- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 December 2017 17:13
- Hits: 4628
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
SET INDEX
1697.39 -7.94 (-0.47) // Vol. 65,209
ระยะสั้นมีโอกาสฟื้น
แต่ในกรอบที่จำกัด
กรอบการเคลื่อนไหว 1690-1706
ดัชนีวานนี้พักตัวต่อ ด้วยการทำ High-Low ต่ำกว่าวันก่อนหน้า โดยหลุด 1700 จุด ลงทำ Low 1691 จุด ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาทำปิด 1697 จุด จากภาพดังกล่าวส่งผลให้แนวโน้มดัชนีมีโอกาสลงต่อ โดยคาดหวังแนวรับกรอบล่างของสามเหลี่ยม (1690) ที่ควรจะยืนหยุด แต่หากหลุดจะมีแนวรับถัดไป 1680 จุด สรุปมองภาพดัชนีอยู่ในช่วงพักตัวปลายกรอบสามเหลี่ยมที่รอเลือกทาง ระยะสั้นมีโอกาสฟื้นแต่การดีดกลับที่ยังจำกัด
แนวรับ 1683-1690
แนวต้าน 1706-1715
SET INDEX
1697.39 -7.94 (-0.47) // Vol. 65,209
ระยะสั้นมีโอกาสฟื้น
แต่ในกรอบที่จำกัด
กรอบการเคลื่อนไหว 1690-1706
ดัชนีวานนี้พักตัวต่อ ด้วยการทำ High-Low ต่ำกว่าวันก่อนหน้า โดยหลุด 1700 จุด ลงทำ Low 1691 จุด ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาทำปิด 1697 จุด จากภาพดังกล่าวส่งผลให้แนวโน้มดัชนีมีโอกาสลงต่อ โดยคาดหวังแนวรับกรอบล่างของสามเหลี่ยม (1690) ที่ควรจะยืนหยุด แต่หากหลุดจะมีแนวรับถัดไป 1680 จุด สรุปมองภาพดัชนีอยู่ในช่วงพักตัวปลายกรอบสามเหลี่ยมที่รอเลือกทาง ระยะสั้นมีโอกาสฟื้นแต่การดีดกลับที่ยังจำกัด
แนวรับ 1683-1690
แนวต้าน 1706-1715
Technical Analyst : พรรณนภา เขมะสุรัตน์ // เลยทะเบียน 060110 // Tel. : 02-648-1124 // phannap.k@ktbst .co
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
" ภาพเป็นบวกจากปัจจัยต่างประเทศ "
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คาดทิศทางตลาดหุ้นไทยเป็นบวกในวันนี้จากประเด็นบวกของปัจจัยต่างประเทศและราคาน้ำมันดิบ ...... ปัจจัยต่างประเทศ เป็นบวก วุฒิสภาจะประกาศผลร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในวันนี้ ซึ่งคาดว่าโอกาสที่จะผ่านการพิจารณามีสูง และหากผ่านได้จริง จะส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์จะปรับตัวสูงขึ้นซึ่งจะเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออกไทย ขณะที่ฝั่งของราคาน้ำมัน การประชุม OPEC มีมติเห็นพ้องในการขยายเวลาลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้านอกจากนี้รัสเซียจยังให้ความสนับสนุนต่อการลดกำลังการผลิตดังกล่าวด้วย เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน ...... ด้านปัจจัยในประเทศ มีประเด็นบวกเล็กน้อยจากการที่ ผู้อำนวยการอาวุโส ธปท. ออกมาระบุว่าการส่งออกปีนี้มีโอกาสที่จะเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
กลยุทธ์การลงทุน : ด้วยผลบวกจากปัจจัยต่างประเทศ เราจึงมองว่าตลาดหุ้นไทยในวันนี้จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาของการปรับฐานของตลาดที่ยังไม่จบลง การปรับตัวขึ้นของดัชนีจะอยู่ในลักษณะที่มีกรอบจำกัด กลยุทธ์ลงทุนในวันนี้ แนะนำให้เข้าซื้อหุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากปัจจัยต่างประเทศและราคาน้ำมันดิบ อาทิ กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันและหุ้นกลุ่มส่งออก และยังแนะนำให้ลงทุนช่วงสั้นไว้ก่อน จนกว่าตลาดจะผ่านช่วงของการปรับฐานไปแล้ว คือหลุดจากกรอบ 1680-1730 จุด
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน: สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ TOP*, IVL*, HANA, KBANK, BEAUTY
หุ้นแนะนำทางเทคนิค: CBG, RCL, THE
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
GPI (first trading day) : ผู้นำงานด้าน Motor Show ระดับอาเซียน
(+) TMB : เป้าหมายการเติบโตใน 5 ปีข้างหน้าที่น่าตื่นเต้นและเป็นไปได้
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (30 พ.ย.) - ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,697.39 จุด ลดลง 7.94 จุด หรือ -0.47%) มูลค่าการซื้อขาย 65,208.81 ล้านบาท ตลาดปรับตัวลงในลักษณะเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค มองตลาดมีการพักฐานในช่วงสั้น เพื่อรอปัจจัยต่างๆที่จะเกิดขึ้น
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,272.35 จุด พุ่งขึ้น 331.67 จุด หรือ +1.39% หลัง วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกันประกาศสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในการลงมติในวุฒิสภา โอกาสการผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีจะมีมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดหุ้น แต่ด้านตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง -0.3% ปิดที่ 386.71 จุด
ราคาน้ำมันดิบ - สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 57.40 ดอลลาร์/บาร์เรล การประชุม OPEC มีมติเห็นพ้องในการขยายเวลาลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้านอกจากนี้รัสเซียจยังให้ความสนับสนุนต่อการลดกำลังการผลิตดังกล่าวด้วย ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบจะมีเสถียรภาพมากขึ้น
ปัจจัยต่างประเทศ คาดว่าจะเห็นกฎหมายปฏิรูปภาษีจะผ่านการพิจารณา, ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี - นโยบายปฏิรูปภาษีทรัมป์อยู่ระหว่างการลงมติในวุฒิสภา ซึ่งจะรู้ผลภายในวันนี้ การร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯมีโอกาสที่จะผ่านการพิจารณาได้สูงขึ้นหลังจากที่นายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน ประกาศสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในการลงมติในวุฒิสภาวันนี้ หลังจากวันนี้ ขึ้นตอนต่อไปจะเป็นการปรับปรุงแก้ไขร่างกฎหมายก่อนที่จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามรับรองให้มีผลบังคับใช้ …. ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 238,000 ราย แล การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนก.ย.
ปัจจัยในประเทศ : ธปท. มองส่งออกจะโตสูงกว่าคาด - นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การส่งออกในปี 2560 มีแนวโน้มจะเติบโต 2 หลัก ซึ่งสูงกว่าที่ ธปท.ประมาณการไว้ที่ 8%โดยการส่งออกตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันขยายตัว 9.5% ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสขยายตัวได้ถึง 4%
TOT คาดเลื่อนเซ็นสัญญา 2300 MHz กับ DTAC - TOT คาดว่าจะเลื่อนการลงนามสัญญากับ (DTAC ในการให้บริการข้ามโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Roaming) บนคลื่นความถี่ 2300 MHz เป็นต้นปีหน้า จากเดิมที่คาดว่าจะลงนามได้ราวเดือนธ.ค.17
หุ้นที่จะเข้าร่วมงาน Opportunity Day ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ได้แก่ TPBI, TMILL, TSR, BJCHI, HARN, BJC, BIGC
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
TOP*(ราคาปิด 93.00) เราแนะนำ TOP ต่อเนื่องจากวันก่อน โดยมองว่ามติในการขยายเวลาลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้าของ OPEC จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลบวกต่อ sentiment ของ TOP นอกจากนี้ค่าการกลั่นน้ำมัน เฉลี่ยไตรมาสนี้ จาก Bloomberg อยู่ที่ราว $6.7 เหรียญ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของไตรมาสที่ 3 ที่ประมาณ $7.8 แต่ราคาน้ำมันดิบ (Dubai) ปรับขึ้นมา $8 เหรียญ ทำให้ผลการดำเนินงานหุ้นโรงกลั่นฯอย่าง TOP น่าจะยังมีกำไรที่ดีอยู่ …. Bloomberg คาดการณ์กำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 20,189 ล้านบาท (-5% YoY) และปี 2018 ที่ 19,070 ล้านบาท (-6% YoY) แต่ในเชิงกลยุทธเรามองว่าตลาดจะมีการปรับประมาณการขึ้นหลังราคาน้ำมันดิบสามารถยืนตัวเหนือ 55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ จากการปรับเพิ่ม stock gain …. (ราคาพื้นฐานโดย Bloomberg ที่ 96.47 บาท)
IVL*(ราคาปิด 49.00 เราแนะนำ IVL จากการคาดการณ์ว่ามาตรการปฏิรูปภาษีทรัมป์จะสามารถผ่านมติสุฒิสภาไปได้ ซึ่ง IVL จะได้รับผลบวกโดยตรงจากประเด็นดังกล่าว โดยปัจจุบัน 40% ของ tax expense ของ IVL มาจากสหรัฐฯ การลด effective tax rate ลงจาก 35% เป็น 20% ในเบื้องต้น จะส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว 7% …. Bloomberg คาดการณ์กำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 14,261 ล้านบาท (-12% YoY) และปี 2018 ที่ 18,217 ล้านบาท (+28% YoY) ในเชิงกลยุทธเรามองว่าตลาดจะมีการปรับประมาณการขึ้นหลังมติการปฏิรูปภาษี .... (ราคาพื้นฐานโดย Bloomberg ที่ 57.56 บาท)
HANA(ราคาปิด 47.25) ด้วยมุมมองจาก ธปท. ที่ระบุว่าส่งออกของไทยมีโอกาสขยายตัวได้สูงกว่าเป้าที่วางไว้ เราคาดว่า HANA ที่เป็นหุ้นในกลุ่มส่งออกจะได้ผลบวก อีกทั้งแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้น หากมาตรการปฏิรูปภาษีสหรัฐฯสามารถผ่านมติได้ .... KTBST คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2017 ที่ 2,637 ล้านบาท (+30% YoY) และปี 2018 ที่ 2,661 ล้านบาท (+1% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 57.50 บาท)
KBANK(ราคาปิด 227.00) ด้วยมุมมองที่ว่าตลาดหุ้นจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ในวันนี้ จึงแนะนำ KBANK ซึ่งมีการเคลื่อนไหวของราคาล้อไปตามดัชนี นอกจากนีแรายังมองว่า KBANK จะได้รับผลบวกจากจำนวนการใช้บัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง (สภาพัฒน์ฯ ประเมิน GDP ปี 2561 โต 4.1%) .... แม้คาดการณ์ผลประกอบการ KBANK สำหรับปี 2017 ยังไม่โดดเด่นนัก คาดที่ 37,536 ล้านบาท (-7% YoY) เนื่องจาก KBANK ยังเน้นการตัดหนี้สูญ ทำให้ต้องตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญอย่างต่อเนื่อง แต่มีมุมมองในเชิงบวกต่อปี 2018จากการตั้ง Credit Cost ในปี 2018 ที่ลดลง คาดกำไรสุทธิปี 2018 ที่ 41,578 ล้านบาท (+11% YoY) โดยมาจากสินเชื่อจากรายใหญ่เป็นหลัก …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 248.00 บาท)
BEAUTY(ราคาปิด 21.20) ปริมาณการซื้อขาย BEAUTY สูงที่สุดในรอบสัปดาห์ คาดว่าวันนี้จะสามารถปรับตัวต่อได้ นอกจากนี้ BEAUTY ยังได้ผลบวกจากนักท่องเที่ยวจีนและกำลังซื้อที่ฟื้นตัว .... KTBST คาดกำไรสุทธิในปี 2017 - 2018 เพิ่มขึ้น 3.8% และ 5.4% เป็น 1,190 ล้านบาท และ 1,628 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81% และ 37% YoY ตามลำดับ (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 23.60 บาท)
Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
(IPO) GPI บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ประกอบธุรกิจรับจัดงานแสดงสินค้า และกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น งาน Bangkok International Motor Show นอกจากนี้ยังผลิตและจัดจำหน่ายนิตยสารเกี่ยวข้องกับยานยนต์ โดยรายได้หลักกว่า 70% จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 1 - 2 ของทุกปีจากการจัดงาน Motor Show ช่วง 4Q17 นี้ เราจึงมองว่าจะยังคงขาดทุน แต่ขาดทุนลดลง เนื่องจากมีการจัดงานใหญ่อย่าง Air Race 1 ที่จัดให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นงานระดับภูมิภาคเอเชีย ประเมินราคาเหมาะสมที่ 4.30 บาท (ด้วยค่าเฉลี่ย PE ของ CMO ที่ 17.40 เท่า) ราคา IPO อยู่ที่ 3.50 บาท
(+) TMB ผู้บริหารใหม่เปิดเผยแผนการเติบโตในปี 2018 ซึ่งดูดีกว่าที่เราคาดไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของรายได้ค่าธรรมเนียมตั้งเป้าเพิ่มขึ้นถึง 15-20% YoY พร้อมทั้งตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อที่ 8-10% YoY ขณะที่ Credit Cost ลดลงที่ 135-140 bps ส่วนแผน 5 ปีข้างหน้ายิ่งน่าตื่นเต้น โดยตั้งเป้ารายได้จะเติบโตได้เป็นเท่าตัว และจะลดต้นทุนลงโดยลดจำนวนสาขาลงและเพิ่มทักษะให้พนักงานมีความเชี่ยวชาญหลายด้าน เราจึงปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อ" และปรับมูลค่าเหมาะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3.20 บาท
(+) BEAUTY ผู้บริหารได้เปิดเผยว่า ได้มีขยายช่องทางการจัดจำหน่ายโดยส่งสินค้ายอดนิยมภายใต้แบรนด์ BEAUTY BUFFET เข้าจำหน่ายในร้าน Boots 145 สาขาทั่วประเทศ เรามีมุมมองเป็นบวกต่อการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เรามองว่ายอดขายของ BEAUTY BUFFET จะเติบโตสูงYoYใน 4Q17 จากแรงหนุนของลูกค้าไทยที่มีความเชื่อมั่นในการบริโภคมากขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น เราคาดว่า ยอดขายของ BEAUTY BUFFET จะมีสัดส่วนอยู่ 58% ของรายได้ทั้งหมด เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 23.60 บาท
(+) BJC บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ห้างค้าปลีกในกลุ่มบริษัท บีเจซี เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2560 ไปจนถึงต้นปี 2561 คาดว่ากำลังซื้อในตลาดจะดีต่อเนื่องเพราะเศรษฐกิจดีขึ้น รวมทั้งการกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐอย่างช็อปช่วยชาติ จากการออกแคมเปญ 2 ครั้งทำให้ยอดรายได้เพิ่มขึ้น 20% ทำให้บริษัทมีความมั่นใจ ทางบริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรกว่า 10 รายจัดงานมหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ และสินค้าไอที จัดมหกรรมกระตุ้นยอดขาย เราเห็นว่า สอดคล้องกับความเห็นของเราที่ยอดขายจะเติบโตขึ้นใน 4Q17 ทั้งนี้ปัจจุบันในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือมีสัดส่วนมากสุด 30% รองลงมาคือ เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ดังนั้นคาดว่าการส่งเสริมการขายจะได้รับการตอบรับจากการที่ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการบริโภคมากขึ้นและส่งผลดีต่อ BJC คงคำแนะนำ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 63 บาท
(+) กลุ่มเหล็ก ราคาเหล็กในจีนสัปดาห์ที่ผ่านมากมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหล็กเส้นล่าสุดวานนี้อยู่ที่ 4,822 หยวน/ตัน เพิ่มขึ้น 3.5% จากวันก่อน และเพิ่มขึ้นถึง 16.7% QTD และทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 6 ปี ส่วนราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนมีทิศทางเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันวานนี้อยู่ที่ 4,275 หยวน/ตัน เพิ่มขึ้น 1.9% จากวันก่อน และเพิ่มขึ้น 5.4% QTD เรามองเป็นบวกต่อราคาเหล็กในประเทศที่คาดว่าจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลบวกต่อความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น โดยกลุ่มเหล็กเราแนะนำ TMT ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท โดย TMT ยังจัดเป็นหุ้นปันผลเด่นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 7% ส่วนทิศทางราคาเหล็กเส้นที่เพิ่มขึ้นมากเรามองเป็นบวกต่อ TSTH และ BSBM
Source: KTBST Research
Analyst :
Mongkol Puangpetra Nontapat Rushtasomboon
License No: 001937 License No: 081447
+662 648 1123 +662 648 1127
[email protected] [email protected]
OO3114