส่วนการขายหุ้นไทยในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปี โดยสัดส่วนการขายจะลดลงเหลือเพียง 19% (จากค่าเฉลี่ย 23% ในช่วงไตรมาส 4 ) ด้วยมูลค่าขายสุทธิเฉลี่ยลดลงเหลือเพียง 2 ร้อยล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนสถาบันจะเพิ่มสัดส่วนการซื้อเป็น 14% (จาก 9% ในช่วงไตรมาส 4 ) ด้วยมูลค่าซื้อสุทธิสูงกว่า 5.3 พันล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้เรามีมุมมองสอดคล้องกับสถิติ กล่าวคือ นักลงทุนสถาบันจะใช้จังหวะช่วงเทศกาลวันหยุดของนักลงทุนต่างประเทศ ในการทยอยซื้อสะสมหุ้นอีกครั้ง โดยแนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ที่คาดจะเป็นเป้าหมายของการทำ Window dressing อย่าง BDMS, TU
Investment theme: คาด SET ใกล้จบการแกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยม บริเวณ 1,680-1,720 และมีโอกาส Break กรอบสามเหลี่ยมในช่วงปลายเดือนธันวาคม-ต้นเดือนมกราคม โดยกลยุทธ์ระยะสั้นเน้น ขึ้นขาย-ลงซื้อ แนะกลุ่ม Logistic (PSL, WICE, PORT) รวมถึงทยอยสะสมกลุ่มธนาคาร (KBANK, BBL) และกลุ่มอสังหา (LPN, AP)
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐรายงานตัวเลข Nonfarm payroll เดือนพ.ย.สูงกว่าคาดที่ 228,000 ต่ำแหน่ง และรายงานรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงสูงกว่าคาดเล็กน้อยที่ 34.5 ในขณะที่รายงานตัวเลขอัตราการว่างงานเท่ากับคาดที่ 4.1% / บราซิลรายงานเงินเฟ้อต่ำกว่าคาดที่ 2.8% / Brent ปรับตัวขึ้นต่อที่ 64.70 / จีนรายงานเงินเฟ้อต่ำกว่าคาดเล็กน้อยที่ 1.7% / Bitcoin ผ่านตลาดร่วงหน้า (Future) เป็นวันแรก / เกิดเหตุระเบิดที่ New york
บทวิเคราะห์วันนี้ : SQ , UV, GOLD
เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐรายงานตัวเลข Nonfarm payroll เดือนพ.ย.สูงกว่าคาดที่ 228,000 ต่ำแหน่ง และรายงานรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงสูงกว่าคาดเล็กน้อยที่ 34.5 ในขณะที่รายงานตัวเลขอัตราการว่างงานเท่ากับคาดที่ 4.1% / บราซิลรายงานเงินเฟ้อต่ำกว่าคาดที่ 2.8% / Brent ปรับตัวขึ้นต่อที่ 64.70 / จีนรายงานเงินเฟ้อต่ำกว่าคาดเล็กน้อยที่ 1.7% / Bitcoin ผ่านตลาดร่วงหน้า (Future) เป็นวันแรก / เกิดเหตุระเบิดที่ New york
บทวิเคราะห์วันนี้ : SQ , UV, GOLD
Stock pick : GOLD
GOLD : ซื้อสะสม ราคาเป้าหมาย 12.00 บาท
ราคาหุ้นปรับตัวลงกว่า 16% ทำให้ Upside กลับมาสูงกว่า 42% ส่งผลให้เราแนะนำนักลงทุนทยอยสะสมอีกครั้ง โดยในเชิงพื้นฐานเราคาดกำไรของบริษัทจะทำระดับสูงสุดต่อเนื่อง 3 ปีต่อจากนี้ หนุนจาก Asset ที่มีคุณภาพอย่าง อาคารสำนักงาน, Mix use และอื่น ๆ อีกมาก
วันที่ 19 ธ.ค.บริษัทฯ จะแถลงแผนกลยุทธ์ในปี 61/62 ซึ่งเรามีมุมมองเชิงบวก และคาดเห็นการปรับแผนการเปิดโครงการใหม่ที่สูงกว่าเราคาดที่ 25,000 ล้านบาท ถือเป็น Upside ที่น่าติดตาม
คงคำแนะนำซื้อราคาเหมาะสม 12.00 บาท (ขึ้น XD 13 ธ.ค. คิดเป็นปันผลประมาณ 3%)
Trading idea – – เก็งกำไร UVAN จากประเด็นดร.สมคิดสั่งกระทรวงพาณิชย์เร่งระบายสต๊อกน้ำมันปาล์ม / ทยอยสะสม BDMS, TU
GOLD : ซื้อสะสม ราคาเป้าหมาย 12.00 บาท
ราคาหุ้นปรับตัวลงกว่า 16% ทำให้ Upside กลับมาสูงกว่า 42% ส่งผลให้เราแนะนำนักลงทุนทยอยสะสมอีกครั้ง โดยในเชิงพื้นฐานเราคาดกำไรของบริษัทจะทำระดับสูงสุดต่อเนื่อง 3 ปีต่อจากนี้ หนุนจาก Asset ที่มีคุณภาพอย่าง อาคารสำนักงาน, Mix use และอื่น ๆ อีกมาก
วันที่ 19 ธ.ค.บริษัทฯ จะแถลงแผนกลยุทธ์ในปี 61/62 ซึ่งเรามีมุมมองเชิงบวก และคาดเห็นการปรับแผนการเปิดโครงการใหม่ที่สูงกว่าเราคาดที่ 25,000 ล้านบาท ถือเป็น Upside ที่น่าติดตาม
คงคำแนะนำซื้อราคาเหมาะสม 12.00 บาท (ขึ้น XD 13 ธ.ค. คิดเป็นปันผลประมาณ 3%)
Trading idea – – เก็งกำไร UVAN จากประเด็นดร.สมคิดสั่งกระทรวงพาณิชย์เร่งระบายสต๊อกน้ำมันปาล์ม / ทยอยสะสม BDMS, TU
Technical View
แกว่งผันผวนตลอดทั้งวัน : ดัชนีแกว่งผันผวนตลอดทั้งวัน ในกรอบ 1704-1712 โดยในช่วงหลัง 4 โมงถูกแรงขายกดอย่างหนัก ทำให้เกิดแท่งเทียนที่มีลำตัว (Body) สั้น ซึ่งหมายถึงสัญญาณรอเลือกทาง เรามองว่าตราบใดที่ดัชนีไม่หลุด 1700 และ RSI ยังคงอยู่เหนือโซน 45-50%ยังคงมีโอกาสแกว่งตัวทดสอบแนวต้านกรอบสามเหลี่ยมบนที่ 1720
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Let Profit Run คาดหวังการ Rebound ขึ้นตามกรอบสามเหลี่ยม 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวสู่แนวรับมองเป็นโอกาสสะสมหุ้น
แนวรับ : 1700, 1695 แนวต้าน : 1712, 1720
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Let Profit Run คาดหวังการ Rebound ขึ้นตามกรอบสามเหลี่ยม 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวสู่แนวรับมองเป็นโอกาสสะสมหุ้น
แนวรับ : 1700, 1695 แนวต้าน : 1712, 1720
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตาบทสรุปของแผนภาษีของสหรัฐฯ / การประชุมธนาคารกลาง FED, ECB, BOE / ญี่ปุ่นรายงานและจีนรายงานตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
ปัจจัยในประเทศ : จับตากระทรวงพาณิชย์เร่งแก้ปัญหาปาล์ม
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตาบทสรุปของแผนภาษีของสหรัฐฯ / การประชุมธนาคารกลาง FED, ECB, BOE / ญี่ปุ่นรายงานและจีนรายงานตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
ปัจจัยในประเทศ : จับตากระทรวงพาณิชย์เร่งแก้ปัญหาปาล์ม
หุ้นเทคนิค:
PTTGC (B 81.00-81.50, Tp 85.00//87.00, Cut 80.00)
IVL (B 52.00, Tp 55.00, Cut 51.00)
IVL (B 52.00, Tp 55.00, Cut 51.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO3470
Research Department Tel. 02-658-5000
OO3470
