- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 29 November 2017 17:09
- Hits: 3077
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Let Profit Run และซื้อเพิ่มช่วงอ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัวในแดนบวกได้ตลอดทั้งวันและดีกว่าที่เราประเมิน โดยปิดบวกได้ถึง 10.85 จุด ณ สิ้นวัน แรงซื้อส่วนใหญ่มาจากสถาบันในประเทศกว่า 2,000 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิเล็กน้อยในตลาดหุ้นและ Long ใน Index Futures กว่า 5,000 สัญญา (ราว 1,000 ลบ.)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัวในแดนบวกได้ต่อเนื่องและมีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,720 จุดอีกครั้งจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสหลังนายเจอโรม พาวเวล แสดงวิสัยทัศน์ในการดำเนินนโยบายการเงินคล้ายเดิมคือขึ้นดอกเบี้ยแต่ไม่ใช่อัตราเร่ง ขณะที่คณะกรรมมาธิการด้านงบประมาณของวุฒิสภามีมติผ่านร่างกฎหมายซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญก่อนส่งให้วุฒิสภาเต็มคณะพิจารณาต่อ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยกดดันเล็กน้อยหลังเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธตกลงในทะเลญี่ปุ่นเช้านี้ แต่เราไม่กังวลต่อประเด็นดังกล่าวนักและมองจังหวะย่อตัวของตลาดเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นพื้นฐานดีเพิ่ม โดยยังมีมุมมองเป็นบวกระยะยาวต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
กลยุทธ์ : Let Profit Run และซื้อเพิ่มช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$460ล้าน นำโดยไต้หวัน US$279ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเวียดนาม US$53ล้าน ขณะที่ไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$7ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค หลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธตกลงในเขตญี่ปุ่น ขณะเดี่ยกวันตลาดจับตาการแสดงวิสัยทัศน์ของว่าที่ประธาน Fed คนใหม่
กลยุทธ์วันนี้ >> Let Profit Run และซื้อเพิ่มช่วงอ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัวในแดนบวกได้ตลอดทั้งวันและดีกว่าที่เราประเมิน โดยปิดบวกได้ถึง 10.85 จุด ณ สิ้นวัน แรงซื้อส่วนใหญ่มาจากสถาบันในประเทศกว่า 2,000 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิเล็กน้อยในตลาดหุ้นและ Long ใน Index Futures กว่า 5,000 สัญญา (ราว 1,000 ลบ.)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัวในแดนบวกได้ต่อเนื่องและมีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,720 จุดอีกครั้งจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสหลังนายเจอโรม พาวเวล แสดงวิสัยทัศน์ในการดำเนินนโยบายการเงินคล้ายเดิมคือขึ้นดอกเบี้ยแต่ไม่ใช่อัตราเร่ง ขณะที่คณะกรรมมาธิการด้านงบประมาณของวุฒิสภามีมติผ่านร่างกฎหมายซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญก่อนส่งให้วุฒิสภาเต็มคณะพิจารณาต่อ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยกดดันเล็กน้อยหลังเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธตกลงในทะเลญี่ปุ่นเช้านี้ แต่เราไม่กังวลต่อประเด็นดังกล่าวนักและมองจังหวะย่อตัวของตลาดเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นพื้นฐานดีเพิ่ม โดยยังมีมุมมองเป็นบวกระยะยาวต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
กลยุทธ์ : Let Profit Run และซื้อเพิ่มช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$460ล้าน นำโดยไต้หวัน US$279ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเวียดนาม US$53ล้าน ขณะที่ไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$7ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค หลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธตกลงในเขตญี่ปุ่น ขณะเดี่ยกวันตลาดจับตาการแสดงวิสัยทัศน์ของว่าที่ประธาน Fed คนใหม่
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> BCH <<
คาดกำไร 4Q17 ยังมีโมเมนตัมที่ดีจากฤดูฝนที่ลากยาว และฐานต่ำในปีก่อน ส่วน WMC ยังมีการเติบโตแข็งแกร่ง และปี 2018 จะได้อานิสงส์เต็มปีจากประกันสังคมซึ่ง BCH เป็นหนึ่งในผู้ได้ประโยชน์สูงสุด
คาดกำไรสุทธิปี 2017-2018 โตเฉลี่ย 16% ต่อปี ยังคงคำแนะนำซื้อ ในฐานะ Top Pick ของกลุ่ม ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 18.30 บาท
วันนี้มีประชุมนักวิเคราะห์ ซึ่งระยะหลังมักได้ข้อมูลเชิงบวกเพิ่มเติม โดยเฉพาะความก้าวหน้าของ WMC
คาดกำไร 4Q17 ยังมีโมเมนตัมที่ดีจากฤดูฝนที่ลากยาว และฐานต่ำในปีก่อน ส่วน WMC ยังมีการเติบโตแข็งแกร่ง และปี 2018 จะได้อานิสงส์เต็มปีจากประกันสังคมซึ่ง BCH เป็นหนึ่งในผู้ได้ประโยชน์สูงสุด
คาดกำไรสุทธิปี 2017-2018 โตเฉลี่ย 16% ต่อปี ยังคงคำแนะนำซื้อ ในฐานะ Top Pick ของกลุ่ม ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 18.30 บาท
วันนี้มีประชุมนักวิเคราะห์ ซึ่งระยะหลังมักได้ข้อมูลเชิงบวกเพิ่มเติม โดยเฉพาะความก้าวหน้าของ WMC
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ราคาน้ำมันดิบ -0.2% เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความไม่มั่นใจต่อผลการประชุมโอเปก หลังรัสเซียเริ่มมีท่าทีลังเลต่อช่วงเวลาในการขยายข้อตกลงปรับลดการผลิต อีกทั้ง ท่อขนส่งน้ำมันระหว่างสหรัฐ และ แคนนาดาที่เคยหยุดซ่อมกำลังกลับมาดำเนินการแล้ว เป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานวันนี้
(0) เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ ในเช้ามืดวันนี้ โดยยิงจากเมืองเชนนีไปตกที่ทะเลเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปชนิด ICBM ระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ตลาดเอเชียไม่ได้กังวลต่อประเด็นนี้มากนัก เพราะให้น้ำหนักกับถ้อยแถลงของว่าที่ประธานเฟดคนใหม่มากกว่า
(-) WORK ประชุมนักวิเคราะห์วานนี้เป็นเชิงลบเล็กน้อย จากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q17 ที่ต่ำกว่าเราและตลาดเคยคาด โดยจะกลับเป็นขาดทุน เนื่องจากรายได้ช่อง WPTV ลดลงมากจาก 3Q17 ที่มีการซื้อล่วงหน้าก่อนงานพระราชพิธีในเดือนต.ค. ทำให้เราปรับประมาณการกำไรทั้งปีลง 11% และปี 2018-2019 ปรับลง 7-8% เหลือ 4 พันลบ. +24% Y-Y ในปีหน้า โดยคาด Avg. Ad. Rate ปรับเพิ่มได้อีก 14% จากการเน้นการแยกขายโฆษณารายการที่มี Rating สูงๆ และ Rating ที่จะดีขึ้นกลับสู่ระดับ 1.4-1.5 ซึ่งผลจากการปรับประมาณการลง ทำให้ราคาเป้าหมายปี 2018 ลดลงเป็น 98 บาท จากเดิม 103 บาท (DCF) คงคำแนะนำ ถือหรือซื้ออ่อนตัว
(+) PT เรากลับมาจัดทำบทวิเคราะห์ด้วยคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2018 ได้เท่ากับ 8.50 บาท อิง PE เฉลี่ยในอดีตของตัวเองและกลุ่ม SI ที่ 13 เท่า ความน่าสนใจอยู่ที่ผลประกอบการที่จะกลับมาขยายตัวดีใน 4Q17 จากการเร่งปิดงานของลูกค้ากลุ่มสถาบันการเงิน และอัตรากำไรสุทธิคาดว่าจะฟื้นตัวจาก 3Q17 จากค่าใช้จ่ายปรับปรุงระบบและศูนย์สำรองข้อมูลที่ลดลง เบื้องต้นเราคาดที่ 69 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อย Y-Y แต่เพิ่มขึ้นมาก 48% Q-Q โดยเราคาดกำไรทั้งปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% Y-Y ก่อนจะโตอีก 10% Y-Y อยู่ที่ 187 ล้านบาทในปีหน้า ในเชิงของอัตราการเติบโตดูไม่น่าสนใจนัก แต่ในเชิงของ Valuation ถือว่ายังไม่แพง คิดเป็น PE2017-2018 ที่ 9.6-10.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของตัวเองและกลุ่ม 19-26% อีกทั้งปันผลยังสม่ำเสมอ 4-5% ต่อปี
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
(-) ราคาน้ำมันดิบ -0.2% เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความไม่มั่นใจต่อผลการประชุมโอเปก หลังรัสเซียเริ่มมีท่าทีลังเลต่อช่วงเวลาในการขยายข้อตกลงปรับลดการผลิต อีกทั้ง ท่อขนส่งน้ำมันระหว่างสหรัฐ และ แคนนาดาที่เคยหยุดซ่อมกำลังกลับมาดำเนินการแล้ว เป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานวันนี้
(0) เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ ในเช้ามืดวันนี้ โดยยิงจากเมืองเชนนีไปตกที่ทะเลเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปชนิด ICBM ระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ตลาดเอเชียไม่ได้กังวลต่อประเด็นนี้มากนัก เพราะให้น้ำหนักกับถ้อยแถลงของว่าที่ประธานเฟดคนใหม่มากกว่า
(-) WORK ประชุมนักวิเคราะห์วานนี้เป็นเชิงลบเล็กน้อย จากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q17 ที่ต่ำกว่าเราและตลาดเคยคาด โดยจะกลับเป็นขาดทุน เนื่องจากรายได้ช่อง WPTV ลดลงมากจาก 3Q17 ที่มีการซื้อล่วงหน้าก่อนงานพระราชพิธีในเดือนต.ค. ทำให้เราปรับประมาณการกำไรทั้งปีลง 11% และปี 2018-2019 ปรับลง 7-8% เหลือ 4 พันลบ. +24% Y-Y ในปีหน้า โดยคาด Avg. Ad. Rate ปรับเพิ่มได้อีก 14% จากการเน้นการแยกขายโฆษณารายการที่มี Rating สูงๆ และ Rating ที่จะดีขึ้นกลับสู่ระดับ 1.4-1.5 ซึ่งผลจากการปรับประมาณการลง ทำให้ราคาเป้าหมายปี 2018 ลดลงเป็น 98 บาท จากเดิม 103 บาท (DCF) คงคำแนะนำ ถือหรือซื้ออ่อนตัว
(+) PT เรากลับมาจัดทำบทวิเคราะห์ด้วยคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2018 ได้เท่ากับ 8.50 บาท อิง PE เฉลี่ยในอดีตของตัวเองและกลุ่ม SI ที่ 13 เท่า ความน่าสนใจอยู่ที่ผลประกอบการที่จะกลับมาขยายตัวดีใน 4Q17 จากการเร่งปิดงานของลูกค้ากลุ่มสถาบันการเงิน และอัตรากำไรสุทธิคาดว่าจะฟื้นตัวจาก 3Q17 จากค่าใช้จ่ายปรับปรุงระบบและศูนย์สำรองข้อมูลที่ลดลง เบื้องต้นเราคาดที่ 69 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อย Y-Y แต่เพิ่มขึ้นมาก 48% Q-Q โดยเราคาดกำไรทั้งปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% Y-Y ก่อนจะโตอีก 10% Y-Y อยู่ที่ 187 ล้านบาทในปีหน้า ในเชิงของอัตราการเติบโตดูไม่น่าสนใจนัก แต่ในเชิงของ Valuation ถือว่ายังไม่แพง คิดเป็น PE2017-2018 ที่ 9.6-10.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของตัวเองและกลุ่ม 19-26% อีกทั้งปันผลยังสม่ำเสมอ 4-5% ต่อปี
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
29 พ.ย.- สหรัฐฯ: GDP3Q17 (ตัวเลขสุดท้าย), รายงานภาวะเศรษฐกิจ Beige Book ของเฟด
30 พ.ย.- จีน: PMI ภาคการผลิต (พ.ย.)
- OPEC: ประชุมเพื่อขยายกรอบเวลาควบคุมการผลิตน้ำมัน
- ไทย: ตัวเลขเศรษฐกิจของ ธปท., MSCI รอบใหม่มีผลบังคับใช้, JKN เข้าซื้อขายวันแรก ราคา IPO 8.00 บาท
1 ธ.ค.- สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (พ.ย.)
5 ธ.ค.- ออสเตรเลีย: ประชุมธนาคารกลาง
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกจากข่าววุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี อีกทั้ง ยังมีปัจจัยหนุนจากการแสดงวิสัยทัศน์ของนายพาวเวล ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ที่ผลักดันให้มีการผ่อนคลายกฎระเบียบในระบบการเงิน
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกจากแรงซื้อกลุ่มค้าปลีก และ พลังงานเนื่องจากมีปัจจัยเฉพาะตัวเกี่ยวกับการซื้อหุ้นคืน รวมถึงผลการทดสอบ stress test ของธนาคารอังกฤษที่น่าพอใจ
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกตามทิศทางตลาดโลก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเฝ้าจับตาการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางอ่อนค่าเล็กน้อย ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 32.55-32.62 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดลบ 0.12 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 57.99 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความไม่มั่นใจเกี่ยวกับผลการประชุมโอเปก
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 0.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,294.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังว่าทีประธานเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO2971