- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 24 November 2017 17:39
- Hits: 2794
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“ไม่หลุด 1700...ยังเลือกซื้อ/ถือต่อ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : THAI (จาก Hold เป็น Fully Valued)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปิด -5.75 จุด ที่ 1707.38 หุ้นกลุ่มแบงค์ สื่อสาร อาหาร ค้าปลีก พักฐาน (ยกเว้น CPALL ที่บวกเล็กน้อย) ต่างชาติพลิกกลับเป็นขายสุทธิ 457 ลบ. พอร์ตบล.ขายสุทธิ 981 ลบ. รายย่อยนำซื้อสุทธิ 1.4 พันลบ.
ปัจจัยวันนี้ - ตลาดหุ้นสหรัฐ&โภคภัณฑ์ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า หลังจากนี้ก็ลุ้นกันว่าร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีสหรัฐจะเข้าพิจารณาในวุฒิสภาวันไหนและผ่านความเห็นชอบหรือไม่ (ก่อนหน้ามีข่าวว่าจะโหวตกันหลังวันขอบคุณพระเจ้า 23 พ.ย.) ซึ่งหากร่างกฎหมายผ่านก็จะเป็นข่าวดีกระตุ้นตลาดได้อีกรอบ ส่วนหุ้นไทยที่ได้รับประโยชน์จากการลดภาษีภาคธุรกิจสหรัฐ คือ IVL และ TU
ด้านราคาน้ำมัน BRENT บวกเล็กน้อยปิดที่ 63.55 US$/bbl โดยมีความหวังว่าโอเปกจะขยายเวลาลดการผลิตอีก 9 เดือนไปถึงสิ้นปี 61 หุ้นกลุ่มพลังงานที่เราชอบเป็น PTTGC (6 บริษัทที่รับโอนมาจาก PTT จะรับรู้เต็มปี 61) และ IRPC (มีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพภายในองค์กร) หุ้น Update วันนี้ – CENTEL ธุรกิจอาหารงวด 3Q60 ดีขึ้น (SSSG กลับมา +1.9%YoY จากที่ติดลบใน 4Q59-2Q60) และแม้ต.ค.60 ตัว SSSG จะกลับมาลบแต่พ.ย.-ธ.ค.60 คาดพลิกเป็นบวกแรงได้จากมาตรการชอปช่วยชาติหนุน ปี 60 ขยายสาขาเพิ่ม 54 แห่ง ปีหน้าจะเปิด 60-70 แห่ง ธุรกิจโรงแรมดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ แนะซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 57 บาท มี Upside 12%
MODERN ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ผ่านจุดต่ำสุดแล้วและฟื้นตัวได้ใน 3Q60 โมเมนตัมดีต่อใน 4Q60 และปี 61 ด้านธุรกิจสุขภาพ มีโอกาสขยายตัวได้ดีเพราะเป็นที่ต้องการของคนไทยในปัจจุบันและอนาคต บริษัทย่อย (MHC) ขยายธุรกิจไปร่วมลงทุนทำโรงพยาบาลเฉพาะทาง (มะเร็ง) ที่จ.อุบลราชธานี ซึ่งคาดว่าจะไปได้ดี จะไฟลิ่ง MHC เข้าตลาดฯราว 2Q61 ด้านกำไรประมาณการปีนี้โต 10% ปี 61 โต 20% ปรับคำแนะนำเป็นซื้อ และเพิ่มราคาพื้นฐานเป็น 6.8 บาท มี Upside 12%
กลยุทธ์ : ภาพเป็นลบเล็กๆ แนะซื้อค่าบวกของราคาหุ้น หรือ Follow buy เมื่อ SET ยืนเหนือ 1700แนวต้านระยะสั้น 1720,1730 อ่อนตัวต่ำกว่า 1700 มีแนวรับ 1690,1680-1670 หุ้นแนะนำรายสัปดาห์ (22-28 พ.ย.) คือ AOT, MINT สำหรับหุ้นปันผลเด่นเป็น DIF, KKP, SENA, TMT ส่วน Top Picks เดือนพ.ย. คือ AMATA, ERW, DIF, SPALI, TMB และ Dark Horse เป็น GOLD
หุ้นเทคนิคดีมีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ ROJNA, JMART, TOP, MODERN, CRANE, GLOBAL, ESSO ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้ถือต่อเป็น PTTGC, SCP, ROBINS, AMATA, TMB, TCAP ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไร ได้แก่ ANAN, LH หุ้นที่หลุด List คือ EPG, COM7, BCPG, TFG, BGRIM
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ยูโรโซน : ดัชนี PMI โดยรวมเดือนงพ.ย.สูงสดในรอบ 79 เดือน และ GDP 3Q60 เยอรมนี +0.8%QoQ ตามคาด
# ไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเดือนพ.ย.ของยูโรโซนขยายตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 79 เดือนเป็น 57.5 (จาก 56.0 ในเดือนต.ค.60) โดยดัชนี PMI ภาคผลิตเพิ่มเป็น 60.0 (สูงสุดในรอบ 211 เดือน) และจาก 58.5 ในเดือนต.ค.60 ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเพิ่มเป็น 56.2 (สูงสุดในรอบ 6 เดือน) และสูงขึ้นจาก 55.0 ในเดือนต.ค.60
# สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีซึ่งบ่งชี้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ยังคงขยายตัวได้ดี +0.8%QoQ หนุนโดยการส่งออกและการลงทุนภาคธุรกิจ
• ตลาดหุ้นและโภคภัณฑ์สหรัฐ : ปิดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า...ทรัมป์แสดงมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าเมื่อวานนี้ โดยแสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ และตลาดหุ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อัตราการว่างงานลดลงต่ำสุดในรอบ 17 ปี
# ทรัมป์ให้คำมั่นว่าสัญญาว่าจะเดินหน้าสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาน้ำมันดิบ BRENT ทรงตัวที่ 63+ US$/bbl
# สัญญาน้ำมันดิบ BRENT ขยับบวก 23 เซนต์ ปิดที่ 63.55 US$/bbl โดยมีปัจจัยหนุนจากความคาดหวังว่ากลุ่มโอเปกจะขยายเวลาลดการผลิตออกไปอีก 9 เดือนถึงสิ้นปี 61 ส่วนตลาดน้ำมันสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
• กลุ่มส่งออก : ได้อานิสงค์จากมูลค่า US$ ที่เติบโตดี แต่ก็มีแรงกดดันจากบาทแข็ง
# มูลค่าส่งออกรูปดอลลาร์สหรัฐเดือนต.ค.60 +13.1%YoY ส่งผลให้ในช่วง 10M60 ส่งออก +9.7%YoY สูงสุดในรอบ 6 ปี
...กระทรวงพาณิชย์ลุ้นทั้งปีจะเติบโต 9-10% ส่วนปี 61 คาดว่าจะขยายตัว 5% ทั้งนี้การเติบโตมาจาก 1. การฟื้นตัวของการค้าโลก 2. การส่งออกสินค้าเกษตรฟื้นตัวดีขึ้น
# มูลค่านำเข้าเดือนต.ค. +13.5%YoY และ 10M60 นำเข้า +14.6%YoY โดยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าสินค้าทุน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการส่งออกในระยะต่อไป
# ตัวเลขดุลการค้าเดือนต.ค.60 เกินดุลการค้า 214 ล้านดอลลาร์ ส่วน 10M60 เกินดุล 12,445 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
# ความเห็นเชิงกลยุทธ์ DBSV : นับว่าการส่งออกเติบโตดีกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า และปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 9-10% อย่างที่กระทรวงพาณิชย์ได้คาดการณ์ล่าสุด โมเมนตัมปี 61 ดูดี เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เติบโตดีขึ้นปริมาณการค้าโลกมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อ อย่างไรก็ตาม การเกินดุลการค้าและการไหลเข้ามาของเงินลงทุนต่างชาติทำให้ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นในระยะกลาง-ยาว ซึ่งจะกดดันต่อผู้ประกอบการส่งออกทั้งด้านรายได้และอัตรากำไรขณะเดียวกันกลุ่มส่งออกอาหารก็มีปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ (ซึ่งเป็น Soft commodity) ภาวะอุปทานล้นเกินที่อาจจะเกิดเป็นช่วงๆ และโรคระบาดที่ควบคุมไม่ได้ สำหรับหุ้นกลุ่มส่งออกที่เราแนะนำซื้อเป็น HANA (ราคาพื้นฐาน 55 บาท)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO2816