- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 29 November 2017 17:48
- Hits: 6193
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“เลือกซื้อ/ถือเมื่อยืนเหนือ 1700”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ปรับขึ้นดี ปิดตลาด +10.85 จุดอยู่ที่ 1706.52 กลุ่มท่องเที่ยวและโรงกลั่นนำตลาดขึ้น นักลงทุนสถาบันในปท.นำซื้อสุทธิ 2.1 พันลบ. รายย่อยนำขายสุทธิ 2.3 พันลบ.
ปัจจัยวันนี้ – ต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งทำ New high อีกครั้งหลังคณะกรรมาธิการงบประมาณวุฒิสภามีมติผ่านร่างกฎหมายปฎิรูปภาษี และสมาชิกวุฒิสภาจะโหวตร่างฯนี้ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ซึ่งมีโอกาสผ่านสูง ส่วนตลาดน้ำมันก็รอผลประชุมกลุ่มในและนอกโอเปกวันที่ 30 พ.ย.เช่นกันว่าจะขยายระยะเวลาลดการผลิตออกไปอีก 9 เดือนเป็นสิ้นปี 61 หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลจะออกมาทางดีหรือไม่ดีก็ควรระวังแรงขายทำกำไรในตลาดน้ำมัน และหุ้นกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี
ในประเทศ ปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงเดือนสุดท้ายของปีก็เป็นแรงซื้อ LTF และความหวังว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง หลายสำนักวิจัยปรับเพิ่ม GDP Growth ปีหน้าเป็น 4% ซึ่งรวมถึง DBS ด้วย สำหรับหุ้นแนะนำรายสัปดาห์ 29 พ.ย.-4 ธ.ค.60 เป็น BBL, MINT ส่วนหุ้นที่แนะนำไปเมื่อสัปดาห์ก่อน (22-28 พ.ย.) คือ AOT, MINT ราคาหุ้นบวกดีทั้งคู่ (ดูว่าราคา MINT ยังมีโมเมนตัมดีจึงเลือกเป็นหุ้นแนะนำต่อในสัปดาห์นี้) ด้านหุ้นแนะนำประจำเดือนพ.ย.60 ก็ให้ Return สูงกว่าตลาดรวม (Top Picks เดือนพ.ย. คือ AMATA, ERW, DIF, SPALI, TMB และ Dark Horse เป็น GOLD)
กลยุทธ์ : ภาพพลิกเป็นบวก แนวต้านระยะสั้น 1710,1720 แนวรับ 1680,1670 แนวตัดขาดทุน คือต่ำกว่า 1700 ในแง่ของ Theme การลงทุนช่วงนี้เป็น 1. LTF Theme – แนะซื้อสะสมหุ้น Big Cap ที่ได้ประโยชน์จาก LTF โค้งสุดท้ายปีนี้ ซึ่งหุ้น Big Cap ใน DBSV Coverage ที่แนะนำซื้อ คือ AOT, BEM, BBL, KBANK, TMB, HMPRO, IVL, PTTGC, LH, MINT, MTLS และ 2. ให้ทยอยสะสมหุ้นปันผล เพราะอีกประมาณ 4 เดือนก็จะได้ปันผลสำหรับผลประกอบการปี 60 แล้ว หุ้นปันผลเด่นของเรา เป็น KKP,KTB,LH, SENA, LALIN, DIF, TMT เป็นต้น
หุ้นเทคนิคดีมีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ BBL, JMART, EA, IVL, BJC, ERW, GLOBAL, RICHY ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้ถือต่อเป็น PTTGC, AMATA, TMB, ROJNA, MODERN, GLOBAL, ESSO, WORK, SAT, INTUCH ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น PYLON, STPI, GLOW, PSL, HTC, TVO หุ้นที่หลุด List –ไม่มี-
“เลือกซื้อ/ถือเมื่อยืนเหนือ 1700”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ปรับขึ้นดี ปิดตลาด +10.85 จุดอยู่ที่ 1706.52 กลุ่มท่องเที่ยวและโรงกลั่นนำตลาดขึ้น นักลงทุนสถาบันในปท.นำซื้อสุทธิ 2.1 พันลบ. รายย่อยนำขายสุทธิ 2.3 พันลบ.
ปัจจัยวันนี้ – ต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งทำ New high อีกครั้งหลังคณะกรรมาธิการงบประมาณวุฒิสภามีมติผ่านร่างกฎหมายปฎิรูปภาษี และสมาชิกวุฒิสภาจะโหวตร่างฯนี้ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ซึ่งมีโอกาสผ่านสูง ส่วนตลาดน้ำมันก็รอผลประชุมกลุ่มในและนอกโอเปกวันที่ 30 พ.ย.เช่นกันว่าจะขยายระยะเวลาลดการผลิตออกไปอีก 9 เดือนเป็นสิ้นปี 61 หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลจะออกมาทางดีหรือไม่ดีก็ควรระวังแรงขายทำกำไรในตลาดน้ำมัน และหุ้นกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี
ในประเทศ ปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงเดือนสุดท้ายของปีก็เป็นแรงซื้อ LTF และความหวังว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง หลายสำนักวิจัยปรับเพิ่ม GDP Growth ปีหน้าเป็น 4% ซึ่งรวมถึง DBS ด้วย สำหรับหุ้นแนะนำรายสัปดาห์ 29 พ.ย.-4 ธ.ค.60 เป็น BBL, MINT ส่วนหุ้นที่แนะนำไปเมื่อสัปดาห์ก่อน (22-28 พ.ย.) คือ AOT, MINT ราคาหุ้นบวกดีทั้งคู่ (ดูว่าราคา MINT ยังมีโมเมนตัมดีจึงเลือกเป็นหุ้นแนะนำต่อในสัปดาห์นี้) ด้านหุ้นแนะนำประจำเดือนพ.ย.60 ก็ให้ Return สูงกว่าตลาดรวม (Top Picks เดือนพ.ย. คือ AMATA, ERW, DIF, SPALI, TMB และ Dark Horse เป็น GOLD)
กลยุทธ์ : ภาพพลิกเป็นบวก แนวต้านระยะสั้น 1710,1720 แนวรับ 1680,1670 แนวตัดขาดทุน คือต่ำกว่า 1700 ในแง่ของ Theme การลงทุนช่วงนี้เป็น 1. LTF Theme – แนะซื้อสะสมหุ้น Big Cap ที่ได้ประโยชน์จาก LTF โค้งสุดท้ายปีนี้ ซึ่งหุ้น Big Cap ใน DBSV Coverage ที่แนะนำซื้อ คือ AOT, BEM, BBL, KBANK, TMB, HMPRO, IVL, PTTGC, LH, MINT, MTLS และ 2. ให้ทยอยสะสมหุ้นปันผล เพราะอีกประมาณ 4 เดือนก็จะได้ปันผลสำหรับผลประกอบการปี 60 แล้ว หุ้นปันผลเด่นของเรา เป็น KKP,KTB,LH, SENA, LALIN, DIF, TMT เป็นต้น
หุ้นเทคนิคดีมีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ BBL, JMART, EA, IVL, BJC, ERW, GLOBAL, RICHY ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้ถือต่อเป็น PTTGC, AMATA, TMB, ROJNA, MODERN, GLOBAL, ESSO, WORK, SAT, INTUCH ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น PYLON, STPI, GLOW, PSL, HTC, TVO หุ้นที่หลุด List –ไม่มี-
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : ร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีสหรัฐผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณวุฒิสภาแล้ว
# เมื่อวานนี้ คณะกรรมาธิการด้านงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐ มีมติด้วยคะแนนเสียง 12 ต่อ 11 อนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนที่ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกส่งให้กับวุฒิสภาเต็มคณะทำการพิจารณาเป็นลำดับต่อไปในวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาสหรัฐ ทั้งนี้ก่อนหน้า เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 227 ต่อ 205 ให้ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันฉบับดังกล่าว
+ สหรัฐ : ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่จะทบทวนกฎระเบียบด้านการเงิน
# นายเจอโรม พาวเวล ว่าที่ประธานเฟดได้กล่าวว่าขณะนี้ถึงเวลาในการพิจารณาทบทวนกฎระเบียบต่างๆ หลังจากที่มีการเพิ่มกฎใหม่ๆเข้าควบคุมตลาดการเงินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
+ สหรัฐ : ยอดใช้จ่ายช่วงแบล็กฟรายเดย์และไซเบอร์เดย์พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคพ.ย.ดีขึ้น
# "อะโดบี อินไซท์" ประมาณการว่ายอดขายในวันไซเบอร์ มันเดย์พุ่งแตะระดับ 6.59 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ภายในวันเดียวของสหรัฐ หลังจากที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ในวงเงิน 5.03 พันล้านดอลลาร์ในวันแบล็กฟรายเดย์
# ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐทะยานขึ้น สู่ระดับ 129.5 ในเดือนพ.ย.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2543
# ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ติดตามสัปดาห์นี้ คือ GDP งวด 3Q60, รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค., ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : พุ่งทำ New high หลังคณะกรรมาธิการงบประมาณวุฒิสภามีมติผ่านร่างกม.ปฏิรูปภาษี
# ดัชนี DJIA ปิด 23,836.71 จุด +255.93 จุด หรือ +1.09% ดัชนี S&P500 ปิด 2,627.04 จุด +25.62 จุด หรือ +0.98% และดัชนี Nasdaq ปิด 6,912.36 จุด +33.84 จุด หรือ +0.49%
# ปัจจัยหนุน คือ 1. คณะกรรมาธิการด้านงบประมาณวุฒิสภาสหรัฐมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน รอเข้าพิจารณาในวุฒิสภาวันที่ 30 พ.ย.ต่อไป, 2. ยอดจับจ่ายใช้สอยสหรัฐแข็งแกร่ง, 3. ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่เห็นว่าควรทบทวนกฎระเบียบต่างๆ ที่ควบคุมตลาดการเงินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหนุนให้หุ้นกลุ่มสถาบันการเงินปรับขึ้น
-/• ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาอ่อนลงเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 57.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 63.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
# รอดูผลประชุมกลุ่มในและนอกโอเปก 30 พ.ย.นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่าผลการประชุมยังไม่แน่นอนอาจมี Surprise ว่าบางประเทศไม่เห็นด้วยกับการขยายระยะเวลาลดการผลิตไปถึงสิ้นปีหน้า
# นักวิเค
ราะห์คาดการณ์ว่าถ้าขยายเวลาลดการผลิตไปถึงสิ้นปี 61 ตลาดจะเผชิญภาวะขาดแคลนน้ำมันราว 830,000 บาร์เรล/วันในปีหน้า เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะขาดแคลน 310,000 บาร์เรล/วันเมื่อขยายถึงสิ้นไตรมาส 1/60
• ภาวะตลาดทองคำ : ราคาทรงตัว
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ ปิดที่ 1294.9 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
+ สหรัฐ : ร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีสหรัฐผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณวุฒิสภาแล้ว
# เมื่อวานนี้ คณะกรรมาธิการด้านงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐ มีมติด้วยคะแนนเสียง 12 ต่อ 11 อนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนที่ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกส่งให้กับวุฒิสภาเต็มคณะทำการพิจารณาเป็นลำดับต่อไปในวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาสหรัฐ ทั้งนี้ก่อนหน้า เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 227 ต่อ 205 ให้ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันฉบับดังกล่าว
+ สหรัฐ : ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่จะทบทวนกฎระเบียบด้านการเงิน
# นายเจอโรม พาวเวล ว่าที่ประธานเฟดได้กล่าวว่าขณะนี้ถึงเวลาในการพิจารณาทบทวนกฎระเบียบต่างๆ หลังจากที่มีการเพิ่มกฎใหม่ๆเข้าควบคุมตลาดการเงินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
+ สหรัฐ : ยอดใช้จ่ายช่วงแบล็กฟรายเดย์และไซเบอร์เดย์พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคพ.ย.ดีขึ้น
# "อะโดบี อินไซท์" ประมาณการว่ายอดขายในวันไซเบอร์ มันเดย์พุ่งแตะระดับ 6.59 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ภายในวันเดียวของสหรัฐ หลังจากที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ในวงเงิน 5.03 พันล้านดอลลาร์ในวันแบล็กฟรายเดย์
# ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐทะยานขึ้น สู่ระดับ 129.5 ในเดือนพ.ย.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2543
# ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ติดตามสัปดาห์นี้ คือ GDP งวด 3Q60, รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค., ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : พุ่งทำ New high หลังคณะกรรมาธิการงบประมาณวุฒิสภามีมติผ่านร่างกม.ปฏิรูปภาษี
# ดัชนี DJIA ปิด 23,836.71 จุด +255.93 จุด หรือ +1.09% ดัชนี S&P500 ปิด 2,627.04 จุด +25.62 จุด หรือ +0.98% และดัชนี Nasdaq ปิด 6,912.36 จุด +33.84 จุด หรือ +0.49%
# ปัจจัยหนุน คือ 1. คณะกรรมาธิการด้านงบประมาณวุฒิสภาสหรัฐมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน รอเข้าพิจารณาในวุฒิสภาวันที่ 30 พ.ย.ต่อไป, 2. ยอดจับจ่ายใช้สอยสหรัฐแข็งแกร่ง, 3. ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่เห็นว่าควรทบทวนกฎระเบียบต่างๆ ที่ควบคุมตลาดการเงินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหนุนให้หุ้นกลุ่มสถาบันการเงินปรับขึ้น
-/• ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาอ่อนลงเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 57.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 23 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 63.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
# รอดูผลประชุมกลุ่มในและนอกโอเปก 30 พ.ย.นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่าผลการประชุมยังไม่แน่นอนอาจมี Surprise ว่าบางประเทศไม่เห็นด้วยกับการขยายระยะเวลาลดการผลิตไปถึงสิ้นปีหน้า
# นักวิเค
ราะห์คาดการณ์ว่าถ้าขยายเวลาลดการผลิตไปถึงสิ้นปี 61 ตลาดจะเผชิญภาวะขาดแคลนน้ำมันราว 830,000 บาร์เรล/วันในปีหน้า เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะขาดแคลน 310,000 บาร์เรล/วันเมื่อขยายถึงสิ้นไตรมาส 1/60
• ภาวะตลาดทองคำ : ราคาทรงตัว
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ ปิดที่ 1294.9 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO2982