- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 December 2017 17:33
- Hits: 4887
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> LPN, PTTEP, TMB
Stock S R Comment
LPN 13.00 13.50 หวังปี 2561 กำไรกลับมาเติบโตอีกครั้งจาก Backlog ที่กำลังก่อตัว
PTTEP 91.00 92.50 OPEC มติขยายเวลาลดกำลังการผลิตยาวถึงปลายปี 61
TMB 2.76 2.88 ตั้งเป้า 5 ปี เพิ่มรายได้เท่าตัว
December market outlook
December : ประเมิน SET Index แกว่งตัว Sideways ถึง Sideways up ในเดือนธันวาคมนี้ มองกรอบแนวรับที่ 1670-1680 จุด และกรอบแนวต้านที่ 1730-1740 จุด โดยมีปัจจัยที่น่าสนใจดังนี้
1) ความคืบหน้าของมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดเช้าตรู่วันนี้มีข่าวด่วนว่าวุฒิสภาสหรัฐได้ประกาศเลื่อนการลงมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของตนเองออกไปเป็นช่วงเช้าวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐฯ ประเมินปัจจัยดังกล่าวเป็นผลลบในระยะสั้นต่อเงิน USD และดัชนี Dow Jones futures ทั้งนี้ ถึงแม้ในคืนนี้วุฒิสภาจะลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว แต่ท้ายที่สุดจะต้องมีการผนวกร่างนี้เข้ากับฉบับของสภาผู้แทนฯอยู่ดี ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ปธน.ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป ซึ่งกระบวนการผนวกร่างนี้เรามองว่ามีความเสี่ยงที่อาจจะล่าช้าได้อีกต่อหนึ่ง หากกินเวลานานเท่าไหร่ ประเมินจะเป็นปัจจัยกดดันเงิน USD มากเท่านั้น แต่จะเป็นผลบวกต่อสกุลเงินของประเทศเกิดใหม่
2) การเจรจาต่อรองปรับขึ้นเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐฯในช่วงต้นเดือนธันวาคม หากการเจรจามีความล่าช้าและไม่สามารถบรรลุผลได้ทันภายในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ อาจทำให้หน่วยงานราชการของสหรัฐฯบางแห่งต้องปิดทำการชั่วคราว ซึ่งอาจเป็นปัจจัยทำให้ตลาดหุ้นผันผวน โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ
3) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 12-13 ธันวาคมนี้ คาดว่า Fed จะมีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.00-1.25% เป็น 1.25-1.50% แต่เป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์อยู่แล้ว (Probability จาก Fed Funds futures ล่าสุดอยู่ที่ 96%) ดังนั้นหาก Fed มีการขึ้นดอกเบี้ยจริง มองผลกระทบไม่มีนัยสำคัญ
4) พัฒนาการของตลาดการเงินจีน ซึ่งถ้าหากมีความกังวลต่อเนื่อง อาจส่งผลกระทบเชิงลบด้าน Sentiment มายังตลาดหุ้นเกิดใหม่อื่นๆในเอเชียได้ แนะนำจับตาการปรับตัว Bond yield ของจีนอย่างใกล้ชิด
5) แรงซื้อสุทธิของนักลงทุนสถาบันในประเทศที่คาดว่าจะเข้ามาอีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้จากเม็ดเงิน LTF/RMF เป็นสำคัญ ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยช่วยประคับประคองตลาดได้เป็นอย่างดี
6) การประกาศรายชื่อหุ้นที่ถูกนำเข้าและถอดออกจากดัชนี SET50 SET100 SETHD และ sSET ในช่วงกลางเดือนนี้ โดยในฝั่งของ SET50 นั้น เราคาดการณ์ว่าหุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าได้แก่ SAWAD, TPIPP, CENTEL ส่วนหุ้นที่มีแนวโน้มถูกถอดออกได้แก่ KCE, PSH, TPIPL
กลยุทธ์การลงทุน : สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำซื้อขายตามกรอบแนวรับ-แนวต้านที่ให้ไว้ ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว หากดัชนีย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ ให้ใช้เป็นจุดสะสมหุ้นเพื่อถือครองไปขายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าได้ สำหรับกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนหากดัชนีปรับย่อมาที่แนวรับได้แก่
1) กลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งอาจได้ Sentiment เชิงบวกจากการเข้ามาซื้อขายในตลาดของหุ้น GULF เลือก TPIPP (TP 7.80 บาท), WHAUP (9), GPSC (N.R.)
2) กลุ่มโรงกลั่น หลังค่าการกลั่นเริ่มยืนได้ที่ระดับ 7 เหรียญฯต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในสภาวะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวอยู่ในระดับสูงด้วย เลือก BCP (61), IRPC (7), SPRC (19.40)
3) กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ เนื่องจากคาดว่าราคาน้ำมันอาจเริ่มชะลอตัวภายหลังจากการประชุม OPEC เสร็จสิ้นโดยที่มีมติเพียงแค่การขยายระยะเวลาการตรึงกำลังการผลิตออกไป เลือก PRM (16.20)
แนวรับ 1,682 แนวต้าน 1,716
บทวิเคราะห์วันนี้
TMB (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.15 บาท) มีมุมมองเป็นบวกต่อแผน 5 ปีของธนาคาร
Today's Event :
ASIAN ลูกหุ้นเข้า 350,000 หุ้น
BCPG ลูกหุ้นเข้า 184,463 หุ้น
SIRI ลูกหุ้นเข้า 537,233,050 หุ้น
GPI เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (600mn sh @ Bt. 3.50) หมวดสื่อและสิ่งพิมพ์
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO3118