WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Mayบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 

Market summary
  เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบ โดยมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มธนคารนำโดยธนาคารใหญ่ KBANK, SCB, BBL และ KTB ในขณะที่หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากงาน Motor Expo อย่าง TISCO , KKP, TCAP ก็มีแรงซื้อเด่นเช่นกัน อย่างไรก็ตามมีแรงขายทำกำไรในกลุ่มก่อสร้างนำโดย STEC, CK, UNIQ และหุ้นอย่าง CBG, TKN, WORK ก็เกิดแรงขายทำกำไรต่อเนื่อง   ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่  1,705 จุด (-1.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.1 หมื่นลบ.เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเท่ากับวันก่อนหน้าที่ 4.9 หมื่นล้านบาท  (มี Biglot CPALL รวมมูลค่า 458 ล้านบาท)
นักลงทุนชาติกลับมาขายหุ้นไทยอีกครั้งที่  1,617 ล้านบาท และกลับมา Long สุทธิ SET50  Index Future ที่ 5,298 สัญญา
 
Investment theme
  SET แกว่งตัวในกรอบ เพื่อรอปัจจัยสนับสนุนใหม่ แนะ สลับกลุ่มเก็งกำไร : ในระยะสั้นเรามองว่าตลาดยังจะคงแกว่งตัว Zig zag ในกรอบสามเหลี่ยม เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนจากทั้งต่างประเทศ และในประเทศ ในขณะที่เรามองว่าปีนี้นักลงทุนสถาบันจะซื้อสุทธิในช่วง 2เดือนสุดท้ายของปีต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง (ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม สถาบันจะซื้อเฉลี่ยประมาณ 2.26 หมื่นล้านบาท ) เนื่องจากมียอดซื้อสะสมสูงกว่า 1.15 แสนล้านบาท นับตั้งแต่ตุลาคม 2559  เราแนะนำนักลงทุนสลับกลุ่มเก็งกำไร เช่น กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว(ล่าสุดสหรัฐรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 สูงสุดในรอบ 2 ปี ที่ 3.3%) อย่างกลุ่ม Logistic และ กลุ่มธนาคารที่คาด Loan growth ในไตรมาส 4 จะเติบโตประมาณ 4.0%YoY
  Investment theme:  เป็นสัปดาห์ที่ 3 ที่ SET ไม่สามารถ Break กรอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,720 ได้ เนื่องจากขาดปัจจัยสนับสนุนและเม็ดเงินจากต่างประเทศ ในขณะที่ฝั่งสถาบันเริ่มมีแรงซื้อที่ลดลง ส่งผลให้เรามองว่าในสัปดาห์นี้ SET ยังคงแกว่งตัวในกรอบ 1,680-1,720 เพื่อรอดูผลของปัจจัยต่างประเทศ
 
Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา   FTSE ปรับพอร์ตนำ TPIPP, BGRIM เข้าดัชนี /  สหรัฐรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบลดลงสูงกว่าคาดที่ 3.4 ล้านบาร์เรล / เกิด Stock rotation ในตลาดหุ้นสหรัฐจากกลุ่ม Tech ไปยังกลุ่ม ธนาคาร / เกาหลีใต้ปรับดอกเบี้ยขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ที่ 1.5%
คาด PORT เข้าเกณฑ์ Cash Balance
  วันนี้ JKN เข้าซื้อขายในตลาดเป็นวันแรก

Stock pick : WICE
B WICE : ทยอยสะสม ราคาเหมาะสม 6.10 บาท /หุ้น
  WICE ถือเป็นหนึ่งในบริษัท Logistic ที่ได้ประโยชน์ทางจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 สูงกว่าที่คาดที่ 3.3% ในขณะที่เมื่อเช้าที่ผ่านมาจีนรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตสูงกว่าคาดเช่นเดียวกัน สะท้อนภาพเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว (3 ประเทศหลักคู่ค้าของไทย คิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 28% ของการค้าประเทศไทย) โดยเรามองว่าหุ้น Logistic อย่าง Freight fowarder จะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากเรื่องนี้
  คาดกำไรปี 2561 เติบโต 23% YoY ที่ 151 ล้านบาท โดยเรารวมธุรกิจ UWT เข้ามาในประมาณการ ในขณะที่สินค้าหลักอย่างชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (คิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 43% ของบริษัท) ยังคงเป็นพระเอกของการส่งออกไทย ส่งผลให้เรามองว่าทิศทางธุรกิจของ WICE ยังคงสดใสต่อ แนะนำทยอยสะสม ที่ราคาเป้าหมาย 6.10 บาท/หุ้น สะท้อน PEG 0.68x เทียบเท่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม
 
Trading idea – –  BJC @ 68.0 บาท / เก็งกำไร PSL @13.70 บาท
  อ่อนตัวแรงช่วงท้ายตลาด: ช่วงเช้าดัชนีแกว่งตัว Sideway Up จากแรงซื้อเด่นในกลุ่มธนาคารและขนส่ง แต่ช่วงท้ายเกิดแรงขายทำกำไร ทำให้ดัชนีอ่อนตัวปิดบริเวณ Low ของวัน ระยะสั้นดัชนีอาจมีแนวโน้มแกว่งตัวลงต่อ แต่ในระยะกลางคาด Downside จำกัด มองแนวรับสำคัญของกรอบสามเหลี่ยมที่ 1690 เป็นจุดที่ไม่ควรหลุด ขณะนี้ยังคงมองว่าจังหวะอ่อนตัวระหว่างวันเป็นโอกาสสะสมหุ้นตามแนวรับต่างๆ
  กลยุทธ์การลงทุน  1) มีหุ้น: Let Profit Run คาดหวังการ Rebound ขึ้นตามกรอบสามเหลี่ยม 2) ไม่มีหุ้น: หากดัชนีไม่หลุดแนวรับ 1700 มองเป็นโอกาสเล่น Rebound ภายในวัน
  แนวรับ : 1700, 1690  แนวต้าน : 1710, 1715
 
Eyes on
  ปัจจัยต่างประเทศ : จีนรายงาน PMI ภาคการผลิตเช้านี้ /  ประชุม OPEC 30 พย. และ สหรัฐรายงานตัวเลขตัวเลขเงินเฟ้อ 
  ปัจจัยในประเทศ : Motor expo เริ่ม 30 พ.ย.นี้ / 1 ธ.ค.รายงานเงินเฟ้อหุ้นเทคนิค:
  KBANK (B 225.00-227.00, Tp 234.00//240.00, Cut 222.00)
  TISCO (B 86.50, Tp 90.00, Cut 85.50)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO3032

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!