- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 29 November 2017 17:40
- Hits: 4955
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ตลาดหุ้นโลกกลับมาบวกสดใส คาดตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มตาม
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ช่วงเดือน ธ.ค. นับเป็นช่วงที่มีการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคมากที่สุด นอกจากจะเห็นแบล็ค ฟรายเดย์แล้วยังมี ไซเบอร์ มันเดย์(การรวมตัวกันลดราคาของผู้ค้าปลีกออนไลน์ในอเมริกา คนคิดคือสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งชาติ หรือ National Retail Federations) ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ด้วยผลประกอบการและแนวโน้มที่ดีในกลุ่มค้าปลีกไทย เราเชื่อว่า HMPRO, COM7, CPALL, GLOBAL จะเป็นหุ้นที่ได้รับกระแสเรื่องการจับจ่ายใช้สอยในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนดัชนีคอมมอดิตี้ที่สำคัญ คาดว่ายังคงไดร์ฟตลาดได้ต่อเนื่องได้แก่ ราคาน้ำมันดิบ ราคาถ่านหิน ค่าระวางเรือเทกอง เรายังชอบ PTT, BANPU, PSL, TTA, TOP, IVL เพื่อรอบการลงทุนในเดือน ธ.ค.ต่อเนื่องถึงปีหน้า ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสลุ้น 1,730-1,753 จุด เป็นการสร้างระดับสูงสุดของปีอีกด้วย
Stock Comment
HMPRO เราเลือกเป็น Pick of the day
SC คาดผลประกอบการไตรมาส 4/60 จะดีขึ้นโดดเด่น 956 ล้านบาท หลังการฟื้นตัวจาก Bottom Out ตั้งแต่ไตรมาส 3/60 เป็นต้นมา นอกจากนี้ คาดยอดโอนและรายได้จะเร่งตัวดีขึ้นในปี 2561 คาดหวังกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2560 และ2561 ที่ 0.40 บาท และ 0.50 บาทตามลำดับ ประเมินค่า PER 10 เท่า ราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 5.00 บาท แนะนำซื้อ
BANPU ราคาหุ้น Laggard เมื่อเทียบกับราคาถ่านหินที่ Perform ดีอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง เราคาดว่ากำไรไตรมาส 4/60 ของ BANPU จะทุบสถิติดีขึ้นต่อเนื่องนับจากไตรมาส 3/60 ที่กำไรออกมาดีมากจากธุรกิจถ่านหินเป็นหลัก เป้าหมาย AWS ที่ 27 บาท
หุ้นเด่นวันนี้ : HMPRO (Bt13.10; NR; IAA TP Bt14.02)
คาดกำไรเติบโตจากการขยายสาขามากขึ้น โดยเฉพาะ HomePro S ซึ่งได้รับการตอบรับดี มียอดขายต่อตารางเมตรสูงกว่าค่าเฉลี่ย และการหาทำเลเปิดสาขาได้ง่าย รวมถึงยอดขายจากสาขาเดิมที่มีโอกาสเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทคาดจะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงรวมถึง Private brand ทั้งนี้จากข้อมูล IAA Consensus คาดว่าบริษัทจะรายงานกำไรสุทธิในปี 2560 เท่ากับ 4.89 พันล้านบาท และปี2561 เท่ากับ 5.57 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.6% YoY และ 13.8% YoY ตามลำดับ
Price Pattern ของ HMPRO ยังมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ HMPRO ยังบ่งบอกถึงการทำ New High ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายถัดไปของการทำ New High อยู่ที่ 15.40 บาท ทั้งนี้ HMPRO มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 12.90 บาท (แนวต้าน : 13.40, 13.50, 13.60; แนวรับ: 13.10, 13.00, 12.90)
ตลาดหุ้นโลกกลับมาบวกสดใส คาดตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มตาม
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ช่วงเดือน ธ.ค. นับเป็นช่วงที่มีการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคมากที่สุด นอกจากจะเห็นแบล็ค ฟรายเดย์แล้วยังมี ไซเบอร์ มันเดย์(การรวมตัวกันลดราคาของผู้ค้าปลีกออนไลน์ในอเมริกา คนคิดคือสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งชาติ หรือ National Retail Federations) ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ด้วยผลประกอบการและแนวโน้มที่ดีในกลุ่มค้าปลีกไทย เราเชื่อว่า HMPRO, COM7, CPALL, GLOBAL จะเป็นหุ้นที่ได้รับกระแสเรื่องการจับจ่ายใช้สอยในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนดัชนีคอมมอดิตี้ที่สำคัญ คาดว่ายังคงไดร์ฟตลาดได้ต่อเนื่องได้แก่ ราคาน้ำมันดิบ ราคาถ่านหิน ค่าระวางเรือเทกอง เรายังชอบ PTT, BANPU, PSL, TTA, TOP, IVL เพื่อรอบการลงทุนในเดือน ธ.ค.ต่อเนื่องถึงปีหน้า ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสลุ้น 1,730-1,753 จุด เป็นการสร้างระดับสูงสุดของปีอีกด้วย
Stock Comment
HMPRO เราเลือกเป็น Pick of the day
SC คาดผลประกอบการไตรมาส 4/60 จะดีขึ้นโดดเด่น 956 ล้านบาท หลังการฟื้นตัวจาก Bottom Out ตั้งแต่ไตรมาส 3/60 เป็นต้นมา นอกจากนี้ คาดยอดโอนและรายได้จะเร่งตัวดีขึ้นในปี 2561 คาดหวังกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2560 และ2561 ที่ 0.40 บาท และ 0.50 บาทตามลำดับ ประเมินค่า PER 10 เท่า ราคาเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 5.00 บาท แนะนำซื้อ
BANPU ราคาหุ้น Laggard เมื่อเทียบกับราคาถ่านหินที่ Perform ดีอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง เราคาดว่ากำไรไตรมาส 4/60 ของ BANPU จะทุบสถิติดีขึ้นต่อเนื่องนับจากไตรมาส 3/60 ที่กำไรออกมาดีมากจากธุรกิจถ่านหินเป็นหลัก เป้าหมาย AWS ที่ 27 บาท
หุ้นเด่นวันนี้ : HMPRO (Bt13.10; NR; IAA TP Bt14.02)
คาดกำไรเติบโตจากการขยายสาขามากขึ้น โดยเฉพาะ HomePro S ซึ่งได้รับการตอบรับดี มียอดขายต่อตารางเมตรสูงกว่าค่าเฉลี่ย และการหาทำเลเปิดสาขาได้ง่าย รวมถึงยอดขายจากสาขาเดิมที่มีโอกาสเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทคาดจะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงรวมถึง Private brand ทั้งนี้จากข้อมูล IAA Consensus คาดว่าบริษัทจะรายงานกำไรสุทธิในปี 2560 เท่ากับ 4.89 พันล้านบาท และปี2561 เท่ากับ 5.57 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.6% YoY และ 13.8% YoY ตามลำดับ
Price Pattern ของ HMPRO ยังมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ HMPRO ยังบ่งบอกถึงการทำ New High ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายถัดไปของการทำ New High อยู่ที่ 15.40 บาท ทั้งนี้ HMPRO มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 12.90 บาท (แนวต้าน : 13.40, 13.50, 13.60; แนวรับ: 13.10, 13.00, 12.90)
ปัจจัยในประเทศ :
คณะรัฐมนตรีเห็นพ้องกับโครงการพัฒนาภาคใต้มูลค่า 5 แสนล้านบาท : คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อเสนอโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในช่วงปี พ.ศ. 2562-2566 ใน 14 จังหวัดชายแดนภาคใต้มูลค่ารวม 5 แสนล้านบาท แผนยังครอบคลุมรถไฟสองสายจากชุมพรไปยังอำเภอหาดใหญ่ในสงขลาและจากนราธิวาสไปยังหาดใหญ่และจากสุราษฎร์ธานีถึงพังงา (Bangkok Post)
BGRIM (ปิด26.00, ซื้อ, AWS เป้าหมาย 28.00 บาท) จากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้เรามีมุมมองเป็นบวกต่อการพัฒนาโครงการโรงฟ้าในต่างประเทศหลายโครงการ โดยเฉพาะในกัมพูชา บางโครงการมีการทำบันทึกความเข้าใจหรือ MOU กับบริษัทที่จัดหาเชื้อเพลิงสำหรับผลิตไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว ด้านโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศพบว่าบริษัทผ่านเกณฑ์ทางเทคนิค SPP Hybrid 2 โรง จากที่ยื่นไป 9 โรง คาดทราบผลการประกวดราคากลางเดือน ธ.ค. 60 นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะ Refinance เงินกู้ประมาณ 10,000 ล้านบาท จากหนี้ทั้งหมดประมาณ 45,000 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยประมาณ 3.0% ช่วยลดอัตราดอกเบี้ยจากระดับปัจจุบันที่ 4.8% เหลือประมาณ 4.4% สำหรับการขายหุ้น Big Lot ของ BGRIM ที่ราคา 25 บาท เป็นการขายหุ้นโดยผู้ถือหุ้นใหญ่และมีผู้บริหารเป็นผู้ซื้อ ชี้ให้เห็นความเชื่อมั่นของผู้บริหาร คาดไม่มีการขายหุ้นดังกล่าวออกมาในตลาด ราคาที่ปรับลดลงมาคือโอกาสในการลงทุน คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท และมีโอกาสปรับราคาเป้าหมายขึ้น
SC (ปิด3.86 บาท; ซื้อ; AWS ราคาเป้าหมาย 5.00 บาท) ประสบความสำเร็จในตลาดบ้านระดับสูงราคาเกิน 20 ล้านบาทอย่างมาก หลังปิดโครงการ The Gentry พระราม 9 ทั้ง 13 ยูนิต หลังเปิด Presales ไปไม่ถึงหนึ่งเดือน บริษัทมีแผนการโอนโครงการใหญ่อีกหลายแห่งในปีหน้า Saladaeng One, BEATNIQ และ Chamber Cher รวมถึงโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ Grand Bangkok Boulevard และ Bangkok Boulevard อีกทั้งจะเปิดโครงการแนวราบอีก 5 โครงการในไตรมาส 4/60 เราคาดการณ์กำไรสุทธิเติบโตอย่างก้าวกระโดดในไตรมาส4/60 ที่9.56 ล้านบาท (+163%YoY,+263%QoQ) และกำไรสุทธิในปี 2561 เป็น 2,100 ล้านบาท หรือ 0.50 บาทต่อหุ้น เติบโต 27%YoY ราคาเหมาะสมที่ PER 10 เท่าสำหรับปี 2561 เท่ากับ 5.00 บาท
คณะรัฐมนตรีเห็นพ้องกับโครงการพัฒนาภาคใต้มูลค่า 5 แสนล้านบาท : คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อเสนอโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในช่วงปี พ.ศ. 2562-2566 ใน 14 จังหวัดชายแดนภาคใต้มูลค่ารวม 5 แสนล้านบาท แผนยังครอบคลุมรถไฟสองสายจากชุมพรไปยังอำเภอหาดใหญ่ในสงขลาและจากนราธิวาสไปยังหาดใหญ่และจากสุราษฎร์ธานีถึงพังงา (Bangkok Post)
BGRIM (ปิด26.00, ซื้อ, AWS เป้าหมาย 28.00 บาท) จากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้เรามีมุมมองเป็นบวกต่อการพัฒนาโครงการโรงฟ้าในต่างประเทศหลายโครงการ โดยเฉพาะในกัมพูชา บางโครงการมีการทำบันทึกความเข้าใจหรือ MOU กับบริษัทที่จัดหาเชื้อเพลิงสำหรับผลิตไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว ด้านโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศพบว่าบริษัทผ่านเกณฑ์ทางเทคนิค SPP Hybrid 2 โรง จากที่ยื่นไป 9 โรง คาดทราบผลการประกวดราคากลางเดือน ธ.ค. 60 นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะ Refinance เงินกู้ประมาณ 10,000 ล้านบาท จากหนี้ทั้งหมดประมาณ 45,000 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยประมาณ 3.0% ช่วยลดอัตราดอกเบี้ยจากระดับปัจจุบันที่ 4.8% เหลือประมาณ 4.4% สำหรับการขายหุ้น Big Lot ของ BGRIM ที่ราคา 25 บาท เป็นการขายหุ้นโดยผู้ถือหุ้นใหญ่และมีผู้บริหารเป็นผู้ซื้อ ชี้ให้เห็นความเชื่อมั่นของผู้บริหาร คาดไม่มีการขายหุ้นดังกล่าวออกมาในตลาด ราคาที่ปรับลดลงมาคือโอกาสในการลงทุน คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท และมีโอกาสปรับราคาเป้าหมายขึ้น
SC (ปิด3.86 บาท; ซื้อ; AWS ราคาเป้าหมาย 5.00 บาท) ประสบความสำเร็จในตลาดบ้านระดับสูงราคาเกิน 20 ล้านบาทอย่างมาก หลังปิดโครงการ The Gentry พระราม 9 ทั้ง 13 ยูนิต หลังเปิด Presales ไปไม่ถึงหนึ่งเดือน บริษัทมีแผนการโอนโครงการใหญ่อีกหลายแห่งในปีหน้า Saladaeng One, BEATNIQ และ Chamber Cher รวมถึงโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ Grand Bangkok Boulevard และ Bangkok Boulevard อีกทั้งจะเปิดโครงการแนวราบอีก 5 โครงการในไตรมาส 4/60 เราคาดการณ์กำไรสุทธิเติบโตอย่างก้าวกระโดดในไตรมาส4/60 ที่9.56 ล้านบาท (+163%YoY,+263%QoQ) และกำไรสุทธิในปี 2561 เป็น 2,100 ล้านบาท หรือ 0.50 บาทต่อหุ้น เติบโต 27%YoY ราคาเหมาะสมที่ PER 10 เท่าสำหรับปี 2561 เท่ากับ 5.00 บาท
ตลาดต่างประเทศ :
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ: ปิดทะยานขึ้น (28 พ.ย.) โดยปิดทำนิวไฮพร้อมกันทั้งสามตลาด หลังจากคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนที่ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกส่งให้กับวุฒิสภาพิจารณาเป็นลำดับต่อไป นอกจากนี้ ตลาดฯ ยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคในวันไซเบอร์ มันเดย์ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายกฎระเบียบในตลาดการเงิน
ตลาดหุ้นยุโรป: ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ ประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นวงเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกออนไลน์ดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นโอคาโด กรุ๊ป ซึ่งทะยานขึ้นกว่า 20%
เลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ James Mattis กล่าวว่าเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธขีปนาวุธข้ามทวีปที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาและเป็นภัยคุกคามต่อทั่วโลกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้รายงานว่าเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธบินประมาณ 1,000 กิโลเมตร (620 ไมล์) ก่อนที่จะตกลงสู่ทะเลญี่ปุ่น (ที่มา: bbc.com)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ: ปิดทะยานขึ้น (28 พ.ย.) โดยปิดทำนิวไฮพร้อมกันทั้งสามตลาด หลังจากคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนที่ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกส่งให้กับวุฒิสภาพิจารณาเป็นลำดับต่อไป นอกจากนี้ ตลาดฯ ยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคในวันไซเบอร์ มันเดย์ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายกฎระเบียบในตลาดการเงิน
ตลาดหุ้นยุโรป: ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ ประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นวงเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกออนไลน์ดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นโอคาโด กรุ๊ป ซึ่งทะยานขึ้นกว่า 20%
เลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ James Mattis กล่าวว่าเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธขีปนาวุธข้ามทวีปที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาและเป็นภัยคุกคามต่อทั่วโลกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้รายงานว่าเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธบินประมาณ 1,000 กิโลเมตร (620 ไมล์) ก่อนที่จะตกลงสู่ทะเลญี่ปุ่น (ที่มา: bbc.com)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบ : ปิดลบ (28 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจเกี่ยวกับผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมัน
ราคาทองคำ : ปิดบวก (28 พ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ได้ส่งสัญญาณว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ราคาน้ำมันดิบ : ปิดลบ (28 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจเกี่ยวกับผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมัน
ราคาทองคำ : ปิดบวก (28 พ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ได้ส่งสัญญาณว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
Thailand Research Department
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Mr. Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 2-2680-5094
OO2976
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Mr. Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 2-2680-5094
OO2976