- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 December 2017 17:14
- Hits: 4615
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับสำคัญ 1690 แนวต้าน 1705
SET Index: 1698.88 ฟื้นตัวไปเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1700 จุด หลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1700 จุดลงไป พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1690 จุด ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1680 จุดเป็นจังหวะเข้าซื้อเพิ่ม เนื่องจากโครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1720 และ 1730 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณซื้อทางเทคนิคต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายขึ้นไปที่ 1780 จุด
แนวต้าน : 1702 และ 1705
แนวรับ : 1698 และ 1695
TMB = 2.84/2.94, SCB = 153/154, SCC = 470/478, IVL = 48.50/49.00, KBANK = 225/227
Sri Trang Agro Industry (STA TB; THB 13.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 13.70 และ 14.00 / แนวต้านสำคัญ 14.80
แนวรับ : 13.00 และ 12.80
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิม แล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้เนหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ STA โดยมีแนวรับที่ 13.00 และ 12.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 13.70 และ 14.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 12.20 ลงไป
Sansiri (SIRI TB; THB 2.26) – ซื้อ
แนวต้าน : 2.36 และ 2.44 / แนวต้านสำคัญ 2.60
แนวรับ : 2.26 และ 2.24
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้น หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 50
แนะนำซื้อ SIRI โดยมีแนวรับที่ 2.26 และ 2.24 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.36 และ 2.44 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.14 ลงไป
SET Index: แนวรับสำคัญ 1690 แนวต้าน 1705
SET Index: 1698.88 ฟื้นตัวไปเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1700 จุด หลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1700 จุดลงไป พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1690 จุด ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1680 จุดเป็นจังหวะเข้าซื้อเพิ่ม เนื่องจากโครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1720 และ 1730 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณซื้อทางเทคนิคต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายขึ้นไปที่ 1780 จุด
แนวต้าน : 1702 และ 1705
แนวรับ : 1698 และ 1695
TMB = 2.84/2.94, SCB = 153/154, SCC = 470/478, IVL = 48.50/49.00, KBANK = 225/227
Sri Trang Agro Industry (STA TB; THB 13.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 13.70 และ 14.00 / แนวต้านสำคัญ 14.80
แนวรับ : 13.00 และ 12.80
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิม แล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้เนหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ STA โดยมีแนวรับที่ 13.00 และ 12.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 13.70 และ 14.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 12.20 ลงไป
Sansiri (SIRI TB; THB 2.26) – ซื้อ
แนวต้าน : 2.36 และ 2.44 / แนวต้านสำคัญ 2.60
แนวรับ : 2.26 และ 2.24
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้น หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 50
แนะนำซื้อ SIRI โดยมีแนวรับที่ 2.26 และ 2.24 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.36 และ 2.44 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.14 ลงไป
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…มีสัญญาณดีขึ้น
ท่ามกลางความกังวลว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะไปต่อหรือปรับฐานหลังการผ่านกฏหมายปฎิรูปโครงสร้างภาษี รวมทั้งความกังวลในคาบสมุทรเกาหลีหากเกิดแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นสหรัฐ มีแนวโน้มสูงที่จะเห็นการปรับตัวลงของตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ยังไม่รู่ว่าจะเกิดในช่วงไหน หากดูทิศทางตลาดหุ้นในเอเชียจะพบว่าเริ่มแกว่งตัวแบบไร้ทิศทางมากขึ้น หลังเผชิญกับแรงขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี แต่แรงขายหุ้นกลุ่มดังกล่าวไม่น่าส่งผลอะไรมากกับตลาดหุ้นไทย หากเกิดการปรับฐานในตลาดหุ้นสหรัฐ
หลังการประชุม OPEC ปรากฏว่าที่ประชุมเห็นพ้องที่จะขยายเวลาในการลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน แต่ราคาน้ำมันกลับขึ้นเล็กน้อยหลังมองรับข่าวว่าไม่มีอะไรใหม่ๆ เรามองว่าราคาน้ำมันเบนรท์น่าจะปรับตัวลงมาเล่นต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ หากทางกลุ่ม Hedge fundมีการ Short position หรือ ลดการ Long position หลัง Net long position สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามเหล่านักวิเคราะห์น้ำมันยังมองแนวโน้มราคาน้ำมันในปีหน้าค่อนข้างดี ดังนั้นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับหุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะเป็นช่วงสั้นๆ
หลังตัวเลข GDP Q3/17 โตมากกว่าคาดในรอบหลายๆปี ผลของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เริ่มเข้าสู่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น อย่าง สัญญาณของ Earning momentum ratio หรือเปอร์เซ็นของจำนวนหุ้นที่ถูกปรับเพิ่มกำไรต่อหุ้น ลบ ด้วยจำนวนหุ้นที่ถูกปรับลดกำไรต่อหุ้น หารด้วยจำนวนทั้งหมด ปรากฏว่าตอนนี้ขยับขึ้นมาอยู่ในแดนบวกอีกครั้ง ดูรูปด้านซ้าย ตรงนี้กำลังสะท้อนให้เห็นว่า มีจำนวนบริษัทในกลุ่มต่างๆ เริ่มฟื้นตัวมากขึ้น ขณะที่จำนวนหบริษัทที่กำไรแย่ลง กลับลดลง ส่วนอีกตัวคือ การเปลี่ยนแปลงรอบ 1 เดือนของ กำไรต่อหุ้นใน 12 เดือนข้างหน้า กลับขึ้นมายืนเหนือแดนบวกได้ สะท้อนให้เห็นว่า อัตราการทำกำไรของตลาดหุ้นไทยกำลังถูกปรับเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน ดูรูปด้านขวา
สัญญาณทางพื้นฐานของตลาดที่ดีขึ้น กำลังตอบสนองการขึ้นของดัชนี SET เพียงแต่ที่ผ่านมาตอบสนองช้ากว่าการขึ้นดัชนี SET การที่สัญญาณทางพื้นฐานของตลาดกระเตื้องขึ้นกำลังตอกย้ำว่าแนวโน้มดัชนี น่าจะไปได้ต่อในอนาคต ซึ่งคงไปวัดกันที่งบ Q4/17 หากออกมาดีขึ้นเรื่อยๆแนวโน้มดัชนีน่าจะขึ้นต่อ เพียงแต่ตอนนี้ยังรอปัจจัยหนุนใหม่ๆ หรือรอให้งบหุ้นกลุ่มธนาคารทยอยประกาศในกลางเดือน ม.ค.ดัชนี SETที่ยืนในระดับปัจจุบัน หากเทียบกับอัตราการทำกำไรของตลาดที่ระดับ 8 % ถือว่าสมเหตุสมผล แต่หากผลการดำเนินงาน Q4/17 ออกมาดีอย่างคาดแล้วส่งผลให้มีการปรับเพิ่มอัตราการทำกำไรในปีหน้ามากกว่า 8% ดัชนี SET ก็น่าจะวิ่งขึ้นได้มากกว่านี้
แนวโน้มดัชนีในเดือน ธ.ค. คาดยังอยู่ในภาวะผ้นผวน แต่ไม่แรง เนื่องจากจะเป็นช่วงที่การซื้อขายจะลดลง โดยทิศทางดัชนีน่าจะค่อยๆ เหวี่ยงขึ้นในช่วงกลางถึงปลายเดือน โดยวันนี้คาดดัชนี SET จะเปิดขึ้นทะลุ 1700 จุดจากแรงหนุนของตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีแนวต้านที่ 1705-1710 จุด และแนวรับที่ 1690-1685 จุด กลยุทธ์ในช่วงที่ดัชนียังแกว่งตัวในกรอบ ต่ำกว่า 1700 จุด เราแนะนำให้ทยอยซื้อหุ้นบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ สื่อสารใหญ่ โรงกลั่น โรงพยาบาล วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร AOT QH CPALL และ TPIPP
ท่ามกลางความกังวลว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะไปต่อหรือปรับฐานหลังการผ่านกฏหมายปฎิรูปโครงสร้างภาษี รวมทั้งความกังวลในคาบสมุทรเกาหลีหากเกิดแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นสหรัฐ มีแนวโน้มสูงที่จะเห็นการปรับตัวลงของตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ยังไม่รู่ว่าจะเกิดในช่วงไหน หากดูทิศทางตลาดหุ้นในเอเชียจะพบว่าเริ่มแกว่งตัวแบบไร้ทิศทางมากขึ้น หลังเผชิญกับแรงขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี แต่แรงขายหุ้นกลุ่มดังกล่าวไม่น่าส่งผลอะไรมากกับตลาดหุ้นไทย หากเกิดการปรับฐานในตลาดหุ้นสหรัฐ
หลังการประชุม OPEC ปรากฏว่าที่ประชุมเห็นพ้องที่จะขยายเวลาในการลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน แต่ราคาน้ำมันกลับขึ้นเล็กน้อยหลังมองรับข่าวว่าไม่มีอะไรใหม่ๆ เรามองว่าราคาน้ำมันเบนรท์น่าจะปรับตัวลงมาเล่นต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ หากทางกลุ่ม Hedge fundมีการ Short position หรือ ลดการ Long position หลัง Net long position สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามเหล่านักวิเคราะห์น้ำมันยังมองแนวโน้มราคาน้ำมันในปีหน้าค่อนข้างดี ดังนั้นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับหุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะเป็นช่วงสั้นๆ
หลังตัวเลข GDP Q3/17 โตมากกว่าคาดในรอบหลายๆปี ผลของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เริ่มเข้าสู่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น อย่าง สัญญาณของ Earning momentum ratio หรือเปอร์เซ็นของจำนวนหุ้นที่ถูกปรับเพิ่มกำไรต่อหุ้น ลบ ด้วยจำนวนหุ้นที่ถูกปรับลดกำไรต่อหุ้น หารด้วยจำนวนทั้งหมด ปรากฏว่าตอนนี้ขยับขึ้นมาอยู่ในแดนบวกอีกครั้ง ดูรูปด้านซ้าย ตรงนี้กำลังสะท้อนให้เห็นว่า มีจำนวนบริษัทในกลุ่มต่างๆ เริ่มฟื้นตัวมากขึ้น ขณะที่จำนวนหบริษัทที่กำไรแย่ลง กลับลดลง ส่วนอีกตัวคือ การเปลี่ยนแปลงรอบ 1 เดือนของ กำไรต่อหุ้นใน 12 เดือนข้างหน้า กลับขึ้นมายืนเหนือแดนบวกได้ สะท้อนให้เห็นว่า อัตราการทำกำไรของตลาดหุ้นไทยกำลังถูกปรับเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน ดูรูปด้านขวา
สัญญาณทางพื้นฐานของตลาดที่ดีขึ้น กำลังตอบสนองการขึ้นของดัชนี SET เพียงแต่ที่ผ่านมาตอบสนองช้ากว่าการขึ้นดัชนี SET การที่สัญญาณทางพื้นฐานของตลาดกระเตื้องขึ้นกำลังตอกย้ำว่าแนวโน้มดัชนี น่าจะไปได้ต่อในอนาคต ซึ่งคงไปวัดกันที่งบ Q4/17 หากออกมาดีขึ้นเรื่อยๆแนวโน้มดัชนีน่าจะขึ้นต่อ เพียงแต่ตอนนี้ยังรอปัจจัยหนุนใหม่ๆ หรือรอให้งบหุ้นกลุ่มธนาคารทยอยประกาศในกลางเดือน ม.ค.ดัชนี SETที่ยืนในระดับปัจจุบัน หากเทียบกับอัตราการทำกำไรของตลาดที่ระดับ 8 % ถือว่าสมเหตุสมผล แต่หากผลการดำเนินงาน Q4/17 ออกมาดีอย่างคาดแล้วส่งผลให้มีการปรับเพิ่มอัตราการทำกำไรในปีหน้ามากกว่า 8% ดัชนี SET ก็น่าจะวิ่งขึ้นได้มากกว่านี้
แนวโน้มดัชนีในเดือน ธ.ค. คาดยังอยู่ในภาวะผ้นผวน แต่ไม่แรง เนื่องจากจะเป็นช่วงที่การซื้อขายจะลดลง โดยทิศทางดัชนีน่าจะค่อยๆ เหวี่ยงขึ้นในช่วงกลางถึงปลายเดือน โดยวันนี้คาดดัชนี SET จะเปิดขึ้นทะลุ 1700 จุดจากแรงหนุนของตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีแนวต้านที่ 1705-1710 จุด และแนวรับที่ 1690-1685 จุด กลยุทธ์ในช่วงที่ดัชนียังแกว่งตัวในกรอบ ต่ำกว่า 1700 จุด เราแนะนำให้ทยอยซื้อหุ้นบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ สื่อสารใหญ่ โรงกลั่น โรงพยาบาล วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร AOT QH CPALL และ TPIPP
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,698.88 จุด เพิ่มขึ้น 1.49 จุด (+0.09%) มูลค่าการซื้อขาย19,657.25 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ ตลาดยังรอปัจจัยใหม่มาหนุน ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ขณะที่นักลงทุนยังรอดูความคืบหน้าของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังวุฒิสภาประกาศเลื่อนการลงมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภา (คืนนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย ยังแกว่งตัวในกรอบแคบรอดูผลการลงมติของวุฒิสภาสหรัฐที่เลื่อนออกไปเป็นช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย โดยหากร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีฉบับนี้สามารถผ่านวุฒิสภาได้ก็จะส่งต่อไปให้กับประธานาธิบดีสหรัฐลงนามเป็นกฎหมายต่อไป ซึ่งจะเป็นผลบวกกับตลาดหุ้นทั่วโลก แต่หากไม่ผ่านวุฒิสภา เราคาดว่าจะเห็นแรงขายทำกำไรตลาดหุ้นไทยลงมาที่ระดับ 1670-1680 จุดในสัปดาห์หน้า บ่ายนี้ยังแนะนำ ซื้อเก็งกำไรรายหลักทรัพย์เป็นหลัก โดยเน้นกลุ่มที่คาดว่าจะฟื้นตัวในเดือนธ.ค. อย่าง ธนาคาร (BBLKTB TMB) สื่อสาร (ADVANC DTAC TRUE) ปิโตรเคมี (IVL PTTGC IRPC) เราให้แนวต้านช่วงบ่ายที่ 1705-1710 จุดและแนวรับที่ 1695-1688 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไรBBL CPALL DTAC MINT
Technical Pick (PM) ...
Sri Trang Agro Industry (STA TB; THB 13.00) – ซื้อ
Sansiri (SIRI TB; THB 2.26) – ซื้อ
แนวโน้มตลาดบ่าย ยังแกว่งตัวในกรอบแคบรอดูผลการลงมติของวุฒิสภาสหรัฐที่เลื่อนออกไปเป็นช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย โดยหากร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีฉบับนี้สามารถผ่านวุฒิสภาได้ก็จะส่งต่อไปให้กับประธานาธิบดีสหรัฐลงนามเป็นกฎหมายต่อไป ซึ่งจะเป็นผลบวกกับตลาดหุ้นทั่วโลก แต่หากไม่ผ่านวุฒิสภา เราคาดว่าจะเห็นแรงขายทำกำไรตลาดหุ้นไทยลงมาที่ระดับ 1670-1680 จุดในสัปดาห์หน้า บ่ายนี้ยังแนะนำ ซื้อเก็งกำไรรายหลักทรัพย์เป็นหลัก โดยเน้นกลุ่มที่คาดว่าจะฟื้นตัวในเดือนธ.ค. อย่าง ธนาคาร (BBLKTB TMB) สื่อสาร (ADVANC DTAC TRUE) ปิโตรเคมี (IVL PTTGC IRPC) เราให้แนวต้านช่วงบ่ายที่ 1705-1710 จุดและแนวรับที่ 1695-1688 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไรBBL CPALL DTAC MINT
Technical Pick (PM) ...
Sri Trang Agro Industry (STA TB; THB 13.00) – ซื้อ
Sansiri (SIRI TB; THB 2.26) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO3113
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO3113