- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 27 November 2017 17:31
- Hits: 3445
เด็กแนว - AJA พระเอกคืนจอแก้ว
ภาคที่แล้ว เด็กแนวเล่าให้ฟังว่า บริษัทได้มีการเปลี่ยนโฉมใหม่หมดสิ้น หลังจากขายบริษัทตู้เติมเงินออกไปเกือบหมด และหันมาจับมือยักษ์อันดับหนึ่งของจีนชื่อ BYD จัดตั้งบริษัทขายรถยนต์ไฟฟ้า EV เต็มรูปแบบในไทย และเตรียมเปิดตัว Charging station เร็วๆ นี้ ร่วมมือกับปั๊มน้ำมัน ร้านกาแฟทั่วประเทศ รุกคืบแบบไม่ทันให้ใครได้เริ่มก่อน
ล่าสุดนำเข้ารถยนต์มาแล้วโดยร่วมทุนกับกลุ่มยนตรกิจ เปิดศูนย์รถยนต์แห่งแรกในเมืองไทย พร้อมเปิดขายเร็วๆ นี้ ตั้งเป้ารายได้ส่วนนี้ 2,000 ล้านบาทในปี 62 ดังนั้นต้องจับตาดูผลประกอบการให้ดีรถยนต์หนึ่งคันที่ขายได้ดีกว่าเครื่อง DVD เป็นร้อยเครื่องซะอีก แถมเป็นผู้นำ เทรนด์ และบุกตลาดก่อนใคร เด็กแนวมองว่าเป็นการท้าทายตลาดอย่างมากสำหรับการเข้าสู่ธุรกิจรถ EV เต็มตัวของ AJA ราคาหุ้นที่ลงลึก ไม่น่าจะต่ำกว่านี้อีกแล้ว ด้านกราฟเห็นการโค้งตัวของแท่งเทียน ซึ่งมาลุ้นกันว่าจะกลับขึ้นไปปิด Gap ได้หรือไม่ โดยมีแนวปะทะที่เส้นค่าเฉลี่ย 0.94 บาท มาได้แค่นี้ก็หรูสุดๆ แล้วขอบอก ใครสนใจ แนะนำสะสมคร๊าบบ
CMO สวนให้สนุก
ธุรกิจของซีโม่กลับมาน่าสนใจอีกครั้งหลังจากบุกสร้างสวนสนุก Imaginia Zone ทั้งในและต่างประเทศ ได้รับความนิยมสูง โดยสวนสนุก Theme Park ของจีน ซึ่งบริษัทไปเปิดบริการนั้น ได้รับความนิยม และกำลังเซ็นสัญญาสร้างเพิ่มอีกราว 5 แห่ง รวมทั้งไปเปิดเฟรนไชนส์ ที่เวียดนามอีกด้วย
ธุรกิจของซีโม่กลับมาน่าสนใจอีกครั้งหลังจากบุกสร้างสวนสนุก Imaginia Zone ทั้งในและต่างประเทศ ได้รับความนิยมสูง โดยสวนสนุก Theme Park ของจีน ซึ่งบริษัทไปเปิดบริการนั้น ได้รับความนิยม และกำลังเซ็นสัญญาสร้างเพิ่มอีกราว 5 แห่ง รวมทั้งไปเปิดเฟรนไชนส์ ที่เวียดนามอีกด้วย
ส่วนของไทยก็มีโรงละครหิมพานต์อวตาล ที่ตอนนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าชมแน่นมาก ถือว่าน่าจับตาสำหรับธุรกิจทำเงินตัวนี้ทำให้เป็นหุ้นที่น่ามองขณะที่ราคาหุ้น Side way สร้างฐานมีสัญญาณเชิงบวกทั้งในแท่งเทียนและ Indicators แนวโน้มจะขึ้นทดสอบ 2.50 บาทได้ไม่ยาก ด้วยหุ้นที่มีค่า PE เพียง 11 เท่า จัดว่าไม่แพงเลย แนะนำว่าสะสมด้วยอีกตัว
บล.เออีซี : Action Strategy
AECS Market Outlook : ลุ้นกลับตัวขึ้น มิฉะนั้นจะลงแรง
SET อ่อนตัวลงต่อเนื่อง หลังจากเกิดสัญญาณ Shooting Star เมื่อนต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนก่อนที่ SET จะปรับตัวลงในวันถัดมา การทิ้งตัวในวันศุกร์ ทำให้สัญญาณทางเทคนิคเป็นเชิงลบมากขึ้น โดยเฉพาะ MACD ที่ตัดเส้นค่าเฉลี่ยลงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เกิดครั้งก่อนหน้ากลางเดือนตุลาคม ซึ่งทำให้ SET ปรับฐานลง 30 จุด ในคราวนี้ถือว่ามีความเสี่ยงมากขึ้นเพราะเส้นค่าเฉลี่ยสามกษัตริย์ (ma. 15,25,35) ม้วนตัวลง บ่งบอกโอกาสอาการวูบเกิดขึ้นได้ จึงเตือนให้ระวังความผันผวนหนัก โดย SET ต้องดึงขึ้นปิดสูงกว่า 1,700 จุดถึงปลายสัปดาห์ให้ได้ จึงจะยกเลิก Sell signal นี้
กลยุทธ์
1. ลดหุ้นบางส่วน เพื่อลดความเสี่ยง
2. หากปิดต่ำกว่า 1,685 จุด ขายหุ้นเพิ่มขึ้น
3. หากปิดสูงกว่าเปิด และสูงกว่า 1,700 จุด ถือหุ้นเก็งกำไรกลับบ้าน
SET อ่อนตัวลงต่อเนื่อง หลังจากเกิดสัญญาณ Shooting Star เมื่อนต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนก่อนที่ SET จะปรับตัวลงในวันถัดมา การทิ้งตัวในวันศุกร์ ทำให้สัญญาณทางเทคนิคเป็นเชิงลบมากขึ้น โดยเฉพาะ MACD ที่ตัดเส้นค่าเฉลี่ยลงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เกิดครั้งก่อนหน้ากลางเดือนตุลาคม ซึ่งทำให้ SET ปรับฐานลง 30 จุด ในคราวนี้ถือว่ามีความเสี่ยงมากขึ้นเพราะเส้นค่าเฉลี่ยสามกษัตริย์ (ma. 15,25,35) ม้วนตัวลง บ่งบอกโอกาสอาการวูบเกิดขึ้นได้ จึงเตือนให้ระวังความผันผวนหนัก โดย SET ต้องดึงขึ้นปิดสูงกว่า 1,700 จุดถึงปลายสัปดาห์ให้ได้ จึงจะยกเลิก Sell signal นี้
กลยุทธ์
1. ลดหุ้นบางส่วน เพื่อลดความเสี่ยง
2. หากปิดต่ำกว่า 1,685 จุด ขายหุ้นเพิ่มขึ้น
3. หากปิดสูงกว่าเปิด และสูงกว่า 1,700 จุด ถือหุ้นเก็งกำไรกลับบ้าน
บทสรุปการลงทุน:
SET แนวโน้มผันผวนจากสัญญาณขาย หากไม่ฟื้นตัวจะปรับลงแรง
SET Closed: 1,695.84
SET แนวโน้มผันผวนจากสัญญาณขาย หากไม่ฟื้นตัวจะปรับลงแรง
SET Closed: 1,695.84
Support: 1,685 1,690
Resistant: 1,700 1,705
Resistant: 1,700 1,705
TNR กราฟกลับตัวขึ้น
ราคาปิด 18.90 บาท
แนวรับ 18.80 บาท แนวต้าน: 19.40 บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 18.70 บาท
ราคาปิด 18.90 บาท
แนวรับ 18.80 บาท แนวต้าน: 19.40 บาท
Stop Loss : เมื่อหลุด 18.70 บาท
กราฟ TNR ดีดตัวขึ้นตัดผ่านแนวสามเหลี่ยมกดทับเป็น Tower ซึ่งเป็นสัญญาณซื้อควบคู่กับ RSI คาดการแนวโน้มปรับขึ้นไปยังแนว Rebound gap ระหว่าง 19.40-20.40 บาท แนะนำ “ซื้อ”
AEC Securities
Technical Research
รณกฤต สารินวงศ์
ID: 012234
ID: 012234
บล.เออีซี : Derivatives Signals
SET50 Index Futures
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดคาด SET50 ยังนิ่ง!
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวันศุกร์ S50Z17 ปรับลงแรงกว่า Spot ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.7 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +0.9 จุด เข้าใกล้ Theory Basis ที่ +0.29 จุด สะท้อนระยะกลาง (2 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นบวกลดลงต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) เพิ่มขึ้น 0.5 จุด จากวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.2 จุด แต่ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.93 จุด
มุมมองทางทฤษฎี: ตลาดคาด SET50 ยังนิ่ง!
BASIS (S50Z17-SET50): เมื่อวันศุกร์ S50Z17 ปรับลงแรงกว่า Spot ส่งผลให้ Basis ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.7 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ +0.9 จุด เข้าใกล้ Theory Basis ที่ +0.29 จุด สะท้อนระยะกลาง (2 เดือน) ตลาดมีมุมมองเป็นบวกลดลงต่อ SET50 Index ส่วน Calendar Spread (S50H18-S50Z17) เพิ่มขึ้น 0.5 จุด จากวันก่อนหน้า โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -1.2 จุด แต่ยังคงมากกว่า Theory Spread ที่ -2.93 จุด
PUT/CALL Ratio: ปัจจุบันอัตราส่วนการเทรด SET50 Index Option ฝั่ง PUT เทียบกับฝั่ง CALL พบว่าปริมาณซื้อขาย (Volume) อยู่ที่ 1.02x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.57x และฝั่งสถานะคงค้าง (Open Interest) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.16x ลดลงจากวันก่อนหน้า 0.01x ซึ่งเราให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงของ OI มากกว่า Volume เพราะสะท้อนถึงอุปสงค์ที่แท้จริงมากกว่า ดังนั้นสรุปว่านักลงทุนมีความต้องการป้องกันความเสี่ยงขาลงใกล้เคียงกับวันก่อนหน้า
Fund Flow Analysis: เมื่อวันศุกร์นักลงทุนต่างชาติกลับมามีสถานะ Net Short 4,350 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures เพิ่มขึ้นเป็น 53,460 สัญญา และขายสุทธิในตลาดหุ้น 732 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 34,349 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติกลับมามีมุมมองลบต่อตลาดทุนไทย
Fund Flow Analysis: เมื่อวันศุกร์นักลงทุนต่างชาติกลับมามีสถานะ Net Short 4,350 สัญญา ใน Index Futures ส่งผลให้ Quarter to Date (QTD) มีสถานะ Net Short ใน Index Futures เพิ่มขึ้นเป็น 53,460 สัญญา และขายสุทธิในตลาดหุ้น 732 ล้านบาท ทั้งนี้โดยรวม Exposure ใน QTD ของนักลงทุนต่างชาติฝั่งตลาดทุน (หุ้น + Index Futures) มีสถานะขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 34,349 ล้านบาท บ่งชี้นักลงทุนต่างชาติกลับมามีมุมมองลบต่อตลาดทุนไทย
มุมมองด้านเทคนิค: รอเปิด Long ที่รับ 1,080 จุด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา S50Z17 ย่อตัวลง และเริ่มลงเข้าสู่ Gap ที่เปิดไว้บริเวณ 1,080 ทั้งนี้ดัชนีปิดบริเวณขอบล่างของ Bollinger Band ที่ระดับ – 2SD. ซึ่งทำให้ในกราฟ 120 นาที มีสัญญาณของ Indicator ที่เริ่มอ่อนแรง อาทิ MACD ที่ยังคงต่ำกว่าค่า Signal ดังนั้นในช่วงสั้น (วันนี้) เราจึงคาดช่วงเช้าดัชนีมีโอกาสปรับลงมาทดสอบแนวรับที่ 1,080 จุด (Gap ที่เคยเปิดไว้) ซึ่งหากไม่หลุดแนวดังกล่าวจะมองเป็นจุดเข้าซื้อ เพราะในภาพใหญ่เรายังคงมองแกว่ง Sideway โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,080- 1,100 จุด บวกกับ สัญญาณ Oversold ใน Modified Sto. ที่บริเวณต่ำกว่า 14% ทำให้คาดแรงขายค่อนข้างจำกัด
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา S50Z17 ย่อตัวลง และเริ่มลงเข้าสู่ Gap ที่เปิดไว้บริเวณ 1,080 ทั้งนี้ดัชนีปิดบริเวณขอบล่างของ Bollinger Band ที่ระดับ – 2SD. ซึ่งทำให้ในกราฟ 120 นาที มีสัญญาณของ Indicator ที่เริ่มอ่อนแรง อาทิ MACD ที่ยังคงต่ำกว่าค่า Signal ดังนั้นในช่วงสั้น (วันนี้) เราจึงคาดช่วงเช้าดัชนีมีโอกาสปรับลงมาทดสอบแนวรับที่ 1,080 จุด (Gap ที่เคยเปิดไว้) ซึ่งหากไม่หลุดแนวดังกล่าวจะมองเป็นจุดเข้าซื้อ เพราะในภาพใหญ่เรายังคงมองแกว่ง Sideway โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,080- 1,100 จุด บวกกับ สัญญาณ Oversold ใน Modified Sto. ที่บริเวณต่ำกว่า 14% ทำให้คาดแรงขายค่อนข้างจำกัด
กลยุทธ์การลงทุน
Outright Trading: แนะนำให้จับตาแนวรับที่1,080 จุด (Gap ที่เปิดไว้) เป็นจังหวะเปิด Long โดยหวังรีบาวด์กลับไปแนวต้านที่1,100 จุด
นักวิเคราะห์: อิศรา เลิศสุดคนึง (ID:033432) / ผู้ช่วยนักวิเคราะห์: ตฤณ สิทธิสวัสดิ์
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Technical: ลุ้นกลับตัวขึ้น มิฉะนั้นจะลงแรง
Trading Idea: TNR
เด็กแนว: AJA , CMO
---------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• ตลาดสหรัฐฯ สดใส จากแรงช็อปในวัน Black Friday
Market Outlook
• สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวกรอบ 1,685-1,720 จุด โดยลุ้นดัชนีรีบาวด์หลังเผชิญแรงขายไปแล้วในสัปดาห์ก่อนและขานรับ ครม. ชุดใหม่ที่ทีมเศรษฐกิจหลักยังเป็นทีมเดิมทำให้นโยบายเศรษฐกิจในโครงการหลักๆ ยังผลักดันให้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
Market Factors
• (+) ดัชนี DJIA ปิด +0.14%DoD จากแรงซื้อหุ้นค้าปลีกหลังมีรายงานชาวสหรัฐฯ ออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าอย่างคึกคักในเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า
• (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +1.6%DoD จากความคาดหวังการประชุมกลุ่มโอเปกและนอกโอเปกในวันที่ 30 พ.ย. นี้จะมีการหารือเรื่องการขยายเวลาปรับลดกำลังผลิตออกไป
• (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูลสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ยอดขายบ้านใหม่, GDP 3Q60 (ประมาณการครั้งที่ 2), รายงานสรุปภาวะศก. จากเฟดรวมทั้งดัชนีPMI ภาคการผลิตของประเทศจีนและในแถบยุโรป และผลประชุมของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 30 พ.ย.นี้
Investment Strategy
• แม้ระยะสั้นตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในช่วงพักฐานแต่มองระยะกลาง-ยาวยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังภาวะ ศก.ส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน ดังนั้นการอ่อนตัวลงของดัชนีหรือราคาหุ้น จึงยังเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดีและมีศักยภาพเติบโตสดใส ดังนี้
1) กลุ่มพลังงานและปิดโตรเคมี: รับอานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูงและความคาดหวังกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันขยายเวลาปรับลดกำลังผลิตออกไปจนถึงสิ้นปีหน้า เลือก PTT, PTTEP, PTTGC
2) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : ช่วง 4Q60 สินเชื่อเร่งตัวขึ้นหลังศก. ฟื้นตัวชัดเจนและภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นศก. ต่อเนื่อง เลือก KBANK,KKP, BBL
3) กลุ่มค้าปลีก: High Season/ช็อปช่วยชาติ เลือก CPALL, ROBINS, HMPRO, BJC
4) กลุ่ม Mid-SmallCap: คาดกำไรโตสดใสปีหน้า เลือก MINT, BCH, WICE, MONO
Market Talk and News
• SPALI (BUY:TP@28) :แม้ปี60คาดกำไรปกติโตเพียง3.9%YoY แต่จะโตเด่น 14%YoY ใน ปี 61 หลังมี Backlog ปัจจุบันที่สูงถึง 3.9 หมื่น ลบ. ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้จนถึงปี 64 อีกทั้งบริษัทยังมีแผนหันมาลดต้นทุนดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม + มีUpside 17.2% และคาดกลับมาจ่ายปันผลอีกคั้งในปีหน้าด้วย Div.Yield ราว 4.3% จึงแนะนำ “ซื้อ”
• NDR (BUY:[email protected]) : เรามองผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วง 3Q60 โดยจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นในช่วง 4Q60 และกำไรจะพลิกกลับมาโตเด่น 112%YoY ในปี 61 หลังต้นทุนราคายางทรงตัวระดับต่ำและมีแผนแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดกลุ่มลูกค้ายางอะไหล่ พร้อมกับรุกตลาดต่างประเทศในกลุ่ม OEM มากขึ้น +ราคาหุ้นยังมี Upside 13.8% แนะนำ “ซื้อ”
• COM7(BUY:[email protected]) : ช่วง 4Q60 คาดโตสดใสทั้ง YoYและ QoQ จากอานิสงส์มาตรการช็อปช่วยชาติและมีสินค้าใหม่ที่ออกมาต่อเนื่อง อาทิ iPhone X ที่เพิ่งวางจำหน่ายในไทยเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 60 โดยปี 60 คาดกำไรโต 41%YoY และโตต่อ 31%YoY ในปี 61 จากกำลังซื้อที่ดีขึ้นและและขยายช่องทางจัดจำหน่ายมากขึ้น + Upside 15.6%
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก MC, LH
Technical: ลุ้นกลับตัวขึ้น มิฉะนั้นจะลงแรง
Trading Idea: TNR
เด็กแนว: AJA , CMO
---------------------------------------------------------------------------------
Connect the World– (P.2)
• ตลาดสหรัฐฯ สดใส จากแรงช็อปในวัน Black Friday
Market Outlook
• สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวกรอบ 1,685-1,720 จุด โดยลุ้นดัชนีรีบาวด์หลังเผชิญแรงขายไปแล้วในสัปดาห์ก่อนและขานรับ ครม. ชุดใหม่ที่ทีมเศรษฐกิจหลักยังเป็นทีมเดิมทำให้นโยบายเศรษฐกิจในโครงการหลักๆ ยังผลักดันให้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
Market Factors
• (+) ดัชนี DJIA ปิด +0.14%DoD จากแรงซื้อหุ้นค้าปลีกหลังมีรายงานชาวสหรัฐฯ ออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าอย่างคึกคักในเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า
• (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิด +1.6%DoD จากความคาดหวังการประชุมกลุ่มโอเปกและนอกโอเปกในวันที่ 30 พ.ย. นี้จะมีการหารือเรื่องการขยายเวลาปรับลดกำลังผลิตออกไป
• (+/-) สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูลสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ยอดขายบ้านใหม่, GDP 3Q60 (ประมาณการครั้งที่ 2), รายงานสรุปภาวะศก. จากเฟดรวมทั้งดัชนีPMI ภาคการผลิตของประเทศจีนและในแถบยุโรป และผลประชุมของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 30 พ.ย.นี้
Investment Strategy
• แม้ระยะสั้นตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในช่วงพักฐานแต่มองระยะกลาง-ยาวยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังภาวะ ศก.ส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน ดังนั้นการอ่อนตัวลงของดัชนีหรือราคาหุ้น จึงยังเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดีและมีศักยภาพเติบโตสดใส ดังนี้
1) กลุ่มพลังงานและปิดโตรเคมี: รับอานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูงและความคาดหวังกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันขยายเวลาปรับลดกำลังผลิตออกไปจนถึงสิ้นปีหน้า เลือก PTT, PTTEP, PTTGC
2) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : ช่วง 4Q60 สินเชื่อเร่งตัวขึ้นหลังศก. ฟื้นตัวชัดเจนและภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นศก. ต่อเนื่อง เลือก KBANK,KKP, BBL
3) กลุ่มค้าปลีก: High Season/ช็อปช่วยชาติ เลือก CPALL, ROBINS, HMPRO, BJC
4) กลุ่ม Mid-SmallCap: คาดกำไรโตสดใสปีหน้า เลือก MINT, BCH, WICE, MONO
Market Talk and News
• SPALI (BUY:TP@28) :แม้ปี60คาดกำไรปกติโตเพียง3.9%YoY แต่จะโตเด่น 14%YoY ใน ปี 61 หลังมี Backlog ปัจจุบันที่สูงถึง 3.9 หมื่น ลบ. ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้จนถึงปี 64 อีกทั้งบริษัทยังมีแผนหันมาลดต้นทุนดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม + มีUpside 17.2% และคาดกลับมาจ่ายปันผลอีกคั้งในปีหน้าด้วย Div.Yield ราว 4.3% จึงแนะนำ “ซื้อ”
• NDR (BUY:[email protected]) : เรามองผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วง 3Q60 โดยจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นในช่วง 4Q60 และกำไรจะพลิกกลับมาโตเด่น 112%YoY ในปี 61 หลังต้นทุนราคายางทรงตัวระดับต่ำและมีแผนแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดกลุ่มลูกค้ายางอะไหล่ พร้อมกับรุกตลาดต่างประเทศในกลุ่ม OEM มากขึ้น +ราคาหุ้นยังมี Upside 13.8% แนะนำ “ซื้อ”
• COM7(BUY:[email protected]) : ช่วง 4Q60 คาดโตสดใสทั้ง YoYและ QoQ จากอานิสงส์มาตรการช็อปช่วยชาติและมีสินค้าใหม่ที่ออกมาต่อเนื่อง อาทิ iPhone X ที่เพิ่งวางจำหน่ายในไทยเมื่อวันที่ 24 พ.ย. 60 โดยปี 60 คาดกำไรโต 41%YoY และโตต่อ 31%YoY ในปี 61 จากกำลังซื้อที่ดีขึ้นและและขยายช่องทางจัดจำหน่ายมากขึ้น + Upside 15.6%
Quantitative Screening
• หุ้น High Alpha ซึ่งคาด Outperform ตลาดวันนี้เลือก MC, LH
24-Nov-17 Change (pts.) 23-Nov-17
SET Index 1,695.84 -11.54 1,707.38
SET50 Index 1,083.70 -6.60 1,090.30
SET100 Index 2,438.28 -16.48 2,454.76
SET Index 1,695.84 -11.54 1,707.38
SET50 Index 1,083.70 -6.60 1,090.30
SET100 Index 2,438.28 -16.48 2,454.76
High 1,578.96 Gainers 381
Low 1,574.71 Unchanged 339
Value (Bt m) 56,519.98 Losers 1,076
Volume (*000) 10,278,332
Low 1,574.71 Unchanged 339
Value (Bt m) 56,519.98 Losers 1,076
Volume (*000) 10,278,332
Market Valuation
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 17.00 15.22 13.91
EPS Growth (%) 4.73 11.73 9.42
EV/EBITDA (x) 10.94 9.99 9.49
FWD PBV (x) 2.04 1.90 1.78
Dividend Yield (%) 2.73 2.96 3.21
ROE 10.21 10.80 11.37
SET Data 2017F 2018F Long Term
Fwd PER (x) 17.00 15.22 13.91
EPS Growth (%) 4.73 11.73 9.42
EV/EBITDA (x) 10.94 9.99 9.49
FWD PBV (x) 2.04 1.90 1.78
Dividend Yield (%) 2.73 2.96 3.21
ROE 10.21 10.80 11.37
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 24-Nov-17 WTD MTD YTD
Institution (2,667.95) (4,308.92) (216.37) 67,829.42
Proprietary 155.59 729.81 196.42 12,420.20
Foreign (732.02) (480.19) (15,407.97) (13,043.61)
Individual 3,244.38 4,059.30 15,427.92 (67,206.02)
Unit : M Bt 24-Nov-17 WTD MTD YTD
Institution (2,667.95) (4,308.92) (216.37) 67,829.42
Proprietary 155.59 729.81 196.42 12,420.20
Foreign (732.02) (480.19) (15,407.97) (13,043.61)
Individual 3,244.38 4,059.30 15,427.92 (67,206.02)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
รณกฤต สารินวงศ์ (ID. 012234) [email protected]
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO2859
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล (ID. 027445) [email protected]
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
OO2859