- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 December 2017 17:13
- Hits: 3821
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> ยังเน้นสะสมหุ้นพื้นฐานดีในช่วงอ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ได้ในช่วงชั่วโมงแรกของการซื้อขายก่อนที่จะอ่อนตัวลงหลุดต่ำกว่าระดับ 1,700 จุดอีกครั้งโดยได้รับ Sentiment ลบจากตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ที่ปรับลงค่อนข้างแรง นักลงทุนต่างชาติยังพลิกมาขายสุทธิเล็กน้อยในตลาดหุ้น 138 ลบ.แต่ Net Long ใน Index Futures สูงถึง 9,382 สัญญา (ราว 1,900 ลบ.) ขณะที่สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิ 995 ลบ.ในตลาดหุ้น
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up ได้จากบรรยากาศการลงทุนที่ดูผ่อนคลายมากขึ้น โดยวันนี้ต้องจับตาการลงมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภาสหรัฐฯโดยล่าสุดนายจอห์น แมคเคนออกมาสนับสนุนซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี ขณะที่การประชุม OPEC ยืดระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิตเป็นสิ้นปี 2018 ตามที่ตลาดคาด แนวโน้มราคาน้ำมันปรับขึ้นแต่ยังไม่เป็นแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ เราเชื่อว่าแรงขายของนักลงทุนต่างชาติจะชะลอลงในเดือน ธ.ค. ขณะที่แรงซื้อของสถาบันในประเทศจะช่วยหนุนตลาด อย่างไรก็ตามระยะสั้นกรอบการบวกอาจถูกจำกัดเนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว เรายังมองจังหวะอ่อนตัวเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นพื้นฐานดี
กลยุทธ์วันนี้ >> ยังเน้นสะสมหุ้นพื้นฐานดีในช่วงอ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ได้ในช่วงชั่วโมงแรกของการซื้อขายก่อนที่จะอ่อนตัวลงหลุดต่ำกว่าระดับ 1,700 จุดอีกครั้งโดยได้รับ Sentiment ลบจากตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ที่ปรับลงค่อนข้างแรง นักลงทุนต่างชาติยังพลิกมาขายสุทธิเล็กน้อยในตลาดหุ้น 138 ลบ.แต่ Net Long ใน Index Futures สูงถึง 9,382 สัญญา (ราว 1,900 ลบ.) ขณะที่สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิ 995 ลบ.ในตลาดหุ้น
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up ได้จากบรรยากาศการลงทุนที่ดูผ่อนคลายมากขึ้น โดยวันนี้ต้องจับตาการลงมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภาสหรัฐฯโดยล่าสุดนายจอห์น แมคเคนออกมาสนับสนุนซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี ขณะที่การประชุม OPEC ยืดระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิตเป็นสิ้นปี 2018 ตามที่ตลาดคาด แนวโน้มราคาน้ำมันปรับขึ้นแต่ยังไม่เป็นแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ เราเชื่อว่าแรงขายของนักลงทุนต่างชาติจะชะลอลงในเดือน ธ.ค. ขณะที่แรงซื้อของสถาบันในประเทศจะช่วยหนุนตลาด อย่างไรก็ตามระยะสั้นกรอบการบวกอาจถูกจำกัดเนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว เรายังมองจังหวะอ่อนตัวเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นพื้นฐานดี
กลยุทธ์ : ยังเน้นสะสมหุ้นพื้นฐานดีเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : BBL, CMO, EPG, MINT, ROBINS
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$1,158ล้าน นำโดยเกาหลี US$517ล้าน ไต้หวัน US$475ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเวียดนาม US$4ล้าน ส่วนไทยไหลออก US$4ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค เพื่อรอดูประเด็นการผ่านร่างกม.ภาษีของวุฒิสภาสหรัฐฯคืนนี้
หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : BBL, CMO, EPG, MINT, ROBINS
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$1,158ล้าน นำโดยเกาหลี US$517ล้าน ไต้หวัน US$475ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเวียดนาม US$4ล้าน ส่วนไทยไหลออก US$4ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค เพื่อรอดูประเด็นการผ่านร่างกม.ภาษีของวุฒิสภาสหรัฐฯคืนนี้
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> M <<
แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q17 จะสดใสและอาจเป็นกำไรสูงสุดของปี คาด SSSG ฟื้นตัวเป็นบวกได้ต่อเนื่อง จากทั้งช่วง High Season ของธุรกิจ, การฟื้นตัวของกำลังซื้อ, และเปิดสาขาใหม่ ซึ่งมีแผนเปิด MK Live สาขา 2 ที่เมกาบางนาต้น ธ.ค.นี้
คาดกำไรสุทธิปี 2017 +22% Y-Y ถือเป็นการเติบโตดีครั้งแรกในรอบ 5 ปี และคาดกำไรสุทธิปี 2018 +23% Y-Y จากการเปิดสาขาใหม่ปี/ละ 40-50 แห่ง และราคาหมูที่คาดปรับตัวลงอยู่ในกรอบ 53-58 บาท/กก. จากปีนี้ที่เฉลี่ย 60 บาท/กก. ส่วนราคาเป็ดค่อนไปทางทรงตัว ซึ่งหมูและเป็ดถือเป็นวัตถุดิบหลักของ M
ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง เงินสดในมือสูง 1 หมื่นล้านบาท (ราว 11 บาท/หุ้น) และไม่มีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย อีกทั้ง มี Upside จากแผนซื้อกิจการในอนาคต แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 100 บาท
แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q17 จะสดใสและอาจเป็นกำไรสูงสุดของปี คาด SSSG ฟื้นตัวเป็นบวกได้ต่อเนื่อง จากทั้งช่วง High Season ของธุรกิจ, การฟื้นตัวของกำลังซื้อ, และเปิดสาขาใหม่ ซึ่งมีแผนเปิด MK Live สาขา 2 ที่เมกาบางนาต้น ธ.ค.นี้
คาดกำไรสุทธิปี 2017 +22% Y-Y ถือเป็นการเติบโตดีครั้งแรกในรอบ 5 ปี และคาดกำไรสุทธิปี 2018 +23% Y-Y จากการเปิดสาขาใหม่ปี/ละ 40-50 แห่ง และราคาหมูที่คาดปรับตัวลงอยู่ในกรอบ 53-58 บาท/กก. จากปีนี้ที่เฉลี่ย 60 บาท/กก. ส่วนราคาเป็ดค่อนไปทางทรงตัว ซึ่งหมูและเป็ดถือเป็นวัตถุดิบหลักของ M
ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง เงินสดในมือสูง 1 หมื่นล้านบาท (ราว 11 บาท/หุ้น) และไม่มีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย อีกทั้ง มี Upside จากแผนซื้อกิจการในอนาคต แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 100 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) มุมมองตลาดเดือน ธ.ค. แม้ปัจจัยต่างประเทศจะมากมายทั้งการปฏิรูปภาษี การเจรจางบประมาณรายจ่ายของสหรัฐ การขึ้นดอกเบี้ยและลดขนาดงบดุลของเฟด ซึ่งกระจุกอยู่ในช่วงครึ่งเดือนแรก จะกดดัน SET ให้แกว่งออกข้าง แต่ด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจและผลประกอบการของบจ.ที่ฟื้นชัดเจน ประกอบกับปลายปีเป็นฤดูการจับจ่ายใช้สอย และการซื้อ LTF-RMF เราเชื่อว่าดัชนีจะปรับขึ้นได้เหมือนสถิติที่เกิดขึ้นในอดีต การอ่อนตัวจึงเป็นโอกาสในการซื้อโดยคาดหวังดัชนี 1,730 จุด +/- สิ้นปี หุ้นเดือนนี้เราแนะนำ BBL, CMO, EPG, MINT, ROBINS
(+) ธปท.เผยเศรษฐกิจเดือน ต.ค. ขยายตัวต่อเนื่อง ตามการส่งออกและการท่องเที่ยว สำหรับการส่งออกขยายตัวได้ทุกตลาดและทุกหมวดสินค้า ท่องเที่ยวก็ขยายตัวเกือบทุกกลุ่มสัญชาติ (แม้จะมีผลของฐานต่ำในปีก่อนจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญก็ยังถือว่าโตดี) แต่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนชะลอชั่วคราวซึ่งไม่ได้น่ากังวล เราคาด GDP 4Q17 ยังน่าจะโตได้ 4%
(0) คาดหุ้นที่จะเข้า SET100 และ SET50 สำหรับรอบถัดไป ม.ค.-มิ.ย. 18 คาดว่าจะประกาศกลาง ธ.ค. 17 หุ้นที่คาดถูกนำเข้า SET50 คือ CENTEL SAWAD TPIPP และหุ้นที่คาดถูกนำออกคือ TPIPL KCE PSH ส่วน SET100 หุ้นที่คาดถูกนำเข้าคือ JAS ESSO HANA ORI TPIPP และหุ้นที่คาดถูกนำออกคือ LHBANK, PLANB, S, THANI, TTA หากอิงตามข้อมูลสถิติ หุ้นที่ถูกนำเข้า SET50 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.5% ใน 15 วันทำการก่อนประกาศ ส่วนหุ้นที่ถูกนำเข้า SET100 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3.7% เรามอง ORI น่าสนใจในการเก็งกำไร เพราะราคาแทบไม่ขยับตลอด พ.ย. 18 และ Upside เปิดกว้างเมื่อเทียบราคาเป้าหมายปี 2018 ของเราที่ 27 บาท
(+) ADVANC มีโอกาสที่จะได้เซ็นสัญญาใช้งานคลื่น 2100 MHz กับ TOT ได้ในเดือน ธ.ค. ซึ่งจะไม่กระทบประมาณการในเชิงลบเนื่องจาก ADVANC ใช้งานคลื่นดังกล่าวในลักษณะ Trial มานานพักใหญ่และเรารวมต้นทุนดังกล่าวไว้ในประมาณการแล้ว แต่ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้น ขณะที่การเซ็นสัญญาใช้งานคลื่น 2300 MHz ระหว่าง DTAC และ TOT มีข่าวว่าจะล่าช้าออกไปเป็นช่วง 1Q18 ซึ่งเป็นลบกับ DTAC โดยตรงเนื่องจากต้องการคลื่นความถี่เพิ่มเติมมากที่สุด เรายังคงเลือก ADVANC เป็น Top Pick ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 220 บาท
(+) FTE ประชุม Opp. Day วานนี้ ผู้บริหารยังมองบวกต่อการเติบโตในปีหน้า โดยคาดรายได้ +20% Y-Y มากกว่าคาดการณ์ของเราที่ 16% Y-Y จากการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน และการป้องกันไฟไหม้ในโรงงานมากขึ้น ขณะที่ 4Q17 มีลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งดีกว่าที่เราเคยคาดว่าจะชะลอตัว Q-Q เพราะมีการปิดงานโครงการได้มากขึ้น และเป็นงานที่อัตรากำไรสูงเพราะเข้ารับงานตรงและต้นทุนถูกลงจากบาทแข็ง ขณะที่ งานขายเร่งส่งมอบได้มากกว่า 1H17 ตามการฟื้นตัวของลูกค้ากลุ่มคอนโดฯ เรามีแนวโน้มปรับประมาณการปีนี้ขึ้น ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 5.00 บาท
(+) มุมมองตลาดเดือน ธ.ค. แม้ปัจจัยต่างประเทศจะมากมายทั้งการปฏิรูปภาษี การเจรจางบประมาณรายจ่ายของสหรัฐ การขึ้นดอกเบี้ยและลดขนาดงบดุลของเฟด ซึ่งกระจุกอยู่ในช่วงครึ่งเดือนแรก จะกดดัน SET ให้แกว่งออกข้าง แต่ด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจและผลประกอบการของบจ.ที่ฟื้นชัดเจน ประกอบกับปลายปีเป็นฤดูการจับจ่ายใช้สอย และการซื้อ LTF-RMF เราเชื่อว่าดัชนีจะปรับขึ้นได้เหมือนสถิติที่เกิดขึ้นในอดีต การอ่อนตัวจึงเป็นโอกาสในการซื้อโดยคาดหวังดัชนี 1,730 จุด +/- สิ้นปี หุ้นเดือนนี้เราแนะนำ BBL, CMO, EPG, MINT, ROBINS
(+) ธปท.เผยเศรษฐกิจเดือน ต.ค. ขยายตัวต่อเนื่อง ตามการส่งออกและการท่องเที่ยว สำหรับการส่งออกขยายตัวได้ทุกตลาดและทุกหมวดสินค้า ท่องเที่ยวก็ขยายตัวเกือบทุกกลุ่มสัญชาติ (แม้จะมีผลของฐานต่ำในปีก่อนจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญก็ยังถือว่าโตดี) แต่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนชะลอชั่วคราวซึ่งไม่ได้น่ากังวล เราคาด GDP 4Q17 ยังน่าจะโตได้ 4%
(0) คาดหุ้นที่จะเข้า SET100 และ SET50 สำหรับรอบถัดไป ม.ค.-มิ.ย. 18 คาดว่าจะประกาศกลาง ธ.ค. 17 หุ้นที่คาดถูกนำเข้า SET50 คือ CENTEL SAWAD TPIPP และหุ้นที่คาดถูกนำออกคือ TPIPL KCE PSH ส่วน SET100 หุ้นที่คาดถูกนำเข้าคือ JAS ESSO HANA ORI TPIPP และหุ้นที่คาดถูกนำออกคือ LHBANK, PLANB, S, THANI, TTA หากอิงตามข้อมูลสถิติ หุ้นที่ถูกนำเข้า SET50 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.5% ใน 15 วันทำการก่อนประกาศ ส่วนหุ้นที่ถูกนำเข้า SET100 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3.7% เรามอง ORI น่าสนใจในการเก็งกำไร เพราะราคาแทบไม่ขยับตลอด พ.ย. 18 และ Upside เปิดกว้างเมื่อเทียบราคาเป้าหมายปี 2018 ของเราที่ 27 บาท
(+) ADVANC มีโอกาสที่จะได้เซ็นสัญญาใช้งานคลื่น 2100 MHz กับ TOT ได้ในเดือน ธ.ค. ซึ่งจะไม่กระทบประมาณการในเชิงลบเนื่องจาก ADVANC ใช้งานคลื่นดังกล่าวในลักษณะ Trial มานานพักใหญ่และเรารวมต้นทุนดังกล่าวไว้ในประมาณการแล้ว แต่ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้น ขณะที่การเซ็นสัญญาใช้งานคลื่น 2300 MHz ระหว่าง DTAC และ TOT มีข่าวว่าจะล่าช้าออกไปเป็นช่วง 1Q18 ซึ่งเป็นลบกับ DTAC โดยตรงเนื่องจากต้องการคลื่นความถี่เพิ่มเติมมากที่สุด เรายังคงเลือก ADVANC เป็น Top Pick ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 220 บาท
(+) FTE ประชุม Opp. Day วานนี้ ผู้บริหารยังมองบวกต่อการเติบโตในปีหน้า โดยคาดรายได้ +20% Y-Y มากกว่าคาดการณ์ของเราที่ 16% Y-Y จากการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน และการป้องกันไฟไหม้ในโรงงานมากขึ้น ขณะที่ 4Q17 มีลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งดีกว่าที่เราเคยคาดว่าจะชะลอตัว Q-Q เพราะมีการปิดงานโครงการได้มากขึ้น และเป็นงานที่อัตรากำไรสูงเพราะเข้ารับงานตรงและต้นทุนถูกลงจากบาทแข็ง ขณะที่ งานขายเร่งส่งมอบได้มากกว่า 1H17 ตามการฟื้นตัวของลูกค้ากลุ่มคอนโดฯ เรามีแนวโน้มปรับประมาณการปีนี้ขึ้น ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 5.00 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1 ธ.ค.- สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (พ.ย.)
- ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ย.),GPI เข้าซื้อขายวันแรก ราคา IPO 3.50 บาท
5ธ.ค.- ออสเตรเลีย: ประชุมธนาคารกลาง
- สหรัฐฯ: ดุลการค้า (ต.ค.)
6ธ.ค.- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนADP (พ.ย.)
7ธ.ค.- สหรัฐฯ: ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
8ธ.ค.- ญี่ปุ่น: 3Q17GDP ครั้งสุดท้าย
- จีน: ดุลการค้า (พ.ย.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกสดใสจากความคืบหน้าที่เป็นบวกของการลงมติในวุฒิสภาหลังนายแมคเคนออกมาสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนจากตัวเลขจำนวนคนว่างงานที่ลดลง
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเล็กน้อยจากกลุ่มพลังงานหลังผลการประชุมโอเปกออกมาตามคาด
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดค่อนไปทางบวกตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ได้แรงหนุนจากนโยบายภาษี
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางอ่อนค่าเล็กน้อย โดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 32.60-32.67 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดบวก 0.10 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 57.40 ดอลลาร์/บาร์เรล จากผลการประชุมโอเปกที่มติขยายระยะเวลาลดการผลิตจนถึงสิ้นปี 2018 แต่พร้อมที่จะทบทวนข้อตกลงอีกครั้งหากราคาน้ำมันร้อนแรงเกินไป
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดลบ 9.5 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,276.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลงต่อเนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น
- ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ย.),GPI เข้าซื้อขายวันแรก ราคา IPO 3.50 บาท
5ธ.ค.- ออสเตรเลีย: ประชุมธนาคารกลาง
- สหรัฐฯ: ดุลการค้า (ต.ค.)
6ธ.ค.- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนADP (พ.ย.)
7ธ.ค.- สหรัฐฯ: ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
8ธ.ค.- ญี่ปุ่น: 3Q17GDP ครั้งสุดท้าย
- จีน: ดุลการค้า (พ.ย.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกสดใสจากความคืบหน้าที่เป็นบวกของการลงมติในวุฒิสภาหลังนายแมคเคนออกมาสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนจากตัวเลขจำนวนคนว่างงานที่ลดลง
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเล็กน้อยจากกลุ่มพลังงานหลังผลการประชุมโอเปกออกมาตามคาด
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดค่อนไปทางบวกตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ได้แรงหนุนจากนโยบายภาษี
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางอ่อนค่าเล็กน้อย โดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 32.60-32.67 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดบวก 0.10 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 57.40 ดอลลาร์/บาร์เรล จากผลการประชุมโอเปกที่มติขยายระยะเวลาลดการผลิตจนถึงสิ้นปี 2018 แต่พร้อมที่จะทบทวนข้อตกลงอีกครั้งหากราคาน้ำมันร้อนแรงเกินไป
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดลบ 9.5 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,276.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลงต่อเนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO3111
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO3111