- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 27 November 2017 17:13
- Hits: 3078
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM) SET Index: แนวรับ 1690-1695 แนวต้าน 1705
SET Index: 1693.99 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณแนวรับสำคัญของรูปแบบสามเหลี่ยมที่ 1690-1695 จุด ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง จึงทำให้การปรับตัวลดลงน่าจะอยู่ในกรอบจำกัด และมีโอกาสฟื้นตัวที่แนวรับสำคัญกลับขึ้นไป โดยมีแนวต้านที่ 1720 และ 1730 จุด ในขณะที่การปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1690 จุดลงไป จะมีโอกาสปรับตัวลลดงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1680 จุด
แนวต้าน : 1698 และ 1700
แนวรับ : 1692 และ 1690
IVL = 47.50/49.00, QH = 3.00/3.08, CPALL = 75.00/76.00, SCC = 484/490, BGRIM = 25.00/26.00
Dimet (Siam) (DIMET TB; THB 2.04) – ซื้อ
แนวต้าน : 2.20 และ 2.28 / แนวต้านสำคัญ 2.40
แนวรับ : 2.04 และ 2.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากถูกขายทำกำไรในระยสั้น แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ DIMET โดยมีแนวรับที่ 2.04 และ 2.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.20 และ 2.28 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.97 ลงไป
Power Solution Technologies (PSTC TB; THB 0.79) – ซื้อ
แนวต้าน : 0.84 และ 0.87
แนวรับ : 0.79 และ 0.78
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ PSTC โดยมีแนวรับที่ 0.79 และ 0.78 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 0.84 และ 0.87 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 0.75 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM) 2
SET…ยังไม่มีแรงหนุน
เปิดขึ้นมาในสัปดาห์นี้คาดดัชนี SET ยังแกว่งตัวตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะการเปิดของดัชนีดาวโจนส์หลังหยุดไปในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า โดยประเด็นที่ต้องติดตามทั้งในและต่างประเทศคือ ความคืบหน้าของแผนปฎิรูปโครงสร้างภาษีของสหรัฐ ผลการประชุมของกลุ่ม OPEC และการทำ MSCI rebalancing นอกนั้นจะเป็นเรื่องการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนจากธนาคารแห่งประเทศไทย คาดในอาทิตย์นี้ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ น่าจะแกว่งตัวในกรอบที่แคบลง หลังยังเห็นปัจจัยหนุนใหม่ๆ
สำหรับทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทย คาดน่าจะยังซึมตัวลง หลังปริมาณการซื้อขายเริ่มแผ่ว หากจะมีคึกคักขึ้นมาบ้าง ก็จะอยู่ในช่วงของวันที่ 30พ.ย. ที่จะมีการทำ MSCI rebalancing ในหุ้นที่ได้ปรับเพิ่มและลดน้ำหนักในดัชนี MSCI Thailand ส่วนผลการประชุม OPEC คาดยังไม่น่าจะกระตุ้นแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานได้มาก เนื่องจากมองราคาน้ำมันน่าจะยังทรงๆ ตัว ยกเว้นที่ประชุมจะมี surprise ที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น เราจึงมองว่าในอาทิตย์นี้ แนวโน้มดัชนี SET จะยังลงมาเล่นในกรอบ 1680-1670 จุด จากการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามาในตลาด
ดัชนีตลาดหุ้นในเอเชียที่ส่วนใหญ่ขึ้นมาเทรดสูงสุดในรอบมากกว่า 10 ปี ส่งผลให้ขึ้นมาเล่นที่ค่า P/E สูง เราจึงมาดูค่า P/E ของตลาดในภูมิภาคว่าตอนนี้เป็นอย่างไร จากรูปด้านซ้าย พบว่ามีตลาดหุ้นไทยตลาดเดียวที่ขึ้นมาเล่นติดขอบสูงสุดของค่า P/E ในรอบ 10 ปี สะท้อนอัตราการทำกำไรของตลาดหุ้นไทยยังทำได้น้อยกว่าเพื่อนบ้าน เราจึงมาดูการคาดการณ์อัตราการทำกำไรของแต่ละตลาดว่าเป็นอย่างไร จากรูปด้านขวา จะพบว่า ตอนนี้เหลือแค่ 3 ตลาดหุ้นที่อัตราการทำกำไร ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยรอบ 10 ปี โดยค่าเฉลี่ยอัตราการทำกำไรของตลาดหุ้นไทย (IBES MSCIThailand) อยู่ที่ประมาณ 16% เทียบการคาดการณ์ในปี 2018 ที่ 8.1% ดังนั้นการที่รัฐบาลมีมาตรการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพร้อมๆกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า เรามองว่าในปีหน้า อัตราการทำกำไรของตลาดน่าจะขึ้นไปยืนเหนือ 10% ซึ่งก็หมายถึงดัชนีตลาดหุ้นน่าจะขึ้นไปในระดับที่สูงกว่านี้
หุ้นที่คาดว่าจะกลับมาเทรดกันคึกคักขึ้นในสัปดาห์นี้ ยังมอง กลุ่มธนาคารพาณิชย์ พลังงาน อสังหาริมทรัพย์สร้างบ้านและสื่อสารใหญ่ โดยอาจมีแรงซื้อและขายหุ้นสื่อสาร หากผลความชัดเจนเรื่องการเจรจาคลื่น 2300 MHz สำหรับแนวโน้มตลาดในวันนี้ คาดยังจะอยู่ในช่วงการซึมลง สลับแรงซื้อหุ้นขนาดกลางถึงเล็กเข้ามา วันนี้มองแนวต้านที่ 1700-1704 จุดและแนวรับที่ 1688-1684 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BCP QH RS และ SC
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ยังไม่มีแรงหนุน
เปิดขึ้นมาในสัปดาห์นี้คาดดัชนี SET ยังแกว่งตัวตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะการเปิดของดัชนีดาวโจนส์หลังหยุดไปในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า โดยประเด็นที่ต้องติดตามทั้งในและต่างประเทศคือ ความคืบหน้าของแผนปฎิรูปโครงสร้างภาษีของสหรัฐ ผลการประชุมของกลุ่ม OPEC และการทำ MSCI rebalancing นอกนั้นจะเป็นเรื่องการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนจากธนาคารแห่งประเทศไทย คาดในอาทิตย์นี้ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ น่าจะแกว่งตัวในกรอบที่แคบลง หลังยังเห็นปัจจัยหนุนใหม่ๆ
สำหรับทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทย คาดน่าจะยังซึมตัวลง หลังปริมาณการซื้อขายเริ่มแผ่ว หากจะมีคึกคักขึ้นมาบ้าง ก็จะอยู่ในช่วงของวันที่ 30พ.ย. ที่จะมีการทำ MSCI rebalancing ในหุ้นที่ได้ปรับเพิ่มและลดน้ำหนักในดัชนี MSCI Thailand ส่วนผลการประชุม OPEC คาดยังไม่น่าจะกระตุ้นแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานได้มาก เนื่องจากมองราคาน้ำมันน่าจะยังทรงๆ ตัว ยกเว้นที่ประชุมจะมี surprise ที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น เราจึงมองว่าในอาทิตย์นี้ แนวโน้มดัชนี SET จะยังลงมาเล่นในกรอบ 1680-1670 จุด จากการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามาในตลาด
ดัชนีตลาดหุ้นในเอเชียที่ส่วนใหญ่ขึ้นมาเทรดสูงสุดในรอบมากกว่า 10 ปี ส่งผลให้ขึ้นมาเล่นที่ค่า P/E สูง เราจึงมาดูค่า P/E ของตลาดในภูมิภาคว่าตอนนี้เป็นอย่างไร จากรูปด้านซ้าย พบว่ามีตลาดหุ้นไทยตลาดเดียวที่ขึ้นมาเล่นติดขอบสูงสุดของค่า P/E ในรอบ 10 ปี สะท้อนอัตราการทำกำไรของตลาดหุ้นไทยยังทำได้น้อยกว่าเพื่อนบ้าน เราจึงมาดูการคาดการณ์อัตราการทำกำไรของแต่ละตลาดว่าเป็นอย่างไร จากรูปด้านขวา จะพบว่า ตอนนี้เหลือแค่ 3 ตลาดหุ้นที่อัตราการทำกำไร ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยรอบ 10 ปี โดยค่าเฉลี่ยอัตราการทำกำไรของตลาดหุ้นไทย (IBES MSCIThailand) อยู่ที่ประมาณ 16% เทียบการคาดการณ์ในปี 2018 ที่ 8.1% ดังนั้นการที่รัฐบาลมีมาตรการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพร้อมๆกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า เรามองว่าในปีหน้า อัตราการทำกำไรของตลาดน่าจะขึ้นไปยืนเหนือ 10% ซึ่งก็หมายถึงดัชนีตลาดหุ้นน่าจะขึ้นไปในระดับที่สูงกว่านี้
หุ้นที่คาดว่าจะกลับมาเทรดกันคึกคักขึ้นในสัปดาห์นี้ ยังมอง กลุ่มธนาคารพาณิชย์ พลังงาน อสังหาริมทรัพย์สร้างบ้านและสื่อสารใหญ่ โดยอาจมีแรงซื้อและขายหุ้นสื่อสาร หากผลความชัดเจนเรื่องการเจรจาคลื่น 2300 MHz สำหรับแนวโน้มตลาดในวันนี้ คาดยังจะอยู่ในช่วงการซึมลง สลับแรงซื้อหุ้นขนาดกลางถึงเล็กเข้ามา วันนี้มองแนวต้านที่ 1700-1704 จุดและแนวรับที่ 1688-1684 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BCP QH RS และ SC
