- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 08 December 2017 17:10
- Hits: 12310
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ซื้อเหนือ 1700
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ :–
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : วานนี้ SET ปิด +8.98 ที่ 1703.37 นำโดยกลุ่มปิโตร (IVL, PTTGC), อิเลคทรอนิกส์ (KCE, HANA), ท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW), นิคม (AMATA, WHA) เป็นต้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1.1 พันลบ. สถาบันในปท.ซื้อสุทธิ 892 ลบ.
ปัจจัยวันนี้ – ในต่างประเทศ แรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหนุนตลาดหุ้นสหรัฐให้ปรับขึ้น นักลงทุนรอความคืบหน้าการรวมร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีสหรัฐ, ผลการประชุมสภาคองเกรส 8 ธ.ค.นี้ว่าจะผ่านร่างกฎหมายงบประมาณและหน่วยงานรัฐต้องชัทดาวน์หรือไม่, รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. (ถ้าออกมาเพิ่ม 1.8-1.9 แสนรายก็ถือว่าตามคาด) รวมทั้งติดตามสถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลางหลังปธน.ทรัมป์ประกาศรับรองกรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ด้านราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ (บวก 1.3-1.6%) เพราะมองว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจทำให้อุปทานน้ำมันตึงตัวในช่วงสั้น ส่วนในประเทศ เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงในระยะสั้นเพราะเงินดอลลาร์สหรัฐทยอยแข็งค่าขึ้นเมื่อใกล้การประชุม FOMC ในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้ และ CME Group FedWatch ระบุโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยการประชุมกลางธ.ค.60 นี้อยู่ที่ 90.2% ณ วันที่ 8 ธ.ค.60 ซึ่งเป็น Sentiment บวกกับกลุ่มส่งออก หุ้นเด่นกลุ่มส่งออกของ DBSV เป็น HANA, KCE เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีแรงซื้อ LTF ยังคงช่วยพยุงตลาดไม่ให้ลงแรง แม้ว่าต่างชาติจะขายสุทธิต่อเนื่อง ซึ่ง Theme การลงทุนช่วงธ.ค.เป็น 1. LTF Play – แนะซื้อสะสมหุ้น Big Cap ที่ได้ประโยชน์จาก LTF โค้งสุดท้าย ซึ่งหุ้น Big Cap ใน DBSV Coverage ที่แนะนำซื้อ คือ AOT, BEM, BBL, KBANK, TMB, HMPRO, IVL, PTTGC, LH, MINT, MTLS และ 2. High
Dividend Yield Play – ทั้งนี้อีกประมาณ 4 เดือนก็จะได้ปันผลสำหรับกำไรปี 60 แล้ว หุ้นปันผลเด่นของเรา เป็น KKP, KTB, LH, SENA, LALIN, DIF, TMT เป็นต้น
หุ้นแนะนำ – HANA เป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่มส่งออกที่เราชอบ เนื่องจากผลประกอบการปี 60 คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่งถึง 29% ซึ่งเป็นการฟื้นตัวที่ดีตามอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ในตลาดโลก อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 14.5% ใน 3Q60 (14.6% ใน 2Q60 และ 14.2% ใน 3Q59) ฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยเป็นเงินสดสุทธิประมาณ 12 บาท/หุ้น แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 55 บาท อิงกับ P/E ปีหน้าที่ 16 เท่า
กลยุทธ์ : ภาพตลาดเป็นบวก แนะนำ Follow buy เมื่อ SET ยืนเหนือ 1700 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1710,1720-1730 การอ่อนตัวต่ำกว่า 1700 จุดดูไม่ค่อยดี อาจลงไปที่แนวรับ 1680+/- จุดได้อีกรอบ หุ้นแนะนำใน Wealth Perspective เดือนธ.ค.60 ประกอบด้วย หุ้นเติบโต MTLS, TMB หุ้นมูลค่า AMATA, BBL หุ้นปันผล KKP, SENA
ปัจจัยต่างประเทศ
- ตะวันออกกลาง : มีการประท้วงและปะทะในเขตเวสต์แบงค์&ฉนวนกาซา...บาดเจ็บอย่างน้อย 31 ราย
# ชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซาได้พากันชุมนุมประท้วงปธน.ทรัมป์ที่ประกาศรับรองให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล โดยการประท้วงเมื่อวานนี้ได้เกิดการปะทะกัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 31 ราย
# ด้านนายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี เรียกร้องให้ผู้นำขององค์การความร่วมมืออิสลาม ซึ่งประกอบด้วยชาติมุสลิม 57 ประเทศ จัดการประชุมที่เมืองอิสตันบูลในวันที่ 13 ธ.ค.60 เพื่อหารือต่อการที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศรับรองให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และการย้ายสถานทูตสหรัฐจากกรุงเทลอาวีฟไปยังกรุงเยรูซาเลม
• สหรัฐ : ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.
# รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันในสัปดาห์ที่แล้วโดยลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 236,000 ราย
# จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะเพิ่ม 188,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าเดือนต.ค.ที่เพิ่ม 261,000 ตำแหน่ง และคาดว่า อัตราว่างงานเดือนพ.ย.จะขยับขึ้นสู่ระดับ 4.2% จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 4.1%
• สหรัฐ : จับตา 8 ธ.ค.นี้สภาคองเกรสจะอนุมัติงบประมาณหรือไม่
# จับตาการประชุมสภาคองเกรสสหรัฐในวันศุกร์ที่ 8 ธ.ค.นี้ว่าจะอนุมัติงบประมาณการใช้จ่ายเพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณในการบริหารประเทศหลังจากวันศุกร์ที่ 8 ธ.ค.นี้หรือไม่ ซึ่งหากสภาคองเกรสให้การอนุมัติก็จะช่วยให้รัฐบาลสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐ หรือชัตดาวน์ได้
+ ราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ หลังมีความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่ม 73 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 56.69 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่ม 98 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 62.20 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันดีดขึ้นเพราะกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกลางจะทำให้อุปทานน้ำมันตึงตัวในช่วงสั้น
# เบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้น 2 แท่น สู่ระดับ 749 แท่นในสัปดาห์ที่แล้วและมีรายงานว่าสหรัฐผลิตน้ำมันพุ่งขึ้นแตะ 9.68 ล้านบาร์เรล/วัน สูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 59 และใกล้กับระดับการผลิตของรัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย
- ราคาทองคำร่วงแรงหลังค่าเงิน US$ แข็งขึ้น
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 13 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ระดับ 1,253.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
+ ค่าเงิน US$ กลับมาแข็งขึ้นเมื่อใกล้การประชุมเฟด 12-13 ธ.ค.นี้ ทำให้เงินบาทอ่อนลง...เป็นบวกกับหุ้นส่งออก
# ความกังวลเรื่องการแข็งค่าของเงินบาทผ่อนคลายลง เมื่อค่าเงิน US$ กลับมาทยอยแข็งค่าขึ้นเพราะใกล้การประชุม FOMC ในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้ และตลาดประเมินว่าคณะกรรมการฯจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ 0.25% เป็น 1.50% (CME Group FedWatch ระบุโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยการประชุมกลางธ.ค.60 นี้อยู่ที่ 90.2% ณ วันที่ 8 ธ.ค.60)
# การอ่อนค่าของเงินบาทเป็น Sentiment บวกกับหุ้นกลุ่มส่งออก โดยระยะสั้นเงินบาทมีโอกาสอ่อนแตะ 32.8+/- บาท/ดอลลาร์สหรัฐ (และถ้าผ่านบริเวณนี้ขึ้นไปได้ก็จะทดสอบแนวต่อไปที่ 33.1-33.3 บาท/ดอลลาร์)
# สำหรับหุ้นเด่นกลุ่มส่งออกเป็น HANA, KCE โดยในส่วนของ HANA คาดการณ์ว่ากำไรปี 60 จะเติบโต 29% จากการฟื้นตัวของธุรกิจเซมิคอนดัคเตอร์ในตลาดโลก แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 55 บาท ส่วน KCE ในปี 60 ผลประกอบการอ่อนแอลงเพราะราคาวัตถุดิบทองแดงปรับขึ้น มีค่าใช้จ่ายและค่าเสื่อมเพิ่ม แต่คาดว่าปี 61 กำไรจะฟื้นตัวดีขึ้นได้เมื่อใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 94 บาท
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO3315