- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 December 2017 17:45
- Hits: 7030
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน รอบด้านตลาดหุ้น
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม
Beta plays
เมื่อวานนี้สังเกตเห็นการปรับตัวลงของหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นกลาง-เล็กปรับตัวลงแรงกว่าดัชนี ซึ่งดัชนี
SET ลงเพียง 0.47% ในขณะที่ดัชนี sSET ปรับตัวลงถึง 0.76%
วันนี้คาดดัชนียังคงแกว่งในกรอบ 1,685-1,710 จุด เรายังคงแนะลงทุนหุ้น “โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่” (เพื่อ
หลีกเลี่ยงความผันผวน) ที่เกี่ยวข้องการภาคการผลิตและเศรษฐกิจระดับมหภาค คาดเป็นสัญญาณของการ
เก็บหุ้นเพื่อเล่นรอบดัก กระแสการลงทุน “การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และ ภาคการผลิต ตลอดจน
การกลับมาของเงินเฟ้อ หรือ Reflation theme ที่คาดว่าจะเล่นดักการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในก
ลางเดือน ธค. นี้”
ถึงแม้ OPEC จะขยายเวลาการลดกำลังการผลิต แต่ราคาน้ำมันดิบไม่ตอบสนอง เราคงมุมมองตาม Tactical
Weekly คาดราคาน้ำมันจะถูกขายทำกำไร แนะหุ้นได้ประโยชน์น้ำมันลง
ระยะสัปดาห์ คาดดัชนีฯ Range Bound ในกรอบ 1,680/1,670 - 1,705 จุด โดยประเด็นการลงทุนหลักๆ ที่
ต้องตามคือ ราคาน้ำมันดิบหลังผลการประชุม โอเปก, เงินเฟ้อสหรัฐฯ, ดัชนีฯภาคการผลิตโลก และหุ้นที่มี
การเปลี่ยนแปลงในดัชนีฯ MSCI มีผล 30 พย.นี้
Investment theme (หุ้นในกระแสการลงทุน)
(i) “The X Factor” Morgan Stanley และ โบรกเกอร์ต่างชาติส่วนใหญ่ออกรายงานอัพเดท ยอดขาย
IPhone X ดีเกินคาด หนุน Upside ต่อการปรับประมาณการณ์กำไร…หุ้นที่เกี่ยวข้องได้แก่ COM7 JMART
SPVI SYNEX SIMAT
(ii) กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันลง...จากคาดมีโอกาสที่ราคาน้ำมันดิบจะถูกขายทำกำไรระยะ
สั้น จากแรงขาย Sell on fact พิจารณาจาก สถานะ Long สุทธิสัญญาน้ำมันดิบ เปรียบเทียบกับ
Outstanding contract ที่ขึ้นมาเกิน 70% (เป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่ มค. 2016) ซึ่งเป็นการเก็งกำไร
ล่วงหน้า สะท้อนต่อการประชุมโอเปกที่มองว่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน
หุ้น Winner จากน้ำมันลงได้แก่ ปูนซีเมนต์ SCCC SCC TPIPL, ขนส่ง AAV THAI, ปิโตรฯ TPAC IVL,
อุตสาหกรรมกระดาษ UTP และหุ้นที่เชื่อมโยงการบริโภคในประเทศที่ได้ประโยชน์ทางอ้อม (ดูรายงาน
Weekly Tactical 27 พย.)
(i) “The X Factor” Morgan Stanley และ โบรกเกอร์ต่างชาติส่วนใหญ่ออกรายงานอัพเดท ยอดขาย
IPhone X ดีเกินคาด หนุน Upside ต่อการปรับประมาณการณ์กำไร…หุ้นที่เกี่ยวข้องได้แก่ COM7 JMART
SPVI SYNEX SIMAT
(ii) กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันลง...จากคาดมีโอกาสที่ราคาน้ำมันดิบจะถูกขายทำกำไรระยะ
สั้น จากแรงขาย Sell on fact พิจารณาจาก สถานะ Long สุทธิสัญญาน้ำมันดิบ เปรียบเทียบกับ
Outstanding contract ที่ขึ้นมาเกิน 70% (เป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่ มค. 2016) ซึ่งเป็นการเก็งกำไร
ล่วงหน้า สะท้อนต่อการประชุมโอเปกที่มองว่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน
หุ้น Winner จากน้ำมันลงได้แก่ ปูนซีเมนต์ SCCC SCC TPIPL, ขนส่ง AAV THAI, ปิโตรฯ TPAC IVL,
อุตสาหกรรมกระดาษ UTP และหุ้นที่เชื่อมโยงการบริโภคในประเทศที่ได้ประโยชน์ทางอ้อม (ดูรายงาน
Weekly Tactical 27 พย.)
หุ้นแนะนำวันนี้
TOP แนวรับ 92 ต้าน 97 Stop loss 90
SPRC แนวรับ 16 ต้าน 16.7 Stop loss 15.8
BLA แนวรับ 37.75 ต้าน 40 Stop loss 37 คาดอัตราดอกเบี้ยที่จะกลับสู่ขาขึ้น จะส่งผลให้ bond yield
ปรับตัวขึ้น หนุน ROI ของบริษัท
JMT แนวรับ 32.25 ต้าน 35 Stop loss 31.5 ภาษีที่ดินดันต้นทุนเอ็นพีเอ คาดเพิ่มขึ้น1-2% เรามองว่าจะ
ช่วยให้ธนาคารเร่งระบาย NPA ออกมาเพื่อเลี่ยงต้นทุนส่วนเพิ่ม คาด JMT จะมีโอกาสในการประมูลสินทรัพย์
เข้าพอร์ตมาบริหารเพิ่มมากขึ้น
รายงานวันนี้
TOP แนวรับ 92 ต้าน 97 Stop loss 90
SPRC แนวรับ 16 ต้าน 16.7 Stop loss 15.8
BLA แนวรับ 37.75 ต้าน 40 Stop loss 37 คาดอัตราดอกเบี้ยที่จะกลับสู่ขาขึ้น จะส่งผลให้ bond yield
ปรับตัวขึ้น หนุน ROI ของบริษัท
JMT แนวรับ 32.25 ต้าน 35 Stop loss 31.5 ภาษีที่ดินดันต้นทุนเอ็นพีเอ คาดเพิ่มขึ้น1-2% เรามองว่าจะ
ช่วยให้ธนาคารเร่งระบาย NPA ออกมาเพื่อเลี่ยงต้นทุนส่วนเพิ่ม คาด JMT จะมีโอกาสในการประมูลสินทรัพย์
เข้าพอร์ตมาบริหารเพิ่มมากขึ้น
รายงานวันนี้
TMB: Earnings forecast upgrade
สำหรับการดำเนินงานปี 2018 เป้าสินเชื่อเติบโต 8-10%, ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยอยู่ในกรอบ 3.05-3.15% ,
รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเติบโต 15-20%, อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้อยู่ที่ 45-47%, NPL ratio ที่ 2.3-
2.5% และ credit cost ที่ 135-145 bps นอกเหนือจากนี้ TMB ยังตั้งเป้ารายได้เติบโตเท่าตัวเทียบกับปี
2017 ในอีก 5 ปีข้างหน้าโดยการเพิ่มฐานลูกค้า SME 4 เท่าตัวจากปัจจุบัน และขยายฐานลูกค้ารายย่อย 2
เท่าจากปัจจุบัน เราเชื่อว่าเป้าหมายปี 2018 ของธนาคารนั้นดูเป็นไปได้ เราปรับกำไรปี 2018 ขึ้น 3% เป็น
11.7 พันล้านบาท และมองว่าแผน 5 ปีจะหนุนให้ธนาคารมีกำไรเติบโตดีต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้า คง
คำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคราเป้าหมายขึ้นเป็น 3.20 บาท
สำหรับการดำเนินงานปี 2018 เป้าสินเชื่อเติบโต 8-10%, ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยอยู่ในกรอบ 3.05-3.15% ,
รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเติบโต 15-20%, อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้อยู่ที่ 45-47%, NPL ratio ที่ 2.3-
2.5% และ credit cost ที่ 135-145 bps นอกเหนือจากนี้ TMB ยังตั้งเป้ารายได้เติบโตเท่าตัวเทียบกับปี
2017 ในอีก 5 ปีข้างหน้าโดยการเพิ่มฐานลูกค้า SME 4 เท่าตัวจากปัจจุบัน และขยายฐานลูกค้ารายย่อย 2
เท่าจากปัจจุบัน เราเชื่อว่าเป้าหมายปี 2018 ของธนาคารนั้นดูเป็นไปได้ เราปรับกำไรปี 2018 ขึ้น 3% เป็น
11.7 พันล้านบาท และมองว่าแผน 5 ปีจะหนุนให้ธนาคารมีกำไรเติบโตดีต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้า คง
คำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคราเป้าหมายขึ้นเป็น 3.20 บาท
กลุ่มอาหาร: Livestock: MoM stable prices in Nov; forthcoming seasonal
recovery
ราคาไก่และราคาหมูเดือน พ.ย. ทรงตัว MoM เราคาดราคาจะกลับมาฟื้นตัวช่วงเดือน ธ.ค. ต่อเนื่องไปจนถึง
เทศกาลตรุษจีนในเดือน ก.พ. ปีหน้า ในขณะที่เทียบ YoY ราคาไก่ทรงตัว ในขณะที่ราคาหมูปรับตัวลดลง
จากอุปทานที่ขยายตัว สำหรับราคาหมูในเวียดนาม(7% ของรายได้ CPF) มีโอกาสที่จะถึงจุดคุ้มทุนของ
บริษัทในช่วงปลาย 2Q18 จากราคาที่เริ่มปรับตัวขึ้น (อุปทานลดลง) เราชอบ CPF ที่สุดในกลุ่ม (การฟื้นตัว
ของราคาหมูในเวียดนาม) และ TFG (สินค้ามูลค้าเพิ่มมีสัดส่วนมากขึ้น)
ราคาไก่และราคาหมูเดือน พ.ย. ทรงตัว MoM เราคาดราคาจะกลับมาฟื้นตัวช่วงเดือน ธ.ค. ต่อเนื่องไปจนถึง
เทศกาลตรุษจีนในเดือน ก.พ. ปีหน้า ในขณะที่เทียบ YoY ราคาไก่ทรงตัว ในขณะที่ราคาหมูปรับตัวลดลง
จากอุปทานที่ขยายตัว สำหรับราคาหมูในเวียดนาม(7% ของรายได้ CPF) มีโอกาสที่จะถึงจุดคุ้มทุนของ
บริษัทในช่วงปลาย 2Q18 จากราคาที่เริ่มปรับตัวขึ้น (อุปทานลดลง) เราชอบ CPF ที่สุดในกลุ่ม (การฟื้นตัว
ของราคาหมูในเวียดนาม) และ TFG (สินค้ามูลค้าเพิ่มมีสัดส่วนมากขึ้น)
หุ้นมีข่าว
(+/-) Consensus คาดหุ้นเข้า SET50 รอบใหม่ได้แก่ (+) SAWAD CENTEL TPIPP หุ้นออกได้แก่
(-) KCE PSH TPIPL (ที่มา ASPEN)
(+) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ 189 เสียงรับหลักการในวาระแรกของร่าง
พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ตามที่คณะกรรมการร่าง
รัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้เสนอ พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา 33 คน กำหนดแปรญัตติ 15 วัน
กรอบระยะเวลาดำเนินการ ภายใน 58 วัน(ที่มา อินโฟเควสท์)
(+) JMT ภาษีที่ดินดันต้นทุนเอ็นพีเอ แบงก์เกียรตินาคินคาดเพิ่มขึ้น1-2%ขอความชัดเจนจากรัฐวางแผน
รับมือได้ทัน สถาบันการเงินกำลังรอความชัดเจนเรื่องการกำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในส่วนของ
ทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) เพราะเป็นส่วนเดียวที่ยังไม่ระบุอัตราภาษีที่แน่ชัด ทำให้ธนาคารวางแผน
บริหารจัดการยาก หากเป็นไปได้อยากให้มีความชัดเจนภายในต้นปีหน้า เพื่อที่จะได้มีเวลาวางแผนธุรกิจรับ
ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษี ก่อนที่ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2562 (ที่มา โพสต์ทู
เดย์)
(+) รัฐจ่อมอบของขวัญปีใหม่ ชู4มาตรการช่วยคนจน พาณิชย์เร่งเสริมอาชีพ คลังเตรียมถกความคืบหน้า
สวัสดิการอุ้มผู้มีรายได้น้อย เฟส 2 งัด 4 มาตรการย่อย "สร้างงาน เข้าถึงแหล่งเงินทุน หนุนการศึกษา ชูเป็น
ของขวัญปีใหม่ ด้านพาณิชย์จับมือ กทม.ช่วยพัฒนาอาชีพ สศค.เร่งตั้ง กบช. คาดเริ่มใช้ปี 2562 (ที่มา ไทย
โพสต์)
(+/-) Consensus คาดหุ้นเข้า SET50 รอบใหม่ได้แก่ (+) SAWAD CENTEL TPIPP หุ้นออกได้แก่
(-) KCE PSH TPIPL (ที่มา ASPEN)
(+) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ 189 เสียงรับหลักการในวาระแรกของร่าง
พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ตามที่คณะกรรมการร่าง
รัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้เสนอ พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา 33 คน กำหนดแปรญัตติ 15 วัน
กรอบระยะเวลาดำเนินการ ภายใน 58 วัน(ที่มา อินโฟเควสท์)
(+) JMT ภาษีที่ดินดันต้นทุนเอ็นพีเอ แบงก์เกียรตินาคินคาดเพิ่มขึ้น1-2%ขอความชัดเจนจากรัฐวางแผน
รับมือได้ทัน สถาบันการเงินกำลังรอความชัดเจนเรื่องการกำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในส่วนของ
ทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) เพราะเป็นส่วนเดียวที่ยังไม่ระบุอัตราภาษีที่แน่ชัด ทำให้ธนาคารวางแผน
บริหารจัดการยาก หากเป็นไปได้อยากให้มีความชัดเจนภายในต้นปีหน้า เพื่อที่จะได้มีเวลาวางแผนธุรกิจรับ
ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษี ก่อนที่ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2562 (ที่มา โพสต์ทู
เดย์)
(+) รัฐจ่อมอบของขวัญปีใหม่ ชู4มาตรการช่วยคนจน พาณิชย์เร่งเสริมอาชีพ คลังเตรียมถกความคืบหน้า
สวัสดิการอุ้มผู้มีรายได้น้อย เฟส 2 งัด 4 มาตรการย่อย "สร้างงาน เข้าถึงแหล่งเงินทุน หนุนการศึกษา ชูเป็น
ของขวัญปีใหม่ ด้านพาณิชย์จับมือ กทม.ช่วยพัฒนาอาชีพ สศค.เร่งตั้ง กบช. คาดเริ่มใช้ปี 2562 (ที่มา ไทย
โพสต์)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(*) US Tax reform: ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเต็ม
คณะไปแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เหลือรอการอนุมัติจากวุฒิสภา ซึ่งจะลงมติหลังจากช่วงเทศกาลวัน
ขอบคุณพระเจ้าในวันที่ 23 พ.ย.
(0/-) โบรกต่างชาติโกล์ดแมน แซค คาดปีหน้าเฟดขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้ง ส่วน Morgan Stanley ยังคงคาด
ว่าเฟดจะขึ้นเดือนหน้า 0.25% เป็น 1.375% และปีหน้า ขึ้น 3 ครั้งเป็น 2.125%
(+) GDP 3Q17 ไทย สภาพัฒน์รายงาน +4.3% ดีกว่าคาด และปีหน้าคาดกรอบ 3.6-4.6% ขณะที่
Morgan Stanley และนักเศรษฐศาสตร์ต่างชาติส่วนใหญ่ ยังคงคาด GDP ไทยปีหน้าโตแค่ 3.5%
ทำให้หุ้นไทยมี Upside risk ต่อคาดการณ์เศรษฐกิจและกำไร บจ. ปีหน้า
(+/0) Janet Yellen แถลงมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจอเมริกาที่แข็งแกร่งขึ้น ทั้งตลาดแรงงาน และ GDP
ที่โตในระดับมากกว่า 3% ในขณะที่ภาพเศรษฐกิจขยายตัวในวงกว้าง (Broad based) และเชื่อว่าการปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง (ที่มา fed)
(+) นอกจากนี้ ดัชนี PMI จีน ภาคการผลิตเดือนพ.ย. ขยายตัวที่ระดับ 51.8 จากระดับ 51.6 ในเดือนต.ค.
(ดีกว่าตลาดคาด) (ที่มา infoquest)
(*) กลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันในการขยายเวลาปรับลดกำลังการ
ผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในไตรมาสแรก
ของปีหน้า
(*) US Tax reform: ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเต็ม
คณะไปแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เหลือรอการอนุมัติจากวุฒิสภา ซึ่งจะลงมติหลังจากช่วงเทศกาลวัน
ขอบคุณพระเจ้าในวันที่ 23 พ.ย.
(0/-) โบรกต่างชาติโกล์ดแมน แซค คาดปีหน้าเฟดขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้ง ส่วน Morgan Stanley ยังคงคาด
ว่าเฟดจะขึ้นเดือนหน้า 0.25% เป็น 1.375% และปีหน้า ขึ้น 3 ครั้งเป็น 2.125%
(+) GDP 3Q17 ไทย สภาพัฒน์รายงาน +4.3% ดีกว่าคาด และปีหน้าคาดกรอบ 3.6-4.6% ขณะที่
Morgan Stanley และนักเศรษฐศาสตร์ต่างชาติส่วนใหญ่ ยังคงคาด GDP ไทยปีหน้าโตแค่ 3.5%
ทำให้หุ้นไทยมี Upside risk ต่อคาดการณ์เศรษฐกิจและกำไร บจ. ปีหน้า
(+/0) Janet Yellen แถลงมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจอเมริกาที่แข็งแกร่งขึ้น ทั้งตลาดแรงงาน และ GDP
ที่โตในระดับมากกว่า 3% ในขณะที่ภาพเศรษฐกิจขยายตัวในวงกว้าง (Broad based) และเชื่อว่าการปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง (ที่มา fed)
(+) นอกจากนี้ ดัชนี PMI จีน ภาคการผลิตเดือนพ.ย. ขยายตัวที่ระดับ 51.8 จากระดับ 51.6 ในเดือนต.ค.
(ดีกว่าตลาดคาด) (ที่มา infoquest)
(*) กลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันในการขยายเวลาปรับลดกำลังการ
ผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในไตรมาสแรก
ของปีหน้า
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO3124
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO3124
